Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1009
หลังจากนั้นสามวัน การถ่ายทำ ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ ก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
โรแลนด์คาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้วว่านี่จะต้องเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่อย่างมากแน่ แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะน่าสนใจถึงเพียงนี้
แค่ในวันแรกของการถ่ายทำก็สามารถดึงดูดความสนใจของแม่มดทั้งสโมสรแม่มดเอาไว้ได้แล้ว
ถึงแม้พวกเธอจะไม่เคยดูหนังที่แท้จริงมาก่อน แต่พวกเธอก็ยังรับรู้ได้ถึงความสุดยอดของการแสดงนี้จากการซ้อมของเหล่านักแสดง ยิ่งไปกว่านั้นนักแสดงส่วนหนึ่งจะเป็นแม่มดของทาคิลาด้วย เมื่อมีคำบอกเล่าจากคนที่เคยไปดูหนังมาแล้วจริงๆ นี่ยิ่งทำให้ความน่าดึงดูดของหนังเวทมนตร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ถ้าทำแบบสอบถามเหล่าแม่มดในหัวข้อ ‘สถานที่ที่เจ้าอยากจะไปมากที่สุด’ คำตอบของทุกคนจะต้องเป็นโลกแห่งความฝันแน่นอน
พวกเธอไม่สามารถเข้าไปในโลกแห่งความฝันได้ แต่ตอนนี้พวกเธอกลับมีโอกาสได้เห็นการแสดงที่อยู่ในโลกแห่งความฝัน ความเย้ายวนตรงนี้ย่อมไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน
วันถัดมา การกินการเล่นไพ่ที่ปกติจะมีตั้งแต่เช้ายันเย็นหายไปทันที สิ่งที่เขามาแทนที่คือเสียงเรียกร้องที่จะขอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทำ แม้แต่ทิลลีเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอเอ่ยปากขอร้องเขา
ด้วยเหตุนี้กลุ่มนักแสดงจึงต้องมีการเปลี่ยนตัวอย่างกะทันหัน ขอเพียงไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิต โรแลนด์ก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้พวกเธอเข้ามาแสดงด้วย และการเข้ามามีส่วนร่วมของแม่มดก็ยิ่งทำให้ทิศทางของการแสดงแปลกไปจากเดิม
อย่างเช่นตากล้องที่เปลี่ยนจากเอมี่เป็นไลต์นิ่ง
เพื่อจะแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมของพี่สาวและน้องสาวกับชีวิตที่มีความสุขในวัยเด็ก สาวน้อยจึงค่อยๆ บินลงมาจากบนฟ้าเหนือเมืองเนเวอร์วินเทอร์ที่มีลมหนาวพัดโบกเพื่อเก็บภาพเมืองที่มีหิมะปกคลุมเอาไว้ทั้งหมด จากนั้นบินผ่านถนนและผู้คนที่เดินไปเดินมา ก่อนจะบินทะลุเข้าไปในหน้าต่างของปราสาท แล้วไปหยุดอยู่ตรงหน้าเตาผิงที่มีไฟลุกโชน เมืองอันใหญ่โตและห้องนอนอันคับแคบ หิมะและเปลวไฟ ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาและสองพี่น้องที่หัวเราะอย่างมีความสุข การเปรียบเทียบทั้งสามนี้ได้แสดงให้เห็นถึงภาพโลกที่อยู่ภายในใจของทั้งสองคนที่เชื่อมต่อกันไว้อย่างเหนียวแน่น
โรแลนด์เสียเวลาอยู่นานในการอธิบายเรื่อง ‘กล้อง’ ให้ทุกคนฟัง จนสุดท้ายต้องใช้ฝีมือการวาดภาพอันห่วยแตกของเขาเข้ามาช่วยด้วยถึงจะทำให้ทุกคนเข้าใจความหมายของ ‘กล้อง’
ขณะเดียวกันเขายังสังเกตเห็นว่าในตอนที่ตัวเองกำลังอธิบายเรื่องเทคนิคการถ่ายวีดีโอพื้นฐานอยู่ ในสายตาของเมย์ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งนั้นเป็นประกายอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้
เขาต้องยอมรับเลยว่าดวงดาราแห่งดินแดนตะวันตกนั้นมีพรสวรรค์ในเรื่องการแสดงที่เหนือว่าคนทั่วไปจริงๆ มันเหมือนกับว่าเธอสามารถสร้างภาพทั้งหมดเอาไว้ในหัวและสามารถเอาทุกตัวละครที่อยู่บนเวทีมาใช้ประโยชน์ได้ จุดเด่นตรงนี้บางทีอาจจะเห็นไม่ชัดนักในละครเวทีซึ่งเป็นการแสดงที่อยู่ในพื้นที่แคบๆ ที่ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หลังจากเปลี่ยนมาเป็นภาษากล้องแล้ว เธอก็เหมือนว่ามีช่องทางให้เธอได้ระบายความสามารถของเธอออกมา
ส่วนเอรินที่ถูกยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะอีกคนหนึ่งนั้นเหมือนจะไม่มีพรสวรรค์ตรงนี้
