Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 164 ชน?
หลัวเหวินเซวียนมองลู่โจวที่กำลังไออยู่แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
เขาลูบหลังลู่โจวพลางถามด้วยรอยยิ้ม “รู้สึกเป็นไง? ไม่เลวใช่ไหม?”
ลู่โจวเช็ดปาก “ผมรู้สึกเหมือนพึ่งดื่มน้ำพริกลงไป”
หลัวเหวินเซวียนหัวเราะ “บางครั้งชีวิตก็เผ็ดแบบนั้นแหละ รู้สึกดีขึ้นรึยัง?”
ลู่โจวถาม “ดีขึ้นด้านไหน?”
หลัวเหวินเซวียนตอบ “ด้านสภาพจิตใจ”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “…ก็ดีครับ”
เขาอยากบอกว่าการนั่งอยู่ตรงนี้ทำให้เขาเหนื่อยขึ้น
หลัวเหวินเซวียนส่ายหน้า เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชีวิตของนายขาดแรงผลักดัน มันเหมือนตอนที่ฉันมาอเมริกาครั้งแรกเลย ฉันมองนายแล้วเหมือนเห็นตัวเอง”
“ผมคิดว่าผมไม่เป็นไร…”
เนื่องจากความดังของเพลง หลัวเหวินเซวียนจึงไม่ได้ยินลู่โจว เขาพูดต่ออย่างช้าๆ “นายจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนชีวิตบ้าง นายควรผ่อนคลายสมองสักหน่อย นายจะได้มีสมาธิทำงานมากขึ้น แรงกดดันมากไปจะกลายเป็นปัญหา…นอกจากนี้มีหลายอย่างที่เราควรใฝ่หามากกว่าฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์”
ลู่โจวไม่เห็นด้วย เขาจึงถาม “อย่าง?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้ม “อย่างสาวสวย”
“ห๊ะ…?”
ลู่โจวอึ้งมากจนไม่รู้จะพูดอะไร
“ในฐานะเพื่อน มันคงทำให้ฉันปวดใจที่เห็นนายเป็นแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจสอนประสบการณ์ชีวิตให้นาย”
ลู่โจวถาม “งั้น หมายความว่าคุณมีแฟนแล้ว?”
หลัวเหวินเซวียน “ไม่มี”
ลู่โจว “…”
แล้วทำไมฉันต้องฟังคำแนะนำคุณล่ะ?
หลัวเหวินเซวียนกระแอม “ตอนอยู่อเมริกา ฉันคบผู้หญิงมาสามคน ทว่าก็ไม่ได้คบกันนานนัก…แต่นั่นมันไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือฉันสอนประสบการณ์บางอย่างให้นายได้”
ลู่โจวถามอย่างสงสัย “ประสบการณ์?”
“ใช่ ประสบการณ์ นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันพานายมาที่นี่” หลัวเหวินเซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากระแอมเบาๆแล้วกล่าวต่อ “เวลาจีบผู้หญิง มีสิ่งสำคัญอยู่สองอย่าง หนึ่งคือสบตาบ่อยๆ อีกข้อคือต้องมั่นใจเข้าไว้ นายต้องแสดงให้เห็นว่านายรักษาบทสนทนาดีๆไว้ได้”
ลู่โจวถาม “แล้ว?”
“นายอาจไม่รู้ ฉันจะสาธิตให้นายดูเป็นตัวอย่าง เอ่อ…เธอคนนั้นแล้วกัน ดูนะ” หลัวเหวินเซวียนกล่าวพลางมองไปรอบๆ เมื่อเขาพบผู้หญิงหน้าอกใหญ่คนหนึ่ง เขาก็ถือแก้วเดินเข้าไปหา
“เฮ้คนสวย ผมนั่งด้วยได้ไหม?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจเขา
เขาไม่ยอมแพ้ กลับกันเขาถามด้วยรอยยิ้มแทน
“คุณอยากดื่มอะไรไหม?”
