Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1448 นกยักษ์สีดำ
“กริ๊งงงง…”
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นมา
โรแลนด์ใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะหาโทรศัพท์ที่กำลังดังเจอ จากนั้นจึงโน้มตัวไปยกหูขึ้นมา
สัญลักษณ์บนโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่ามันโทรมาจากโรงเรียนอัศวินอากาศ
เมื่อสายโทรศัพท์ที่ลากเข้ามาในห้องทำงานมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงต้องหาโต๊ะเล็กๆ มาตัวหนึ่งเพื่อวางโทรศัพท์พวกนี้โดยเฉพาะ
“งั้นเหรอ? ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังวางโทรศัพท์ โรแลนด์ก็ยืนขึ้นมาด้วยสีหน้าดีใจ ก่อนจะหยิบเอาเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนเก้าอี้มาคลุมไว้บนตัว
“องค์หญิงทิลลีเสด็จกลับมาแล้วเหรอเพคะ?” ไนติงเกลเลิกคิ้วถาม
“อื้อ เครื่องบินลำใหญ่เตรียมพร้อมแล้ว อีกไม่นานก็พร้อมที่จะทดสอบบินแล้ว”
เครื่องบินลำใหญ่ที่เขาว่าก็คือโปรเจคสำคัญของทางศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิล — เครื่องบินทิ้งระเบิดเครื่องยนต์สี่ตัว หลังรู้ว่ามีโอกาสที่จะมีสนามบินเคลื่อนที่ เขาก็รีบถามทางช่างเทคนิคทันทีว่าสามารถทำการเปลี่ยนเคลื่องยนต์ได้ไหม และคำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือขอเพียงลดความถ่วงจำเพาะลง มันก็จะไม่ส่งผลใดๆ ต่ออากาศพลศาสตร์ของเครื่องบิน แต่การเปลี่ยนเอาเครื่องยนตร์ของฟินิกส์มาใช้จะทำให้ศักยภาพของเครื่องบินลดลงอย่างมาก อย่างเช่นทำเป็นต้องใช้รันเวย์ที่ยาวขึ้นในตอนที่ขึ้นบิน น้ำมันเติมได้อย่างมากสุดแค่ครึ่งเดียว ระยะในการบินลดลงเหลือแค่หนึ่งในสามจากของเดิม …สรุปแล้วก็คือดัชนีในด้านต่างๆ ของเครื่องบินใหม่ไม่เพียงพอที่จะใช้บินทางไกลอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรกได้
ข้อดีเพียงอย่างเดียวของมันคือมันสามารถใช้งานได้ตอนนี้เลย
เครื่องยนต์ของฟินิกส์สั้นเป็นเครื่องยนต์สูบดาวที่ผ่านการปรับปรุงมาแล้ว ในช่วงเวลาหนึ่งปีกว่านี้อันนาได้ศึกษามันอย่างทะลุปรุโปร่ง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่จะใช้ในเครื่องบินทิ้งระเบิดแล้ว มันถือว่ามีความสมบูรณ์กว่ามาก —- ถึงแม้ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลจะให้แปลนอย่างละเอียดมาแล้ว แต่เครื่องยนต์ต้นแบบก็ยังต้องทำการทดสอบก่อน ซึ่งนี่ย่อมต้องไปถ่วงแผนการโดยรวมให้ล่าช้าลงอย่างแน่นอน
ความจริงในตอนแรกที่กำหนดแผนการนี้ขึ้นมา เครื่องบินทิ้งระเบิดถูกจัดให้อยู่ใน ‘แผนการหนึ่งปี’ สำหรับเมืองเนเวอร์วินเทอร์แล้ว นี่คือเป็นแผนการที่บ้าบิ่นอย่างมาก ต่อให้ในระหว่างที่ทำการศึกษาจะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกครึ่งปีกว่าออกมาเป็นรูปเป็นร่างตามที่วางแผนเอาไว้
ถ้าไม่เป็นเพราะเดอะแมสก์ทำให้โรแลนด์รู้ว่าพระผู้สร้างมีความสามารถใช้ถล่มพื้นที่อยู่ด้านล่างลงไปพร้อมกับมันด้วยได้แล้วล่ะก็ เวลาหนึ่งปีนี้ก็ไม่ถือว่ายาวนานอะไร แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว — ทันทีที่พระผู้สร้างลอยขึ้นไปแล้ว ต่อให้ทำลายแกนเวทมนตร์จนพังพินาศแล้ว มันก็ยากจะที่กู้คืนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการตกลงมาได้
บวกกับตอนนี้มนุษย์มีเกาะลอยฟ้าที่เป็นเหมือนยานแม่ ศักยภาพของเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สูญเสียไปก็จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรอีก
โรแลนด์สวมเสื้อคลุมพร้อมเดินข้ามสายพะรุงพะรังไปทางประตู “พวกเราเองก็ไปดูกันเถอะ นี่เป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์เลยนะ!”
