Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 921 ผู้เชี่ยวชาญ!
ดาร์กเว็บ
ที่ฟอรั่มไร้นาม
คนกลุ่มหนึ่งล็อกอินเข้ามาโดยใช้แอคเคานต์ของตัวเอง พวกเขากำลังรายงานผลลัพธ์อย่างกระตือรือร้น
“ไม่เลวนี่นา!”
“ก็แค่เทคนิคพื้นๆ น่ะ ฉันว่าการที่ให้เพจลิงก์ไปเว็บอื่นนี่ค่อนข้างสร้างสรรค์เลย”
“ช่างอันนั้นเหอะ สกิลตัดต่อภาพแกมันกากหมาว่ะ”
“…”
บอส “พอแล้ว”
ทุกคนในแชตหยุดพูดเล่นกัน เหมือนกับพวกเขากำลังรอให้หัวหน้าเป็นฝ่ายพูด
บอส “เห็นได้ชัดว่าพวกคนจีนเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของเรา ในขณะที่ฝั่งทำเนียบขาวก็เมินเฉยต่อคำขู่ของเรา ดูเหมือนว่าการโจมตีของทางเราจะไม่ได้ทำให้ทั้งสองฝั่งสะทกสะท้านอะไรเลยนะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงล่ะก็ พวกเราต้องเริ่มปฏิบัติการขั้นที่สองแล้ว”
ฮันเตอร์ “ทางนี้พร้อมแล้วบอส”
คิด “ฮ่าฮ่า ในที่สุดก็มาสักที”
คิด “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันอยากจะจะโจมตีพวกสภาคองเกรสมานานแล้ว”
ฮันเตอร์ “สภาคองเกรสกับทำเนียบขาวมันคนละเรื่องกันเลยนะ”
คิด “แล้วไงใครแคร์? มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ!”
โกสต์ “จะว่าไปโลนวูล์ฟไปไหนหว่า? ไม่ใช่ว่าเขาเจอมหาวิทยาลัยที่เจ้าหัวหน้านักออกแบบนักวิชาการลู่อะไรนั้นอยู่ แล้วสั่งชัตดาวน์เว็บมหาวิทยาลัยนั้นไปแล้วเหรอ?”
คิด “ใครก็ได้ไปตามเจ้านั่นมาทีสิ”
ดร. ซี “เขาไม่มาหรอก :P”
ทันใดนั้นเองยูสเซอร์คนใหม่ก็โผล่เข้ามาในห้องแชต
ทั้งห้องแชตตกอยู่ในความเงียบงัน
ณ บ้านสองชั้นหลังหนึ่งในลอสแอนเจลิส
ชายวัยสามสิบกว่าๆ จ้องเขม็งไปที่หน้าจอโน้ตบุ๊กของตัวเอง
ดร. ซีเหรอ?
ใครวะ?
แอคเคานต์อีกอันหนึ่งของโลนวูล์ฟเหรอ?
แต่เราก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ทุกคนในกลุ่มมีแอคเคานต์มากกว่าหนึ่ง…
ในแชตกลุ่มนั้น
ฮันเตอร์ “นี่ใครเนี่ย?”
โกสต์ “แอคเคานต์อีกอันของใครสักคนเหรอ?”
คิด “เฮ้ยเพื่อน เราใช้ไอดีหลักในการคุยกันนะ เดี๋ยวปั๊ดเตะเลย ไม่เล่นนะเว้ย”
ดร. ซี “ฉันคือดร. ซี นายท่านให้ไอดีอันนี้ฉันมา เพราะอย่างนั้น นี่แหละคือชื่อของฉัน (๑•̀ᄇ•́) و✧”
ฮันเตอร์ “…?”
คิด “???”
สไตล์การพิมพ์ของดร. ซีมันแปลกประหลาดนิดหน่อย
แฮกเกอร์พวกนี้เข้าดาร์กเว็บมาหลายปีแล้ว พวกเขาเคยเห็นการพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์หลายแบบ แต่ไม่เคยมีใครใช้อีโมติคอนแบบนี้มาก่อน
พวกเขาต่างรู้กันดีว่าคนที่มาใหม่คนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้สักคน
เจ้าคนนี้สามารถเจาะเข้ามาในฟอรั่มดาร์กเว็บของพวกเขาได้ และยังสามารถเข้ามาในห้องแชตส่วนตัวของบอสด้วย ถ้าเจ้าคนนี้ไม่ใช่บอสเอง ก็ต้องมีใครสักคนติดตั้งตัวเจาะข้อมูลเบื้องหลังในเซิร์ฟเวอร์บอสแล้วล่ะ
เจ้าคนนี้มันเป็นใครเนี่ย?!
ชายวันสามสิบกว่าๆ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขาขยับโน้ตบุ๊กไปไว้ข้างๆ จากนั้นก็เริ่มพิมพ์คีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแทน
ชื่อของเขาคือ เมสัน เขาทำงานเป็นพนักงานระดับล่างที่บริษัทซอฟต์แวร์ในลอสแอนเจลิส ส่วนเดียวที่โดดเด่นในตัวเขาคือ เขาเป็นแฮกเกอร์ดาร์กเว็บระดับมือพระกาฬ ‘บอส’ นั่นเอง!
