Reincarnated • The Hero Marries the Sage ~After Becoming Engaged to a Former Rival, We Became the Strongest Couple~ - ตอนที่ 2
ตอนที่2
นั่นคือสิ่งที่เขาจำได้ว่าเป็น ‘วีรชน’ เรด ฟรีเดน
แล้วก็ ――
“―― เรด! เฮ้ เรดด์!?”
เมื่อได้ยินเสียงแม่ของเขาดังมาจากชั้นล่าง เรดก็ลงมาหาว
“อือ ครับแม่”
“ลูกไปทำอะไรมาอีกล่ะเนี่ยฮะ!?”
แม่ของเขามีผิวสีซีด
“ไม่นะครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเเม่พูดเรื่องอะไร…?”
“หัวหน้าหมู่บ้านบอกเเม่เเล้วเมื่อเช้านี้ว่ามีขุนนางจากเมืองหลวงมาที่หมู่บ้านนี้เพื่อตามหาลูกน่ะ”
“เหมือนว่าจะเป็นขุนนาง …น่าจะกำลังตามหา ‘นักเวทย์’ อยู่น่ะนะ?”
ผู้ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้โดยใช้เวทมนตร์ในยุคสมัยใหม่นี้เรียกว่า “นักเวทย์”
“ผมว่าไม่น่าจะเกียวกับผมนะครับ”
“เเม่ก็คิดอย่างงั้นแหละ แต่ขุนนางคนนั้นเรียกลูกด้วยชื่อด้วยล่ะนะ”
แม่ของเรดถอนหายใจขณะที่เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้
“ฮ่าา… นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง…”
“ขอให้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ”
“ลูกดูท่าทางไม่เดือนร้อนเลยจริงๆนะลูกเป็นเด็กที่ไม่ร้องไห้และจะสงบนิ่งอยู่เสมอเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ที่อายุเท่าลูกล่ะนะ…
“ไม่น่าแปลกใจเลยล่ะ”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เรดก็เกาแก้มของเขา
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเรดจะไม่มีความรู้สึก แต่เป็นเพียงว่ามีอะไรเกิดขึ้นมากมายจนเขาไม่สะทกสะท้านกับหลายๆ สิ่งเลย
หลังจากนั้น ―― เขาก็ตื่นขึ้นมาในโลกที่อีกพันปีข้างหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น ความทรงจำของ ‘เรด ฟรีเดน’ ก็ยังอยู่
รูปร่างหน้าตาของเขายังคงเหมือนเมื่อครั้งยังเยาว์วัย ชีวิตที่เขาถูกเรียกว่า ‘วีรชน’ และผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน
เขารีบไปที่งานศพของ ‘นักปราชญ์’ ด้วยบาดแผลที่ทั่วตัวและเสียชีวิต และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็เป็นเด็กทารก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สับสนมาก
ยิ่งกว่านั้น มันเป็นโลกที่พันปีผ่านไปตั้งแต่ชาติก่อนของเขา
อาณาจักรแห่ง อัลเตน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ เรด ที่ถูกทำลายและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรูของเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘อาณาจักรเวทมนตร์เวกัลตา’ และ ‘เวทมนตร์’ ซึ่งเคยแพร่หลายในบางประเทศเท่านั้นและในชาติที่แล้วของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วโลก
หลังจากได้เห็นโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาก็ไม่แปลกใจกับหลายๆ สิ่งอีกต่อไปเเล้ว
ยิ่งกว่านั้น เป็นเวลาสิบแปดปีแล้วที่เขาเกิดมาในโลกใหม่นี้
เขาคุ้นเคยกับโลกใหม่แล้ว และไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่มีสงครามครั้งใหญ่นอกจากความสงบสุข และถ้าเรดรวมประสบการณ์ในชีวิตที่แล้วของเขาด้วย เขาคงอายุเกือบเก้าสิบทางจิตใจ ไม่มีอะไรมากมายที่จะทำให้เขาตกใจเลยซักนิดตอนนี้
ขณะที่เรดกำลังคิดเรื่องนี้ แม่ของเขาก็วางมือบนหน้าผากของเธอแล้วพูดออกมาว่า
“เเม่รู้นะว่าเรดใช้เวทมนตร์ไม่ได้…”
ในโลกนี้ ‘เวทมนตร์’ เป็นสิ่งที่ใครก็ใช้มันได้
เทคโนโลยีเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นโดย ‘นักปราชญ์’ ในอดีตที่ได้รับการศึกษาและฝึกฝนโดยอาจารย์ของเธอ และปัจจุบันมีก็การใช้กันอย่างมากในฐานะเวทมนต์ที่แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถใช้ได้
อย่างไรก็ตาม เรดไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดได้เลยๆ
“อาจเป็นเพราะพี่ชายและน้องสาวของผมเก่งมากผมจึงต้องสร้างความสมดุลไม่ให้
ครอบครัวเราเก่งเกินไปไงล่ะ?”