“แคร้ง—“
ในตอนที่เขาเดินผ่านโต๊ะไม้แดง มุมเสื้อของเขาพลันสะบัดไปโดนกาน้ำชาที่วางอยู่ริมโต๊ะ กว่าโรแลนด์จะรู้ตัว กาน้ำชาก็ร่วงตกลงมาจากบนโต๊ะแล้ว
“อ๊าา…” ไนติงเกลเหมือนขยับตัว ร่างกายเธอหายไปชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังช้าไป
กาน้ำชาเหมือนถูกอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นกระทบเข้า มันหมุนควงอยู่กลางอากาศก่อนจะร่วงตกลงไปบนพื้น เสียงแตกดังขึ้นพร้อมกับตัวกาน้ำชาที่แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ น้ำชาร้อนๆ ที่เพิ่งชงเสร็จหกเลอะไปบนพื้น
“การตอบสนองของเจ้าเหมือนจะช้าลงนะ” โรแลนด์พูดหยอก “เมื่อก่อนรับของด้วยมือเปล่าแบบนี้เจ้าไม่เคยพลาดนี่นา เป็นเพราะกินเยอะเลยไปเลยอ้วนหรือเปล่า?”
“….” ไนติงเกลไม่ได้ต่อปากต่อคำ หากแต่มองดูมือของตัวเองอย่างสับสน
“เดี๋ยวให้คนใช้มาเก็บกวาดแล้วกัน พวกเราไปที่โรงเรียนอัศวินอากาศกันก่อนเถอะ ทิลลีรออยู่ที่นั่นแล้ว”
…..
บนลานบินในโรงเรียนอัศวินอากาศ เครื่องบินสีดำที่มีขนาดใหญ่กว่าซีกัลลำหนึ่งค่อยๆ ถูกลากออกมา
นอกจากขนาดที่ใหญ่โตของมันแล้ว ลำตัวที่กว้างและเครื่องยนต์สี่เครื่องที่ติดอยู่ใต้ปีกของมันก็ดูแตกต่างจากเครื่องบินรบลำอื่นๆ อย่างชัดเจน
ถึงแม้เครื่องยนต์สูบดาวที่มีขนาดเล็กจะดูไม่ค่อยเข้ากับตัวเครื่องบินที่เรียวยาว แต่คงไม่มีใครที่จะสังเกตเห็นจุดที่ไม่เข้ากันอันนี้แน่ — เพียงแค่ขนาดที่ใหญ่โตของมันก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาของทุกคนเอาไว้แล้ว
เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความกะทัดรัดของเฮฟเว่นเฟลมแล้ว ลำตัวของมันที่ทาสีดำทั้งหมดทำให้มันดูเหมือนอสูรยักษ์ที่กำลังฟุบหมอบอยู่
กู๊ดเองก็ไม่ต่างจากคนอื่น
นับตั้งแต่เครื่องบินลำนี้ปรากฏตัวขึ้นมา สายตาของเขาก็ไม่สามารถละไปจากมันได้เลย ถ้าไม่เป็นเพราะเขาได้ขับเฮฟเว่นเฟลมด้วยตัวเอง เขาคงยากที่จะเชื่อได้ว่าเครื่องจักรที่หนักอึ้งแบบนี้จะสามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ แต่ถึงแม้จะรู้เช่นนี้แล้ว ภายในใจกู๊ดก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและตกตะลึง — แต่ว่าในช่วงเวลาหนึ่งปีที่จากเมืองเนเวอร์วินเทอร์ไป ที่นี่กลับสร้างของที่สุดยอดแบบนี้ขึ้นมา ความสามารถของราชินีนี่จะสุดยอดเกินไปแล้ว
ฟินกิ้นนั้นพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า ‘ใหญ่จัง’ ซ้ำไปซ้ำมา
“หลังจากนั้นนี้ไปคงมีแต่อัศวินอากาศที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติที่จะขับเจ้ายักษ์นี่ได้?” ไฮน์อุทานออกมา “ในชั้นของพวกเราก็น่าจะมีแต่กู๊ดเท่านั้นแหละที่มีหวัง”
