Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1142 มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน
แจ้งตำรวจ แต่ไม่ยอมแจ้งให้ทางสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มาจัดการ นี่คือเป็นความเมตตาครั้งสุดท้ายของอีกฝ่ายหรือเปล่า…เพราะว่าสมาคมนั้นไม่ถูกกฎหมายมาผูกมัด ดังนั้นสมาคมจึงให้ความสำคัญกับความประพฤติของผู้ฝึกยุทธ์อย่างมาก และการลงโทษภายในสมาคมก็มักจะร้ายแรงกว่าการลงโทษทางกฎหมาย
ไม่สิ มุมปากโรแลนด์กระตุกขึ้นมา ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมานั่งคิดเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะแจ้งตำรวจหรือให้สมาคมจัดการมันก็ไม่ควรทำทั้งนั้น! เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลย!
เอาเป็นว่า ต้องทำให้อีกฝ่ายใจเย็นลงก่อน…
“แจ้ง…ตำรวจ?” เขาแสร้งทำเป็นตกใจ “ทำไม?”
“นายยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอว่าทำไม?” การ์เซียพูดอย่างร้อนใจ “ก่อนหน้านี้ฉันบอกกับนายไว้ว่ายังไง? บางครั้งผู้ที่ตื่นรู้จะลุ่มหลงในพลังและสูญเสียความเป็นตัวเองได้ง่าย! และก็เป็นเพราะแบบนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ถึงต้องระมัดระวังใจของตัวเอง ฉันไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของนาย ก่อนหน้านี้ที่เห็นผู้หญิงออกมาจากห้องนายบ่อยๆ ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะพวกนั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่พวกเธอ…พวกเธอยังเป็นเด็กอยู่เลย! การขยายตัวของกิเลสเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการตกต่ำ นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ!”
เอ่อ…ฟังดูเหมือนเธอจะโมโหเรื่องที่เขาปล่อยให้กิเลสเข้าครอบงำตัวเองมากกว่าเรื่องที่เขาหลับนอนกับเด็กผู้หญิงพร้อมกันสามคนอีกนะเนี่ย?
“ฉันเข้าใจ แต่ปัญหาคือ…ถ้าฉันเป็นเหมือนที่เธอว่าจริงๆ ทำไมฉันต้องพาเธอมาที่นี่ด้วยล่ะ?” โรแลนด์ถอนใจออกมา “เธอไม่คิดว่ามันฟังไม่ขึ้นบ้างเหรอ?”
“เอ่อ…”
“ความจริงไม่ว่าฉันจะทำหรือไม่ทำเรื่องพวกนั้นมันก็อาจจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเอาจริงๆ ฉันควรจะพยายามไม่ให้ใครมาเจอพวกเธอถึงจะถูกใช่ไหมล่ะ แต่นี่ฉันกลับพาเธอมาเข้ามาเจอพวกเธอ เธอไม่คิดว่าบางทีเรื่องนี้มันอาจจะมีอะไรแปลกๆ บ้างเหรอ?”
การ์เซียกะพริบตา ก่อนจะค่อยๆ วางโทรศัพท์ในมือลง “ทำไม?”
โรแลนด์แอบถอนใจ ก่อนจะใช้น้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจพูดออกมา “นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะพูดให้เธอฟัง คุณการ์เซีย…ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ”
….
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
“อย่างนั้น พวกผู้หญิงที่ออกมาจากห้องของนายก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นกับนาย หากแต่เป็น…ครูสอนพิเศษพาร์ทไทม์เหรอ?” การ์เซียถามพร้อมหรี่ตา
“ถูกต้อง” โรแลนด์ตอบอย่างฉะฉาน “พวกเธอเป็นนักศึกษาที่พักอยู่แถวนี้ นอกจากจะมาติวหนังสือให้ซีโร่แล้ว พวกเธอยังสอนหนังสือให้สามคนนี้ด้วย แต่จะทำแบบนี้ไปตลอดมันก็ไม่ได้ ยิ่งสอนนานวันเข้า พวกเธอก็จะยิ่งสงสัยสถานะของทั้งสามคน เพราะแค่ดูหน้าก็พอจะรู้แล้วว่าพวกเธออายุเท่าไร ถ้าไม่ไปเข้าเรียนมันก็แปลกอย่างมาก ฉันก็เลยได้แต่ต้องเปลี่ยนเอาครูคนใหม่มาสอนก่อนที่ครูพวกนั้นจะสงสัย”
เขาจัดการปัญหาแม่มดอาญาสิทธิ์อย่างระมัดระวังมาโดยตลอด แม่มดที่ถูกคนในชุมชนเห็นว่าเดินออกมาจากห้อง 0825 อย่างมากก็มีแค่ 3 – 4 คน ถึงเหตุผลอาจจะไม่ทำให้เธอเชื่อได้ในทันที แต่อย่างน้อยมันก็ฟังดูสมเหตุสมผล
“ตอนที่นายผิดนัดครั้งแรก แล้วก็ที่บอกกับฉันในโทรศัพท์ว่า ‘ญาติจากที่บ้าน’ มาหาก็คือสามคนนี้เหรอ?”
