เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2038 ปัญหาภายนอกและภายใน

ฟางหยวนขมวดคิ้วและรู้สึกราวกับถูกกดทับด้วยภูเขาหิน

เขาไม่คาดคิดว่าหมื่นภัยพิบัติจะเกิดขึ้น

หมื่นภัยพิบัติเป็นอุปสวรรคที่ยากลําบากสําหรับผู้อมตะระดับแปดทุกคน

ในยุคปัจจุบัน ผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่ไม่เคยก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติแม้แต่ครั้งเดียวตัวอย่างเช่นจักรพรรดิสวรรค์ไปซูเหยากวง หรือกระทั้งองค์ชายฟงเซียน

ย้อนกลับไปเหตุใดปีศาจอมตะเซี่ยหูจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์?มันเป็นเพราะเขาต้องการใช้สิ่งนี้รับมือหมุนภัยพิบัติครั้งแรกในชีวิตของเขา!น่าเสียดายที่มันจบลงด้วยการสูญเสียไม่เพียงปีศาจอมตะเซี่ยหูจะไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์เขายังสูญเสียแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะและทรัพยากรทั้งหมด

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงของทะเลทรายตะวันตกเคยผ่านหมื่นภัยพิบัติหนึ่งครั้งเขารอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียดและถูกบังคับให้พักฟื้นเป็นเวลานาน ในช่วงเวลานั้นเทพธิดาซุ่ยป๋อหญิงคนรักของเขาถูกสังหารโดยฟางหยวนแต่เขาก็ทําได้เพียงส่งนางหงหยุนออกไปตรวจสอบเท่านั้น

ผู้อมตะนักรบอสูรเสียชีวิตหลังจากเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติครั้งแรกของเขาและทิ้งถ้ำสวรรค์นักรบอสูรเอาไว้เบื้องหลัง

โปัชิงเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านหมื่นภัยพิบัติมาสองครั้ง ราชันมังกรก็เช่นกันตลอดช่วงเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ทั้งคู่เป็นตัวตนบนจุดสูงสุดที่ต่ํากว่าเพียงผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้น

แม้ฟางหยวนจะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋มากกว่าหนึ่งล้านร่องรอยหลังจากกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่มันเกิดจากความสามารถพิเศษของมิติช่องว่างจักรพรรดิในการกลืนกินถ้ำสวรรค์ เขาใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติทั้งหมด

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่เคยเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติแม้แต่ครั้งเดียว

ในกรณีของเขา หมื่นภัยพิบัติยังเป็นปัญหาใหญ่ นอกจากนี้สถานการณ์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เวลาที่ดีในการก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติ ฟางหยวนไม่รู้ว่าอู่ส่วยจะทนได้อีกนานเท่าใดหลังจากทั้งหมด เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นศัตรูที่น่ากลัวและไม่สามารถหยั่งถึง

“ข้าต้องปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์โดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นข้าจะสามารถเผชิญหน้ากับเทพปีศาจจิตวิญญาณ!”

“แต่การปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ทําให้ข้าต้องเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติงั้นหรือ?”

ฟางหยวนรู้สึกราวกับเขาหลบหนีคลื่นยักษ์ขึ้นไปบนภูเขาแต่กลับพบว่ามันเป็นภูเขาไฟและกําลังจะระเบิด!

ภายนอกคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ ภายในคือหมื่นภัยพิบัติ สถานการณ์ของฟางหยวนเลวร้ายอย่างที่สุด

“ไม่ ข้ายังมีโอกาส!” แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่งและไม่หวั่นไหว

ในเวลาเดียวกัน ณ พื้นที่อื่น

เรือรบหมื่นปีและปีศาจอมตะฉีเจียกําลังหลบหนีและไล่ล่า

ทันใดนั้นฟางหยวนก็บินออกจากเรือรบหมื่นปีและใช้ท่าไม้ตายอมตะบังคับให้ปีศาจอมตะฉีเจียล่าถอยชั่วคราว

ปีศาจอมตะฉีเจียใช้วิธีตรวจสอบของเขาเพื่อยืนยันตัวตนของฟางหยวนก่อนจะส่งข้อมูลไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณ“ฟางหยวนอยู่ที่นี่กับข้า ข้าไม่สามารถจัดการเขาเพียงลําพังมาที่นี่เร็วเข้า! มิฉะนั้นเขาอาจหนีไป!”