“นั่นเหรอเหตุผล…!?”
“ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ชีวิตด้วยความคิดแบบนั้น เเล้วก็ ผมไม่ต้องใช้เวทมนตร์เพื่อช่วยคนในหมู่บ้านด้วยการไถนาและแบกภาระ”
“ถ้าลูกพอใจกับสิ่งนั้น เเม่ก็จะไม่พูดอะไรอีกเเล้วล่ะ…”
ซึ่งเรดก็ทำตัวเฉยๆ
‘นักเวท’ ในโลกนี้เป็นสัญลักษณ์ของความชื่นชม พวกเขาเป็นตัวตนที่มีพลังเวทย์มนตร์และทักษะที่เหนือกว่าผู้อื่นที่ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงอิจฉาคนพวกนี้และยังได้รับชื่อเสียงมากมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ―― กลับกัน ผู้ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ก็ไร้ค่า
เวทย์มนตร์ที่ตัวคุณใช้ได้จะเป็นตัวกำหนดงานที่คุณจะได้รับ และเฉพาะนักเวทย์ที่มีทักษะการต่อสู้ที่รับประกันเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในการต่อสู้ นั่นคือโลกแห่งอำนาจสูงสุดแห่งเวทมนตร์
แม้ว่าชาติที่แล้วเขาจะถูกเรียกว่า ‘วีรชน’
เรดก็ยังถือว่าไร้ค่าหากเขาไม่สามารถใช้
เวทมนตร์ใดๆ ได้ มีเพียงนักเวทย์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความสามารถของตัวเอง
ที่กล่าวว่าเรดไม่ได้ไม่พอใจกับชีวิตปัจจุบันของเขา เทียบกับชาติทีี่เเล้วมีเเต่การสู้รบกัน เเต่โลกนี้สงบสุขยิ่งกว่านั่นเอง
นึกย้อนไปถึงสมัยที่ผู้คนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตกันในสนามรบ การใช้ชีวิตในชนบทอันเงียบสงบในขณะที่ไถไร่นาก็สดชื่นและเป็นวิถีชีวิตที่ไม่เลวนัก
อย่างไรก็ตาม ―― ถ่านที่คุกรุ่นอยู่ในใจของเขาจะไม่มีวันหายไป
คนที่เขาเคยถูกเรียกว่า ‘วีรชน’ กำลังมองหาการต่อสู้ การต่อสู้ที่เรดสามารถทุ่มสุดตัวและสนุกไปกับมันจากก้นบึ้งของหัวใจ
ถ้าเขามีข้อติอะไร ก็เรื่องของมัน
ในชีวิตนี้ เรดจะสามารถเพาะปลูกพืชไร่นาและรักพืชผลที่เขาดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีเท่านั้น
“เพราะอย่างงั้น ผมจะไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน มันอาจจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้ และก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะปล่อยให้พวกเขารอนานเกินไป”
“ถ้าลูกสร้างปัญหาหรืออะไร ลูกช่วยแกล้งทำเป็นว่าแม่ไม่รู้อะไรเลยได้ไหม!”
“ไม่อะ”
“อะไรกัน นั่นมันปัณหาของลูกนะ!!”
