Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1213 ทิศทางของบริษัท
ในช่วงเวลาครึ่งปีมานี้ ถึงแม้วิคเตอร์ โลธาจะอยู่ที่ดินแดนทางใต้สุดมาตลอด แต่เขากลับให้ความสนใจเรื่องราวในเมืองเนเวอร์วินเทอร์เป็นอย่างมาก ในสายตาของเขาแล้ว เมืองแห่งนี้จะต้องกลายเป็นศูนย์กลางของอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่แค่เกรย์คาสเซิลเท่านั้น แต่สำหรับสามอาณาจักรใหญ่กับฟยอร์ดก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน นับตั้งแต่ที่ ‘เกรย์คาสเซิลรายสัปดาห์’ ตีพิมพ์ออกมา เขาก็สั่งให้ลูกน้องคอยซื้อและส่งมาให้เขาที่ท่าเรือเคลียร์วอเทอร์
และที่เขากลับมายังเมืองเนเวอร์วินเทอร์ครั้งนี้ก็เพื่อจัดการเรื่องสำคัญสองเรื่องที่เขาอ่านเจอบนหนังสือพิมพ์ เรื่องหนึ่งคือเรื่องที่เปิดให้มีการซื้อห้องที่ตึกปาฏิหาริย์ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือการฉายหนังเวทมนตร์เรื่อง ‘ฝุ่นแห่งการทำลายล้าง’ รอบแรก
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมราชาแห่งเกรย์คาสเซิลถึงได้สนใจเรื่องที่ว่าคนซื้อเป็นพลเมืองของที่ไหนมากขนาดนี้ อย่างเช่นก่อนที่จะซื้อห้องได้นั้นจำเป็นต้องมีบัตรประชาชนเสียก่อน ซึ่งเมื่อมีบัตรประชาชนก็หมายความว่าคนๆ นั้นคือคนเนเวอร์วินเทอร์ แต่ปัญหานั้นอยู่ที่ว่าบัตรประชาชนใบนี้ไม่สามารถรั้งตัวเขาให้อยู่ที่นี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือเคลียร์วอเทอร์หรือว่าเมืองกลอรีที่อาณาจักรดอว์น เขาก็ล้วนแต่เดินทางไปได้โดยไม่มีปัญหา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วพ่อค้าที่เดินทางไปมาจะเอาสถานะพลเมืองของเนเวอร์วินเทอร์ไปทำไม?
แต่ไม่ว่ายังไง ขอเพียงเขาสามารถเข้าไปซื้อได้ก็พอแล้ว สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในทวีป แถมยังอยู่ในศูนย์กลางของเมืองหลวงใหม่ด้วย ไม่ว่าใครที่มาถึงที่นี่ก็ไม่มีทางพลาดที่จะมาชมมันแน่ ไม่มีอะไรที่เหมาะที่จะเป็นป้ายโฆษณาให้กับแบรนด์ ‘เรนโบว์สโตน’ เท่าที่ีนี่อีกแล้ว
แต่แน่นอน ถึงแม้จะพลาดโอกาสในการซื้อห้องที่ตึกปาฏิหาริย์ไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจมากเท่าไร เพราะในฐานะที่เป็นพ่อค้าฝ้ายพันธุ์ใหม่คนแรกที่ได้ร่วมมือกับฝ่าบาทโรแลนด์ ตอนนี้เขาได้คว้าโอกาสทางธุรกิจไปก่อนแล้ว สำหรับวิคเตอร์แล้ว เรื่องที่สองที่เขาจะทำนั้นสำคัญกว่าเรื่องแรกอย่างมาก
เขาไม่เคยลืมความรู้สึกที่ได้ดูหนังเวทมนตร์ครั้งแรกเลย
มันเป็นความตกตะลึงที่ฝังลึกลงไปในวิญญาณของเขา
