Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 1275 สะเทือนโลกทั้งใบ
ณ เพนตากอน
ภาพถ่ายทอดสดจากโดรนบินสูงแสดงอยู่ที่หน้าจอใหญ่
ท่ามกลางกลุ่มควัน กลุ่มทหารสวมชุดออกรบจักรกลกำจัดกองทหารโจรบนดาดฟ้าเรือโดยไร้ซึ่งความลังเล
เมื่อหน่วยรบพิเศษอังกฤษนั่งเฮลิคอปเตอร์มาถึงจากฐานทัพที่ใกล้ที่สุด ไม่เพียงแต่ว่ากลุ่มนักรบนี้สู้รบเสร็จแล้ว แต่พวกเขาก็ทำความสะอาดเลือดบนดาดฟ้าเรือเสร็จ
ภาพวิดีโอสิ้นสุดลง
ทั้งห้องประชุมเงียบสนิท
ที่ปรึกษาการทหารอาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาพูดทำลายความเงียบในห้องประชุมและแตะเครื่องชี้เลเซอร์สองครั้งที่หน้าจอใหญ่
“สามสิบเจ็ดนาที”
“เวร…พวกนั้นทำความสะอาดดาดฟ้าเรือเร็วกว่าผมล้างรถเสียอีก”
“พูดตามตรง มันน่าจะเป็นสามสิบ…” ประธานเพนตากอนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะประชุมกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าอมทุกข์ของเขา เขาพูดต่อ “เมื่อพวกนั้นได้ยินข่าวว่าเรือสินค้าถูกทหารรับจ้างเข้ายึด พวกนั้นใช้เวลาแค่สามสิบนาทีเพื่อส่งกองพลอากาศมา”
“การส่งหน่วยรบระดับโลกหนึ่งชั่วโมงเป็นการคาดการณ์โดยคร่าวๆ”
“พลังกลยุทธ์การทหารของพวกนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้!”
ห้องประชุมเงียบสนิทอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ความเงียบให้ความรู้สึกน่าสะพรึงกลัว
“เวรเอ๊ย” ประธานาธิบดีถอดแว่นตรงจมูกออก เขาหยิกจมูกแล้วถามว่า “ทำไมพวกเขาทำได้เร็วขนาดนี้…?”
ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้
พวกเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยกองพลอากาศ
พวกนั้นใช้วิธีขนส่งทหารแบบไหน แล้วติดอาวุธเต็มยศจากจินหลิง ซึ่งห่างจากทะเลบอลติกหลายหมื่นกิโลเมตร?
มีเพียงแค่คนจีนที่ล่วงรู้ความลับนี้
ผู้อำนวยการนาซา คาร์สันที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ก็พูดโพล่งขึ้นว่า “มันเป็นไปได้ว่าพวกนั้นไม่ได้ออกจากชั้นบรรยากาศไปหมด”
มีสายตาหลายคู่ในห้องประชุมเหลือบมองเขา
ผู้อำนวยการคาร์สันกลืนน้ำลายและพูดต่อด้วยความขมขื่น “ไปที่วงโคจรต่ำโดยตรงผ่านช่องอวกาศรัสเซีย จากนั้นก็ปล่อยแคปซูลอากาศที่ด้านตะวันออกของทะเลบอลติก…ในทางทฤษฎี 30 นาทีเป็นไปได้
ถึงกระนั้นก็ตามเวลากระชั้นชิดมาก
จากการออกตัวถึงการลงจอด ไม่มีการล่าช้าแม้แต่นาทีเดียว
คำพูดของผู้อำนวยการคาร์สันทำให้คนที่ฟังมีความรู้สึกหนักอึ้ง
เมื่อเจอกับพลังแข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเขามีโอกาสชนะบ้างไหม?
