Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1313 ยุคสมัยของข่าวสาร
เมืองเนเวอร์วินเทอร์ เกรย์คาสเซิล
รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะอาชดยุคและสถานการณ์ในวูล์ฟฮาร์ทถูกส่งมาถึงมือโรแลนด์ในอีกสองวันหลังจากนั้น
เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนนี้ที่ต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการส่งจดหมายจากอีเทอร์นอลไนท์มาถึงเนเวอร์วินเทอร์ ความเร็วในการส่งจดหมายตอนนี้ถือว่าเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งจดหมายในระยะสั้นๆ ด้วยนกส่งจดหมาย หรือว่าการส่งจดหมายทางไกลด้วยเรือจักรไอน้ำก็ล้วนแต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบส่งข่าวสารในตอนนี้แล้ว จดหมายที่สำคัญทุกฉบับจะมีการส่งด้วยบุคคลเฉพาะหรือเรือเฉพาะ หรืออาจจะใช้เครื่องบินในการส่ง และคนที่เป็นคนนำรายงานในครั้งนี้มาส่งก็คือทิลลี
“ลำบากเจ้าหน่อยนะ” โรแลนด์เทเครื่องดื่มยุ่งเหยิงให้อย่างเป็นห่วงเป็นใย “สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ดูรายงานก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?” ทิลลีรับเอาแก้วมา ก่อนจะเหลือบมองดูเขา “ทำไมดูตื่นเต้นจัง ท่านกำลังกลัวอะไรหรือเปล่า? หรือว่าเครื่องบินของข้ายังไม่มีความคืบหน้า?”
“พรืด….” ด้านหลังมีเสียงหลุดหัวเราะของไนติงเกลดังขึ้นมา
“ที่ไหนเล่า ข้าเลือกแผนที่ดีที่สุดออกมาแล้ว ขอเพียงอันนามีเวลา เราก็สามารถเริ่มสร้างได้ทันที” โรแลนด์รีบพูด “เจ้าเองก็รู้ว่าช่วงนี้มีงานที่สำคัญอยู่หลายงาน นางก็เลยยุ่งจนยังไม่มีเวลามาจัดการเรื่องเครื่องบิน”
“เห็นแก่อันนา ครั้งนี้ข้าจะไม่ต่อว่าท่าน ท่านพี่” ทิลลีดื่มเครื่องบินไปจนหมด ก่อนจะใช้มือเช็ดริมฝีปากแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป “อีกเดี๋ยวซีกัลก็จะกลับแล้ว ข้ากลับไปโรงเรียนอัศวินอากาศก่อนละ”
“ไม่พักอยู่นี่ซักวันเหรอ?” เขาถามอย่างแปลกใจ
“ไม่ได้ ในแนวหน้าตอนนี้ คนที่จะจัดการกับสกายลอร์ดได้มีเพียงซีกัลกับแอนเดรีย ยิ่งไปกว่านั้น…ข้าเองก็ไม่อยากพลาดโอกาสในการแก้แค้นด้วย” ทิลลีโบกมือ “อย่างนั้นข้าไปก่อนล่ะ ท่านพี่”
หลังประตูปิดลง ไนติงเกลพลันถอนใจออกมาเบาๆ “ทุกคน…กำลังพยายามกันอยู่”
ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากจะให้พวกนางไปพยายามในเรื่องอื่นมากกว่า ไม่ใช่มาพยายามในเรื่องการรบ ภายในใจโรแลนด์มีความคิดนี้ลอยขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าสงครามแห่งโชคชะตา เมื่ออยู่ต่อหน้าการกำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ ไม่มีทางที่จะวางภาระที่หนักอึ้งนี้ลงได้ การที่มาพูดเรื่องนี้ในเวลานี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
หลังนิ่งเงียบไปครู่ เขาก็เปิดรายงานออกอ่าน
หลังอ่านรายงานจบ ในที่สุดโรแลนด์ก็รู้ถึงความหมายในคำพูดของทิลลีแล้ว การที่สามารถถ่ายทอดกำลังถอนกำลังได้ในทันที และยังสามารถซุ่มโจมตีราชาปีศาจที่ไปไหนมาไหนอย่างไรร่องรอยบนกลางทะเลได้ เอดิธส์ เคนท์กับแอนเดรียนั้นคือคนที่มีความดีความชอบมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คนที่นำเอาข่าวกรองที่สำคัญเช่นนี้มาส่งให้ก็ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นเดียวกัน — ถ้าคนๆ นี้ไม่ยอมเสี่ยงตายเอาข่าวที่สำคัญนี้มาส่งให้ ชัยชนะที่ว่าก็ไม่มีทางเกิดขึ้น
