Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1061
เสียงหวูดของเรือดังขึ้น ตัวเรือค่อยๆ เคลื่อนออกมาจากอ้าวน้ำตื้น
โจนที่ยืนอยู่ท้ายเรือกำลังร่ำลาเพื่อนทีมนักสำรวจ หลังอยู่ด้วยกันมาหนึ่งฤดูหนาว ความสัมพันธ์ของเธอกับเหล่าแม่มดก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก น่าจะเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกคนอื่นห่วงใยมาเป็นเวลานาน มิตรภาพที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้จึงดูเข้มข้นเป็นพิเศษ
ประโยคที่บอกว่า ‘แล้วเจอกันใหม่ยาาา’ ที่เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างยากลำบากคือประโยคสุดท้ายที่เธอเรียนรู้ก่อนจะออกมา
สีหน้าของไลต์นิ่งดูค่อนข้างอ้างว้าง เธอมองไปทางท้ายเรือด้วยสายตาที่สับสน มีหลายครั้งที่โรแลนด์อยากจะบอกเธอว่าธันเดอร์อยู่บนเรือ แต่เมื่อคิดถึงคำขอของอีกฝ่าย สุดท้ายเขาก็เก็บความคิดนี้เอาไว้ในใจ
เมซี่เอามือมาปิดปาก ไหล่ของเธอกระตุกขึ้นมา ในดวงตามีหยดน้ำไหลซึม เธอไม่สามารถพูดคำร่ำลาออกมาได้ คงเพราะกลัวว่าเธอจะร้องไห้ออกมาทันทีที่เอ่ยปาก
มีเพียงโลก้าที่ดูสงบเยือกเย็น เธอใช้หางโอบเมซี่เอาไว้ มือข้างหนึ่งจับเมซี่เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็โบกลาโจน การตายและการแยกจากคือเรื่องปกติสำหรับชาวโมเกน เธอเคยชินกับการจากลาแบบนี้มานานแล้ว
ในสายตาของโรแลนด์ เมื่อเทียบกับเจ้าหญิงลำดับที่สามของเผ่าไวลด์เฟลมที่มักจะไปไหนมาไหนตัวคนเดียวในตอนที่มาถึงเมืองเนเวอร์วินเทอร์ในตอนแรกแล้ว โลก้าในเวลานี้นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก ในจุดนี้บางทีแม้แต่ตัวเธอเองก็อาจจะไม่ได้สังเกต
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่โรแลนด์ไม่ได้เอ่ยปากพูดออกไป
เมื่อมีเพื่อนแบบนี้อยู่ เขาเชื่อว่าซักวันไลต์นิ่งจะต้องกลับมาเป็นปกติแน่
ส่วนพี่น้องที่จากลากัน สุดท้ายก็จะได้กลับมาเจอกันอีก
…..
วันถัดมาหลังจากที่ธันเดอร์จากเมืองไป โรแลนด์ก็ประกาศข่าวเรื่องงานแข่งขันกีฬาสมัยแรกของเมืองหลวงใหม่ผ่านทางหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
โดยรายการแข่งขันนั้นมีเพียงรายการเดียว นั่นก็คือวิ่งระยะไกล
ออกตัวจากเขตเมืองหลักของเนเวอร์วินเทอร์หรือเขตลองซอง ส่วนเส้นชัยนั้นอยู่ตรงกึ่งกลางของถนนหลวง ระยะทางทั้งหมด 28 กิโลเมตร คนที่เข้าเส้นชัยเป็น 10 คนแรกจะได้รับเงินรางวัล 100 เหรียญทองไปจนถึง 10 เหรียญทองลดหลั่นกันไป แถมคนที่เป็นผู้ชนะยังจะได้รับเหรียญที่ระลึกจากมือของราชาด้วย
ข่าวนี้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งดินแดนตะวันตกทันที!
ทุกตรอกซอยซอยต่างก็พากันพูดคุยเรื่องการแข่งขัน กระแสความฮือฮาในเรื่องนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าการฉายหนังเวทมนตร์เลย
ถ้ามีเงิน 100 เหรียญทองล่ะก็ พวกเขาจะสามารถดาวน์บ้านที่มีทั้งน้ำ เครื่องทำความร้อนและไฟฟ้าในชุมชนที่อยู่ใกล้กับเขตเมืองที่สุดได้ นอกจากพวกชาวบ้านที่อพยพมายังที่นี่เป็นกลุ่มแรกสุดแล้ว บ้านในพื้นที่ตรงนี้คือความฝันของประชาชนจำนวนมากในเมืองเนเวอร์วินเทอร์
ถึงแม้เมืองหลวงแห่งใหม่จะไม่มีการแบ่งเมืองเป็นเขตชั้นในชั้นนอกเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งแต่ละเขตภายในเมืองก็ไม่มีการกั้นด้วยกำแพง แต่ผู้คนก็ยังหวังที่จะได้อยู่ใกล้ๆ ราชา
เมื่อก่อนเป้าหมายอันนี้จำเป็นต้องใช้เงินเก็บทั้งชีวิตในการทำให้มันกลายเป็นจริง แต่ตอนนี้กลับมีโอกาสที่จะทำให้มันเป็นจริงได้ในทันที!