การปรับเปลี่ยนมุมมองหลังจากนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ
จากตอนแรกที่ลอกเลียนแบบวิธีถ่ายจากเขาเพียงอย่างเดียว เธอก็เริ่มสามารถแต่งเติมบางอย่างเข้าไปได้เอง ซึ่งการเรียนรู้ตรงนี้เธอใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
วิธีถ่ายทำบางอย่างทำให้เขานึกถึงกลิ่นอายในภาพยนตร์สมัยปัจจุบัน
ในตอนที่ราชาจากต่างแดนปรากฏขึ้นในฉาก เธอใช้วิธีถ่ายจากมุมเล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายออกไปเป็นภาพรวมทั้งหมด ตอนแรกเธอถ่ายไปที่รองเท้าบู๊ทที่มีอัญมณีฝังอยู่เต็มไปหมด จากนั้นจึงเลื่อนขึ้นมาเป็นเสื้อคลุมและเสื้อแพรที่ทอประกายระยิบระยับ สุดท้ายจึงเป็นใบหน้าอันหล่อเหลาพร้อมกับรอยยิ้มของเจ้าชาย ก่อนจะขยายให้เห็นภาพของแถวคนใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ซึ่งช่วยแสดงความร่ำรวยและอำนาจของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่ อนึ่ง คนที่แสดงเป็นเจ้าชายก็คือคาร์เตอร์ แลนนิสสามีของเธอ ถึงแม้โรแลนด์จะไม่อยากยอมรับ แต่หัวหน้าอัศวินที่ผ่านการแต่งตัวอย่างพิถีพิถันนั้นเหมาะที่จะเป็นตัวแทนของความหล่อเหลาของเมืองเนเวอร์วินเทอร์จริงๆ
แต่วิธีการใช้กล้องนั้นเป็นเพียงแค่ด้านหนึ่งของประสบการณ์อันแปลกใหม่เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกตกใจมากกว่านั้นก็คือการปรากฏตัวของสเปเชียลเอฟเฟค
ในทุกๆ วันมักจะมีไอเดียใหม่ๆ ปรากฏขึ้นมา และนี่ก็ทำให้วิชวลเอฟเฟคอันน่าเหลือเชื่อถือกำเนิดขึ้นมา
อย่างเช่นโซโรยาที่วาดภาพพื้นหลังสามมิติที่เหมือนจริงอย่างมากขึ้นมา
หรืออย่างสเปเชียลเอฟเฟคสายฟ้าที่ชารอนเป็นคนสร้างขึ้นมา
นอกจากนี้ยังมีการค่อยๆ หายตัวไปในหมอกมายาของไนติงเกล ผู้ช่วยวิเศษของมอลลี การแบ่งร่างของชาโดว์…
เมซี่นั้นแสดงเป็นสองบทบาท หนึ่งคือนกพิราบที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาว และสัตว์อสูรที่เป็นสุดยอดนักรบของราชาปีศาจ โดยในเรื่องเธอจะสู้กับหมาป่าสาวอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าพื้นดินสั่นสะเทือน สัตว์ชนิดต่างๆ พากันแตกตื่นหนีออกมา
แน่นอนว่าสเปเชียลเอฟเฟคเหล่านี้ต้องให้โลตัสกับฮันนี่ช่วยเหลือ
ในตอนที่หนังเวทมนตร์ถ่ายทำไปได้ครึ่งหนึ่ง คนที่เข้าร่วมการแสดงก็มีมากกว่า 300 คนแล้ว…ไม่ใช่แค่สโมสรแม่มดเท่านั้น แต่มนตร์แห่งสลีปปิ้งกับแม่มดของทาคิลาก็รู้สึกสนใจอย่างมาก แทนที่จะบอกว่านี่เป็นการแสดง ควรจะบอกว่านี่เป็นการเล่นสนุกของพวกเธอจะมากกว่า
โรแลนด์ที่ยืนอยู่บนกำแพงมองดูภาพพวกเธอที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ภายในใจเขาอดรู้สึกทอดถอนใจขึ้นมาไม่ได้
เขาคิดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มแม่มดที่แตกออกเป็นสามกลุ่มจะกลับมาใกล้ชิดสนิทสนมกันด้วยการถ่ายภาพยนตร์แบบนี้ ก่อนหน้านี้ความสามัคคีเป็นกลุ่มก้อนของพวกเธอเป็นเหมือนน้ำกับน้ำมัน เขายังพอเห็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างพวกเธออยู่บ้าง แต่ในเวลานี้การแบ่งแยกแบบนั้นไม่มีเหลืออยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมีความสามารถแบบไหน ทุกคนก็จะเอามันออกมาใช้ในเรื่องเดียวกัน ไม่มีการแบ่งว่าความสามารถใครแข็งแกร่งกว่าใคร แล้วก็ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครอยู่ฝ่ายไหนด้วย ขอเพียงใช้ความคิดนิดหน่อย ทุกคนก็จะเจอที่ๆ ของตัวเองในนั้น ความรู้สึกแบบนี้ได้ละลายความแตกต่างระหว่างกันและกันไปโดยไม่รู้ตัว และทำให้ผลงานสร้างสรรค์อันนี้กลายเป็นสายสัมพันธ์ที่เชื่อมทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นเซอร์ไพรส์ที่เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
โรแลนด์พ่นลมหายใจสีขาวออกมา ก่อนจะหันไปมองอันนา “เจ้าไม่ลงไปพักผ่อนกับพวกนางเหรอ?”