“พระองค์คิดจะทำยังไงเพคะ?” เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ได้ดึงดูดความสนใจของไนติงเกลเอาไว้
“ไม่ว่าเจตนาของเขาในการนำเอาจดหมายลับนี้มาส่งให้เราจะเป็นอะไร ชื่อและความดีความชอบของคนๆ นี้ก็ไม่ควรที่จะถูกลืม” โรแลนด์พูดเสียงเข้ม หากเป็นโลกของเขาก่อนหน้านี้ การจะไปหาตัวสายลับที่ไม่ทราบชื่อหลังสงครามอันยาวนานจบลงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย บนป้ายหลุมศพเขาเกรงว่าจะมีแค่ตัวอักษรที่สลักเอาไว้ประมาณว่า ‘ไม่มีใครรู้จักชื่อของคุณ แต่คุณความดีของคุณจะถูกจารึกเอาไว้ตลอดไป’ แต่ความสามารถของแม่มดกลับช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตรงนี้ได้ ทำให้นักรบทุกคนที่เสียสละเพื่อมวลมนุษย์ได้ถูกจารึกชื่อเอาไว้บนสายธารแห่งประวัติศาสตร์ “เอาไว้อาณาจักรทีเทอร์นอลวินเทอร์ตกอยู่ในการควบคุมของกองทัพที่หนึ่งแล้ว ก็ให้แบล็คมันนี่กับแอคเซียไปหาดูว่าเขาเป็นใครแล้วกัน”
ถ้าตอนนั้นคนที่ฆ่าเขายังมีชีวิตอยู่ มันจะต้องถูกจับตัวมาลงโทษตามกฎหมายแน่
ไนติงเกลพยักหน้า “ถ้าสามารถสร้างอุปกรณ์ที่สามารถสื่อสารกันได้ไกลเป็นพันกิโลที่พระองค์ตรัสไว้ออกมาได้ก็คงจะดีนะเพคะ”
“เสียดายที่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าถนัด” โรแลนด์นวดขมับตัวเอง พอคิดถึงไดอะแกรมที่ตัวเองต้องฝืนจำขึ้นมา เขาก็ต้องรู้สึกปวดหัวอย่างมาก
“ในที่สุดตอนนี้พระองค์ก็เข้าใจความรู้สึกของหม่อมฉันเวลาสอบแล้วใช่ไหมเพคะ” ไนติงเกลพูดพร้อมเอามือปิดปาก
“แต่ต่อให้ยากแค่ไหน ข้าก็ไม่มีทางฟุบหลับไปที่โต๊ะเหมือนใครบางคน จนสุดท้ายก็ได้แต่ต้องส่งกระดาษเปล่าหรอก” โรแลนด์ถลึงตาใส่เธอ “ความจริงข้าใกล้จะสร้างเครื่องต้นแบบเสร็จแล้ว”
ถูกต้อง ถึงแม้จะก้าวหน้าไปช้ามาก แต่โปรเจควิทยุไร้สายก็ไม่เคยหยุดเดิน
มันก็เหมือนกับเครื่องยนต์ลูกสูบ เมื่อดูจากแปลนออกแบบจำนวนมากที่ทางศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลส่งมาให้เขาดู สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเลือกวิทยุสองแบบจากในแบบทั้งหมดออกมาให้ทางศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลทำการผลิตพร้อมกัน
และทั้งสองอย่างที่ว่าก็คือเครื่องส่งวิทยุแบบสปาร์คกับเครื่องส่งวิทยุเอเอ็ม
โดยเครื่องส่งวิทยุแบบสปาร์คนั้นเป็นบรรพบุรุษของวิทยุไร้สาย โครงสร้างของมันนั้นมีความเรียบง่ายอย่างมาก ไม่มีชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคใดๆ เพียงแค่ใช้ขดลวดหม้อแปลงไฟฟ้ามาเพิ่มแรงดันไฟฟ้าเพื่อชาร์ทไฟให้ตัวเก็บประจุ จนกระทั่งแรงดันไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างช่องว่างประกายไฟมีมากพอที่จะทลายอากาศและทำให้เกิดประกายไฟออกมา หลักการในส่วนนี้จะมีความคล้ายคลึงกับไฟแช็ค เพียงแต่ว่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวสปาร์คจะไม่มีการสูญเสียทิ้งไป หากแต่จะสั่นไปมาระหว่างตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวนำ ทำให้มันผลิตคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นมา และสุดท้ายก็จะถูกปล่อยออกไปผ่านทางเสาอากาศ
พูดอีกอย่างก็คือขอเพียงควบคุมการเปิดปิดเหล็งกำเนิดไฟฟ้าเอาไว้ ก็จะสามารถทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบขาดๆ หายๆ ได้ และคนที่ฟังก็จะสามารถแปลมันให้กลายเป็นสัญญาณตามความสั้นยาวของเสียง รหัสโทรเลขที่สั้นๆ ยาวๆ ก็ได้มาด้วยเหตุนี้
