Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 594 จะไปหรือไม่ไป?
การลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้?
อะไรวะเนี่ย?
เฟิงชูฉิงเกือบทำโทรศัพท์ในมือตก
เครื่องปฏิกรณ์สาธิตเพิ่งถูกปล่อยออกมา แล้วเขาก็คิดว่าจะสร้างเวอร์ชันที่เล็กลงใช่ไหม?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสายนิวเคลียร์ฟิวชั่น แต่เขาก็เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุยหมู่ นอกจากนี้ เขาทำงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาหลายปี แถมยังรับผิดชอบการปรับโครงสร้างทีมโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิตสตาร์ เขาก็พอเข้าใจการวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชั่นอยู่บ้าง
ลู่โจวสังเกตว่าสายโทรศัพท์เงียบไป เขาหยุดไปสักพักแล้วถามขึ้นว่า “มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร…แค่ส่งลิสต์รายชื่อมาให้อีเมลทำงานของผม” เฟิงชูฉิงลังเลไปชั่วครู่แล้วพูดว่า “การลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้…มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ? ผมคิดว่าฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองนั้นพึ่งพาได้มากกว่า”
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นยาก
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าลู่โจวนั้นสุดโต่ง เขาก็อดที่จะเตือนลู่โจวไม่ได้
ลู่โจวรู้ในทันทีว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ขี้เกียจที่จะอธิบายโดยละเอียดลู่โจว เขาเลยอธิบายสั้นๆ “แบตเตอรี่นิวเคลียร์นั้นถูกมองว่าเป็นเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นขนาดเล็ก แต่มันมีความต่างชัดเจนระหว่างแบตเตอรี่นิวเคลียร์กับเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ของจริง ถ้าคุณไม่เข้าใจความแตกต่าง คุณก็ลองคิดว่ามันเป็นเครื่องปฏิกรณ์ฟิชชั่นและแบตเตอรี่เรดิโอโซโทป ผมรู้ศักยภาพการวิจัยของผมดี คุณไม่ต้องเป็นห่วงไปเลย”
การตอบกลับของเขาไม่ค่อยสุภาพ
แต่เมื่อลู่โจวพูดด้วยท่าทีมั่นใจ เฟิงชูฉิงรู้สึกสบายใจมากขึ้น
มีนักวิชาการหลายคนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พูดด้วยท่าทีประมาณนี้ พวกเขาก็แค่ขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายให้คนงานทั่วไปโดยละเอียด
แต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือมันมีสองสถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับนักวิชาการพวกนี้ มีโอกาส 20% ที่พวกเขาจะติดอยู่ในหล่มการทำวิจัย และมีโอกาส 80% ที่จะประสบความสำเร็จ
เฟิงชูฉิงรู้สึกว่าลู่โจวไม่ใช่คนประเภทที่จะติดชะงักในการวิจัย
ดังนั้น มันจะต้องเป็นอย่างหลัง…
ลู่โจวไม่ได้ใส่ใจความเห็นของเลขาเฟิงจริงๆ
พลังงานเป็นปัญหาหลักของทรัสเตอร์เอฟเฟคต์ฮอลล์ ถ้าลู่โจวไม่อยากลดพลังทรัสเตอร์ ทางเลือกเดียวที่มีคือการเพิ่มพลังงาน
หลังจากลู่โจววางสาย เขาก็ทำลิสต์รายชื่อในคอมพิวเตอร์แล้วส่งมันให้อีเมลของเฟิงชูฉิง
หลังจากนั้น เขาปิดเบราว์เซอร์และเปิดเอกสารเวิร์ดหน้าเปล่า เขานั่งคิดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่สักพัก จากนั้นเขาวางมือบนแป้นคีย์บอร์ดและเริ่มพิมพ์
