Return of The 8th Class Mage - ตอนที่ 39 บางครั้งไม้แข็งก็ดีกว่าไม้อ่อน (3)
Return of The 8th Class Mage Return Of The 8th Class Mage – Chapter 39
ตอนที่ 39 บางครั้งไม้แข็งก็ดีกว่าไม้อ่อน (3)
“…. เถาวัลย์? ”
จริง ๆ แล้วจอมเวทย์ทุกคนที่ได้เห็นภายนอกของหอคอยงาช้างในเวลานั้นจะต้องตกตะลึง เนื่องจากปาที่ล้อมรอบหอคอยงาช้างนั้นกลายเป็นเถาวัลย์หนาหลายร้อยต้นที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินและเลื้อยไปตามผนังด้านนอกของหอคอยงาช้าง
” อะไรกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
เมื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เหล่าจอมเวทย์ที่อยู่ที่นั่นต่างก็ตกตะลึงทุกคนไม่มีใครกล้าตอบคําถามของเฮลีน
พวกเขาไม่ได้ยินเสียงของเธอเพราะอาการช็อคจากเหตุการณ์นี้ที่กําลังเกิดขึ้นกับหอคอยงาช้าง
“ ไอ้พวกวิตถาร! ”
พวกเขาปฏิเสธที่จะตอบเธอ?
เฮลีนเดินไปที่ขอบดาดฟ้าเพื่อตรวจสอบสถานการณ์รอบๆหอคอย
ขณะนั้น
เถาวัลย์ก็เลื้อยขึ้นมา
สิ่งเหล่านั้นคืออะไร?
เฮลีนมองไปที่เอียน
เอียนที่อยู่ในเวทย์น้ำแข็งก็มองเธอกลับด้วยเช่นกัน
“เขาร่ายเวทย์อยู่ภายในนั้นเหรอ?”
เถาวัลย์หลายร้อยต้นพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆของหอคอย
เถาวัลย์พวกนั้นมันมีตาและพวกมันค้นหาเป้าหมายในการโจมตีเหมือนกับการหาเหยื่อของงู
เถาวัลย์นั่นพยายามหาเป้าหมายที่มีความร้อนแผ่ออกมาและในไม่ช้าพวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหว
“ เชี่ย เอ้ย…”
เธอไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองให้รอดจากเถาวัลย์นั่นได้เลย
เถาวัลย์นับร้อยมีเป้าหมายที่จะโจมตีเหมือนกันคือเฮลีน
* เผาไหม้! *
เถาวัลย์เหล่านั้นก็เป็นเป้าหมายของเฮลีนด้วยเช่นกัน
เฮลีนเผามันจนมอดไหม้
แต่ปัญหาคือเถาวัลย์นั้นผุดขึ้นมาเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
เผา เผาและเผา
“นี่มันอะไรกัน!”
เฮลีนเผามันจนเวลาผ่านไปสามชั่วโมงแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเถาวัลย์นั่นจะหยุดโจมตีเฮลีนเลย
ไม่ใช่แค่มานาของเธอเท่านั้นที่ลดลงความเหนื่อยล้าของเธอนั้นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
การหลบและการเผามันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด
มีทางออกเดียวเท่านั้น
จัดการกับผู้ร่ายเวทย์
“แต่จะทํายังไงล่ะ?”
ผู้ร่ายเวทย์คนนั้นกําลังซ่อนตัวอยู่ในเวทย์น้ำแข็งของเขา
เกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่เกิดจากการแช่แข็งของมานา
เวทย์ที่เอียนใช้มันควรที่จะไม่สามารถทําอะไรเธอได้เลย
เธอต้องทําอะไรซักอย่าง
“ฉันต้องการหาวิธี…”
อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถคิดอะไรได้เลยในสถานการณ์นี้
“ แฮ่ก … แฮก! ”
เมื่อเวลายิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ การหายใจของเฮลีนก็หยาบกร้านมากเท่านั้น
ความแข็งแกร่งของร่างกายและมานาของเธอระบายออกมากําลังลดทอนลงอย่างต่อเนื่อง
เธอเริ่มตระหนักได้ว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ได้
“ อ๊ะ! ”
เมื่อเธอเริ่มมีช่องว่าง เถาวัลย์ก็พุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว
เถาวัลย์อันหนึ่งพุ่งไปพันที่ขาขวาของเธออย่างรวดเร็ว
เวทย์ไฟของเธอไร้ประโยชน์
เถาวัลย์นั้นเร็วกว่าเธอแล้วในตอนนี้เพราะเธอเริ่มเหนื่อยล้าจากการต่อสู้มาเป็นเวลานาน
มันเริ่มพันต่อจากแขนของเธอไปจนถึงขาและในที่สุดก็ทั่วทั้งร่างกายของเธอ
เหมือนหนอนที่กลายเป็นดักแด้
“ อ้ากกก! ”
เธอส่งเสียงกรีดร้องเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ
และเป็นความอับอายครั้งแรกของเธอด้วยเช่นกัน
เธอยังสามารถทําอะไรได้อีกในการต่อสู้ครั้งนี้?
