Return of The 8th Class Mage - ตอนที่ 48 ความแตกแยกของจักรวรรดิ (4)
Return of The 8th Class Mage Return Of The 8th Class Mage – Chapter 48
ตอนที่ 48 ความแตกแยกของจักรวรรดิ (4)
* คุณทําได้ดีมาก”
มันไม่ใช่เจ้าชายเฮย์เดน
“ ทําได้ดีมากเอียน”
เสียงที่ฟังดูอ่อนเยาว์ และคุ้นเคยไม่เหมือนใคร
เจ้าชายที่เอียนยังไม่ต้องการจะเผชิญหน้าด้วยในเวลานี้
“…..?
ด้วยสัญชาตญาณเขียนก็เงยหน้าขึ้น
เพื่อมองไปยังที่มาของเสียง
คือเด็กผู้ชายที่ดูเหมือนจะแก่กว่าเอียนประมาณสองปี มีผมสีบลอนด์ที่ได้มาจากสายเลือดของจักรพรรดิ
“แร็กนาร์
เอียนพยายามหลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญหน้ากับแร็กนาร์มาโดยตลอด
หากเอียนสามารถหลบได้เขาก็เลือกที่จะหลบและถ้าสามารถซ่อนได้เขียนก็จะซ่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเจอหน้ากัน
สําหรับวันนี้เอียนไม่ได้สนใจอะไรเลยเพราะกําลังสนใจอยู่กับเสื้อคลุมตัวใหม่ที่พึ่งได้มาจากจักรพรรดิ์
หากเอียนรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้เขาก็จะเลือกไปเส้นทางอื่น
“ ต้องขอบคุณคุณนะที่ทําให้ราชวงศ์และความสงบสุขของอาณาจักรทั้งมวลก็ยังคงอยู่ต่อไปได้ อย่างที่พ่อของฉันบอกคุณ คุณเป็นเหมือนวีรบุรุษของเหตุการณ์นี้เลยล่ะ ฉันรอคอยที่จะได้พบกับคุณและเพื่อที่จะพูดขอบคุณในฐานะคนของราชวงศ์ อ่า! ฉันลืมที่จะแนะนําตัวเองไปสนิทเลย แต่ฉันแน่ใจว่าคุณก็น่าจะรู้จักฉันอยู่แล้ว”
การเผชิญหน้ากับแร็กนาร์ในครั้งนี้เร็วกว่าในชีวิตในอดีตของเอียน ในชีวิตในอดีตของเอียนได้พบกับแร็กนาร์เมื่อเอียนอายุ 14 ปี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนที่โรงเรียนจอมเวทย์เริ่มเรียกเอียนว่าเป็นอัจฉริยะ แร็กนาร์ก็มาพบเอียน ดังนั้นในครั้งนี้มันเร็วเดิมกว่าถึง 2 ปี
“ แต่ยังไงก็ขอแนะนําตัวเองอีกครั้งแล้วกัน ฉันเป็นเจ้าชายองค์ที่ 5 ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แร็กนาร์ กรีนริเวอร์”
ช่วงเวลาที่เขียนได้กังวลมาตลอดในที่สุดมันก็มาถึง
เอียนเคยกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ว่าสักวันมันจะต้องเกิดขึ้น
เอียนควรพูดอะไรกับแร็กนาร์ในตอนนี้
เอียนจะสามารถซ่อนเจตนารมณ์ที่ต้องการฆ่าแร็กนาร์ได้หรือไม่?
