นิยาย Shrouding the Heavens อําพลางสวรรค์
64 – การเต้นของหัวใจ
ในบริเวณอาคารโบราณใต้ภูเขาไฟ สายรุ้งอันศักดิ์สิทธิ์ก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องยามค่ําคืนทําให้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีดมิดอย่างที่ควรจะเป็น
เยฟ้านซ่อนตัวอย่างเงียบๆเพราะกลัวว่าจะมีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ หากเป็นผู้อาวุโสในสํานักก็ยังพอถูไถไปได้ แต่หากเป็นอสูรพวกนั้นชีวิตเขาคงถูกเก็บเกี่ยวไปในทันที
“ แปรง!”
ผู้อาวุโสอู่ชิงเฟิงกระโดดไปที่ภูเขาอีกลูก เขาวางผังป่อไว้ในที่ลับแล้วรีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อร่วมกับคนอื่นๆในการแย่งชิงคัมภีร์อมตะซึ่งอยู่ในวิหารโบราณสีทองนี้
เยฟ้านหันหลังและวิ่งกลับไปอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ยังปอถูกผนึกโดยผู้อาวุโสหลายคนในหลิงซูตงเทียน ดวงตาของเขาปิดลง ร่างกายของเขาแข็งที่อ เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
มีชั้นผลึกของแสงสีฟ้าบนร่างกายของเขา ใบหน้าของเขาผิดปกติ และมีแสงสีฟ้าจางๆไหลเวียนอยู่กับร่างกายของเขาตลอดเวลา
“อะไรเข้าไปในร่างกายของเขากันแน่?”
เฟ่านไม่กล้าสัมผัสร่างของผังปอ ท้ายที่สุดเขาก็ถูกผนึกโดยผู้อาวุโสหลายคน และพลังของเขาก็ผันผวนและอาจจะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
ณ เวลานี้ บรรยากาศของปล่องภูเขาไฟตึงเครียดอย่างยิ่ง ผู้ฝึกฝนที่เป็นมนุษย์เผชิญหน้ากลุ่มอสูร ทั้งสองฝ่ายต่างดิ้นรนต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้ และสงครามกําลังจะเริ่มต้นขึ้น
เจียวเฒ่าซึ่งส่องแสงด้วยเกล็ดสีแดงยืนตัวตรงเหมือนกําแพงใหญ่ให้ความรู้สึกถึงพลังที่น่าตกใจ มันตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นว่า
“มนุษย์พวกเจ้าฝ่าฝืนข้อกําหนดแล้วบุกเข้ามาในดินแดนของเรา ในวันนี้พวกเจ้าเตรียมพร้อมจะทําสงครามใช่หรือไม่”
หัวหน้าของเจ้าสํานักหลิงซูตงเทียนยังคงนิ่งสงบและกล่าวด้วยความชอบธรรมว่า
“สมบัติของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตกไปอยู่ในมือของปีศาจมาหลายหมื่นปี ในวันนี้พวกเจ้าสมควรคืนมันให้แก่เราไม่เช่นนั้นหากพวกเจ้าต้องการสงครามพวกเราก็พร้อมเสมอ”
หญิงสาวที่มีปีกสีทองคู่นั้นก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวานว่า
“นี่คือหลุมฝังศพของจักรพรรดิปีศาจของข้า เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าต้องการขโมยสมบัติของบรรพบุรุษเรา หรือพวกเจ้าคิดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจของเราสามารถรังแกได้ง่ายๆ!”
ผู้อาวุโสเจ้าสํานักหลิงซูตงเทียนกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
“ถ้าเช่นนั้นก็เปิดวังโบราณขึ้นต่อหน้าทุกคน หากมันไม่มีสมบัติมนุษย์อย่างที่พวกเจ้ากล่าวอ้างพวกเราจะถอนตัวไปในทันที ”
ชายร่างยักษ์ที่มีสองเขาและสูงสองวาก็เดินเข้ามาแล้วตวาดขึ้นว่า
“นี่คือหลุมศพของจักรพรรดิปีศาจ มันย่อมไม่มีสมบัติมนุษย์อย่างที่พวกเจ้ากล่าวอ้าง แต่หลุมศพของจักรพรรดิปีศาจเราไม่สามารถให้มนุษย์อย่างพวกเจ้ามองเห็นความลับได้!”