ไม่ เธอไม่สามารถแม้แต่จะแตะต้องตัวของคู่ต่อสู้ได้เลยแม้แต่น้อย
เธอต้องต่อสู้กับเถาวัลย์เหล่านี้มาตลอดจนความแข็งแกร่งและมานาของเธอเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกที
มันจะน่าละอายน้อยลงถ้าอย่างน้อยเธอนั้นสามารถจัดการกับเถาวัลย์เหล่านั้นให้หมดไปได้
แต่ในที่สุดเธอกลับถูกจับตัวได้ซึ่งก็เหมือนคนที่แพ้ไปแล้ว
“ ได้ยังไงกัน…”
เธอรู้ว่าเอียนมีความสามารถพิเศษ
แต่นี่มันเรื่องอะไรกัน
เขาไม่ได้ถูกบังคับให้หลับไปในเวทย์น้ำแข็งของเขา
นอกจากนี้เขายังสามารถใช้เวทย์อื่นๆในขณะที่อยู่ในนั้นได้ อีก
“……ฮ่าฮ่า ”
ตอนนี้เฮลืนหัวเราะเหมือนคนบ้าโดยดูการเคลื่อนไหวต่อไปของเอียน
ไอซ์ บล็อก ของเยี่ยนก็ได้หายไป
เขาใช้มานาหมดไปแล้วหรือไม่?
ไม่ มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น
มันเหมาะเจาะเกินไปที่มานาเอียนจะหมดหรือไม่?
* เสียงเดิน *
เอียนเดินเข้าไปหาเฮลีน
ตามที่เธอคิดไว้ เอียนนั้นยกเลิกเวทย์ไอซ์ บล็อกด้วยความประสงค์ของเขาเอง
ไม่เช่นนั้นเอียนคงไม่สามารถเดินเข้าหาเธออย่างนั้นได้โดยไม่มีความเสียหายใดๆหรือความผิดปกติใดๆเลย
“ ครั้งนี้ ฉันได้เห็นว่าทําไมคุณถึงถูกเรียกว่าเป็น “จอมเวทย์คนแรก” ”
เสียงของเฮลีนที่พูดออกมานั้นช่างเป็นเสียงที่ขมขื่น
ตอนนี้เธอเข้าใจความหมายของชื่อของเอียนที่ทุกคนต่างก็เรียกกันแล้ว
เธอสามารถรับรู้ถึงพลังของเอียนได้หลังจากการได้ต่อสู้กับเขา
เขาไม่ใช่จอมเวทย์ที่มีพรสวรรค์ธรรมดาๆ
“ ฉันยอมแล้ว คุณจะช่วยปล่อยฉันออกจากเถาวัลย์สกปรกๆเหล่านี้ได้หรือยัง….”