ตอนแรกไนติงเกลก็ลงไปถ่ายแค่เฉพาะในตอนที่ต้องใช้พลังของเธอเท่านั้น แต่สุดท้ายเธอก็สนุกอยู่ตรงนั้นจนไม่ยอมออกมา
“อีกเดี๋ยวต้องไปทำงานต่อแล้วเพคะ” อันนายื่นมือออกมา เผยให้เห็นคราบจารบีที่อยู่ตรงปลายแขนเสื้อ “ขนาดของชิ้นส่วนเครื่องยนตร์สันดาปภายในที่อยู่บนแปลนไม่สามารถใช้ได้ มันยังต้องทำการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย นอกจากนี้…”
“หืม?” โรแลนด์กะพริบตา
“การอยู่กับพระองค์ก็เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดแล้วเพคะ” เธอยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับเอาศีรษะซบไปบนไหล่ของเขา
เปลวไฟอันร้อนแรงแผ่กระจายออกมา ช่วยพัดพาเอาความเย็นจากลมหนาวออกไป
โรแลนด์เองก็ปิดปาก แล้วก็ดื่มด่ำความสงบจากการพักผ่อนนี้กับเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง อันนาจึงพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “อนาคตที่พระองค์ทรงสัญญาเอาไว้ ตอนนี้กลายเป็นจริงแล้วนะเพคะ”
เขามองตามสายตาของอีกฝ่ายลงไปด้านล่าง ภายในกลุ่มการแสดงดูมีสนิทสนมกลมกลืนขึ้นมา นี่ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มแม่มดเท่านั้น แต่รวมไปถึงกลุ่มคนธรรมดาด้วย เมย์กำลังทำสัญญาณมือเหมือนกำลังสอนโลก้ากับคาร์เตอร์ว่าต้องเล่นคู่กันอย่างไร เอรินนั่งยองๆ อยู่อีกด้านหนึ่ง มือของเธอกำลังลูบหัวให้เมซี่อย่างมีความสุข ส่วนเมซี่ก็ทำหน้าทำตาเหมือนกำลังเคลิ้มอยู่ สมาชิกใหม่ในคณะนักแสดงพูดคุยกับแม่มดอาญาสิทธิ์พร้อมกับวางอุปกรณ์สำหรับเข้าฉากต่อไปเอาไว้ เมื่อเทียบกับในโรงงานที่มีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจนแล้ว ความสัมพันธ์ ณ ที่ตรงนี้ดูเป็นธรรมชาติและมีความกลมกลืนกันมากกว่า
ไม่เกี่ยวกับความสามารถ ทุกคนกลายเป็นคนเหมือนกันท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปรายลงมา
“ไม่ ยังมีอีกส่วนหนึ่งยังไม่กลายเป็นจริง” โรแลนด์ส่ายหัว
“พระองค์ทรงหมายถึงดินแดนอื่นในเกรย์คาสเซิลเหรอเพคะ? เมืองเหล่านั้นก็น่าจะอีกไม่นานหรอกเพคะ”
“ข้าไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์ของคนธรรมดากับแม่มด หากแต่เป็นคำสัญญาอีกอันหนึ่ง” เขาตอบยิ้มๆ “เดิมข้าคิดว่าควรจะเตรียมตัวให้พร้อมก่อน แล้วค่อยๆ ทำให้มันกลายเป็นจริงทีละขั้น แต่ตอนนี้ข้าพบว่าความจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นจะมีหรือไม่มีไม่ได้สำคัญเลย สิ่งสำคัญนั้นคือการไปทำมัน ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น สุดท้ายมันก็ต้องมีวิธีแก้ไขของมันอยู่ ก็เหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์ครั้งนี้ที่เป็นเพราะว่ามันไม่มีกฏอะไรเนี่ยแหละ มันถึงได้สร้างความประหลาดใจได้มากถึงเพียงนี้”
“อย่างนั้นสัญญาอันนั้นคือ…”อันนาเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีน้ำเงินกะพริบปริบๆ บนดวงตาที่เป็นเหมือนทะเลสาบสีน้ำเงิน เขาเหมือนจะมองเห็นหิมะที่สะท้อนออกมา
“ขึ้นครองราชย์” โรแลนด์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ “จากนั้นก็แต่งงานกับเจ้า”