“ไม่ ขอบคุณ”
“…”
บทสนทนาก็จบลง
มันน่ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ลู่โจวมองดูวงดนตรีบนเวทีและแสร้งทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไร
ไม่นานหลัวเหวินเซวียนก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วบนมือ
“เอ่อ เธออาจอารมณ์ไม่ดี เปลี่ยนเป้าหมายกันเถอะ” หลัวเหวินเซวียนกล่าวขณะกระแอมอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ แล้วพบกับเป้าหมายที่ดูง่ายขึ้น
ลู่โจวถอนหายใจ
เพราะงี้แหละคุณถึงโสดไง
ลู่โจวกำลังคิดที่จะปลอบใจสหายเขา แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผ้าเช็ดหน้าลอยมาบนโต๊ะ
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วนั่งข้างลู่โจว
“กิ๊บสันสองแก้ว ให้เขาแก้วหนึ่ง”
“ครับ”
บาร์เทนเดอร์เก็บเงินอย่างชำนาญก่อนจะเริ่มชงเหล้า
เมื่อหันไปมองหญิงสาวคนนี้ ลู่โจวก็อึ้ง
เขาจำหน้าเธอได้
เธอเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเคอเรลล่า
ลู่โจวไม่คิดเลยว่าจะเห็นเธออยู่ที่นี่ด้วย
เคอเรลล่ามองลู่โจวแล้วถาม “คุณไม่อยากพูดอะไรหน่อยเหรอ?”
พูดอะไร?
มีอะไรให้พูดด้วยเหรอ?
ลู่โจวพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “ขอบคุณที่ปล่อยให้เราชนะ?”
เคอเรลล่าแทบพ่นเครื่องดื่มออกมา
เธอรู้สึกเหมือนกับว่าคู่แข่งของเธอคนนี้ไม่ไว้หน้าเธอเลย
ในที่สุดเธอก็สงบใจตัวเองได้ แต่ลู่โจวก็ทำให้เธอโกรธอีกครั้งด้วยประโยคเดียว
กิ๊บสันสองแก้วถูกวางไว้บนโต๊ะ
บาร์เทนเดอร์ส่งสัญญาณให้แล้วเดินจากไป
เคอเรลล่าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วข่มความโกรธลง จากนั้นเธอก็มองลู่โจวแล้วกล่าว “ใช่ ฉันปล่อยให้คุณชนะ คุณไม่ควรเลี้ยงเครื่องดื่มฉันสักหน่อยเหรอ?”
ลู่โจวมองค็อกเทลทั้งสองแก้วแล้วถาม “ตกลง แต่มันแรงไปหน่อย เราเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไหม?”
เขาไม่กลัวเมา แต่เหล้านี้รสชาติแย่มาก
เคอเรลล่าเลิกคิ้ว “คุณกลัว?”
ลู่โจวนิ่งเงียบ
คุณอยากเมาจริงเหรอ?
ตอนที่ดื่มกับเพื่อนหอพักสองศูนย์หนึ่งเขาไม่เคยน็อกเลย
“ไม่แน่นอน” ลู่โจวกล่าว เขายกแก้วขึ้นมา “ชน?”
“ชน!”
เคอเรลล่ายกดื่ม ไม่ช้าลู่โจวก็ยกดื่มตาม
เธอมองบาร์เทนเดอร์แล้ววางเงินสดบนโต๊ะ “อีกสองแก้ว”
ลู่โจวมองดูผู้หญิงเสียสติคนนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทำเป็นเล่น
เขาไม่กลัวการดื่มเลย และเขาก็มั่นใจความคอแข็งของตนมาก
เขาไม่มีทางแพ้สาวน้อยคนต่างชาติ
เมื่อเคอเรลล่าเห็นว่าลู่โจวไม่เป็นไรเลย ความโกรธก็ไม่ลดลงเลย เธอโกรธยิ่งขึ้นไปอีก
เธอจะไม่ยอมแพ้เจ้าหมอนี่ เธออยากให้เขาลิ้มรสความอัปยศบ้าง
พวกเขายังดื่มต่อไปไม่หยุด
หลัวเหวินเซวียนนั่งอยู่ข้างๆและจ้องมองทั้งสองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมทั้งสอง แต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อเขาเห็นจำนวนแก้เปล่าบนโต๊ะ เขาก็กลืนน้ำลาย
ชนกันแบบนี้?
คนพวกนี้บ้าไปแล้ว
………………………………..