Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1368 ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
อันดับต่อมาคือสายการผลิตกระสุนที่มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ถึงแม้สายการผลิตที่โรแลนด์ออกแบบจะถือว่าเป็นกระบวนการผลิตต่อเนื่องได้ แต่ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมทหารนั้นยังถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ เรียกได้ว่าไม่มีอะไรให้น่าพูดถึงเลย อีกฝ่ายบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างและขั้นตอนการผลิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายแบบนี้นั้นสามารถใช้เครื่องจักรมาทดแทนแรงงานคนได้ถึง 95% ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใช้อุปกรณ์ควบคุมเชิงกล มันก็แทบจะทำการผลิตได้ 24 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก
เหล่าผู้เชี่ยวชาญทางอุตสาหกรรมทหารเหล่านั้นบอกว่า ในช่วงแรกสายการผลิตต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินที่สุด แต่มันจะช่วยประหยัดแรงงานคนได้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการผลิตกระสุนก็จะเพิ่้มขึ้นมากกว่า 10 เท่า ถ้าหากจำนวนแรงงานที่อยู่ในสายการผลิตไม่เปลี่ยนแปลง ความสามารถในการผลิตก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เอาไว้ ‘โครงการรากฐาน’ ของโปรเจคหนี่วาเข้าที่เข้าทางเมื่อไร อุปกรณ์ที่สายการผลิตใหม่ต้องการใช้ก็จะไม่ใช่ปัญหาทางเทคโนโลยีอีก เมื่อรวมกับดินปืนที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้น ความแม่นยำและอานุภาพทำลายก็จะพัฒนาขึ้นไปอีกครั้ง
เมื่อเห็นรายงานส่วนนี้ โรแลนด์ได้แต่แอบชื่นชมความมีวิสัยทัศน์ของอีกฝ่าย
จำนวนกระสุนที่มีไม่พอนั้นเป็นปัญหาสำคัญของกองทัพที่หนึ่งมาโดยตลอด
หลังจากที่บุกเบิกที่ราบลุ่มบริบูรณ์ออกไปแล้ว จำนวนคนงานในสายการผลิตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาเรื่องจำนวนกระสุนที่ไม่พอใช้กลับไม่มีแนวโน้วที่จะดีขึ้นเลย อย่างเช่นอัศวินอากาศที่แค่ฝึกซ้อมก็ใช้กระสุนไปเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ แต่การฝึกซ้อมจะให้ไปยกเลิกก็ทำไม่ได้ เขาได้ยินขวานเหล็กรายงานถึงปัญหาของแนวหน้าให้ฟังหลายครั้งแล้ว
ถ้าความสามารถในการผลิตกระสุนสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก โอกาสที่ปีศาจจะอาศัยความได้เปรียบในเรื่องจำนวนมาทำลายแนวรับของกองทัพที่หนึ่งก็จะลดลง พูดอีกอย่างก็คือพวกมันจะสูญเสียความสามารถในการสู้รบแบบซึ่งๆ หน้าไป
ส่วนในเรื่องอาวุธเบา เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างไม่ได้ให้ความเห็นอะไรนัก ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ปรับ แต่พวกเขาคิดว่าผลที่ได้รับมันไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไป แค่ปืนกล ปืนยาวลูกเลื่อนและปืนยาวกึ่งอัตโนมัติที่มีในตอนนี้ก็เพียงพอที่จะรับมือกับการโจมตีของ ‘ฟอลเลนอีวิลที่เสื่อมสภาพ’ แล้ว ส่วนหน้าที่ในการบุกโจมตีนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ดีกว่า
พูดอีกอย่างก็คือขอเพียงเอาปืนใหญ่ยิงถล่มศัตรูจนราบเป็นหน้ากลอง ทหารราบก็จะสามารถยึดพื้นที่ได้โดยง่าย
แทนที่จะเอาทรัพยากรไปใช้ในการปรับเปลี่ยนตัวปืน สู้เอามันไปใช้สร้างปืนใหญ่ให้มากขึ้นดีกว่า ภารกิจทุกอย่างจะใช้ปืนใหญ่เป็นตัวเปิดทาง ไม่ว่าจะเป็นการบุก การถอย การสนับสนุน ก็ใช้กระสุนปืนใหญ่กระหน่ำยิงเข้าไป แล้วจากนั้นค่อยว่ากัน