“ ยัง “
เอียนตอบกลับไปเบาๆ
นี่มันยังไม่ดีพอ เขาต้องจัดการเธออย่างสมบูรณ์
ไม่ใช่สําหรับเฮลีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจอมเวทย์คนอื่นๆ ที่กําลังเฝ้าดูการต่อสู้นี้อยู่ด้วย
“ฉันจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าฉันเป็นใคร”
จอมเวทย์เด็กที่เพิ่งได้มีข่าวลือและการประกาศออกไปว่าเป็นอาร์ชเมจ
เขาผ่านการตรวจสอบของหอคอยแล้ว
เขาได้รับการยืนยันว่าอยู่ขั้นที่ 4
อย่างไรก็ตามมันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างการได้ฟังมากับการได้ดูด้วยตาของตัวเอง
“ คุณหมายความว่ายังไง….? ”
ในไม่ช้าเฮลีนก็ด้วยความอย่างสงสัย
แน่นอนเอียนไม่ตอบ
เอียนยกมือขวาขึ้นไปเหนือหัวอย่างช้าๆ
เอียนรวบรวมมานาไว้บนฝ่ามือที่เหยียดแขนขึ้นไปเหนือหัวของเขา
“ เดี๋ยวก่อน! เด็กน้อย…ท่านเอียน? ”
ตอนนี้เธอได้เรียกเขาว่าท่านเอียน เธอกําลังหมดหวังอย่างยิ่ง หากเวทย์ที่รุนแรงนั้นโจมตีมาที่เธอ เธอก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ นี่เป็นเพียงการต่อสู้เล่นๆ! การทดสอบเฉยๆ! หยุดนะ! “
เมฆมืดครึมเริ่มรวมตัวกันบนท้องฟ้าของหอคอยงาช้าง
การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของมันบนท้องฟ้านั้นแสดงถึงพลังของมัน
* ครื้นนน….*
เวทย์เอียนกําลังร่ายนั้นมันมีสูตรเวทย์ที่ซับซ้อนและเยอะมาก
และต้องใช้เวลานานในการใช้งาน
อย่างไรก็ตามพลังในการทําลายล้างของมันนั้นรุนแรงที่สุดในบรรดาเวทย์ขั้นที่ 4
“ คอล ไลท์นิ่ง” (เวทย์สายฟ้า)
ฟ้าก็ผ่าลงมา
มันผ่าลงบนยอดของฟ้าของหอคอยงาช้าง
ตรงจุดที่เฮลีนถูกมัดไว้ด้วยเถาววัลย์
* แคร็ก! *
เฮลืนหลับตาลงทันที
รวมไปถึงจอมเวทย์คนอื่นๆที่กําลังดูอยู่
ทันใดนั้นเศษหินสีขาวที่ใช้สร้างหอคอยงาช้างกําลังแตกกระจายออกไป
แม้แต่เวทย์ป้องกันของหอคอยงาช้างก็ยังไม่อาจต้านทานไว้ได้
เฮลีนจะต้องตายอย่างแน่นอน
ถ้ามันโจมตีเธอโดยตรง
หลังจากนั้นเฮลีนลืมตาของเธอ
พื้นด้านหน้าของเธอถูกผ่าและพื้นแตกกระจาย
ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณรอบๆที่ถูกผ่านั้นเป็นไหม้อย่างรุนแรง
สายฟ้าได้ผ่าลงตรงหน้าเฮลีน
“ ฮะ แฮ่ก แฮ่กก! ”
ในที่สุดเธอก็สามารถหายใจต่อได้
เธอยังชีวิตอยู่ เธอรอดชีวิตจากการถูกฟ้าผ่านั่น
แต่ทําไมเธอถึงรู้สึกว่าเธอจะไหม้?
จริงๆแล้วมันไม่ใช่เธอที่ถูกเผาไหม้
แต่มันคือความร้อนที่มาจากเถาวัลย์ที่ถูกเผาไหม้จากสายฟ้านั้น
เธอกําลังจะถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงจากเถาวัลย์
” คลายเวทย์ ”
เอียนซึ่งกําลังยืนอยู่ในบริเวณที่เป็นหลุมจากสายฟ้าทําท่าทําทางเล็กน้อยจากนั้นไม่นานเถาวัลย์ก็ปล่อยเฮลีน
เฮลีนล้มลง
เธอไม่สามารถยืนได้
“ เฮลีน”
เอียนเข้าไปหาเฮลืนอย่างใกล้ชิด
“ อย่าเข้ามาหาฉัน…!”
เฮลีนตะโกนออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
สัญชาตญาณของเธอกําลังปฏิเสธการเข้ามาของเอียน
“ พอแล้วเหรอ ”
อย่างไรก็ตามเอียนไม่สนใจปฏิกิริยาของเธอที่เธอนั้นแสดงออกมา
เอียนนั่งลงและมองตรงไปที่เฮลีน
“ คุณยังต้องการที่จะสอนอะไรฉันอีกหรือไม่ ”
เฮลีนส่ายหัวด้วยความสิ้นหวัง
มีอะไรที่จะสอนอีกไหม
เขาตั้งใจจะทําอะไร
เฮลืนไม่เข้าใจ และก็ไม่อยากที่จะเข้าใจด้วย
ในตอนนี้เธอแค่อยากจะหนีออกไปจากเอียน
ไม่เช่นนั้นเธอก็จะไม่สามารถใจให้สงบลงได้จากความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนและหัวใจเธอในตอนนี้มันกําลังเต้นแรง
“ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอโทษด้วย ฉันต้องไปแล้ว ”
แล้วเอียนก็เดินออกไป
เมื่อเอียนนั้นเดินเข้าไปใกล้จอมเวทย์ เหล่าจอมเวทย์ที่ยืนดูอยู่ก็ถอยห่างออกไป
และพวกเขาก็เปิดทางให้เอียนเดินออกไป
ในตอนท้ายเอียนได้พบกับแขกคนพิเศษ
จอมเวทย์วัยกลางคนซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ของจอมเวทย์ส่วนใหญ่
รวมถึงอาร์จเมจอีกสองสามคนและจอมเวทย์แห่งหอคอยฮาเบิร์ท
พวกเขามายังที่นี่เมื่อพวกเขานั้นเห็นเถาวัลย์เหล่านั้นกําลังเลื้อยขึ้นหอคอย
” ขอโทษนะ…”
เอียนพูดในขณะที่มองพวกเขา
“ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันรู้สึกเหนื่อยๆ ”
พวกเขาก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่สับสน
อาร์ชเมจคนใหม่คนนี้สามารถเอาชนะเฮลีนได้
หอคอยงาช้างซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ย่างสงบตลอดมา ในตอนนี้ต้องเผชิญกับยุคสมัยใหม่แล้ว
“ เขาใช้เวทย์มนตร์ขณะอยู่ในเวทย์ไอซ์ บล็อก …..”
ไม่ว่าเอียนจะเดินไปที่ไหนมันก็มีแต่เรื่องซุบซิบเกี่ยวกับเขาเต็มไปหมด
อย่างไรก็ตามอาร์ชเมจของหอคอยงาช้างทุกคนที่เคยได้ตรวจสอบเอียนมาแล้วนั้นไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องนี้เลย
“ เธอยังอยู่ข้างในห้องนั้นโดยออกมาเลยเหรอ? ”
” ใช่และเธอก็ไม่ยอมกินอะไรเลยมาหลายวันแล้ว”
“ อืม”
ชั้นที่ 19 ของหอคอยเป็นชั้นของห้องวิจัยเดี่ยวส่วนตัวของอาร์ชเมจ
มันมีแต่เพียงความเงียบงัดบนชั้นนี้
มากกว่าความเงียบในตอนนี้ก็คือภาวะซึมเศร้าของเฮลีน
“ เฮลีนคุณได้ยินฉันไหม ”
หน้าห้องวิจัยของเฮลีน
หลังจากเคาะประตู จอมเวทย์แห่งหอคอยก็เรียกเธอ
* ฉันเข้าใจในความรู้สึกของเธอในตอนี้ดี แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถอยู่ในห้องนั่นได้โดยที่ไม่ยอมกินอะไรเลยออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม”
หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่น จอมเวทย์แห่งหอคอยก็ได้ปลดล็อกประตูห้องวิจัยของเธอ
ขณะที่เขานั้นเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างช้าๆ
*แคร้ง!*
จอมเวทย์แห่งหอคอยใช้เวทย์โล่อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันขวดที่ขว้างมาใส่เขา
ข้างในห้องวิจัยนั้นมีสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการ
ไว้มาก
“ ฮ่าๆๆ…”
มีแก้วไวน์มากมายกลิ้งอยู่บนพื้น
อีกทั้งยังมีเศษแก้วจากการขว้างปา หนังสือที่ขาดยับเยิน
“ เฮลีน ”
“ ออกไปซะ ”
“ สิ่งที่เธอกําลังทําอยู่นั้นมันจะไม่ช่วยแก้ปัญหาใด ๆ …..”