เฮ้ยๆ เรื่องนั้นมันผ่านมาตั้งครึ่งปีแล้ว เธอยังเก็บมาคิดจนถึงตอนนี้อีกเหรอเนี่ย… “อื้อ แต่ว่าพวกเธอไม่ใช่ญาติแท้ๆ ของฉัน แต่เป็นคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน” โรแลนด์พูดแต่งเรื่องเป็นจริงเป็นจัง “ดาเนน เซนต์มิลาน โดโด้ต่างก็อยู่หมู่บ้านเดียวกับฉัน ตอนที่ฉันออกมาจากหมู่บ้าน พวกเธอยังเล่นดินเล่นโคลนอยู่เลย”
คำพูดนี้ถ้าเป็นโลกปกติคงจะฟังดูแปลกๆ โชคดีที่โลกแห่งความฝันนั้นรวมเอาความทรงจำของเขากับซีโร่เข้าด้วยกัน พอฟังดูจึงไม่รู้สึกแปลกแม้แต่นิดเดียว
“แล้วทำไมพวกเธอถึงเป็นคนเถื่อน[1]ล่ะ?”
โรแลนด์ชะงักไปเล็กน้อย “เพราะว่า…พวกเธอเป็นผู้หญิงน่ะสิ”
“อย่างนี้นี่เอง” การ์เซียนิ่งไปครู่ใหญ่ ในตอนที่เธอเอ่ยปากพูดอีกครั้ง สายตาของเธอที่มองดูทั้งสามคนดูอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิม “คนที่เป็นเหมือนอย่างพวกเธอ…มีอีกเยอะไหม?”
“เยอะ กระทั่งสิบกว่าปีมานี้ถึงจะดีขึ้นหน่อย” เมื่อเห็นการพูดคุยราบรื่นกว่าที่เขาคิดเอาไว้ โรแลนด์จึงฉวยโอกาสพูดต่อว่า “ตอนนี้ในหมู่บ้านต่างก็รู้เรื่องที่ฉันเข้าไปเป็นสมาชิกสมาคมผู้ฝึกยุทธ์แล้ว พวกนางน่าจะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในที่เล็กๆ แบบนั้นไปตลอดชีวิต ก็เลยพากันมาหาฉันที่นี่…”
“ฝ่า…พี่โรแลนด์พูดเรื่องจริงนะคะ!”
“ให้พวกเราอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ!”
“หนูอยากเรียนหนังสือ”
ทั้งสามคนต่างพูดเสริมขึ้นมา
การ์เซียเบือนหน้าเล็กน้อยเหมือนกำลังลังเลอยู่
“ไม่ว่าจะจ้างครูมาสอนหรือว่าเรียนด้วยตัวเองก็ล้วนแต่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างแท้จริง ฉันอยากจะให้พวกเธอได้ใช้ชีวิตเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป คนที่ฉันรู้จักที่พอจะช่วยเรื่องนี้ได้ คิดไปคิดมาก็มีแต่เธอเท่านั้น” โรแลนด์พูดเสียงเบาๆ ต่อให้การ์เซียทำไม่ได้ แต่กลุ่มทุนโคลฟเวอร์ต้องทำได้แน่นอน สำหรับตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจขนาดนี้ แค่เอาชื่อคนสองสามคนไปใส่ในทะเบียนราษฎร์นั้นไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรเลย
อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะคิดได้ถึงจุดนี้ หลังครุ่นคิดอยู่ครู่ เธอถึงถอนใจออกมา “ขอโทษด้วย ฉันช่วยนายไม่ได้”
ยังไม่ทันที่โรแลนด์จะได้เอ่ยปาก การ์เซียรีบพูดต่อว่า “ฉันออกมาจากตระกูลแล้ว แล้วก็เคยพูดเอาไว้แล้วว่าจะไม่เจอพ่ออีก ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ก็ยังคิดอยากจะไล่ที่ชุมชนถงจึอยูู่ ถ้าฉันไปหาพ่อ พ่อจะต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขต่อรองแน่ แบบนั้นกล่มคนที่คัดค้านที่เชื่อในตัวฉันและออกมายืนอยู่ข้างฉันก็อาจจะเกิดการแตกแยกได้”
เดิมเขาคิดจะพูดขอร้องเธออีกสักสองสามประโยค แต่พอเห็นมือที่กำแน่นของเธอ เขาก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองกลับลงคอเข้าไปใหม่ เธอรู้สึกทุกข์ใจเพราะช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักไม่ได้! นี่ทำให้โรแลนด์แอบรู้สึกผิดในใจ “ฉันเข้าใจ”