ถึงแม้ฟังดูแล้วจะยังคงเลือนลาง แต่โรแลนด์ก็ใช้วิธีลัดในการผลิตมันขึ้นมา นั่นก็คือให้หน่วยที่รับผิดชอบโปรเจควิทยุไร้สายของศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลสร้างเครื่องส่งวิทยุแบบที่ใช้ได้จริงขึ้นมาจากวัสดุที่หาได้ทั่วๆ ไป แล้วเขาค่อยลอกเลียนแบบมันออกมา
อย่างเช่นใช้แผ่นฟอยล์สองแผ่นประกบกระดาษไขเอาไว้ตรงกลาง จากนั้นปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งก็จะทำให้ได้ตัวเก็บประจุไฟฟ้าแรงดันสูงอย่างง่ายๆ ออกมา
ส่วนตัวเหนี่ยวนำนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ มันแค่ใช้สายเหนี่ยวนำไปพันเอาไว้รอบๆ ท่อหุ้มฉนวนเท่านั้น
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องคำนึงถึงปริมาณการผลิตหรือสเปค โรแลนด์สามารถผลิตของเหล่านี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวคนเดียว ถึงแม้มันจะดูใหญ่และเทอะทะเมื่อเทียบกับชิ้นส่วนที่ถูกผลิตออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ประสิทธิภาพการทำงานของมันกลับเหมือนกัน เอาไว้หอปล่อยสัญญาณสร้างเสร็จเมื่อไร เขาก็จะสามารถทดสอบการส่งข้อมูลแบบไร้สายเป็นครั้งแรกของยุคสมัยนี้ได้
แต่จุดอ่อนของเครื่องส่งวิทยุแบบสปาร์คก็มีจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดเหมือนกัน
ถึงแม้มันจะผ่านการทดสอบแล้ว แต่ถ้าอยากจะทำให้มันใช้งานได้จริงๆ เขาก็ต้องออกแบบชุดรหัสที่เข้ากับตัวอักษรของอาณาจักรออกมา ตัวคนรับและคนส่งข้อความก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนค่อนข้างมาก นอกจากนี้สเปคตรัมของเครื่องส่งวิทยุแบบสปาร์คนั้นกว้างมาก ในพื้นที่หนึ่งๆ จะมีเครื่องส่งวิทยุเพียงเครื่องเดียวที่ทำงานได้ มันจึงไม่เหมาะที่จะให้คนส่งข่าวที่อยู่ในแนวหน้าของสนามรบใข้งาน
ด้วยเหตุนี้เป้าหมายสุดท้ายของเขายังคงเป็นเครื่องส่งวิทยุเอเอ็มที่ใช้หลอดสุญญากาศในการขยายสัญญาณ
ซึ่งข้อดีที่สำคัญที่สุดของเครื่องส่งวิทยุแบบเอเอ็มก็คือมันสามารถส่งต่อสัญญาณเสียงได้
ถ้าดูจากทฤษฎีเพียงอย่างเดียวแล้ว วิทยุไร้สายนั้นมีความคล้ายคลึงกับโทรศัพท์อย่างมาก มันล้วนแต่เป็นการเปลี่ยนการสั่นสะเทือนของเสียงให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลังจากที่ส่งออกไปแล้วค่อยเปลี่ยนกลับมาเป็นเสียงใหม่ เพียงแต่ความถี่ของเสียงคนนั้นต่ำมาก ทำให้ความยาวคลื่นของคลื่นสัญญาณนั้นยาวเกินไป และเมื่อความยาวคลื่นยิ่งยาว ขนาดของเสาอากาศที่ต้องใช้ก็จะยิ่งใหญ่ ถ้าจะส่งสัญญาณเสียงออกไปตรงๆ เลย ความยาวของเสาอากาศเกรงว่าคงจะยาวมากกว่า 100 กิโลเมตรแน่ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทางที่จะทำให้เป็นจริงได้
ดังนั้นถ้าอยากจะส่งเสียงออกไป ก็จำเป็นต้องส่งมันออกไปด้วยสัญญาณคลื่นนำที่มีความถี่สูงกว่า
และนี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนช่วงความถี่
และเมื่อคลื่นใหม่ที่เกิดขึ้นจากการรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันถูกรับไปแล้ว ฝ่ายที่ฟังก็จำเป็นต้องใช้วิธีการเปลี่ยนสัญญาณให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเพื่อกรองเอาคลื่นความถี่สูงออกไป
ทันทีที่เครื่องส่งวิทยุเอเอ็มสร้างสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพที่หนึ่งหรือว่าหน่วยข่าวกรองก็จะมีความสามารถแบบเรียลไทม์
สำหรับการทำสงครามแล้ว มันถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก
………………………………………………………..