“ ไปลงนรกซะ! ”
ผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าที่หมองคล้ำและตัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์
แท้จริงเธอดูเสียความมั่นใจของเธอไป
มันไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ของความพ่ายแพ้
เธอพ่ายแพ้อย่างน่าละอายต่อหน้าคนจํานวนมาก
เธอกรีดร้องอย่างผู้แพ้และขอร้องให้เอียนไว้ชีวิตของเธอ
อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถหาวิธีที่จะเอาชนะเอียนได้เลย
เธอแทบจะไม่มีแรงที่จะหนีออกไปจากตรงนั้นเลย
ด้วยความภาคภูมิใจทั้งหมดของเธอ เธอไม่สามารถที่จะยอมรับกับสถานการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นได้
ความเย่อหยิ่งของเธอได้ถูกทําลายไปจนหมดสิ้น
“ ประการแรกเราควรห้ามนําเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามารับประทานทั้งก่อนและหลังอาหาร ร่างกายของจอมเวทย์ทุกคนนั้นไม่ได้เป็นของพวกเขา แต่มันเป็นของหอคอยงาช้าง เธอก็รู้ดีใช่มั้ย”
“ ได้โปรดปล่อยให้ฉันได้อยู่คนเดียวเถอะ…ได้โปรด! “
“….ก็ได้ ถ้างั้นฉันจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ”
จอมเวทย์แห่งหอคอยเดินออกมาจากห้องของเฮลีน
“ ดูที่ใบหน้าของเธอสิ ”
เขาคลิกที่ลิ้นของเขา
ใบหน้าของเธอเริ่มน่ารังเกลียด
เธอยังมีการตัดสินใจที่ไม่บรรลุนิติภาวะ เธอวางแผนที่จะทําให้เอียน เพจต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอในตอนแรก แต่อย่างไรก็ตามเอียนกลับโจมตีเฮลืนอย่างโหดเหี้ยมแทน
“มันไม่ใช่เรื่องของการทําให้เขาเชื่อฟัง”
ในวันที่เอียน เพจเอาชนะเฮลีน เอียน เพจพูดกับเธอว่าทุกคนจะต้องเป็นเช่นนี้รวมไปถึงผู้อาวุโสที่เข้ามาขวางบนเส้นทางของเขาด้วย
ช่างเป็นเด็กที่กล้าหาญและหยิ่งทนง
“เขาไม่ใช่สุนัขที่เหมาะสมกับสายจูง…”
สายจูงเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้กับสุนัขได้เท่านั้น
มันไม่ได้ออกแบบมาสําหรับทําให้สัตว์ร้ายเชื่องได้
สัตว์ร้ายมันอาจจะพยายามกัดเจ้านายของมันทุกครั้งที่มันสามารถทําได้
“เขานั้นเป็นดั่งสัตว์ร้าย ”
สัตว์ร้ายที่ไม่สามารถเชื่องได้แม้จะเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็ก
ตอนนี้จอมเวทย์แห่งหอคอยต้องเลือกทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อให้แอียนมาเป็นผู้รับใช้ที่ภักดีต่อหอคอยงาช้าง
อันที่จริงแล้ว
“เพื่อทําให้เขาเป็นผู้รับใช้ที่ชื่อสัตย์ของ “ฉัน”
เอียนสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ในไม่ช้าฮาเบิร์ทก็มาถึงชั้นที่ 22 ห้องของจอมเวทย์แห่งหอคอย
ใบหน้าที่คุ้นเคยรอเขาอยู่
“ สวัสดีท่าจอมเวทย์แห่งหอคอย ”
“ ฝ่าบาท ”
เด็กผู้ชายที่กล้าที่จะนั่งบนเก้าอี้ของาจอมเวทย์แห่งหอคอย
เจ้าชายองค์ที่ห้า แร็กนาร์ กรีนริเวอร์
” ขอโทษที่มาสาย ”
“ ฉันโอเคกับเรื่องนี้ ได้โปรดบอกเรื่องราวที่คุณได้รู้มาที ”
“ เรื่องราวของอะไร….”
“ เอียน เพจ ”
ชายสองคนที่ใส่หน้ากากไว้ที่หน้าของตัวเอง
ที่จริงแล้วพวกเขาเหมาะสมกับมันดีทีเดียว