พูดอีกอย่างก็คือเมื่อผืนผ้าม่านถูกเปิดออก กายเนื้อของเขาก็ไม่มีอยู่อีก สิ่งที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงแค่การล่องลอยไปในโลกที่น่าเหลือเชื่อ เขาดูเรื่อง ‘หัวใจหมาป่า’ ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ถ้าไม่เป็นเพราะเขาตัดสินใจที่จะปลูกฝ้ายอยู่ที่ดินแดนทางใต้สุด เขาก็แทบอยากจะดูหนังเวทมนตร์มันทุกรอบเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ชื่อ ‘ฝุ่นแห่งการทำลายล้าง’ ของหนังเวทมนตร์เรื่องใหม่จะทำให้เขาเดาถึงเนื้อเรื่องไม่ออกเลย แต่เพียงแค่การแสดงของคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์กับบทละครที่เขียนโดยเคแกน เฟสก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาของเขาเอาไว้ได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในการแนะนำละครเวทีก็ยังมีการพูดถึงว่าละครเรื่องนี้มีการนำเอาเรื่องจริงมาดัดแปลง แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจากฝ่าบาทโรแลนด์ วิมเบิลดัน ความลับทั้งหมดที่อยู่ในละครล้วนแต่มาจากหนังสือลับของราชวงศ์! ที่ผ่านมาเนื้อหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจบอกประชาชนทั่วไปได้ พวกข่าวลือที่แพร่กระจายอยู่ในตลาดหรือว่าร้านเหล้าก็ล้วนแต่เกินเลยจากความจริงไปมาก ถ้าเอาไว้ใช้คุยเล่นกันก็ยังพอได้อยู่ แต่ว่ามันไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้เขากลับมีโอกาสที่จะได้เห็นมุมหนึ่งของความลับเหล่านี้ แถมยังผ่านหนังเวทมนตร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความลับส่วนไหน เขาก็ไม่มีทางที่จะพลาดมันอย่างแน่นอน
และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่วิคเตอร์เดินทางมายังเมืองเนเวอร์วินเทอร์
หลังมาถึงสำนักบริหาร ทิงเกิลก็วิ่งขึ้นวิ่งลงช่วยวิคเตอร์จัดการธุระและต่อแถวซื้อตั๋วจนเสร็จ ตั๋วชมหนังเวทมนตร์รอบแรกราคาเพิ่มขึ้นไปถึง 50 เหรียญทอง เพิ่มขึ้น 10 เหรียญทองเมื่อเทียบกับ ‘หัวใจหมาป่า’ เมื่อครั้งที่แล้ว แต่เขาก็ยังควักเงิน 100 เหรียญทองออกมาซื้อตั๋วสองใบอย่างไม่ลังเล
ภาพเหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ทิงเกิลรู้สึกอิจฉา แต่ยังทำให้คนรอบๆ ข้างพากันมองดูด้วย เพราะตั๋วรอบแรกที่แพงแสนแพงขนาดนี้ แม้แต่พ่อค้าต่างถิ่นยังต้องคิดแล้วคิดอีกเลย เนื่องจากพวกเขารู้ว่าการฉายรอบที่สองในวันถัดไป ราคาจะลดลงจากเดิมอย่างมาก ยิ่งพอผ่านไปอาทิตย์หนึ่งก็จะมีตั๋วราคา 10 กว่าเหรียญเงินสำหรับชาวบ้านธรรมดาออกมาวางจำหน่าย
ทว่าการซื้อห้องในตึกปาฏิหาริย์นั้นมีความยุ่งยากกว่ามาก หลังทำเรื่องขอซื้อเสร็จเรียบร้อย เขากับทิงเกิลก็ถูกเชิญเข้าไปยังห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง
“ท่านมีบัตรประชาชนของเนเวอร์วินเทอร์ด้วยเหรอเจ้าคะ?” ในตอนนี้ สาวใช้ถามขึ้นมาเสียงเบาๆ อย่างประหลาดใจ “แต่ท่านไม่ใช่ชาวเนเวอร์วินเทอร์ แล้วก็ไม่ได้เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองชายแดนก่อนหน้านี้…”
