Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1342 แนวโน้มยืดเยื้อ
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” ทิลลีถาม
“พวกปีศาจที่ไล่ตามขบวนรถบรรทุกถูกกำจัดจนแทบจะหมดแล้ว ปีศาจที่ยังเหลืออยู่บนฟ้าต่างพากันหนีไปแล้ว พวกเราน่าจะชนะแล้วล่ะเพคะ” ซิลเวียตอบ
“เสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสได้ลงมือเลย” แอนเดรียยักไหล่อย่างเสียดาย “ดูเหมือนราชาปีศาจตัวนั้นจะบาดเจ็บหนักทีเดียวนะเนี่ย”
ซีกัลไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ หากแต่คอยบินวนบนในชั้นเมฆเพื่อคอยระวังเฮคซอดหรือราชาปีศาจตัวอื่นที่อาจจะปรากฏตัวออกมา เพราะตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดจะใช้รับมือพวกราชาปีศาจที่มีความสามารถแปลกประหลาดพวกนั้นคือการซุ่มโจมตีระยะไกลของแอนเดรีย
แต่ซิลเวียกลับรู้สึกโล่งใจที่ราชาปีศาจไม่ได้โผล่ออกมา
เธอรู้ว่าการโจมตีครั้งนี้กับการซุ่มโจมตีสกายลอร์ดเมื่อครั้งที่แล้วนั้นไม่เหมือนกัน ที่ศัตรูไม่สังเกตเห็นซีกัลที่ซ่อนตัวอยู่ก็เป็นเพราะในตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่บนเครื่องบิน การเปลี่ยนแปลงบนสนามรบล้วนแต่ใช้การแจ้งผ่านรูนสดับ ถึงแม้ตัวเธอจะถูกปีศาจดวงตามองเห็น แต่ซีกัลป์ก็ยังแอบซ่อนตัวอย่างไร้ซุ่มเสียงอยู่
แต่ครั้งนี้ต้องออกมาทำศึกในพื้นที่ที่ไกลจากค่าย เธอจึงจำเป็นต้องติดตามซีกัลมาด้วย ถึงจะสามารถสั่งการได และก็เป็นเพราะเหตุนี้ ถ้าหากสกายลอร์ดปรากฏตัวพร้อมกับปีศาจดวงตาตัวใหม่ ซีกัลก็จะถูกอีกฝ่ายเห็นด้วยเหมือนกัน พูดอีกอย่างก็คือมีแต่ตอนนี้เฮคซอดหรือปีศาจระดับสูงตัวอื่นๆ ปรากฏตัวตามลำพังเท่านั้น แอนเดรียถึงจะสามารถโจมตีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวได้
ไม่อย่างนั้นถ้าหากโจมตีไม่ถูก สถานการณ์หลังจากนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ยากจะคาดเดาได้
ด้วยเหตุนี้การที่พวกมันไม่ปรากฏตัวกลับกลายเป็นเรื่องดี
เพราะไม่มีอะไรจะน่าดีใจไปกว่าการทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ และทุกคนรอดกลับมาอย่างปลอดภัย
“เจ้าไม่มีโอกาสลงมือน่ะดีแล้ว ถ้าหากเฮคซอดปรากฏตัวจริงๆ ข้าไม่คิดว่าขบวนรถบรรทุกจะถอยกลับไปได้อย่างปลอดภัย” ทิลลีส่ายหัวอย่างจนปัญหา “ข้าเดาว่าตอนที่เอดิธส์วางแผนนี้ เธอน่าจะวัดดวงว่าปีศาจดวงตาที่เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะหามาทดแทนได้ง่ายๆ ดังนั้นสกายลอร์ดถึงไม่กล้าปรากฏตัวสุ่มสี่สุ่มห้า”
คำพูดนี้แทบจะตรงกับสิ่งที่ซิลเวียคิดอยู่ในใจ
เธอพยักหน้าหงึกๆ ออกมา สมแล้วที่เป็นองค์หญิงทิลลี!
“เออใช่…” ทิลลีขับซีกัลมุดออกมาจากชั้นเมฆ “ในเมื่อชนะแล้ว อย่างนั้นก่อนกลับพวกเราไปดูกันหน่อยไหมว่ากำจัดปีศาจไปได้เท่าไร”
สำหรับเรื่องนี้ ซิลเวียถือว่ามีประสบการณ์โชกโชนทีเดียว เมื่อไม่มีอุปสรรคมาขัดขวางการมองเห็น เธอใช้พลังเวทมนตร์เพียงนิดเดียวก็สามารถประเมินดูคร่าวๆ ได้แล้ว
แต่พริบตาที่ได้ข้อสรุปออกมา เธอก็ต้องรู้สึกตกใจทันที
“สองพัน…ไม่สิ เกือบสามพัน…”
“สามพัน?” ทิลลีถามอย่างแปลกใจ “ทำไมถึงเยอะขนาดนี้?”