“มันก็ไม่แน่” คนที่ตอบพวกเขาคือครูฝึกอีเกิลเฟสที่มักจะมีสีหน้าเยือกเย็น “เท่าที่ข้ารู้ว่า คนขับเครื่องบินทิ้งระเบิดจะไม่ได้ถูกคัดเลือกมาจากนักบินแถวหน้า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นไม่ยอดเยี่ยม หากแต่เป็นเพราะองค์หญิงทิลลีทรงคิดว่าการรักษาความได้เปรียบบนอากาศเอาไว้ต่างหากถึงจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของอัศวินอากาศ ปกป้องเครื่องบินทิ้งระเบิดให้ดี จัดการศัตรูทุกตัวที่คิดจะมาเข้าใกล้ ถ้าสามารถทำได้ล่ะก็ ต่อให้คนที่ขับเครื่องบินยักษ์นี้จะเป็นมือใหม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“ครูฝึก…” ทั้งสามคนยืนตัวตรงขึ้นมาทันที
“ตามสบาย ข้าไม่ได้มาฝึกสอนพวกเจ้า” อีเกิลเฟสกวาดตามองพวกเขาด้วยสีหน้าราบเรียบ “พวกเจ้าเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของอัศวินอากาศ มั่นใจตัวเองหน่อย”
“ขอรับ!” ทั้งสามคนทำวันทยาหัตถ์
“หลังจากนี้ทุกคนก็ต้องเจอกับกองทัพหลักของพวกปีศาจแล้ว พยายามเข้าล่ะ” อีเกิลเฟสเดินเอามือไพล่หลังไปอีกทางหนึ่ง
ฟินกิ้นถอนหายใจออกมา “ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าวันนี้ครูฝึก…”
“อ่อนโยนเป็นพิเศษ?” ไฮน์พูดต่อ
“นั่นสิ” กู๊ดยักไหล่ “แต่ว่าถ้าคำนินทาลับหลังพวกนี้ไปเข้าหูเขาล่ะก็ ข้าว่าเขาก็น่าจะสั่งให้พวกเจ้าไปล้างห้องน้ำอาทิตย์นึงอย่างไม่ลังเลนะ”
ทั้งสองคนรีบเปลี่ยนประเด็นทันที
ในเวลานี้เอง ใบพัดของเครื่องบินสีดำก็หมุนขึ้นมาด้วยความเร็วสูง เสียงที่ดังขึ้นมากลบเสียงพูดคุยของคนที่มารอชมอยู่รอบๆ ไปทันที
ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ในตอนที่กู๊ดได้ยินจังหวะที่คุ้นเคยนี้ เขายังคงรู้สึกหัวใจเต้นแรงอยู่
เขาชอบบินจริงๆ ด้วย…
ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่ดังอย่างต่อเนื่อง เครื่องบินทิ้งระเบิดค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าพร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ — ในขั้นตอนนี้มันช้ากว่าเฮฟเว่นเฟลมมาก แต่ในตอนที่ใกล้จะถึงสุดทางรันเวย์ มันก็ยังค่อยๆ เชิดหน้าขึ้นไปทีละน้อย
แรงดึงดูดไม่สามารถพันธนาการมันเอาไว้ได้อีกแล้ว
อสูรยักษ์สีดำดูคล้ายว่ากำลังกางปีกอันยืดยาวของมันออก ก่อนจะถลาร่อนลมทะเลที่ชื้นเล็กน้อยขึ้นไปบนท้องฟ้า
หลังบินวนอยู่รอบหนึ่ง เครื่องบินทิ้งระเบิดก็เปลี่ยนทิศทาง ก่อนจะมุ่งหน้าทางไปเหนือของเนเวอร์วินเทอร์ ส่วนตรงทิศทางนั้น ภูเขาเนินทิศเหนือที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ดูสะดุดตาอย่างมาก
กู๊ดรู้ดีว่าเงื่อนไขสำคัญทั้งหมดที่พวกเขาต้องใช้ในการบุกออกไปโจมตีนั้นถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ศึกตัดสินกับปีศาจใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
………………………………………………………….