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และทั้งสองฝ่ายไม่เต็มใจที่จะยอมถอยให้กันและกัน เห็นได้ชัดว่าสงครามจะระเบิดขึ้นในไม่ช้า
“สัตว์ประหลาดตัวน้อยพวกเจ้าเอาแต่ใจเกินไปแล้ว วันนี้ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราต้องเอาคําภีร์อมตะกลับคืนไปอย่างแน่นอน”
ทัศนคติของเจ้าสํานักหลิงซูตงเทียนถูกกําหนดแล้วและเขาก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในร่างกายออกมา
“นี่เจ้าบังคับให้พวกเราสู้เอง!”
หญิงสาวผมสีทองก็ไม่น้อยหน้า ปีกของนางสะบัดขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นลูกศรสีทองนับพันยิ่งไปข้างหน้า
เจ้าสํานักหลิงซูตงเทียนโบกแขนเสื้อขนาดใหญ่ของเขาและทันใดนั้นบอกสีม่วงก็ปกคลุมทั่วสถานที่พร้อมกับบดขยี้ขนนกสีทองที่อยู่ด้านหน้าจนแหลกละเอียดกลายเป็นฝุ่นผง
” ฆ่า!”
เสียงของปีศาจสาวเย็นชา แสงของร่างกายของนางกําลังเบ่งบาน ขนสีทองพลันพลันท่วมท้น หนาแน่นและเจิดจ้ามันถูกยิงออกไปอย่างต่อเนื่องกลายเป็นเหมือนตาข่ายสีทองที่ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง
เตาทองแดงสีม่วงถูกปลดปล่อยออกมาจากแขนเสื้อเจ้าสํานักหลิงซูตงเทียน หมอกสีม่วงระเบิดขึ้นสู่ท้องฟ้าและครอบคลุมเข้าหาขนนกสีทองซึ่งถูกยิงออกมาทั้งหมด
“บัง”
แสงไฟลุกท่วมท้องฟ้ามันเกิดขึ้นจากการปะทะของหมอกสีม่วงและขนนกสีทองนับหมื่นครั้งในลมหายใจเดียว
หญิงสาวผมทองมีสีหน้าเย็นชา ปีกของนางกางออกกลายเป็นกระบี่สีทองคู่หนึ่งพร้อมกับฟันเข้าใส่เตาทองแดงของเจ้าสํานักหลิงซูตงเทียน
เจ้าสํานักหลิงซูตงเทียนเอื้อมมือออกไปเล็กน้อย เตาทองแดงสีม่วงที่อยู่ข้างๆเขาจู่ๆก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ไฟสีม่วงที่ไม่มีที่สิ้นถูกพ่นออกมาก่อนจะปะทะกับกระบี่คู่นั้นอย่างรุนแรง
“บูม”
กระบี่สองเล่มนั้นเปรียบเสมือนสายฟ้าสองเส้น มันกระทบกับแสงสีม่วงของเตาทองแดง และท้องฟ้าที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย
“ฆ่า!”
“อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”
ในเวลานี้ปีศาจตัวใหญ่อื่นๆก็เริ่มเคลื่อนไหว ทันใดนั้นไอปีศาจก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังของมันเปรียบเสมือนพายุลูกใหญ่กวาดเข้าหาผู้อาวุโสทุกคนของหลิงซูตงเทียน
ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสทั้งสี่ของหลิงซูตงเทียนก็ก้าวไปข้างหน้า ต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ในทะเลแห่งความทุกข์ก็ถูกกลั่นจนเดือดพล่าน
แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดงดงาม ส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้าหักหาญเข้ากับไอปีศาจสีดําตรงๆโดยไม่คิดจะหลีกเลี่ยง
หลังจากนั้นทุกคนก็ตะลุมบอนกันอุตลุด แสงอาทิตย์ส่องประกายและอาวุธต่างๆบินไปทั่วท้องฟ้าทําให้ท้องฟ้ายามค่ําคืนสว่างไสวคล้ายกับในเวลากลางวัน
กลองเทพ ตะเกียงเซียน เตาทองแดง กระบีทอง กระจกโบราณมีดโลหิต และสิ่งอื่นๆเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต
แสงศักดิ์สิทธิ์บีบเข้าหากันและปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทําให้สวรรค์และปฐพีเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย
และในเวลานี้นกและสัตว์ดุร้ายทั้งหมดก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตะขาบสีเงินพ่นพิษเข้าจู่โจมศัตรูโดยไม่รอช้า
ในเวลาเดียวกันอาวุโสอู่ชิงเฟิงและผู้อาวุโสคนอื่นก็ลงมือสังหารปีศาจพวกนี้อย่างบ้าคลั่ง
ในระยะไกลเก่ฟ่านไม่สามารถสงบลงได้ การต่อสู้ในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟทําให้เขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้หากจะบอกว่าเยี่ฟานไม่มีความปรารถนาต่อสมบัติวิเศษที่อยู่ภายในสุสานจักรพรรดิปีศาจมันคงเป็นเรื่องโกหก
แต่เขารู้ดีว่าเขาอ่อนแอมากเกินไปและไม่มีคุณสมบัติที่จะแย่งชิงของวิเศษพวกนี้ได้
” คัมภีร์อมตะ” เล่มนี้มีความล้ําค่าเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมีโอกาสแย่งชิงมันได้แต่เขาก็คงไม่สามารถนํามันหลบหนีออกไปท่ามกลางการไล่ล่าของยอดฝีมือที่อยู่ในบริเวณนี้
สําหรับสิ่งที่เรียกว่าสมบัติของชาวตงหวง เย่ฝ่านไม่เข้าใจและไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีความกระตือรือร้นที่จะแย่งชิงมากนัก
มีเพียงคัมภีร์อมตะเจิงเท่านั้นที่ทําให้เขากระตือรือร้นและยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณนี้โดยไม่ไปไหน แม้จะรู้ดีว่าโอกาสของเขานั้นเรียกว่าไม่มีเลยน่าจะเหมาะสมที่สุด
แม้ว่าเฟ่านจะได้คัมภีร์โบราณในโลงศพทองแดงมาแล้วแต่ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร อักขระโบราณหลายร้อยตัวที่ประทับอยู่ในใจของเขาก็ดูไม่เหมือนวิธีการฝึกฝนตัวเอง
มิหนําซ้ําเขายังเข้าใจมันเพียงเล็กน้อยและไม่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้ในตอนนี้
มันแตกต่างไปจาก“คัมภีร์เต๋จิง” ที่โด่งดังไปทั่วโลกและเป็นเหมือนเรื่องราวในตํานาน
เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วที่คัมภีร์ฉบับจริงเล่มนี้หายสาบสูญไปจากโลก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเพียงเนื้อหาในคัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังทําให้มหาอํานาจมากมายในโลกนี้สามารถปกครองโลกได้
หากคัมภีร์ฉบับจริงปรากฏขึ้นก็ไม่ทราบว่าเนื้อหาที่อยู่ภายในนั้นจะทําให้ผู้คนพัฒนาความแข็งแกร่งไปมากแค่ไหน
ซึ่งเยู่ฟ่านที่ต้องการความแข็งแกร่งอย่างเร่งด่วนรู้สึกสนใจในคัมภีร์เล่มนี้อย่างถึงที่สุด และพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อแย่งชิงมันตราบเท่าที่โอกาสอํานวย
“บูม”, “บูม”, “บูม” …
ในขณะนี้เสียงที่อๆยังคงดังอยู่ ราวกับหัวใจเต้นแรง ประกายไฟห้าสีของภูเขาไฟทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังอสูรมนี้มาทั้งหมดและความผันผวนของพลังศักดิ์สิทธิ์ถูกทําลายอย่างสิ้นเชิง
หินหนืดสีแดงกําลังเดือดพล่านพุ่งออกมาตามปล่องภูเขาไฟเผาไหม้ครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าให้เป็นสีแดงฉาน วิหารโบราณลอยขึ้นมาพร้อมกับส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้าให้กลายเป็นช่วงเวลากลางวัน
อสูรผู้ยิ่งใหญ่หลายคนและผู้แข็งแกร่งของหลิงซูตงเทียนหยุดการต่อสู้ในทันที ในเวลานี้ทุกคนต่างก็รีบไปพุ่งเข้าหาวังโบราณอันวิจิตรตระการตา
พวกเขาทุกคนพยายามเป็นคนแรกที่จะเปิดประตูของวิหารแล้วเข้าไปหยิบเอาสมบัติที่อยู่ภายในออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
MANGA DISCUSSION