“ปีศาจคุ้มคลั่งพวกนั้น” ซิลเวียมองไปทางเนินเขาพร้อมสูดหายใจ “ก่อนหน้านี้พวกมันไม่ได้วิ่งไปหาขบวนรถ หากแต่กำลังวิ่งหนีต่างหาก!”
ในตอนนี้เธอถึงได้สังเกตเห็นรูจำนวนมากที่อยู่บนยอดเขา เห็นได้ชัดว่าเพื่อที่จะประหยัดการใช้หมอกแดง ปีศาจส่วนใหญ่จึงมุดลงไปอยู่ใต้ดิน มีแต่ตอนนี้ต้องต่อสู้เท่านั้น พวกมันถึงจะถูกปลุกขึ้นมา แต่หลังจากที่อสูรยักษ์ป้อมปราการล้มลง หมอกแดงที่ไม่มีแหล่งให้กำเนิดก็สลายตัวหายไปอย่างรวดเร็ว ปีศาจพวกนี้จึงต้องเผชิญกับหายนะ
พวกมันไม่ได้แห่ลงมาจากบนเขาเพื่อกำจัดผู้บุกรุก หากแต่พวกมันสังเกตเห็นว่าหมอกแดงกำลังสลายหายไป พวกมันจึงมุดออกมาจากที่ซ่อนตามสัญชาติญาณ ก่อนจะวิ่งลงมาจากบนเขาโดยหวังว่าจะไปให้ถึงจุดจ่ายหมอกแดงจุดต่อไปก่อนที่การหายใจจะถูกตัดขาด
แต่ไม่ว่าจะเป็นเมืองแซนด์ซิตี้หรืออ่าวดีพพูลก็ล้วนแต่อยู่ห่างไกลจากพวกมันมาก
โลกที่หมอกแดงสลายหายไปกลับมาดูสะอาดสะอ้านอีกครั้ง แต่สำหรับปีศาจแล้ว นี่กลับเป็นดินแดนแห่งความตายที่ไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่รอดได้ พวกมันวิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็พากันล้มลงไปกองกับพื้นอยู่ตรงตีนเขา ยกเว้นปีศาจส่วนน้อยที่มีถังหมอกแดงซึ่งส่วนใหญ่ตอนนี้ได้หนีไปหมดแล้ว
ทีมที่ปรึกษาได้ทำการวิเคราะห์ในจุดนี้เอาไว้ได้อย่างถูกต้อง ก็เหมือนกับที่เกรย์คาสเซิลไม่สามารถแจกหินอาญาสิทธิ์ให้ทหารทุกคนได้ ศัตรูกก็ไม่สามารถแจกจ่ายถังหมอกแดงกับอุปกรณ์ช่วยหายใจให้ปีศาจทุกตัวได้เหมือนกัน หลังจากกองทัพที่มีอุปกรณ์ครบครันถูกส่งไปโจมตีเมืองของมนุษย์แล้ว ปีศาจที่เฝ้าอยู่ที่นี่ก็เหลือเพียงแค่พวกปีศาจที่เดิมใช้ชีวิตอยู่ในเขตหมอกแดงเท่านั้น
ถ้าช้ากว่านี้อีกสองวัน บางทีสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงก็ได้
แม้แต่คนขับรถที่รับสมัครมาจากนอกกองทัพก็ยังต้องรีบโจมตีกลับในวันถัดมาหลังจากที่กองทัพที่หนึ่งถอนกำลังจากอ่าวดีพพูล ต้องยอมรับเลยว่านี่เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดอย่างมาก
“ข้าว่า หลังศึกนี้ชื่อไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือนี้จะต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งสี่อาณาจักรแน่” ทิลลีพูด
…..