นี่ไม่เหมือนกับรางวัลที่มอบให้คนที่ทำคุณงามความดีหรือเป็นวีรบุรุษในสงคราม โดยอย่างแรกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกบุคคลระดับปรมาจารย์ในสายอาชีพ ถึงแม้จะไม่ได้รับเงินทองเป็นรางวัล พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเดือนร้อนในเรื่องเงิน ส่วนอย่างหลังนั้นจำเป็นต้องใช้ชีวิตเข้าแลก ต้องมีทั้งความกล้าแล้วก็โชค จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้
แล้วงานแข่งขันกีฬาล่ะ?
ขอเพียงวิ่งได้ก็พอ!
มีใครบ้างล่ะที่ไม่มีขา?
ในสายตาของทุกคน ที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักและความเมตตาที่ฝ่าบาททรงมีต่อประชาชน
สิ่งที่ทำคนรู้สึกยินดีมากกว่านั้นก็คือที่ผ่านมาพวกนโยบายดีๆ นั้นมักจะมีไว้ให้กับพลเมืองอย่างเป็นทางการของเมือง แต่งานแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ‘ประชาชนทุกคน’ สามารถมีส่วนร่วมได้
ไม่เพียงแต่คนของเมืองเนเวอร์วินเทอร์เท่านั้น แม้แต่พ่อค้าจากเมืองอื่นๆ ก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้
ดังนั้นการที่กิจกรรมอันใหม่นี้จะสร้างอิทธิพลได้มากขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แน่นอนว่าโรแลนด์ไม่ได้แค่ต้องการจะมานั่งดูว่าใครเร็วกว่าใครเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ตัวการแข่งขันกีฬานั้นมีไว้เพื่อเพิ่มความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กระตุ้นให้ผู้คนท้าทายตัวเองและทุ่มเทเพื่อที่จะคว้าชัยชนะมาให้ได้ ในฐานะที่เป็นควันหลงจากวันฉลองชัย แล้วก็เป็นสัญญาณก่อนที่จะเริ่มทำสงคราม ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่จะกระตุ้นจิตใจคนได้ดีกว่าการแข่งขันกีฬาแล้ว
นอกจากนี้เขายังจัดการแข่งขันกีฬาขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เล็กๆ อีกเรื่องหนึ่งด้วย
นั่นก็คือการประชาสัมพันธ์จักรยานอีกครั้ง
เขารู้สึกผิดกับนโยบายที่ล้มเหลวนี้มาตลอด มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่ราชาแห่งเกรย์คาสเซิลภาคภูมิใจ บารอฟเองก็ประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีป้ายโปสเตอร์แขวนอยู่เต็มลานเมือง แต่ผลปรากฏว่าหลังจากผลิตไปได้สองร้อยกว่าคัน มันก็ต้องหยุดผลิตไปเนื่องจากขาดผลิตภาพในการผลิต โรงงานไม่เพียงแต่จะถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงงานประกอบเครื่องจักรไอน้ำ แต่จักรยานกว่าครึ่งยังถูกแจกจ่ายให้คนงานเป็นค่าจ้างด้วย
ภาพผู้คนขี่จักรยานไปมาระหว่างเขตต่างๆ อย่างที่เขาคิดเอาไว้ไม่เพียงแต่จะไม่เกิดขึ้น แถมมันยังทำให้สูญเสียทรัพยากรไปไม่น้อยจากการวางแผนไม่เหมาะสมด้วย อย่างเช่นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประกอบโครงจักรยานนั้นต้องถูกส่งกลับเข้าเตาหลอมใหม่ทั้งหมด ส่วนจักรยานที่เหลืออีกครึ่งก็ไม่สามารถส่งมอบให้กับกองทัพที่หนึ่งได้เนื่องจากมีขนาดเล็กเกินไป จักรยานที่เหลือทั้งหมดจึงถูกเก็บเอาไว้ในโกดัง
เรียกได้ว่าในบรรดาโครงการจำนวนมากที่เขาสร้างขึ้นมา มันเป็นโครงการเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดๆ เลย
เขาย่อมต้องพยายามคิดหาวิธีลบล้างความรู้สึกผิดตรงนี้ออกไปให้ได้
สถานการณ์ของเมืองในตอนนี้นั้นไม่เหมือนกับเมื่อสองสามปีก่อนแล้ว การขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้พื้นที่ของเมืองเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขตชุมชนใหม่ๆ ถูกสร้างเรียงไปตามถนนหลวงของอาณาจักร ทำให้นับวันเขตชุมชนใหม่ๆ นั้นอยู่ไกลจากโรงงาน ท่าเรือและเหมืองออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เสียทั้งแรงและเวลา แต่ถนนที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะทำให้สามารถขี่จักรยานไปถึงสถานที่ที่ต้องการได้อย่างสบายๆ
อันดับต่อมาคือผลิตภาพของเมืองเนเวอร์วินเทอร์นั้นเพิ่มขึ้นสูงมากเช่นเดียวกัน บวกกับการที่มีแมลงยางและเครื่องจักรใหม่ๆ ทำให้สามารถถอดแม่มดออกจากการผลิตได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ แม้แต่น้อย
และในเวลานี้ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำการผลักดันรถจักรยาน
ขอเพียงให้กองทัพที่สองขี่จักรยานตามกลุ่มผู้เข้าแข่งขันไปเพื่อคอยบอกทางและคอยให้ความช่วยเหลือ ทุกคนก็ได้เห็นข้อดีของเข้าเครื่องมือที่ใช้แทนการเดินอันนี้อย่างแน่นอน
เมื่อเป็นแบบนี้ นโยบายที่ผิดพลาดที่สุดของเขาก็จะไม่มีอยู่ดี
โรแลนด์คิดอย่างมั่นใจ
….