มันมีการวิพากษ์วิจารณ์ในห้องประชุมถึงประสิทธิภาพการรบของหน่วยกองพลอากาศนี้
ตอนนี้ความสงสัยลังเลได้หายไปหมดแล้ว แต่กลับมีสีหน้าวิตกกังวลเข้ามาแทนที่
มันเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเข้าใจจริงๆ ว่ากำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ประเภทไหนอยู่
“ผมอยากรู้ว่าใครเล็งโจมตีเรือสำราญของเรา” นิ้วชี้ของประธานาธิบดีเคาะโต๊ะประชุมในขณะที่เขาพูดด้วยสีหน้าทุกข์ใจ “หวังว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเรา”
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหันไปมองเขา
“ไม่ใช่ซีไอเอใช่ไหม?”
ประธานาธิบดีส่ายหน้า
“ผมไม่เคยอนุมัติการกระทำงี่เง่าแบบนี้! ผมมั่นใจว่าผู้อำนวยการซีไอเอจะไม่โง่จนทำเรื่องสิ้นคิดลับหลังผม”
ถ้ามันเป็นเมื่อห้าปีก่อน มันอาจจะเป็นประโยชน์ที่จะทำตามแผนการแบบนี้
แต่ตอนนี้ การฆ่านักฟิสิกส์ที่มีเกียรติไม่พอแล้ว
สถาบันวิจัยของเขาและมรดกด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มองไม่เห็นจะคงอยู่ต่อไป สิ่งพวกนี้ไม่อาจถูกล้มล้างได้โดยระเบิดหรือมือลอบสังหารไม่กี่คน
ในทางกลับกัน การสังหารนักฟิสิกส์คนนี้จะนำปัญหาใหญ่มาสู่พวกเขา
“ไปหามาว่าใครจ้างโจรสลัดพวกนี้”
“เราอาจจะต้องหักหลังพวกคนจีน”
…
เพนตากอนไม่ใช่แค่ที่เดียวที่อยู่ในความวุ่นวาย
ทีมคนเหล็กที่พุ่งลงจากฟ้าทำให้สำนักข่าวกรองทั่วโลกตกตะลึง
ไม่มีใครคิดว่าจะมีการแก้ไขวิกฤตด้วยวิธีนี้
ไม่มีใครคิดว่าหน่วยคนเหล็กติดอาวุธจะดูเหมือนออกมาจากหนังไซไฟ ประสิทธิภาพในการสู้รบจริงนั้นก็ไม่ปรานี
เคบินอากาศทั้งสามอยู่บนดาดฟ้าของ ‘โอเซเบิร์ก’ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองจากหลายประเทศน้ำลายสอกับเทคโนโลยีนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าตัดสินใจหุนหันพลันแล่น
เพราะมันมีเหตุผลเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น
เรือสินค้าถูกควบคุมโดยกองพลอากาศ และมันเดินเรือไปทางเอเชียตะวันออกช้าๆ
หลังจากที่ได้ประจักษ์พลังของกองพลอากาศ ไม่มีใครกล้าไปท้าทายพวกเขา และไม่มีใครกล้าหยุดยั้งพวกเขาอีกด้วย
แม่แต่หน่วยราชการลับอังกฤษที่ได้ขึ้นเรือมาแล้วก็ไม่สามารถทำการเจรจาได้ พวกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากไปเงียบๆ
หน่วยข่าวกรองระดับโลกพุ่งความสนใจไปที่เรือสินค้าลำนี้ ในออฟฟิศที่ไกลออกไปในปักกิ่งมีแฟ้มที่เต็มไปด้วยรูปและเอกสารหลายประเภทถูกวางไว้บนโต๊ะเรียบๆ
“องค์กรที่จู่โจมนักวิชาการลู่ถูกค้นพบแล้ว”
หัวหน้าแผนกสูงวัยที่ใส่ยูนิฟอร์มรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพูดกับชายอายุน้อยกว่าซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ “จากข่าวที่สายเราบอกมา หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูล โจรสลัดกลุ่มนี้ถูกจ้างโดยองค์กรที่มีชื่อว่า…องค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล”
“องค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล?” มีสีหน้าเกินคาดปรากฏขึ้นบนหน้าของชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ “นั่นมันอะไร?”