แต่แน่นอน นี่เป็นแค่แผนไตรมาสที่เห็นผลเร็วและให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
เมื่อเป็นแผน 5 ปี อาวุธเบาจะกลายเป็นโครงการใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างมาก
สำหรับโรแลนด์แล้ว สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือ ‘แผน 1 ปี’
ประโยชน์ที่ได้รับจากมันนั้นน้อยกว่าดินปืนและกระสุนปืน ทรัพยากรที่ต้องใส่ลงไปก็ค่อนข้างเยอะ แต่มันกลับเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะของสงคราม
เนื้อหาในแผนการนั้นครอบคลุมไปถึงอาวุธหนักที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์มีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งมันประกอบไปด้วยโครงการที่ต้องทำการปรับเปลี่ยนสองโครงการและโครงการใหม่อีกสองโครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการของทหารราบและอัศวินอากาศอย่างละครึ่ง
อันดับแรกคือโปรเจคเก่าของศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิล รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบและรถถังหุ้มเกราะที่พัฒนาขึ้นมาจากรถแทรกเตอร์ ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสเดียวที่อาจารย์เซี่ยจะโชว์ตัว ที่น่าแปลกใจก็คือหลังจากได้ดูแบบแปลนแล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญไม่ได้มองว่ามันไร้ค่า แต่พวกเขากลับคิดว่าภายใต้เงื่อนไขที่มีเทคโนโลยีที่ต่ำ แผนการนี้มีประโยชน์ให้ใช้งานได้อยู่ เมื่อเทียบกับการติดเกราะให้กับรถแล้ว สิ่งที่พวกเขาสนใจมากกว่าก็คือ ‘แกนพลังงานนิวเคลียร์’
ในตอนที่โรแลนด์เอาลูกบาศก์เวทมนตร์ของจริงออกมาให้ดู บรรยากาศภายในที่ประชุมนั้นเปลี่ยนไปทันที แม้แต่ตัวแทนจากรัฐบาลที่รู้เรื่องความลับอีกโลกหนึ่งก็ยังต้องอ้าปากค้าง
จนถึงตอนนี้ เขายังจำภาพเหตุการณ์ตอนนั้นได้อย่างชัดเจน
เมื่ออยู่ต่อหน้า ‘ก้อนหินสี่เหลี่ยม’ ที่ดูไม่มีอะไรพิเศษ สีหน้าของทุกคนในตอนแรกดูสับสน เพราะในตอนแรกที่มีการจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ต่อให้มันจะฟังดูน่าเหลือเชื่อแค่ไหนทุกคนก็ยังพอยอมรับได้เพราะเห็นแก่หน้าบุ๊ค แต่การที่เอาก้อนหินก้อนหนึ่งออกมาแล้วบอกว่ามันเป็นแกนพลังงานนิวเคลียร์ แบบนี้ไม่เท่ากับมองผู้เชี่ยวชาญที่นั่งอยู่ในห้องประชุมนี้เป็นคนโง่หรอกเหรอ
ร็อครีบส่งสายตาให้เขาทันที ส่วนหัวหน้าหลิวเองก็คิดที่จะพักการประชุมชั่วคาว เพื่อป้องกันไม่ให้บรรยากาศความร่วมมือที่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากต้องพังทลายลง
แต่ด้วยการดึงดันขอร้องของเขา สุดท้ายหัวหน้าวิศวกรเครื่องยนต์คนหนึ่งก็เอามันไปส่งที่ห้องทดสอบแบบเสียไม่ได้ ในตอนที่ผู้ช่วยหัวหน้าวิศวกรเดินออกไป เขายังทำสีหน้าประหลาดใจและรังเกียจด้วย แต่หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เขาก็พุ่งกลับเข้ามาในห้องประชุมด้วยสีหน้าตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
จากนั้นทั่วทั้งห้องประชุมก็พากันแตกตื่นขึ้นมาทันที