“โอ้? นี่คือเมืองของชีคอย่างนั้นเหรอ?” กูเอลส์ เบิร์นเฟลมเดินออกมาจากห้องโดยสารของเรือและนวดแก้มของตัวเอง “จริงอยู่ที่เจ้าเรือหินนี่มีพลังมาก แต่เสียงมันก็ดังไปหน่อย ถ้าอยู่ในนั้นต่ออีก 2 – 3 วัน เกรงว่าข้าคงหูหนวกแน่”
“ท่านพ่อ…ท่านจะไม่ปิดรอยสักบนใบหน้ากับเปลี่ยนชุดหน่อยเหรอ?” โรฮานเดินตามมาจากด้านหลัง “คนตรงท่าเรือ…กำลังมองมาที่เรานะท่านพ่อ”
“แล้วทำไม ก็ให้พวกเขาดูไปสิ”
“แต่ว่า…”
“เจ้ากำลังกลัวว่าเราจะโดนดูถูกเหรอ?” กูเอลส์เหลือบตามองเขา “ถ้าแม้แต่ชาวโมเกนยังโดนดูถูกแบบนั้น อย่างนั้นลูกสาวของข้าจะอยู่ยังไง? ชีคบอกว่าในดินแดนของเขา ทุกคนต่างเหมือนกัน ข้าอยากจะดูเหมือนกันว่าเขาหลอกสามเทพหรือเปล่า”
เมื่อพูดถึงโลก้า เบิร์นเฟลม โรฮานก็หุบปากไม่พูดอะไรออกมาอีก
หัวหน้าเผ่าแอบส่ายหัว ดูเหมือนน้องสาวที่คลั่งไคล้การต่อสู้คนนั้นยังคงเป็นปมที่อยู่ในใจอีกฝ่าย
การเดินทางของท่าเรือเคลียร์วอเทอร์มาที่นี่นั้นไม่ใช่ความคิดเพียงชั่ววูบของกูเอลส์ หลังสงครามแก้แค้นที่ดำเนินมาเป็นเวลาสองเดือนจบลง สุดท้ายชาวทะเลทรายที่อพยพมาจากโอเอซิสเล็กๆ ก็ได้รับชัยชนะภายใต้การนำของไบรอัน เผ่าไวลด์เวฟกับเผ่าคัทโบนถูกกำจัดทิ้งไป ระบบหกเผ่าใหญ่ของเมืองไอรอนแซนด์กลายเป็นเพียงอดีต
เขานำเอาข่าวนี้มาแจ้งแทนไบรอัน
ความจริงเรื่องแบบนี้หัวหน้าเผ่าไม่จำเป็นต้องมาทำเอง แต่เนื่องจากติดทำสงคราม ทำให้เผ่าไวลด์เฟลมไม่ได้มาเข้าร่วมงานราชาภิเษกของชีค ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเป็นคนเอาข่าวดีเรื่องที่ชนะสงครามมาเป็นของขวัญแสดงความยินดีให้ชีคเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ
ยิ่งไปกว่าสิ่งที่กูเอลส์สนใจอย่างมากก็คือตอนนี้โลก้าเป็นอย่างไรบ้าง?
เธอไม่เคยเขียนเรื่องความยากลำบากลงไปในจดหมายมาก่อน ดังนั้นเรื่องบางเรื่องเขาจึงต้องมาดูด้วยตาตัวเองจะดีกว่า
ที่นี่ไม่มีทั้งเหล้าไฟร์แลนเธิร์น แล้วก็ไม่มีหนอนทะเลทรายย่าง นางจะผอมลงหรือเปล่านะ?