วิคเตอร์ยักไหล่ “เจ้าเหมือนจะลืมไปแล้ว ขอเพียงซื้อบ้านที่นี่หลังนึงก็จะได้รับสถานะเป็นพลเมืองของเนเวอร์วินเทอร์”
“ข้ารู้สิ!” ทิงเกิลพูดแย้งอย่างไม่ยอม “แต่ปกติท่านนอนอยู่ที่โรงแรม…”
“มันไม่เห็นเป็นไรเลยนี่” เขาอธิบายอย่างใจเย็น “เทียบกับชุมชนที่อยู่อาศัยแล้ว ข้าชอบสถานที่ที่มันคึกคักๆ มากกว่า แต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าจะซื้อบ้านไม่ได้นี่นา”
“….” สาวใช้ตาโตมองดูเขาพร้อมกับพูดอะไรไม่ออก
นี่่แหละคือความน่ารักของสาวชนบท วิคเตอร์คิดในใจ ถ้าเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ เกรงว่าพวกเธอคงจะมองเหมือนเขาเป็นคนโง่อย่างไรอย่างนั้น
ทันใดนั้นเอง สาววัยรุ่นที่สวมชุดเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง “สวัสดี ขออภัยที่ให้รอนาน ข้าขื่อเบ็ตตี้ เป็นเจ้าหน้าที่สำนักบริหาร รับผิดชอบในเรื่องการขายของตึกปาฏิหาริย์”
“ข้าคือ…”
“วิคเตอร์ โลธา ข้าอ่านข้อมูลของท่านแล้ว เข้าเงื่อนไขที่จะซื้อได้ทั้งหมด!” เบ็ตตี้พูดต่ออย่างรวดเร็วว่า “ข้าต้องขอบอกเลยว่าสายตาของท่านไม่ธรรมดาจริงๆ ที่เลือกซื้อห้องที่ตึกปาฏิหาริย์ เพราะว่านี่เป็นแลนมาร์คใหม่ที่ฝ่าบาททรงเลือกด้วยตัวพระองค์เอง อีกทั้งเมื่อขึ้นไปด้านบนก็สามารถมองดูภาพวิวทั้งเมืองได้ ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่มันก็คุ้มค่าที่จะซื้อแน่นอน!”
เอ่อ..วิคเตอร์งุนงงขึ้นมา ทำไมดูท่าทีของอีกฝ่ายแล้วเหมือนกลัวว่าจะขายไม่ออกอย่างนั้นแหละ เขากระแอมเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าราคาห้องอยู่ที่…..”
“ราคาอยู่ในนี้ทั้งหมดแล้ว คุณวิคเตอร์” เบ็ตตี้ส่งแปลนรูปภาพตึกมาให้เขาแผ่นหนึ่ง
วิคเตอร์กางมันออก มุมปากเขาพลันกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย บนแปลนมีราคาห้องแต่ละชั้นของตึกปาฏิหาริย์แสดงเอาไว้อยู่ ห้าชั้นแรกราคาอยู่ที่ประมาณ 100 เหรียญทอง ตั้งแต่ชั้นที่ 5 ขึ้นไปเหมือนราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่านึงในทุกๆ ชั้น จนถึงชั้น 14 ราคาก็พุ่งสูงถึงห้องละ 2,000 เหรียญทอง
ทิงเกิลเอามือปิดปากทันที
“ชั้นที่ 15 ….ไม่เปิดขายเหรอ?” วิคเตอร์สังเกตเห็นบนแปลนไม่มีราคาของชั้นบนกำกับเอาไว้
“ชั้นที่ 15 ถูกสมาคมโหราศาสตร์กับสมาคมเล่นแร่แปรธาตุซื้อไปแล้ว ได้ยินว่าพวกเขาวางแผนจะตั้งสถาบันนักปราชญ์ขึ้นมา แล้วก็ใช้ตึกปาฏิหาริย์เป็นสำนักงานใหญ่…”
“ข้าเอาชั้นที่ 14!” วิคเตอร์พูดตัดบทขึ้นมา ก่อนจะมองดูทั้งสองที่ยังตกตะลึงอ้าปากค้างแล้วพูดต่อว่า “2 ห้อง”
สำหรับเขาซึ่งทำการค้ามาหลายปีแล้ว เงิน 2,000 เหรียญทองถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากเหมือนกัน เดิมตอนที่เห็นราคานี้เขาก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อย แต่พอได้ยินเรื่องสถาบันนักปราชญ์ เขาก็ตัดสินใจทันที
