Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 1164 เดอะวอยด์
หลังจากคำนวณเลขฐานสองของ n ถึงเลข 2.2 ล้านล้านหลัก มันถูกส่งผ่านการถอดรหัสและแสดงนัยยะออกมา
อย่างที่ลู่โจวคาดเดาไว้ อารยธรรมที่ส่งสูตรคณิตศาสตร์เหล่านี้มายังโลกได้สังเกตการณ์โลกมานานแล้ว พวกเขาเข้าใจวิธีการในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโลก
และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็คือข้อมูลทั้งหมดถูกบีบอัดเป็นจำนวนอตรรกยะที่มีความจุน้อยกว่าหนึ่งไบต์
ลู่โจวอึ้งกับการที่พวกเขาสามารถส่งจำนวนอตรรกยะเหล่านี้มายังโลก เขาอยากรู้ว่าพวกนั้นสามารถจัดเก็บข้อมูลมากมายมหาศาลเหล่านี้ในตัวเลขได้อย่างไร…
ห้องทดลองชั้นใต้ดินที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ลู่โจวนั่งอยู่บนเก้าอี้ VR และสวมหมวกของเขา
แม้ว่าเสี่ยวไอจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลู่โจว แต่มันก็รวบรวมซอฟต์แวร์และเริ่มโปรแกรมอยู่ดี
หลังจากนั้นไม่นานลู่โจวก็เห็นแสงสีขาว
ลู่โจวอยู่ภายในโลกที่คล้ายคลึงกับพื้นที่ระบบ
แต่มันไม่เหมือนพื้นที่ระบบ แถบโฮโลแกรมไม่มีความคล้ายคลึงกัน แต่มีผู้ชาย ชายที่เหมือนกับเขา
แม้ว่ามันจะเป็นร่างที่เลียนแบบตัวเขา แต่สีหน้าท่าทางก็แตกต่างกัน
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะรู้สึกประทับใจต่อบุคคลที่มีลักษณะคล้ายๆ ตน แต่สัญชาตญาณลึกๆ พวกเขาก็รู้สึกกลัวบุคคลที่มีทุกอย่างเหมือนกับตน
ลู่โจวไม่แน่ใจว่านี่คือเหตุผลที่บุคคลคนนี้ดูคล้ายกับเขา เขาไม่ใช่นักจิตวิทยา เขาจึงไม่สามารถวิเคราะห์จุดประสงค์เบื้องหลังอารยธรรมที่ล้ำสมัยนี้ได้
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสามารถคาดการณ์ได้ก็คือไม่มีจุดประสงค์ชั่วร้ายเบื้องหลังการติดต่อมาครั้งนี้
“คุณทำแบบนี้ได้อย่างไร”
ลู่โจวมองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าเขาและพูดต่อ “ย่อข้อมูลมหาศาลให้เป็นจำนวนอตรรกยะ คุณสร้างจำนวนอตรรกยะของตัวเองขึ้นมาได้อย่างไร”
แม้ว่าคำพูดของเขาจะซับซ้อนไปหน่อย แต่เขาเชื่อว่าชายคนนี้สามารถเข้าใจเขาได้
การใช้เลขนามธรรมในการแสดงออกถึงจำนวนอตรรกยะเฉพาะไม่ใช่แค่ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วๆ ไป แต่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ชายคนนั้นมีปัญหาในการแสดงออกทางสีหน้าขณะที่พูดกับลู่โจวอย่างอ่อนโยน
“…เราก็เคยโง่เขลาเหมือนพวกคุณ ในอดีตตัวเลขที่เราใช้ล้วนแต่เป็นจำนวนตรรกยะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เราค่อยๆ ค้นพบว่าจำนวนจริงเกือบทั้งหมดคือจำนวนอตรรกยะ”
ลู่โจว “เรารู้เรื่องนี้ จำนวนตรรกยะคือจำนวนนับได้ ส่วนจำนวนอตรรกยะคือจำนวนนับไม่ได้”
ชายคนนั้นมองลู่โจวและพูด