คนไม่ถึงร้อยคนบดขยี้ศัตรูเกือบสามพันตัว ความสูญเสียนั้นมีแค่รถบรรทุกไอน้ำหนึ่งคันกับเฮฟเว่นเฟมอีกสองลำ ทหารที่เข้าร่วมรบไม่มีใครเสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว การโจมตีกลับที่ประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ทำให้ขวัญและกำลังใจของศูนย์บัญชาการเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้แต่เสียงในขณะรายงานของทุกคนก็ดังขึ้นกว่าเดิม
แต่เอดิธส์ไม่ได้แสดงความดีใจออกมาเพราะเรื่องนี้เลย เธอประกาศแผนการต่อไปออกมาแทบจะในวันเดียวกับที่ข่าวถูกส่งมาถึงเคจเมาเธ่น
แผนการนี้ได้รับการเห็นชอบจากขวานเหล็กทันที
ขบวนรถบรรทุกได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางตรงไปทางช่องแคบตะวันตกของเคจเมาเธ่นในระหว่างทางขากลับ รถบรรทุกที่บรรทุกน้ำกลั่นที่ใช้สำหรับลูกบาศก์เวทมนตร์ไปเจอกับขบวนรถบรรทุกระหว่างทางเพื่อเติมน้ำให้กับพวกเขา จากนั้นก็ตรงไปทางช่องแคบตะวันตกพร้อมกัน
อัศวินอากาศกลับมาถึงเมืองธอร์น หลังทำการเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นบินอีกครั้ง ก่อนจะไปถึงสนามบินช่องแคบตะวันตกก่อนท้องฟ้าจะมืด
เที่ยงวันถัดมา ขบวนรถบรรทุกที่เดินทางต่อเนื่องตลอดทั้งคืนก็เข้าสู่ดินแดนตะวันตกของวูล์ฟฮาร์ท เนื่องจากการขับรถในเวลานี้ทำให้ยากที่จะหลบลีกสิ่งกีดขวางและหลุมบนทางได้ ระหว่างทางที่มาจึงมีรถบรรทุกเสียหายไปอีก 3 คัน ส่วนรถบรรทุกที่เหลือก็เดินทางเข้าโจมตีอสูรยักษ์ป้อมปราการต่อโดยไม่หยุดพัก
ถึงแม้ปีศาจจะรู้ว่ามนุษย์กำลังคิดเล่นงานเสาโอเบลิสเคลื่อนที่เหล่านี้ แต่พวกมันกลับคิดไม่ถึงว่าหน่วยโจมตีกลับของมนุษย์จะเดินทางข้ามไปอีกฝั่งของอาณาจักรวูล์ฟฮาร์ทในเวลาสั้นๆ เพียงแค่หนึ่งวันครึ่ง ในเวลานี้อสูรยักษ์ป้อมปราการอีกตัวหนึ่งเพิ่งจะถอยมาถึงในเมืองกัสต์ แล้วก็ไม่มีการวางกำลังป้องกันรอบนอกเอาไว้ ขบวนรถบรรทุกฝ่าการโจมตีของอสูรสยองที่บินลาดตระเวนเข้ามาถึงระยะ 10 กิโลเมตร ก่อนจะติดตั้งปืนใหญ่ป้อม 4 กระบอก
อัศวินอากาศรับบทบาทเป็น ‘นักล่าอีกครั้ง’ ด้วยความร่วมมือกันของซิลเวียและทิลลี นักบินใหม่ที่เพิ่งจะลงสนามรบได้ไม่ถึงครึ่งปีใช้แผนการเดิมซ้ำอีกครั้ง ในตอนที่พวกอสูรสยองเล็งเป้าไปที่ปืนใหญ่ พวกเขาก็พุ่งลงมาจากด้านบนและไล่สังหารอสูรสยองจนแตกกระจาย
อสูรยักษ์ถูกปืนใหญ่ยิงจนแหลกเป็นชิ้นๆ ส่วนขบวนรถที่มีแม่มดอาญาสิทธิ์คอยคุ้มกันถึง ถึงแม้ปีศาจคุ้มคลั่งจะเข้าไปใกล้ แต่พวกมันก็ไม่อาจทำอะไรได้
พอถึงวันที่สาม ศัตรูก็เริ่มขยายวงป้องกันของเมืองทั้งสี่ออกไป แล้วก็ส่งปีศาจออกไปทำลายถนนที่ปูขึ้นมาอย่างง่ายๆ ระหว่างเมือง แต่แนวรบทั้งเส้นยาวหลายร้อยกิโลเมตร การจะป้องกันโดยไม่ให้ช่องโหว่เกิดขึ้นเลยนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวันนั้นขบวนรถบรรทุกได้ขับผ่านพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเมืองแซนด์ซิตี้ไปหลายสิบกิโลเมตรเพื่อล่อปีศาจ ส่วนเฮฟเว่นเฟลมอีก 25 ลำก็บินอ้อมเทือกเขาสิ้นวิถีที่สูงชันตรงไปยังด้านหลังของเมืองเมธัลสโตนเพื่อทำลายเส้นทางขนส่งหมอกแดงของพวกปีศาจ
ในเวลานี้เอง การพ่ายแพ้ในศึกกลางอากาศสองครั้งติดกับการทำศึกมาเป็นเวลานานก็ค่อยๆ สร้างผลกระทบต่อปีศาจ กว่าพวกมันจะรวบรวมอสูรสยองมาได้มากพอ พวกอัศวินอากาศก็หายลับไปจากขอบฟ้าแล้ว
………………………………………………………………………..