ปัญหาพนักงานนั้นแก้ไขได้ง่าย เขาเพียงแค่ต้องย้ายนักวิจัยและแรงงานจากทีมโปรเจกต์สตาร์-2
โปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิตได้ฝึกผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากในด้านฟิสิกส์พลาสมาและฟิวชั่นที่ควบคุมได้ สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือดูลิสต์ทีมงานโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิตสตาร์-2 แล้วเขาก็จะหาคนที่เขาต้องการได้ง่าย
ด้วยความช่วยเหลือจากนักวิจัยเหล่านี้ การวิจัยแบตเตอรี่ของเขาก็จะเป็นไปได้ยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าเนื่องจากฟิวชั่นที่ควบคุมได้เป็นเทคโนโลยีที่อ่อนไหวในตอนนี้ เขาจึงต้องรายงานสิ่งนี้ให้รัฐบาลทราบ
ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ฟิวชั่นจะแตกต่างจากเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นโดยสิ้นเชิง มันก็มีเทคโนโลยีที่ทับซ้อนกันเยอะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเขาตัดสินใจไปจะไปทางอินเนอร์เชียลคอนไฟน์เมนต์ฟิวชั่น ม้นเป็นไปได้สูงว่าเขาใช้การจุดแบบเลเซอร์ ไม่เพียงแต่ว่าการจุดเลเซอร์จะใช้สำหรับการวิจัยพลาสมาได้ แต่มันยังใช้ทดสอบนิวเคลียร์ได้อีก
เนื่องจากว่ามันเกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่ที่อ่อนไหว ลู่โจวไม่สามารถทำการวิจัยได้ไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐ
แต่การได้ความร่วมมือจากรัฐนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
เขามองดูไตเติ้ลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วยิ้มเยาะ
[โอกาสการใช้งานและความเป็นไปได้ทางเทคนิคของเทคโนโลยีย่อขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้ในด้านการบินและอวกาศ]
เขาเชื่อว่าเมื่อเขายื่นร่างเสนอธีสิสนี้แล้ว เขาจะได้สามารถเริ่มต้นโปรเจกต์นี้แน่นอน…
…
ไห่โจว
ไซต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิต
เชิ่งเซี่ยนฟู่นั่งกรอกแบบฟอร์มอยู่ในออฟฟิศ
นับตั้งแค่ที่โปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิต สตาร์-2 เสร็จสิ้นไปอย่างประสบความสำเร็จและการประชุมยกย่องจบลง การบอกได้อย่างน้อยว่าชีวิตของเขานั้นสนุกอยู่
ไม่เพียงแต่ว่าความสำเร็จของการจุดสาธิตทำให้เขาได้เหรียญประกายแสง มันทำให้เขาได้คำชื่นชมและฐานะ
จากการจัดแจงปรับโครงสร้างของทีมโปรเจกต์ สถาบัน STAR นั้นอาจจะรวมเข้ากับบริษัทอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ และเลขาเฟิงที่รับผิดชอบงานปรับโครงสร้างให้เขาสองทางเลือก
ทางเลือกแรกคือการเข้าบริษัทไปซึ่งคือการอยู่ในอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ที่ก่อตั้งใหม่ในฐานะหัวหน้าวิศวกรและรองประธานของแผนกเทคโนโลยี
อีกทางเลือกหนึ่งการกลับไปที่สถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ที่ที่เขาจะเป็นผู้กำกับและควบคุมสถาบันได้ทั้งหมด
เชิ่งเซี่ยนฟู่คิดเรื่องนี้อยู่นาน
จากโอกาสการพัฒนาในอนาคตของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ บริษัทก็จะมีศักยภาพด้านอาชีพสูง เมื่อเขามีคุณสมบัติมากพอเขาก็จะย้ายไปบริษัทแม่ได้และเป็นรองประธานของทั้งบริษัท และระดับของเขาก็จะเทียบเท่ากับเศรษฐีน้ำมัน
การไปสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้และเป็นผู้กำกับทำให้เขาได้รับอำนาจในระยะสั้นและสถานะ แต่พื้นที่ในการพัฒนานั้นน้อยกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักวิชาการในอนาคต มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าการอยู่ในโลกขององค์กร
ถ้าเป็นคนทั่วไปที่ตัดสินใจ คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกทางแรก
แต่หลังจากที่ไตร่ตรองมาสักพัก เชิ่งเซี่ยนฟู่เลือกทางเลือกหลัง
เหตุผลนั้นเรียบง่าย
เมื่อเทียบกับการทำงานในองค์กร เขาเลือกที่จะทำงานในสถาบันวิจัยมากกว่า การเป็นนักวิชาการไม่ใช่อาชีพของเขา มันคือชีวิตของเขา
แล้วก็ในตอนั้น เขาออกจากงานที่สถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้เพื่อที่จะทำงานในโปรเจกต์ สตาร์-2 แล้วมีหลายคนมองเขาไม่ดีเพราะเรื่องนี้
ถึงแม้ว่าไม่มีใครจะดูแคลนเขาต่อหน้า เขาก็ยังรู้เรื่องนี้อย่างดี ทางเลือกที่เขาตัดสินใจในอดีตนั้นน่าอับอายในหมู่อดีตเพื่อนร่วมงาน
ถ้าเขากลับไปที่นั่นอีกในฐานะผู้กำกับ มันจะทำให้คนจำนวนมากได้เงียบปากไป
เมื่อเชิ่งเซี่ยนฟู่คิดถึงฉากนั้น เขาก็อดที่จะยิ้มเยาะไม่ได้
มันเป็นเรื่องจริง เขาอยากจะโอ้อวด
ท้ายที่สุดแล้ว การโอ้อวดเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์
ถึงเขาจะนั่งอยู่ในออฟฟิศ ใจของเขาก็ห่างไปหลายพันกิโลเมตร ไปอยู่ที่หรงเฉิง
ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคาะประตูออฟฟิศ แล้วมันขัดจังหวะความคิดนับไม่ถ้วนของเขา
เชิ่งเซี่ยนฟู่วางปากกาในมือลงแล้วมองดูประตู
“เข้ามา”
ประตูออฟฟิศถูกเปิดออก มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามา
เมื่อดูจากท่าทางชายและการเคลื่อนไหวของชายคนนี้ เขาดูไม่เหมือนนักวิชาการ เขากลับดูเหมือนทหารที่ดูแลรักษาไซต์มากกว่า
เชิ่งเซี่ยนฟู่มองดูคนแปลกหน้าแล้วนิ่งไปสักพัก เขาเลยถามว่า “คุณเป็นใคร?”
ชายคนนี้แนะนำตัวเองคร่าวๆ
“ผมมาจากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักร”
จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักร
เชิ่งเซี่ยนฟู่นิ่งไปชั่วครู่แล้วถามว่า “คุณต้องการอะไรจากผมหรือเปล่า?”
ชายคนนี้พูดว่า “ศาสตราจารย์ลู่มองหาคุณอยู่”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ถาม “มีโปรเจกต์เหรอ?”
“ครับ”
เชิ่งเซี่ยนฟู่รู้สึกงุนงงกับชายที่พูดน้อยคนนี้ เขายิ้มและพูดว่า “คุณบอกได้ไหมว่ามันคือโปรเจกต์อะไร?”
ชายคนนี้ส่ายหัวและพูดว่า “โปรเจกต์วิจัยนี้เป็นความลับ ผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเฉพาะได้ ผมแค่ต้องบอกผมว่าคุณจะไปหรือไม่”
“ผมมีทางเลือกด้วยเหรอ?”
“แน่นอนครับ”
เชิ่งเซี่ยนฟู่คิดไตร่ตรอง
ในมุมหนึ่ง เขาสามารถเป็นผู้กำกับของสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาสามารถทำงานให้ศาสตราจารย์ลู่ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์…เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโปรเจกต์เฉพาะนี้คืออะไร
ควรจะไปดีไหม?
ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก…
……………………………………………………..