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เราไม่ได้ใช้คำว่าโง่เขลาในเชิงว่ากล่าว มันคือลักษณะที่น่าอิจฉา คนโง่เขลาคือคนช่างสงสัย และความช่างสงสัยคือกำลังของอารยธรรม ทันทีที่คุณสูญเสียความช่างสงสัยสุดท้ายอารยธรรมของคุณก็จะสูญสิ้นในเวลาต่อมาแม้ว่าอารยธรรมของคุณจะรอบรู้และมีอำนาจ แน่นอนว่ามนุษย์แบบคุณยังเด็กเกินไป พวกคุณอยู่ในจุดที่ปัญหานับไม่ถ้วนถูกสร้างขึ้นและถูกแก้เรื่อยๆ คุณก็เลยจินตนาการไม่ถึงว่าความรู้สึกที่ต้องเผชิญกับความว่างเปล่าที่ไม่มีวันสิ้นสุดเป็นอย่างไร”
ลู่โจว “แม้ว่าคำว่ารอบรู้และมีอำนาจจะฟังดูน่าอิจฉา ผมก็พอจะเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร”
กวีมักเปรียบเทียบตัวเองเป็นนก รู้มากกว่าไม่ได้แปลว่าจะมีความสุขกว่าเสมอไป จริงๆ แล้วปัญหาของเราส่วนใหญ่มาจากการที่เรารู้มากเกินไป
มันเกิดขึ้นกับทั้งตัวบุคคล
และอารยธรรมเอง
“ถูกต้อง ผมเห็นด้วยกับคุณ” ชายคนนั้นมองลู่โจวด้วยท่าทีเห็นด้วยและพูด “ผมเห็นคุณสมบัติที่น่ายกย่องสองอย่างในตัวคุณ”
ลู่โจวคิดอยู่สักพัก
“…ตระหนักรู้ตัวเองเหรอ”
“สามอย่างแล้ว คุณฉลาดมากๆ “
ชายคนนั้นยิ้มและพูดต่อ “แต่ผมเกรงว่าผมคงตอบคำถามคุณไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับความจริงของจักรวาล ซึ่งคุณจะเรียกมันว่าความรู้ ข้อมูลในเรื่องนั้นไม่รวมอยู่ในโปรแกรมนี้ เราหวังว่าคุณจะสามารถหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง
“แน่นอน ถ้าเรามีโอกาสได้เจอกัน ผมก็อยากพูดคุยกับคุณสองต่อสอง แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์กับคุณขนาดนั้น”
ลู่โจว “…”
ลู่โจวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลิงในสวนสัตว์ที่ถูกสรรเสริญเพราะความฉลาดของเขา เขาไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือมีความสุขดี
เขารู้สึกไร้พลัง
เขารู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอาจจะมีพลังมากกว่ากองทัพทั้งหมดบนโลกรวมกัน เขารู้สึกว่าเขาควรระมัดระวัง
จนกระทั่งตอนนี้ ชายคนนี้กำลังใจดีกับเขาอยู่
ลู่โจว “ผมขอถามคำถามได้ไหม”
“เชิญเลยครับ”
“คุณชื่ออะไร”
ชายคนนั้นคิดอยู่สักพักและพูด “คำถามนี้ซับซ้อน ซับซ้อนมากกว่าคำถามแรกเสียอีก เรายกเลิกวิธีการสื่อสารที่ต้องใช้สื่อเป็นตัวเชื่อมมานานแล้ว รวมไปถึงท่าทาง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้า และแม้แต่คลื่นความโน้มถ่วง เราไม่ใช้ชื่อในการแยกแยะกันและกันด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเพื่อความสะดวก คุณสามารถเรียกผมว่าผู้สังเกตการณ์ มันเป็นคำที่ผมชอบที่สุดในพจนานุกรม”
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดจริงๆ
แต่ลู่โจวไม่ค่อยสนใจรายละเอียดตรงนั้นเท่าไหร่ เขาถามต่อ “วอยด์คืออะไร ภัยธรรมชาติคืออะไร และควาร์กสตาร์”
ลู่โจวเงียบไปครึ่งวินาทีและนึกถึงสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์เคยบอกเขา เขาพูด “อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องควาร์กสตาร์ มาสนใจสองคำถามแรกกันก่อน”
ชายคนนั้นยิ้มและพยักหน้า
เขามีสีหน้าที่น่าเชื่อถือ
เขาพูดช้าๆ ราวกับว่ากำลังอ่านกลอนอยู่