เทพปีศาจจิตวิญญาณตกตะลึงอยู่ชั่วครู่

“ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในวังมังกรงั้นหรือ?” เทพปีศาจจิตวิญญาณคิดขณะที่การโจมตีของเขาเริ่มช้าลง

วังมังกรติดอยู่ในวังวนแสงสีดําแต่มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดมันสามารถอดทนได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ฟางหยวนกําลังแข่งกับเวลา เทพปีศาจจิตวิญญาณก็เช่นกัน หากเขาเสียเวลากับวังมังกรแม้เขาจะทําลายมันฟางหยวนก็ยังสามารถหลบหนีหากเป็นเช่นนั้นการไล่ล่าทั้งหมดจะกลายเป็นสูญเปล่า

ชัยชนะในสนามรบไม่เคยสําคัญ มีเพียงผลประโยชน์หลังจากการต่อสู้เท่านั้นที่สําคัญการต่อเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้ได้รับประโยชน์ความรุ่งโรจน์แห่งชัยชนะไม่มีอยู่ในความคิดของเทพปี ศาจจิตวิญญาณ

“ฟางหยวนมีใบหน้าที่คุ้นเคย เขาสามารถใช้เจตจํานงและวิญญาณอมตะเพื่อสร้างตัวตนปลอมของร่างหลักเทพปีศาจจิตวิญญาณรู้ข้อมูลนี้ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างกังวล

แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะแข็งแกร่งแต่ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป

สถานการณ์กลายเป็นยากลําบากและน่ารําคาญสําหรับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ภายในมิติช่องจักรพรรดิ สายฟ้าโจมตีภาคใต้น้อยอย่างหนัก

เตสวรรค์จะรักษาสมดุลเสมอขณะที่ภาคใต้น้อยเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในมิติช่องว่างจักรพรรดิดังนั้นเตสวรรค์จึงมุ่งเน้นไปที่การทําลายล้างภาคใต้น้อย

“หมื่นภัยพิบัติทุ่งสายฟ้าทําลายล้าง!” ฟางหยวนกัดฟันและพยายามจัดการมันอย่างเต็มที่เขาไม่สนใจเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ภายนอกและปล่อยให้อู่ส่วยพยายามถ่วงเวลา

“เปรี้ยง!”

ภูเขาไผ่เมฆาถูกสายฟ้าระเบิดทําลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จิ้งจอกเมฆาเดียวดายแปดตัวและป่าไผ่ถูกทําลายล้างอย่างสมบูรณ์

หลังจากนั้นแหล่งทรัพยากรอื่นๆก็ประสบปัญหาเดียวกัน

“ข้าต้องแก้ไขภัยคุกคามนี้โดยเร็วที่สุด!”ฟางหยวนคิดแต่พลังอํานาจของสายฟ้าทําลายล้างน่ากลัวเกินไปเขาไม่สามารถทําสิ่งใดกับมัน นอกจากนั้นทุกการเคลื่อนไหวของเขาก็ยังถูกกดดันโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์

มีผู้อมตะจํานวนมากอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิแต่พวกเขายังอ่อนแอเกินไป

“ข้ามาช่วยแล้ว!” ในช่วงเวลาวิกฤต ผู้อมตะชราระดับแปดปรากฏตัวขึ้น

คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้อมตะระดับแปดเพียงคนเดียวของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรราชาอสูรรุ่นปัจจุบัน

ตั้งแต่ฟางหยวนกลืนกินถ้ำสวรรค์นักรบอสูร ผู้อมตะทั้งหมดของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

ในสงครามชะตากรรม ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปต่อสู้ จนถึงตอนนี้ฟางหยวนยังไม่มีเวลานึกถึงพวกเขาพวกเขายังเตล็ดเตร่อยู่ในห้าภูมิภาค

อย่างไรก็ตามราชาอสูรแตกต่างออกไป เขาฝึกฝนอยู่ในเมืองหลอมรวมดาราความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมากหลังจากได้รับวิธีการบ่มเพาะที่แท้จริงจากฟางฟยวน

ในความเป็นจริงนี้เป็นแผนสํารองของฟางหยวนระหว่างสงครามชะตากรรมเขาทิ้งราชาอสูรไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิเพื่อปกป้องมัน แต่ไม่มีผู้ใดบุกเข้าสู่มิติช่องว่างของเขาในช่วงเวลานั้น

ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิกําลังเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติขณะที่ฟางหยวนไม่สามารถเคลื่อนไหวเขาทําได้เพียงเรียกราชาอสูรเท่านั้น

แสงดาวส่องประกายขึ้น

เปลือกหอยทากดาราถูกฟางหยวนนําออกมาจากคลังสมบัติและมอบให้ราชาอสูร

ราชาอสูรใช้ท่าไม้ตายของตนและเปลี่ยนร่างเป็นยักษ์ในชุดเกราะแสงดาว

ยักษ์คํารามขณะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

“เปรี้ยง!”