เมื่ออยู่ต่อหน้าความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ โรแลนด์พบว่าในสายตาของทุกคนที่มองมาที่ตัวเองนั้นมีเปลวไฟที่ลุกโชน ผู้อำนวยการอู๋นั้นถึงกับลากตัวหัวหน้าหลิวออกไปนอกห้องประชุม ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปคุยอะไรกันข้างนอก แต่การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือการป้องกันในเขตโรงงานวันถัดมานั้นถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง จากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกเปลี่ยนกองทัพ ตรงประตูทางเข้าหลักมีการตั้งป้อมและบังเกอร์เอาไว้ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าอาวุธธรรมดาทั่วไปไม่อาจทำอะไรเขาได้ เผลอๆ อาจจะมีการใช้รถนำทางกับจัดบอดี้การ์ดมาให้เขาด้วยซ้ำ
เขาไม่ได้ตั้งใจเอามันมาโชว์ให้ทุกคนดู หากแต่นี่เป็นความคิดของอันนา
หลังจากที่เขาเอาเรื่องการประชุมในวันแรกเล่าให้เธอฟัง เธอก็ค่อยข้างโมโหทีเดียว จากนั้นเธอก็คิดแผนการเอาคืนขึ้นมาได้ นั่นก็คือใช้วัตถุที่สร้างขึ้นมาจากพลังเวทมนตร์ไปเปิดหูเปิดตาผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น ซึ่งผลที่ออกมานั้นดีกว่าที่โรแลนด์คิดเอาไว้มาก จากนั้นทุกคนไม่เพียงแต่จะให้ความเคารพบุ๊คมากขึ้น ทว่ายังตอบรับคำขอของโรแลนด์มากขึ้นกว่าเดิมด้วย โดยพวกเขาหวังว่าโรแลนด์จะแบ่งลูกบาศก์เวทมนตร์ให้พวกเขาซักก้อนไปใช้ในการทดลองมาก ส่วนเวลาในการเลิกประชุมหลังจากนั้นก็ช้าขึ้นทุกวัน
เมื่อมีวัตถุที่มองเห็นจับต้องได้ การจะออกแบบแผนการพื้นฐานที่ใช้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับทีมที่มีเทคโนโลยียุคปัจจุบันคอยสนับสนุน
เครื่องยนต์ลูกบาศก์เวทมนตร์สามสูบรุ่นแรกจึงถูกเขี่ยทิ้งด้วยเหตุนี้
สิ่งที่เข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ลูกบาศก์เวทมนตร์แรงดันสูงที่มีการออกที่สมเหตุสมผลมากกว่าและมีแรงดันภายในลูกสูบที่สูงกว่า ตามทฤษฎีแล้วมันไม่เพียงแต่จะปล่อยพลังงานออกมาได้มากกว่าเดิมเท่านึง แต่ขนาดและการสั่นสะเทือนก็ยังลดลงเกือบสามเท่าด้วย โดยมันจะถูกเอาไปติดตั้งอยู่ในรถบรรทุกและรถแทรกเตอร์ที่ถูกสร้างเลียนแบบขึ้นมาเพื่อทำการทดสอบจริง ใช้เวลาอย่างมากหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถยืนยันแล้วว่ามันสามารถใช้งานได้หรือไม่
นอกจากเรื่องการปรับปรุงเครื่องยนต์ลูกบาศก์เวทมนตร์แล้ว ทางทีมโปรเจคนี้ยังได้ให้แบบแปลนของรถบรรทุกขนาดเล็กมาด้วย รถบรรทุกขนาดเล็กแบบนี้มีแรงม้าแค่ 20 – 30 แรงม้าเท่านั้น ใช้การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนน้ำมันที่ใช้ก็เป็นน้ำมันที่เหลือหลังจากสกัดน้ำมันของเครื่องบินปีกสองชั้นออกมาแล้ว น้ำหนักที่บรรทุกได้อยู่ระหว่าง 1 – 2 ตัน โครงสร้างเรียบง่าย แม้แต่ห้องคนขับก็ไม่มี ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับรถแทรกเตอร์สี่เหลี่ยมที่มีสี่ล้อ
ไม่นานโรแลนด์ก็รับรู้ได้ถึงประโยชน์ของรถบรรทุกขนาดเล็กแบบนี้ เพียงแค่เรื่องความยากในการผลิตเพียงเรื่องเดียวมันก็ถือว่าสร้างได้ง่ายกว่ารถบรรทุกไอน้ำอย่างมกา สามารถสร้างออกมาได้เป็นจำนวนมากในเวลาสั้นๆ การใช้รถบรรทุกไอน้ำในการขนส่งในระยะทางสั้นๆ นั้นถือเป็นการสิ้นเปลืองอย่างไม่ต้องสงสัย …..
และในส่วนสุดท้ายของแผนการหนึ่งปีก็คือหัวใจสำคัญที่แท้จริงของแผนการ
โดยมันประกอบขึ้นมาจากสองโครงการ นั่นคือปรับปรุงเฮฟเว่นเฟลมที่มีอยู่ในตอนนี้ ทำให้มันมีความได้เปรียบเหนืออสูรสยองขึ้นไปอีกขั้น แล้วใช้มันเป็นฐานในการพัฒนาเครื่องบินรุ่นต่างๆ ออกมาเพื่อปรับใช้ในสถานการณ์ที่่ต่างกัน
สองคือสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลรุ่นใหม่ออกมา
……………………………………………………………….