“ ฉันต้องการทานอาหารกับวีรบุรุษของเรา คุณพอจะมีเวลาไหม”
อย่างไรก็ตามร่างกายของเอียนมีการตอบสนองที่ไม่คาดคิด
เอียนสงบลงมากกว่าปกติที่ในก่อนหน้านี้หัวใจของเขาจะเต้นอย่างรุนแรงด้วยความแค้น
เอียนสามารถหันไปมองหน้าขาวๆของแร็กนาร์ได้อย่างชัดเจน
ข้อเสนอของเขาฟังดูชื่อมาก
“แร็กนาร์ในตอนเป็นเด็กก็ใส่ชื่ออย่างนี้สินะ
แต่ในอีก 30 ปีต่อมาแร็กนาร์ กรีนริเวอร์จะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และเลือดเย็น
เมื่อได้มองดูที่รูปลักษณ์ในปัจจุบันของแร็กนาร์
แร็กนาร์เป็นเพียงเจ้าชายตัวน้อยๆที่กําลังเก็บซ่อนความทะเยอทะยานของเขาเอาไว้
เด็กผู้ชายที่มีพลังไม่มาก แต่ก็ต้องการที่จะครอบครองทุกอย่าง
เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ใช้ชีวิตประจําวันของเขาด้วยการอดทนต่อความปรารถนาที่อยากจะมีอํานาจที่ล้นมือ
“ช่างเป็นวิธีที่ง่ายดายเสียจริง”
นั่นคือทั้งหมดที่เอียนคิด
ไม่โกรธ ไม่กังวล ไม่รักและเกลียดชัง
เจ้าชายผู้อ่อนแอองค์ที่ 5
เด็กชายที่เอียนสามารถปลิดชีวิตได้ตลอดเวลา
” ไม่เป็นไรขอบคุณ พอดีฉันมีตารางงานที่จะต้องไปทําต่อ”
เอียนปฏิเสธข้อเสนอของแร็กนาร์โดยไม่ลังเล
ถึงกระนั้นแร็กนาร์ก็ยิ้ม
“ งั้นไม่เป็นไร ถ้างั้นเรามาทานอาหารร่วมกันในภายหลังก็ได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่คุณว่างก็…”
* ขออภัย ในอนาคตก็ไม่ว่างเช่นกัน”
ตอนนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของแร็กนาร์ก็ได้หายไปครู่หนึ่ง
แร็กนาร์รีบจัดการกับอารมณ์ที่แสดงออกทางหน้าของเขาใหม่อย่างรวดเร็ว
“ ฉันขอฟังเหตุผลของคุณหน่อยจะได้ไหม”
“ คือฉันยุ่งมาก “
แม้ว่าแร็กนาร์จะเป็นเจ้าชายองค์ที่ 5 แต่เขาก็เป็นหนึ่งในคนของราชวงศ์
ถ้าคนอื่นแสดงปฏิกิริยาเช่นเอียน มันจะนับว่าเป็นความเย่อหยิ่งที่ไม่อาจยกโทษให้ได้
“ ยุ่งมากใช่ไหม”
“ ใช่ ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องไปทํา ”
อย่างไรก็ตามเอียนก็เป็นอาร์ชเมจ
เป็นอาร์ชเมจที่ได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิและเจ้าชายเฮย์เดน
แม้ว่าแร็กนาร์จะเป็นเจ้าชาย แต่เขาก็ไม่สามารถลงโทษหรือทําอะไรเอียนได้
ฉันคิดว่าฉันคงเสียเวลาเปล่าซะแล้วสิ ”
* ใช่แล้ว ขอโทษฉันแล้ว”
หลังจากโค้งคํานับเขียนก็เดินผ่านแร็กนาร์ไป
ทหารองครักษ์ข้างกายของแร็กนาร์บ่นและแร็กนาร์เฝ้าดูเอียนเดินกลับไป
แม้ว่าเอียนจะรู้สึกถึงทุกสิ่งที่อยู่ข้างหลังเอียน แต่เอียนก็เลือกที่จะไม่สนใจ
“ในคราวนี้ฉันจะอยู่กับฝั่งตรงข้ามของแกแร็กนาร์
ในอดีตเอียนเป็นพันธมิตรของแร็กนาร์
พันธมิตรที่แข็งแกร่งและใกล้ชิดที่สุด
แต่ในชีวิตนี้นั้นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เอียนตัดสินใจที่จะต่อต้านแร็กนาร์
“แกจะไม่สามารถดําเนินการแผนของแกได้แม้แต่ขั้นตอนเดียว
แผนทั้งหมดของแร็กนาร์
เอียนจะบล็อกแผนเหล่านั้นทุกทางด้วยมือของเขาเอง
ทุกครั้งที่แร็กนาร์ล้มเหลวเขาจะต้องได้ยินชื่อเอียน เพจที่ทําให้แผนล้มเหลว
ในที่สุดแร็กนาร์ก็จะต้องสาปแช่งเอียนและพ่ายแพ้ไป
“จนกว่าแร็กนาร์จะหมดความต้องการที่จะกําจัดฉันออกไปจากโลกใบนี้”
เอียนจะเป็นคนที่ไม่สามารถเอาชนะได้โดยแร็กนาร์เพียงคนเดียว
“ที่สุดแห่งความชั่วร้าย แร็กนาร์
“ทั้งหมดนี้สําหรับแกคนเดียว
หลังจากเอียนเดินผ่านแร็กนาร์และทหารองครักษ์ของแร็กนาร์ไป เอียนก็ได้ชําระล้างจิตใจของเขา
เอียนเริ่มรวบรวมมานาของเขา
สูตรเวทย์แรกที่เสื้อคลุมของมิเชลล์บอกกับเอียน
เอียนอยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
“บิน!”
แต่เดิมการบินเป็นเวทย์ที่ไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากนัก
มันใช้ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองมานาอย่างมากและความเร็วในการบินของเวทย์มันนั้นช้ามากๆ
อย่างในก่อนหน้านี้เขียนต้องต้องใช้หลายๆเวทย์มารวมกันในการบิน
เสื้อคลุมนี้บอกสูตรเวทย์นี้
ทําไม?
