Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1008
‘ในเมืองแห่งขุนเขาแห่งหนึ่งที่ด้านหลังติดกับเทือกเขา ส่วนด้านหน้านั้นหันหน้าให้กับทุ่งหญ้ามีเจ้าหญิงองค์น้อยน่ารักใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้สองคน ทั้งสองคนรักใคร่กันมาก พวกเธอแทบจะไม่เคยอยู่ห่างกันเลย ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็จะได้รับการชื่นชมรักใคร่จากประชาชน’
‘แต่เสียดายที่เรื่องดีๆ นั้นเกิดขึ้นไม่นาน ในตอนที่เจ้าหญิงองค์โตอายุได้ 14 ปี เธอได้ตื่นรู้กลายเป็นแม่มด ความจริงนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ได้ก็เป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากแม่มด ทว่าปัญหานั้นอยู่ที่ว่าพลังที่เจ้าหญิงองค์โตได้รับมานั้นแปลกประหลาดอย่างมาก เพราะมันไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เธอดูงดงามขึ้น แต่ยังไปทำลายใบหน้าที่งดงามอยู่แต่เดิมของเธอด้วย’
‘ใบหูของเธอค่อยๆ หดหายไป บนหัวมีหูปลายแหลมที่มีขนฟูฟ่องปกคลุมงอกขึ้นมาแทน นิ้วมือของเธอเองก็ยาวขึ้น อีกทั้งยังมีขนที่ยากจะโกนออกได้ปกคลุมอยู่เต็มไปหมดด้วย แม้แต่หน้าของเธอก็เริ่มดูไม่ค่อยเหมือนคนเท่าไร’
‘ไม่เคยมีใครเคยเห็นแม่มดแบบนี้มาก่อน แม้แต่พระอาจารย์ที่อยู่ในวังก็ยังไม่อาจมั่นใจได้ว่านี่เป็นเพราะการตื่นรู้ของเธอหรือไม่’
‘ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มพูดขึ้นมา แต่หลังจากที่สภาพของเจ้าหญิงองค์โตไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ภายในวังจึงค่อยๆ มีข่าวลือหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ ว่านี่เป็น ‘คำสาป’’
อย่างนั้นข้าต้องแสดงเป็นพี่สาวเหรอ? โลก้าแอบลูบใบหน้าของตัวเอง ยังดี…แก้มทั้งสองข้างของเธอไม่มีขนงอกออกมา
แต่ว่าชีคเขียนดูน่ากลัวไปหน่อยหรือเปล่า ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอใช้พลังซ้ำๆ ต่างหาก ถ้าตอนที่เธอตื่นรู้ขึ้นมาแล้วมีสภาพเป็นแบบนี้ล่ะก็ คนอื่นๆ คงแสดงท่าทีรังเกียจเธอมากกว่านี้แล้ว
บางทีตรงนี้น่าจะเปลี่ยนนิดหน่อย?
หมาป่าสาวพลิกตัวเพื่อเปลี่ยนท่าให้สบายขึ้น ก่อนจะพลิกอ่านหน้าต่อไปอย่างสนอกสนใจ
‘ถึงแม้น้องสาวจะไม่สนใจเรื่องที่พี่สาวของเธอเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แต่ตัวพี่สาวกลับรู้สึกถึงพลังในร่างกายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะควบคุมมันเอาไว้ได้ เพื่อที่จะไม่ทำให้น้องของเธอได้รับบาดเจ็บ เธอจึงเลือกที่จะขังตัวเองเอาไว้ในส่วนลึกของพระราชวัง’
‘ทั้งสองคนที่ไม่ได้พูดคุยกันจึงทำให้เริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้น’
‘ไม่นานทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยกัน 4 ปี’
‘กระทั่งในฤดูหนาวที่น้องสาวอายุ 16 ปี เรื่องราวก็เกิดการเปลี่ยนแปลง’
‘เจ้าชายจากต่างแดนพระองค์หนึ่งเดินทางมาถึงเมืองแห่งขุนเขาพร้อมบอกว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าหญิงองค์เล็ก ขบวนรถของเขาเรียงยาวออกไปเกือบสองกิโลเมตร ลูกน้องของเขายกย่องเขาว่าเป็นราชาของโลก เพชรนิลจินดาที่อยู่บนร่างกายเขาเปล่งประกายมากกว่าแสงอาทิตย์ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาจนหญิงสาวในเมืองไม่อาจละสายตาไปได้’
‘พระราชายินดีเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงจัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติท่านนี้’
‘ขุนนางทุกคนต่างก็ยกย่องเขา พร้อมกับบอกว่าถ้าเจ้าหญิงแต่งงานกับคนๆ นี้ได้ เมืองแห่งนี้จะร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก’
‘ข้าไม่เห็นด้วย!’