มันฟังดูเหมือนภาพยนตร์หรือว่าเกมออนไลน์ มันดูไม่เหมือนกับสิ่งที่ปรากฏขึ้นได้ในโลกจริง
“มันดูเหมือนกับศาสนาใหม่…หรือองค์กรที่หางานผ่านศาสนาใหม่นี้…มันเป็นที่นิยมมากกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วและภูมิภาคแถวนั้น แต่เรายังไม่เห็นร่องรอยกิจกรรมของพวกนั้นในประเทศเรา มันมาจากงานเขียนของอดีตพนักงาน ILHCRC ศาสตราจารย์กาแลตต์ มิโร เขาเป็นผู้บุกเบิกและผู้ที่เชื่อในทฤษฎีวิญญาณนิยมระดับคอสมิก”
“พวกนั้นอาจจะมีแผนการใหญ่นอกจากการหาเงิน พวกนั้นเลยระมัดระวัง คนพวกนี้ไม่ได้แสดงข้อเรียกร้องทางการเมืองอย่างชัดเจนแล้วก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากประเทศอื่น”
หัวหน้าแผนกสูงวัยขมวดคิ้วในขณะที่เขาพูดต่อ “ผมแค่ไม่รู้ว่าจู่ๆ ทำไมพวกนี้ถึงโจมตีนักวิชาการลู่”
พวกเขาอาจจะโทษการเสียชีวิตของศาสตราจารย์กาแลตต์ มิโร กับศาสตราจารย์ลู่ล่ะ?
ประโยคนี้ดูเป็นไปได้ยากหน่อย
ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะคิดต่างออกไป หลังจากพลิกดูข้อมูลในเอกสาร เขาถามว่า “นี่คือทฤษฎีที่ศาสตราจารย์ลู่ปฏิเสธใช่ไหม?”
หัวหน้าแผนกสูงวัยยิ้มให้
“มีหลายสิ่งที่ถูกวิทยาศาสตร์ปฏิเสธ? นอกจากนั้นศาสตราจารย์ลู่ไม่ได้ปฏิเสธทั้งหมดว่ามันมีปริศนาแบบนี้ในจักรวาลหรือไม่ เขาเพียงแค่จำแนกว่ามันอยู่ในประเภทไม่เชื่อในพระเจ้าและพิสูจน์การมีอยู่ของวอยด์และการมีอยู่ของมิติ n+1”
ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะมีสีหน้าที่คาดไม่ถึง
“ไม่รู้เลยว่าคุณรู้เรื่องฟิสิกส์เยอะขนาดนี้”
หัวหน้าแผนกสูงวัยฉีกยิ้มและพูดว่า “หลังจากที่อยู่ในแผนกมานาน ผมก็ได้เรียนรู้ทุกเรื่อง”
มันเป็นความจริง
สำหรับรัฐมนตรีกลาโหม เรื่องที่พวกเขารับมือมักยากกว่าคดีอาชญากรรมทั่วไป
หลังจากได้อ่านไฟล์ ชายคนนี้วางมันไว้ที่มุมโต๊ะและถอนหายใจเสียงเบา
“แล้วเคสนี้ล่ะ?”
“มันไม่ใช่งานของเราแล้ว”
“คุณหมายความว่าอย่างไร”
“ดาวเทียมของเราถูกเล็งไปที่องค์กรโจรสลัดที่ต้องสงสัยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และเราติดตามเรือตกปลาไปถึงรังของพวกมัน”
“เยี่ยมไปเลย…” ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นนั่งตัวตรง จากนั้นเขาถามด้วยความใคร่รู้ “แล้วพวกเบื้องบนจะทำอย่างไรล่ะ? แจ้งตำรวจสากล?”
“ตำรวจสากล? พวกนั้นคุมเรื่องแบบนี้ไม่ได้” หัวหน้าแผนกสูงวัยยิ้มให้ สายตาของเขาหรี่ลงระหว่างที่พูดต่อ “มันไม่จำเป็นที่ต้องขอให้พวกนั้นจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ มันมีหลายร้อยวิธีที่ผมคิดได้ในการรับมือกับปัญหานี้”
“คุณจะใช้วิธีการไหนล่ะ?”
“วิธีการเหยียบมดไงล่ะ”