“ก่อนอื่น ผมจะปฏิเสธข้อสันนิษฐานว่าฉันทำอะไรผิด…”
หลังจากส่งยิ้มเจ้าเล่ห์กลับไปให้แม่ของเขา เรดออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
ขณะที่เขาเดินไปตามทางก็ได้ชื่นชมภูมิทัศน์อันเงียบสงบไปด้วย เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของผู้คนรอบตัวเขา
ชาวบ้านกำลังมองเขาจากระยะไกลราวกับว่ามีข่าวลือว่าเขาถูกเรียกโดยขุนนาง นี้จะเเพร่กระจ่ายเร็วจังนะ
จากนั้น ขณะที่เขาเดินไปตามทางที่กำลังครุ่นคิด ―― เขาก็เห็นบางสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
มันเป็นพาหนะวิเศษ เรือบรรทุกเหล็กที่ขับเคลื่อนด้วยเวทมนตร์โดยไม่ต้องใช้ม้า
เมื่อพันปีก่อน สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง แต่เทคโนโลยีเวทมนตร์นั้นพัฒนาไปมากกว่าที่เคยเป็น
‘นักปราชญ์’ ไม่เพียงสร้างเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึง ‘วงจรเวทมนตร์’ ที่ทำให้เวทมนตร์เปิดใช้งานได้ง่ายๆ โดยการใช้พลังเวทมนตร์ และสิ่งเหล่านี้ได้รับการพัฒนาตามกาลเวลาและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตของผู้คน
อย่างไรก็ตาม พาหนะเวทมนตร์นั้นถูกใช้อย่างแพร่หลายในบางพื้นที่ของประเทศเท่านั้น ของส่วนตัวจะเป็นของครอบครัวขุนนางที่ผลิตนักเวทหรือตระกูลที่มีชื่อเสียงที่มีประวัติอันยาวนาน
เป็นเรื่องธรรมดาที่แม่ของเขาจะต้องประหลาดใจและลุกลี้ลุกลนเมื่อมีคนเรียกชื่อเรด และหัวหน้าหมู่บ้านก็เช่นเดียวกัน
หัวหน้าหมู่บ้านซึ่งเดินจากขวาไปซ้ายอย่างไม่กระสับกระส่าย เงยหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นเรด
“เรด นายทำอะไรลงไป!”
“หัวหน้าหมู่บ้าน นี่เป็นครั้งที่สองที่เเล้วนะ”
“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น!”
“…มีอะไรรึป่าว”
“มาเร็วเข้า! ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันก็ไม่รู้เรื่อง!!”
“ผมว่านั่นโอเคสำหรับผมเเล้วล่ะ.”
“นายคิดว่าฉันจะทิ้งคนในหมู่บ้านของฉันรึป่าว”
“ นี่เป็นครั้งที่สองที่พูดเเบบนี้อีก
เเล้วนะครับ แต่ผมก็ซาบซึ้งในความรู้สึกของหัวหน้าหมู่บ้านนะครับ”
เขาจึงเดินตามหัวหน้าหมู่บ้านเข้าไปในที่พัก
“แล้วใครมาหาผม? ขุนนางบางคนขอร้องฉันน่ะ”
“…ไม่ใช่แค่ขุนนางนั้น”
หัวหน้าหมู่บ้านจึงพูดถึงคนผู้นี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คนที่เรียกนายมาคือผู้สืบทอดตระกูลราชวงศ์ในอาณาจักรเวทมนต์เวกัลต้าที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี”
“…ทำไมคนแบบนี้ถึงถามหาผมกันล่ะ?”
“ฉันก็ไม่รู้.”
“แล้วอย่ามาถามฉันอีกล่ะ”
“คนๆ นั้นพูดแค่ว่า’เจอกันเดี๋ยวก็รู้’ ”
“…แต่ผมแทบไม่ได้ออกไปนอกหมู่บ้านเลยนะเขาจะรู้จักผมได้ไง?”
“ฉันก็เลยบอกว่าไม่รู้ไงเล่า”
หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วด้วยรอยย่น หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าอย่างมีชัย
“ ฉันคิดว่าบางทีนายอาจจะรู้อะไรบางอย่างนะ”
“ผมรู้ผมก็คงบอกไปนานเเล้วล่ะ”
เขามาถึงหน้าห้องรับแขกแล้วเปิดประตูอย่างช้าๆ
ทันทีที่ประตูเปิดออก ―― เขาก็พูดอะไรไม่ออก
บุคคลนั้นมีผมสีขาวสีเงิน ดวงตาของเธอมีสีดั่งท้องทะเลลึก และเธอมีใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนอย่างงดงามด้วยการแสดงออกที่ไม่แยแส
ร่างที่ดูเหมือนคล้ายกับไครบ้างคนที่เขาจำไม่ได้
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้
โลกนี้อยู่หลังชาติก่อนพันปี
แม้ว่าจะไม่ใช่ก็ตาม ―― คนที่สงสัยนั้นตายไปแล้ว
และเรดเองก็ได้เห็นศพในบรรดาทุกคน
แล้วยัง ――
“―――― ไม่เจอกันนานเลยนะ เรด”
เสียงที่ชัดเจนและคุ้นเคยได้เรียกชื่อของเรด
คนนั้นคือ―― เอลเรีย คาลด์เวน ที่ยืนอยู่หลังประตูอย่างเงียบๆ
|หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ|
|ฝากติดตามเพจผมด้วยนะครับ (ผมชอบการแปล)
ถ้าแปลผิดตรงไหนหรือใช้คำที่มันไม่เข้าใจบอกกันได้นะครับ