‘ทันใดนั้นเอง เจ้าหญิงองค์โตที่ไม่เคยโผล่หน้ามาเป็นเวลานานก็ปรากฏตัวขึ้นภายในงานเลี้ยง’
‘เธอไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ แล้วมองดูคนอื่นพรากน้องสาวของตัวเองไปได้’
‘ความห่างเหินที่ผ่านมา 4 ปีกลับทำให้น้องสาวเกิดความสงสัย’
‘ความเสียใจและความผิดหวังทำให้เธอไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้ เธอไม่เพียงแต่ทำลายงานเลี้ยงจนพังพินาศ แต่เธอยังทำร้ายเจ้าชายต่างแดนจนได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้นเธอจึงหนีออกไปจากเมืองแห่งขุนเขา’
เฮ้อ…เจ้าโง่นี่ โลก้ากุมขมับขึ้นมา ความสามารถมันต้องฝึกฝนบ่อยๆ ถึงจะควบคุมได้ เจ้าหญิงองค์โตคงจะไม่ได้ฝึกฝนแน่ๆ ถึงได้ไม่คุ้นเคยกับพลังขนาดนี้ ถ้าเป็นเธอล่ะก็ เธอจะให้พ่อของตัวเองสร้างสนามฝึกซ้อมขึ้นมา แล้วก็ฝึกซ้อมสู้กับคนอื่นในนั้นทุกวัน แบบนี้ต่างหากถึงจะทำให้เติบโตได้อย่างแท้จริง
เหมือนอย่างในปีที่ 2 หลังจากที่เธอตื่นรู้ขึ้นมา เธอก็สามารถใช้มือที่อยู่ในสภาพของหมาป่ากำแก้วเอาไว้โดยไม่ให้มันแตกได้
ตอนนี้โลก้านึกว่าจะเปิดอ่านแค่ผ่านๆ แต่ตอนที่อ่านมาถึงตรงนี้ เธอกลับพบว่าตัวเองไม่สามารถหยุดอ่านได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกอยากรู้ด้วยว่าตอนจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
‘หลังพี่สาวออกไปจากเมือง เธอก็ได้ปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดที่มัดตัวเองเอาไว้ จากนั้นเธอก็ได้กลายเป็นหมาป่ายักษ์อย่างแท้จริงในวันที่เธอบรรลุนิติภาวะ ขณะเดียวกันเธอก็พบถึงความผิดปกติของเจ้าชายต่างแดน เห็นๆ อยู่ว่าตอนนี้เป็นฤดูหนาวที่มีหิมะตกโปรยปราย แต่ตรงขบวนรถที่ยาวเหยียดกลับไม่มีรอยล้อรถเลย ถึงแม้จะเป็นเวลากลางคืนที่ทั่วทุกที่ถูกความหนาวเย็นเข้าปกคลุม ภายในตัวรถก็ไม่มีดวงไฟแม้แต่ดวงเดียว เหมือนว่าสิ่งที่อยู่ในรถนั้นไม่ใช่มนุษย์’
‘อีกด้านหนึ่งนอกสาวเองก็รู้สึกผิด บนโลกนี้สิ่งเดียวที่เธอไม่อยากสูญเสียไปก็คือพี่สาวของเธอ ด้วยความช่วยเหลือจากนกพิราบและปลาที่เป็นเพื่อนของเธอ เธอได้หนีออกมาจากพระราชวังเพื่อจะไปตามหาพี่สาวของเธอ’
‘ระหว่างทาง เธอได้เจอกับเจ้าชายที่ไล่ตามเธอมา หลังจากที่การโน้มน้าวไม่เป็นผล สุดท้ายเจ้าชายจึงไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไป เขากระชากหน้ากากและเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองออกมา แท้ที่จริงแล้วเขาคือราชาปีศาจผู้เจ้าเล่ห์ มันอธิบายเรื่องราวทุกอย่างออกมาให้เจ้าหญิงฟังว่าเมืองแห่งขุนเขานั้นเป็นเมืองที่บุกโจมตีเข้าไปได้ยาก ถ้าสามารถทำลายการป้องกันจากด้านในได้ กองทัพของปีศาจก็จะบุกเข้าไปในเมืองได้ อีกทั้งยังสามารถใช้เส้นทางลับของเมืองในการลำเลียงเอาอาวุธเข้าไปในยังใจกลางเมืองได้ด้วย ในเวลานี้ลูกน้องของมันได้ซ่อนตัวอยู่ในขบวนรถที่เป็นภาพมายา และกำลังค่อยๆ เคลื่อนผ่านประตูเมืองที่เปิดอ้าอยู่เข้าไปในเมือง ไม่ว่ามนุษย์จะทำอย่างไรมันก็สายไปเสียแล้ว!’