ถ้ามองว่าเมืองเนเวอร์วินเทอร์เป็นศูนย์กลางของอนาคต อย่างนั้นสำนักงานใหญ่ของสถาบันนักปราชญ์ที่ว่านี้ก็จะต้องแผ่อิทธิพลไปถึงอาณาจักรอื่นๆ ด้วยอย่างแน่นอน การที่เกี่ยวพันกับทั้งสององค์กรที่มีประวัติอันยาวนานและมีอิทธิพลไปทั่วทั้งทวีปได้นั้น ต่อให้เพียงแค่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อการขยายตลาดของ ‘เรนโบว์สโตน’ อย่างมาก
“เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมากคุณวิคเตอร์!” เบ็ตตี้กุมมือของเขาเอาไว้ สีหน้าของเธอดูแล้วยังตื่นเต้นกว่าทิงเกิลเสียอีก “ข้าจะไปเอาสัญญามาเดี๋ยวนี้เลย แค่เซ็นชื่อลงไป ห้องก็จะเป็นของท่านทันที”
หลังจากอีกฝ่ายรีบเดินออกไปจากห้อง วิคเตอร์จึงถอนหายใจออกมา “ทำไมข้ารู้สึกว่าคนที่ซื้อห้องคือนาง ไม่ใช่ข้า…”
“น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการประเมินผลงานล่ะมั้งเจ้าคะ” ทิงเกิลพูดงึมงำ
“มันคืออะไร?”
“ข้าเองก็ได้ยินมาจากแขกในร้านเหล้าเหมือนกัน….เหมือนว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนไปจนถึงเด็กฝึกงานในสำนักบริหารจะต้องถูกประเมิณเพื่อให้คะแนนผลงานของตัวเอง รายละเอียดข้าก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน แต่ว่าเงินเดือนกับการเลื่อนขั้นของพวกเขาล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการประเมินที่ว่านี่เจ้าค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง…มิน่าทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ข้าถึงได้รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ของที่นี่ดูกระตือรือร้นอย่างมาก” วิคเตอร์พลันรู้สึกว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง
บางทีถ้าเขาเอามันไปใช้ในโรงงานทอผ้าของเขาบ้างก็คงจะดี?
“เอ่อ…” ทิงเกิลลังเลเล็กน้อย “ท่านจ่ายเงินเยอะขนาดนี้ซื้อห้องที่ตึกปาฏิหาริย์ ต่อไปห้องก็คงไม่ว่างใช่ไหมล่ะเจ้าคะ? อย่างนั้นที่โรงแรม…”
“ข้าก็ยังจะอยู่ต่อไป” วิคเตอร์พูดยิ้มๆ “แต่แน่นอนว่าห้องราคา 4,000 เหรียญทองนี้จะต้องไม่ว่างอย่างแน่นอน”
“แต่ท่านไม่สามารถพักสองที่พร้อมกันได้”
“ห้องไม่ว่างก็ไม่ได้หมายความว่าตัวข้าต้องไปอยู่ที่นั่นนี่นา” เดิมวิคเตอร์คิดจะซื้อห้องแค่ห้องเดียว แล้วติดป้ายแบรนด์เรนโบว์สโตนเอาไว้ที่ด้านนอกเพื่อโฆษณาเท่านั้น แต่คำพูดของเบ็ตตี้ทำให้เขาได้ความคิดใหม่ขึ้นมา ห้องพักไม่ได้มีไว้อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว ‘ที่นั่นจะกลายเป็นสำนักงานใหญ่ของหอการค้าโลธา แล้วก็กลายเป็นศูนย์กลางการค้าของ ‘เรนโบว์สโตน’ หลังจากนี้ด้วย”
………………………………………………………………………….