“แต่ว่านายไปคุยกับพ่อฉันเองได้นะ” การ์เซียเงยหน้าขึ้นมา “พรุ่งนี้ตอนเย็น พ่อของฉันจะจัดงานเลี้ยงให้กับผู้ฝึกยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของเมืองที่โรงแรมในตัวเมือง ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าฉันไม่ไป แต่เขาก็ยังส่งบัตรเชิญมาให้ฉันใบหนึ่ง นี่อย่างน้อยก็ยังบอกกับสื่อได้ว่าเขายังคงพยายามที่จะทำให้ความสัมพันธ์กลับมาดีเหมือนเดิม” เธอทำสีหน้าเหมือนรู้สึกตลกออกมา “ถึงแม้ชื่อบนบัตรเชิญจะไม่ใช่ชื่อนาย แต่นายก็ไปร่วมงานแทนฉันได้ เดี๋ยวฉันโทรบอกฝ่ายจัดงาน นายก็ใช้บัตรเชิญนี้เข้าร่วมงานได้แล้ว การให้คนอื่นไปร่วมงานแทนนั้นมันหมายถึงการยอมรับหรือการปฏิเสธก็ได้ ถ้าฉันเลือกให้นายไปร่วมงานแทน พ่อก็คงจะรู้แน่นอนว่าฉันปฏิเสธ”
อย่างนี้นี่เอง โรแลนด์เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายทันที ถ้าการ์เซียเชิญอาจารย์ของเธอไปร่วมงานแทน ในสายตาของคนอื่นมันจะกลายเป็นอีกความหมายหนึ่งทันที มันก็เหมือนกับการมอบของขวัญในงานเลี้ยง ถ้าให้ของขวัญชิ้นใหญ่ก็เป็นการแสดงความยินดี ถ้าให้ชิ้นเล็กก็เป็นเยาะเย้ยถากถาง
“ไปคุยเองเหรอ…” เขาลูบคางตัวเอง
“ทำไม กลัวเหรอ?”
“ต่อให้กลัวแค่ไหนก็ต้องไป เธอช่วยฉันถึงขนาดนี้แล้วนี่” ถ้าเทียบกับการเป็นราชาแห่งเกรย์คาสเซิลที่ต้องปกครองคนเป็นหมื่นเป็นแสนแล้ว งานเลี้ยงเล็กๆ แบบนี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับโรแลนด์ “ที่ฉันกังวลคือจะไม่ได้อะไรกลับมาน่ะสิ เพราะการปฏิเสธแบบนี้มันเหมือนกับการเยาะเย้ยเลย”
“สบายใจได้ พ่อของฉันไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ในเรื่องธุรกิจโดยเฉพาะการค้าขาย เขามองแต่ผลประโยชน์เท่านั้น” การ์เซียยิ้มขึ้นมา “แล้วนายก็ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาๆ ด้วย เมืองปริซึมสังเกตเห็นถึงการเติบโตของนาย นายก็อย่าดูถูกตัวเองนักสิ”
โรแลนด์เข้าในความหมายที่อีกฝ่ายกำลังบอก “ฉันจะพยายามเต็มที่”
“บอกตามตรง ฉันรู้สึกดีใจนะ” การ์เซียลุกขึ้นยืน ก่อนจะยื่นมือขวาไปหาเขา “ที่แท้นายก็ไม่ได้เดินออกนอกเส้นทาง กลายเป็นฉันเองที่เข้าใจนายผิด ฉันผิดเอง การที่ได้มีผู้ฝึกยุทธ์แบบนายมาเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ ฉันรู้สึกภูมิใจจริงๆ” เธอชะงักไปเล็กน้อย “แล้วก็ ต่อไปถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็พูดตรงๆ ไม่ต้องมาใช้คำเรียกคุณการ์เซียอะไรแบบนั้นอีก…มันไม่เข้ากับนายเลย”
โรแลนด์ค่อยๆ ยื่นมือออกไปจับมือเธอ
ถึงแม้คำพูดส่วนใหญ่ที่เขาพูดออกไปจะเป็นคำพูดโกหก แต่เขาก็ไม่ได้ลืมเป้าหมายของตัวเอง ทำลายโซ่ตรวนแห่งโชคชะตา ค้นหาความจริงของโลกใบนี้ ไปจนถึงการช่วยเหลือมนุษย์ออกจากสงครามแห่งชะตาชีวิตที่มองไม่เห็นปลายทาง
นี่ถือเส้นทางที่เขาตัดสินใจจะเดินไปข้างหน้า
……………………………………………………………..
[1]คนเถื่อน หรือคนที่ไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนเกิด เนื่องจากที่ประเทศจีนสมัยก่อนมีการใช้นโยบายลูกคนเดียว คนจีนจึงมักจะเอาลูกที่เป็นผู้ชายไปขึ้นทะเบียนเกิดมากกว่าผู้หญิง