‘ถึงแม้น้องสาวจะถูกจับไป แต่นกพิราบกลับแอบได้ยินเรื่องราวที่น่าตกใจนี้ มันจึงรีบเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่สาว เจ้าหญิงองค์โตรีบกลับมาและบุกเข้าไปในเมืองที่กำลังตกอยู่ในความโกลาหลอย่างไม่ลังเล เธอช่วยเหล่าทหารในการกู้สถานการณ์กลับมา ก่อนจะพาผู้คนที่ตาสว่างบุกเข้าไปในพระราชวัง’
‘ศึกตัดสินระหว่างราชาปีศาจกับแม่มดหมาป่าได้เริ่มต้นขึ้น’
‘หลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด สุดท้ายเจ้าหญิงองค์โตก็สามารถสังหารศัตรู พร้อมทั้งช่วยเหลือน้องสาวกับอาณาจักรเอาไว้ได้ แต่ตัวเธอก็ต้องจากโลกนี้ไปเพราะได้รับบาดเจ็บหนัก หลังเจ้าหญิงองค์ที่สองได้ขึ้นครองราชย์ เธอก็ได้สร้างรูปปั้นที่เป็นอนุสาวรีย์ขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงพี่สาวของตัวเอง เรื่องราวที่น่าประทับใจนี้กลายเป็นที่จดจำและเล่าสืบต่อกันต่อไป…’
โลก้าปิดหนังสือลง เธอนวดคอที่เมื่อยล้าของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจออกมา
เธอสัมผัสได้ถึงความพึงพอใจที่ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ!
ในสายตาของเธอ ตัวเธอนั้นคือนักรบที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่เพียงสามารถปกป้องพวกพ้องได้ แต่เธอยังช่วยเหลือทั้งอาณาจักรเอาไว้ได้ด้วย การให้เกียรติอันนี้ทำให้หางของเธอถึงกับตั้งชี้ขึ้นมา
ส่วนเรื่องที่สุดท้ายเธอต้องตายลงไปพร้อมกับศัตรูนั้น เธอไม่ได้ใส่ใจมันแม้แต่น้อย การตายในการต่อสู้นั้นถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่ง ศัตรูยิ่งแข็งแกร่ง เกียรติตรงนี้ก็ยิ่งสูง แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เธอไม่ใส่ใจก็เป็นเพราะเจ้าหญิงองค์โตที่อยู่ในเรื่องไม่มีคุณหนูนาน่า
แต่ว่าในบทละครนี้ก็ยังมีอีกหลายที่ที่เธอไม่เข้าใจ
อย่างเช่นทำไมพี่สาวต้องเสียใจที่น้องสาวจะแต่งงานด้วย? ในตอนนั้นศัตรูยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมาเลย เมื่อเจอกับคู่แต่งงานที่เพียบพร้อมขนาดนี้ ไม่ว่าดูยังไงเธอก็ควรจะยินดีกับน้องสาวถึงจะถูก
แล้วราชาปีศาจแค่จับตัวเจ้าหญิงองค์ที่สองกลับมาเฉยๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมถึงต้องอธิบายเรื่องราวทุกอย่างซะละเอียดด้วย เหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจเรื่องราวอย่างไรอย่างนั้น ช่างประมาทเสียจริงๆ
แต่…จะไปสนใจทำไมล่ะ
ในเมื่อรับปากชีคไปแล้ว อย่างนั้นเธอก็ตั้งใจเล่นละคร…ไม่สิ เล่นหนังเวทมนตร์ให้ดีแล้วกัน ส่วนเรื่องฝึกซ้อมนั่น…เลื่อนออกไปอีกซักครึ่งเดือนคงไม่เป็นไร
โลก้าบิดขี้เกียจอย่างภูมิใจ ก่อนจะนอนหลับลงไปพร้อมรอยยิ้ม