สายฟ้าพุ่งเขาโจมตียักษ์เกราะแสงดาว

หากเป็นในอดีต ราชาอสูรจะตายจากการโจมตีนี้ แต่หลังจากฝึกฝนเขาเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะมากมาย

ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันจึงถูกใช้ออกมาโดยราชาอสูร นี้ทําให้เขาสามารถต่อต้านสายฟ้า

แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดชะงักลงเช่นกัน

ยักษ์เกราะแสงดาวถูกส่งกลับลงมาบนพื้น ร่างกายของเขายังส่องประกายสว่างไสวแต่แขนขาของเขากลายเป็นด้านชา

“ภัยพิบัตินี้ช่างน่ากลัวนัก!” ราชาอสูรตกใจมาก

ฟางหยวนขมวดคิ้วแน่น

ก่อนหน้านี้สายฟ้าเล็งเป้าไปที่ราชาอสูรโดยตรงนั่นคือการกระทําของเจตจํานงสวรรค์ชัดเจนว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นสร้างเจตจํานงสวรรค์ขึ้นมาแล้ว

ด้วยการควบคุมของเจตจํานงสวรรค์ ภัยพิบัติจะยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นไปอีก

“ข้ามีท่าไม้ตายที่สามารถชําระล้างเจตจํานงสวรรค์น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถใช้มันได้ในเวลานี้!”ฟางหยวนลอบถอนหายใจกับตนเองเขาต้องปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์โดยใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์มนุษย์ทํางานแทนสวรรค์และปลดปล่อยพันธนาการสวรรค์

ดังนั้นเจตจํานงสวรรค์จึงมีความจําเป็น

หากฟางหยวนกําจัดเจตจํานงสวรรค์ เขาจะไม่สามารถปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์

“แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์รวมตัวกันและก่อให้เกิดภัยพิบัติสิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ของข้าประสิทธิภาพในการปรับแต่งของข้าลดลงเหลือน้อยกว่าหนึ่งในร้อยของก่อนหน้า!”

เดิมที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์กระจัดกระจายอยู่ทั่วมิติช่องว่างจักรพรรดิมันเหมือนกองกําลังที่แยกส่วน ฟางหยวนสามารถปรับแต่งพวกมันทีละส่วนนั้นทําให้การปรับแต่งมีประสิทธิภาพแต่ตอนนี้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์รวมเป็นหนึ่งฟางหยวนพบปัญหาเมื่อเขาพยายามปรับแต่งพวกมัน

ด้วยความเร็วในการปรับแต่งเช่นนี้ เขาจะทนได้นานเท่าใด

สถานการณ์ของฟางหยวนเลวร้ายมาก

“ข้าทนไม่ไหวแล้ว!” เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงของคู่ส่วยดังขึ้น เขาขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน

ปรากฏว่าร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนก็ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นกัน

เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของคู่ส่วย เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขาวังมังกรติดอยู่ในวังวนแสงสีดํา มันได้รับความเสียหายตลอดเวลาตอนนี้มันอยู่ในสภาพที่น่าอนาถมาก

อู่ส่วนพยายามซ่อมแซมมันอย่างเต็มที่แต่ความเร็วในการฟื้นฟูไม่สามารถเปรียบเทียบกับความเร็วของการพังทลาย

เมื่อพื้นที่ส่วนสําคัญถูกทําลาย อู่ส่วยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขอความช่วยเหลือ

ฟางหยวนรู้ว่าอู่ส่วยจะไม่ขอความช่วยเหลือหากไม่หมดหวัง ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความสนใจกับโลกภายนอก

หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ ฟางหยวนดําเนินการด้วยการช่วยเหลืออู่ส่วยซ่อมแซมวังมังกรทันที

พวกเขาสามารถบรรเทาสถานการณ์แต่มันยังไม่เพียงพอ

ทันใดนั้นอู่ส่วยกลับเปิดปากกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดการโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณจึงชะลอตัวลง?”

ฟางหยวนเข้าใจทันทีเขากล่าว“ข้าสร้างร่างหลักปลอมขึ้นในเรือรบหมื่นปีดูเหมือนมันจะได้ผลเทพปีศาจจิตวิญญาณกําลังลังเล เขากังวลว่าข้าจะหลบหนีไปเขาไม่รู้ว่าวังมังกรกําลังจะพังทลาย เขาคิดว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดจะใช้งานได้อีกระยะหนึ่งหากร่างหลักปลอมในเรือรบหมื่นปีสามารถหลบหนีในช่วงเวลานี้แม้เขาจะทําลายวังมังกรและฆ่าเจ้าแผนการของเขาก็ยังล้มเหลว”

ดวงตาของอู่ส่วยส่องประกายขึ้น“มันจะดีมากหากเราสามารถหลอกเขา!”