“เดอะวอยด์คือเดอะวอยด์ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมันล้วนเป็นเรื่องลึกลับ แม้แต่กับเราก็ด้วย มันเป็นอิสระจากจักรวาล ถ้าจักรวาลประกอบด้วยสายสั่น n ดังนั้นมันก็คือสาย n+1 ที่อยู่นอกสาย n มิติพิเศษที่อยู่นอก n มิติ มันคือลำธารที่สร้างเงาบนลำธาร มันประกอบด้วยพลังงานและสิ่งต่างๆ ในจักรวาลนี้ แต่ในเวลาเดียวกัน มันคือความว่างเปล่า”
ในที่สุดลู่โจวก็เข้าใจว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ฟังการรายงานของเขา
เขาใช้ความรู้เรื่องทฤษฎีเอ็ม ทำให้เขาพอจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์พูด แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอารยธรรมนั้นอยู่รอดมาได้อย่างไรในมิติแบบนั้น
และแม้ว่าพวกเขาจะรอดมาได้จริงๆ พวกเขาสื่อสารกับจักรวาล กับโลกอย่างไร
“ส่วนในเรื่องของภัยธรรมชาติ…” สีหน้าแห่งความเศร้าปรากฏในดวงตาของผู้สังเกตการณ์ หลังจากที่เงียบไปสักพัก เขาถอนหายใจและพูด “คุณยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้นหรอก”
ลู่โจว “ผมไม่เข้าใจ คุณบอกว่าวอยด์คือมิติพิเศษนอก n มิติ มันก็ควรจะเป็นอิสระจาก n มิติ แล้วคุณติดต่อกับผมได้อย่างไร คุณเข้าฝันคนพวกนั้นได้อย่างไร”
ชายคนนั้นแสดงสีหน้าเห็นด้วยขณะที่พูด
“ผมชอบคุณมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ คนส่วนใหญ่จะหวาดกลัวเวลาที่เห็นผม หรือไม่ก็ดื้อรั้นและคิดว่าผมพูดจาไร้สาระ คุณคือคนเดียวที่พยายามสื่อสารกับผมโดยใช้เหตุผล ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่เชื่อใจผม แต่คุณก็รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดอาจจะเป็นไปได้”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผู้สังเกตการณ์พูดต่อ “เมื่อจักรวาลเก่าสูญสลายเราก็ได้ทำการเตรียมตัว ก็เหมือนเวลาที่พวกคุณสร้างเขื่อนสำหรับน้ำท่วม การเตรียมตัวนี้ทำให้เราสามารถสื่อสารกับอารยธรรมอื่นๆ ได้ แต่พลังในการเชื่อมต่อระหว่างเรายังอ่อนมาก และมีแรงมากมายในจักรวาลที่เข้ามาแทรกการเชื่อมต่อของพวกเรา แม้ว่าจะมีคนที่รับรู้การมีอยู่ของพวกเรา พวกเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดี”
“ดังนั้นเราจึงพยายามส่งสัญญาณที่จำเป็นเพื่อเพิ่มความเร็วในการพัฒนาอารยธรรมของคุณในขอบเขตบางอย่าง คุณอาจจะเรียกว่าเป็นการเห็นแจ้งก็ได้ แน่นอนว่าการพัฒนาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากการทำลายล้าง เช่นเดียวกับซูเปอร์โนวา การระเบิดของมันนำไปสู่ความตาย เรากำลังเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ เราปล่อยให้มนุษย์เจริญเติบโตโดยไม่ลดประสิทธิภาพในอนาคตของพวกคุณ”
ลู่โจว “…ดูเหมือนว่าพวกคุณจะมอบแหล่งทรัพยากรมากมายให้ผมนะ”
ผู้สังเกตการณ์ยิ้มใจดี
“ครับ คงน่าเสียดายไม่น้อยถ้าคุณไม่สนใจสัญญาณของเรา แต่เรารู้ว่าความเป็นไปได้มันน้อย เราก็เลยมีแผนสำรองเตรียมไว้”
ลู่โจวไม่แน่ใจว่าสัญญาณที่เขาพูดถึงคือสมุดของก็อตเท็นดิ๊กหรือระบบที่อยู่ในหัวเขากันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจก็คือความสำเร็จของเขามาจากคำแนะนำมากมาย
แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจ
นั่นก็คือทำไมพวกเขาจึงตัดสินใจทำแบบนี้
อีกนัยหนึ่งก็คือแม้ว่ากลุ่มมดจะรู้ว่าน้ำกำลังจะท่วม แล้วมดเหล่านั้นจะทำอะไรได้
เขาไม่ได้เป็นคนคิดลบนะ แต่ในเรื่องของคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิทยาการสารสนเทศ ประสิทธิภาพของโลกไม่ได้ใกล้เคียงกับอารยธรรมวอยด์เลย
ถ้าอารยธรรมวอยด์ ผู้ที่สร้างควาร์กสตาร์ ไม่สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้ แล้วโลกที่แสนจะอ่อนแอจะทำอะไรได้
“…ถ้าพวกคุณอยากจะหลีกเลี่ยงปัญหาจริงๆ คุณก็ควรบอกเราไม่ใช่เหรอว่ามันคืออะไร”
ผู้สังเกตการณ์ยิ้ม ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเด็ก
“อย่างนั้นเหรอ
“การตัดสินใจทั้งหมดของเราขึ้นอยู่กับความล้มเหลวและผลลัพธ์หลายร้อยล้านผลลัพธ์ที่เกิดจากการคำนวณนับพันล้านครั้ง มันอาจจะดูไร้เหตุผลจากมุมมองของคุณ แต่มันคือทางเลือกที่ดีที่สุด
“เราจะต้องมั่นใจว่าทรายทุกเม็ดในนาฬิกาทรายตกอย่างแม่นยำดังนั้นเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายมาถึง ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ทิศทางที่ถูกต้อง แน่นอนว่าเราก็พลาดได้เหมือนกัน
“จำคาลานเอ็มไพร์ได้ไหม”
ลู่โจวพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรเลย
“ผมดีใจนะที่คุณจำพวกเขาได้” ผู้สังเกตการณ์ยิ้มและพยักหน้า หลังจากเงียบไป เขาพูดต่อ “สองร้อยปีหลังจากเหตุการณ์ออราเคิล อารยธรรมที่แสนยาวนานกลับกลายเป็นฝุ่นผงและหายไปในจักรวาล”
ฉันรู้แล้ว…ฉันเดาถูก…
อารยธรรมคาลานคืออดีต และมันอาจจะมาจากสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์เคยพูดถึงจักรวาลเก่า สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนบิกแบง
ลู่โจวใช้เวลาสองวินาทีในการประมวลผลข้อความ เขาสูดลมหายใจเข้าและถาม “มันเป็นเพราะภัยธรรมชาติเหรอ”
“ภัยธรรมชาติเหรอ ภัยธรรมชาติมันยิ่งใหญ่มากกว่านั้น ไม่ใช่ มันคือภัยจากฝีมือมนุษย์ต่างหาก”
ชายคนนั้นพูดต่อ “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคาลานเอ็มไพร์มันเหนือความคาดหมายของพวกเรา เราไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะทำลายตัวเอง”
“โชคยังดีที่ความจำของพวกเขาถูกบันทึกไว้ ทำให้พวกเราตาสว่าง”
ลู่โจว “ความทรงจำเหรอ ความทรงจำอะไร”
“คุณนี่ถามมากจังเลยนะ
“ความทรงจำก็คือส่วนที่สองของวอยด์เมมโมรี่บี”
ชายคนนั้นยิ้มและยื่นมือขวาออกมา เขาถือปริซึมที่ทำมาจากอนุภาคสีฟ้าสว่างใส
“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
“ถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัม การถอดรหัสควรจะจบลงที่นี่”
ลู่โจวอยากจะถามว่าที่นี่หมายถึงอะไร แต่แสงสีขาวรอบๆ ตัวเขาเริ่มแตกเป็นชิ้นๆ ปริซึมสีฟ้าเหมือนหลุมดำที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวเขาบิดเบี้ยว และทำลายทุกอย่างจนกลายเป็นขุยผงนับชิ้นไม่ถ้วน
ลู่โจวรู้สึกบางอย่างในใจ
นี่คือโลกที่ถูกอธิบายในวอยด์เมมโมรี่บี 2!
เรื่องราวเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น…
……………