*พลับ! พลับ! พลับ!*
ในขณะที่เอียนเริ่มใช้งานสูตรเวทย์
เสื้อคลุมก็กระพือ
ทั้งๆที่ไม่มีลมพัด
“มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม
เวทย์บินที่ปกติแล้วควรทําให้เอียนบินได้ด้วยความเร็วต่ํา
และนั่นคือตามหลักทฤษฎีของมันที่เป็นมาตรฐาน
* ชริ้งง! *
และทันใดนั้นทฤษฎีเคยมีมาก็ได้ถูกทําลาย
เอียนบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“มันเร็วกว่าที่ฉันจินตนาการไว้
ไอเทมที่เขานั้นไม่เคยมีโอกาสได้เห็น
พลังของเสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์
แม้ว่าเขาพึ่งจะได้ลิ้มรสถึงความสามารถของมันไปเพียงบางส่วน แต่หัวใจของเขาก็เริ่มมีความต้องการ
“ต้องมีไอเทมเช่นนี้อยู่อีกมากมายแน่ๆ
เอียนไม่ได้นึกถึงไอเทมที่อยู่ในจักรวรรดินี้
ในโลกใบนี้มันจะต้องมีไอเทมแบบนี้อยู่อีก
ผู้สร้างไอเทมที่เอียนนั้นไม่รู้จักและไอเทมที่เอียนนั้นก็ยังไม่รู้จนถึงตอนนี้
ไอเทมในตํานานต้องมีอยู่อีกที่ไหนสักแห่ง
ไม่มีชีวิตในอดีตอีกต่อไป
เอียนเคยหลงใหลในเวทมนตร์มาก่อน และเขาก็พอใจกับสิ่งที่แร็กนาร์เคยจัดหามาให้กับเอียนในอดีต
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เอียนต้องการและได้ตัดสินใจ
“ฉันสามารถหามันได้
และเขาก็จะสามารถครอบครองมันได้
ไอเทมที่มีพลังแฝงอยู่ในตัวของมันเหมือนกับเสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์
หรืออาจจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเสื้อคลุมตัวนี้
“ฉันแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นในอดีตของฉัน
ทั้งในเรื่องของพลังเวทย์มนตร์และอํานาจทางการเมืองที่เอ๊ยนได้เพิ่มมาอีกด้วย
มันอาจจะใช้เวลาสักพักในการตามหา แต่มันก็มีความเป็นไปได้
แต่ในอีกด้านหนึ่งเขามีคําถาม
เขาต้องการครอบครองพลังนี้จริงๆเหรอ?
เพื่อความอยู่รอดในชีวิตนี้? หรือเพื่อแก้แค้น?
ในช่วงเวลาที่เอียนกําลังคิดถึงคําถามเหล่านี้ที่ผุดขึ้นมาในหัวของเอียนและก็ยังหาคําตอบไม่ได้
เอียนก็ได้บินมาจนถึงคฤหาสน์
เมื่อมองไปที่หน้าต่างเขาก็มองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
แม่และพ่อได้เสียไปอย่างรวดเร็วในอดีต
เลติโอที่ควรจะถูกสังหารโดยการจู่โจมของกลุ่มโจรที่บุกเข้าไปในหมู่บ้าน และอาการเสพติดมานา
ดักลาสที่ควรจะเป็นศัตรูคนสําคัญของเอียน
“ไม่มีคนเหล่านี้มารอให้ฉันกลับมาเลยในชีวิตในอดีตของฉัน”
ไม่มีใครรอเอียนกลับมาหรือคนที่เอียนจะต้องปกป้อง
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้มันแตกต่างกัน
มีคนพวกนั้นกําลังรอให้เขานั้นกลับไป
นอกจากนี้ยังมีคนที่เขาต้องการที่จะปกป้อง
“พลังที่จะใช้ในการปกป้อง
พลังที่สามารถช่วยชีวิตคนของเอียนได้ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตาม
แม้โลกจะเริ่มพังทลายหรือมีศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อปรากฏขึ้น
“พลังนี่ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ในการปกป้องคนที่ฉันอยากปกป้อง
นั่นคือข้อสรุปของเอียน
ยิ่งมีพลังอํานาจมากเท่าไหร่คนของเขาก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
“ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นจนกว่าร่างกายของฉันจะทนไม่ได้และจะแข็งแกร่งขึ้นไปจนกว่าจะถึงจุดสูงสุด”
นี่เป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่มากกว่าที่เขาเคยตัดสินใจ ตั้งแต่ที่เอียนได้ย้อนเวลากลับมา