ในฐานะผู้นำของกลุ่มอีเกิ้ลฮันเตอร์ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในดาร์กเว็บ ความสามารถในการแฮกของเขาถือว่าอยู่ในระดับโลก
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขามีหน้าที่บริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ของอีเกิ้ลฮันเตอร์
คนในกลุ่มไม่เพียงแต่จะเชื่อในภาวะความเป็นผู้นำของเขาเท่านั้น แต่ยังเชื่อในความสามารถของเขาอีกด้วย
แต่ตอนนี้ มีใครบางคนบุกเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ของเขาแล้วเข้ามาในห้องแชตที่กันคนนอกเอาไว้…
เมสันเช็กเซิร์ฟเวอร์ เขาหาจุดที่ข้อมูลหลุดรั่วไปได้ไม่เจอเลย ใบหน้าของเคร่งเครียด เขามีลางสังหรณ์ว่าอะไรบางอย่างกำลังผิดพลาดไป
มันสายเกินไปแล้วที่จะมานั่งคิดว่าคนกลุ่มอื่นเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เขาได้อย่างไร แต่เขาก็เปิดโน้ตบุ๊กของเขาขึ้นมาและพิมพ์ลงไปทันที
บอส “ทุกคน ออกจากห้องแชตเดี๋ยวนี้ เริ่มเข้าสู่ปฏิบัติการขั้นที่สี่ได้ อีเกิ้ลฮันเตอร์จงเจริญ!”
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ใช่คนเดียวที่รู้ตัวว่ามีอะไรบางอย่างกำลังผิดปกติอยู่แล้ว
หลังจากที่ส่งข้อความออกไป คนในกลุ่มก็เริ่มออฟไลน์ไปทีละคนๆ
ถึงแม้ปกติแล้วแฮกเกอร์พวกนี้จะไม่ได้ทำตามกฎอย่างเคร่งครัดนัก แต่พอเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตตัวเอง พวกเขาก็จะยอมเชื่อฟังหัวหน้าแต่โดยดี…
เมสันยังพิมพ์ข้อความผ่านโน้ตบุ๊กของเขาต่อไป
มีบางคนเจาะเข้ามาในห้องแชตที่ต้องเข้ารหัสของเขา
มันเป็นได้ว่าฝั่งที่บุกเข้ามาจะสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของเขาและได้คัดลอกข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว…รวมถึงบันทึกการแชตด้วย…
เมสันเริ่มเหงื่อตก เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปิดเซิร์ฟเวอร์ลง เขาต้องหาหลักฐานที่ผู้บุกเข้ามาทิ้งไว้ แฮกเข้าเซิร์ฟเวอร์ของฝั่งนั้น และทำลายหลักฐานทั้งหมด
เรื่องของเรื่องก็คือ แค่เรื่องเซิร์ฟเวอร์อย่างเดียวก็พอให้เขาโดนจับเข้าคุกไปได้หลายปีแล้ว…
ยังโชคดีที่อีกฝ่ายโง่พอที่จะส่งข้อความเข้ามากลางห้องแชต
นี่แหละเป็นโอกาสของเขา!
นิ้วของเมสันเริงระบำเป็นจังหวะอยู่บนแป้นคีย์บอร์ด ในขณะที่เขาพยายามกู้สถานการณ์อย่างสุดความสามารถ ทันใดนั้นเอง เขาก็เห็นเจ้ายูสเซอร์คนนี้โผล่มาในห้องแชตอีกครั้ง
ดร. ซี “เอิ่ม ฉันว่านายยอมแพ้ซะดีกว่านะ จะเตะฉันออกจากห้องแชต หรือจะแฮกเข้าคอมพิวเตอร์ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ (” ◔‸◔ ‘)”
เมสันสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขามองไปรอบๆ ห้อง แล้วสายตาก็ไปหยุดที่โน้ตบุ๊กอีกเครื่องที่ตั้งอยู่ข้างๆ เขา
ใบหน้าของเขาซีดเผือด
เป็นไปตามคาด ฝันร้ายที่สุดของเขาเป็นจริงแล้ว
อะไรบางอย่างทำให้กล้อง LED ของโน้ตบุ๊กฉายแสงสีแดงออกมา
งานของเขาทำให้เขาไม่สามารถพันเทปปิดกล้องของโน้ตบุ๊กเอาไว้ได้…
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่เก่งระดับพระเจ้าขนาดนี้ เมสันจึงตัดสินใจยอมแพ้
เขามองจอโน้ตบุ๊กแล้วพึมพำขึ้นมาว่า “แกทำได้อย่างไร…ทำได้อย่างไรกัน? ฉันยังไม่เห็นร่องรอยของการลอบเข้ามาของแกเลย ไม่มีการแจ้งเตือนอะไรดังขึ้นมาทั้งนั้น…นี่แกยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?”
และก็เหมือนกับฝ่ายผู้โจมตีได้ยินคำพูดของเขา
มีข้อความอีกอันหนึ่งโผล่ขึ้นมาในห้องแชต
ดร. ซี “ก็เพราะโค้ดของนายมันอ่อนเกินไปน่ะสิ ฉันก็แค่ใช้แอคเคานต์แอดมินสำรองของนายเท่านั้นเอง (╯▽╰).”
เมสันมีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวอยู่บนใบหน้า เหมือนกับว่าเขาแก่ตัวลงนับสิบปี เขาจ้องโค้ดที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอและไม่พูดอะไรออกมา
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะลองสู้กลับ
เขาหยิบไฟแช็กออกมาจุดไฟบุหรี่
จากนั้นเขาก็พ่นควันออกมา
“ยอมแพ้ตอนนี้สายไปหรือยังล่ะ?”
ดร. ซี “ไม่รู้เหมือนกัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกตำรวจเขาไวแค่ไหนน่ะนะ ( ́◔‸◔ ‘)”
………………………
Related