Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 278.1
นายน้อยตระกูลฮวาและองค์ชายของอดีตพระราชาแห่งแคว้นใต้เซี่ยวรุ่ย ยังไม่หายขาด ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาแก่หลิน ชูจิ่ว เสี่ยวเทียนเหยาจึงสั่งให้ซู่ฉานำพวกเขาเข้ามาอยู่ในตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ เพื่อที่มันจะได้ประหยัดเวลาของ หลิน ชูจิ่วลง
วันนี้มีเด็กสองคนที่เธอต้องตรวจดูอาการก่อนในตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ดังนั้นหลิน ชูจิ่วจึงทำมันแต่เช้า หลังจากตรวจอาการของคุณชายน้อยและเซี่ยวรุ่ย แล้วหลิน ชูจิ่วก็ไปที่โรงหมอ
หลังจากได้รับการดูแลอยู่สองสามวัน สุขภาพของเด็กๆ ที่ถูกทอดทิ้งก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นและโรงหมอก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เด็ก ๆ ได้รับการรักษา แต่ปัญหาอื่นๆ ก็กำลังตามมา
เด็กๆ เหล่านี้ที่ถูกทอดทิ้งเป็นเด็กจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทังจึงมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เสี่ยวหวางเย่จะดูแลพวกเขาต่อไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้ แต่พวกเขากลัวว่าฮ่องเต้จะใช้เรื่องนี้เพื่อสร้างปัญหาให้กับเสี่ยวหวางเย่
มันเป็นเหมือนกับการที่แมวกำลังล้อเล่นกับหนู แต่หนูกลับไม่ชอบเหตุการณ์ที่มีเสียงดังแบบนี้ เสี่ยวเทียนเหยา สามารถจัดการกับเด็กๆ เหล่านี้ได้ แต่เด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้งคนอื่น ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง จากสถานที่อื่น ๆ ล่ะ ?
มีสถานที่อื่นๆ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทังอยู่อีกนับร้อยแห่ง ทั่วแคว้นตะวันออก ใครจะรู้ว่ามีเด็กที่ถูกทอดทิ้งอีกกี่คน ? เสี่ยวหวางเย่จะดูแลพวกเขาทั้งหมดได้หรือ?
นั่นคือสิ่งที่อีกฝ่ายจะต้องมุ่งเป้าไปที่มัน สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการกล่าวหาว่าเสี่ยวหวางเย่ไม่มีความยุติธรรมและทำให้เขาดูเป็นคนหน้าซื่อใจคด ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่จะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้หรือ ?
ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่มีเงิน แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ทุกแห่ง พวกเขาไม่มีความร่ำรวยที่สามารถเปรียบเทียบได้กับคลังของวังหลวง และเมื่อเป็นเช่นนั้นตำหนักเสี่ยวหวางฟู่จะล้มเลวในการสนับสนุนพวกเขา
*
เมื่อเห็นว่าเด็กที่ถูกทอดทิ้งส่วนใหญ่ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ผู้ดูแลโรงหมอก็ถามขึ้น“ หวางเฟย ท่านวางแผนที่จะจัดการกับเด็กๆ เหล่านี้อย่างไรเมื่อพวกเขาฟื้นตัวเต็มที่แล้ว”
“หวางเย่ พูดว่าอย่างไร?” หลิน ชูจิ่ว ก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่เธอไม่สามารถคิดอะไรออกเลย
เรื่องแบบนี้ควรจะเป็นราชสำนักที่จะต้องตัดสินใจ และกำลังของเธอก็ จำกัดมาก
“หวางเย่กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นธุระของหวางเฟย ดังนั้นหวางเฟย จึงมีอำนาจเต็มที่ในการดูแลเรื่องนี้ขอรับ” ผู้ดูแลโรงหมอพูดขึ้นอย่างขมขื่น
แน่นอน เขาถามความคิดเห็นของพ่อบ้านเฮ้าและเสี่ยวหวางเย่มาแล้ว ก่อนที่เขาจะกล้าพูดคำเหล่านั้นกับ หลิน ชูจิ่ว
“ข้าเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเต็มที่หรือ?” เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง แล้วเสี่ยวเทียนเหยา ทำแบบนี้ได้อย่างไร?
หลิน ชูจิ่ว ไม่สามารถเข้าใจเสี่ยวเทียนเหยาเลย สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ทำไมเขาถึงมักจะผลักเธอออกไปอยู่เสมอ เมื่อเธอคิดว่าเสี่ยวเทียนเหยา ชอบเธอ
เมื่อวานนี้เองที่เขาบอกว่าเธอควรจำไว้ว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ดังนั้นทำไมวันนี้เขาจึงปล่อยให้เธอรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่คนเดียว ?
มีก้อนหินก้อนใหญ่ที่กดอยู่บนหัวใจของหลิน ชูจิ่ว แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันบนพื้นผิวหน้าของเธอ เธอพยักหน้าให้กับผู้ดูแลโรงหมอและบอกว่าเธอรู้แล้ว
หลิน ชูจิ่ว นั่งอยู่ในห้องโถงหลักเป็นเวลานาน เธอไม่เข้าใจเสี่ยวเทียนเหยา เธอรู้สึกว่าเธอต้องการพูดคุยกับเขาอย่างจริงจัง
มีหมอคนอื่น ๆ อยู่ในโรงหมอ โดยทั่วไปแล้ว หลิน ชูจิ่ว จึงไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกลับไปหาเสี่ยวเทียนเหยาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ แต่เธอก็ต้องการเข้าใจทัศนคติของเขาที่มีต่อเธอ เธอไม่ต้องการที่จะจบลงในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างเช่นครั้งที่แล้วและได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง
หลิน ชูจิ่ว เรียกพ่อบ้านเฮ้า และให้เขาเตรียมรถม้า แต่เมื่อเธอกำลังจะเข้าไป หญิงสาวคนหนึ่งก็วิ่งเข้าหาเธอแล้วตะโกนออกมาจากที่ไกลๆ“ คุณหนู …คุณหนู…บ่าวเป็นคนรับใช้ของตระกูลเหมิ่งเจ้าค่ะ”
จากระยะไกลๆ สาวรับใช้ที่ตะโกนถูกทหารของเสี่ยวหวางฟู่หยุดเอาไว้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลังจากที่นางพูดคำเหล่านั้นออกมา นางก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวจากพวกเขา ทหารคุ้มกันยังคงรอคำสั่งของ หลิน ชูจิ่ว
หลิน ชูจิ่ว หยุดและหันกลับมาแล้วพูดขึ้น“เจ้าเป็นคนรับใช้ของตระกูล เหมิ่งหรือ ? เกิดอะไรขึ้น”
หญิงสาวคนนั้นคำนับอยู่บนพื้นและพูดอย่างรีบร้อนขึ้น“ คุณหนู ฮูหยินชราล้มป่วย บ่าวไปที่ตำหนักเเสี่ยวหวางฟู่ แต่เมื่อบ่าวได้ยินว่าคุณหนูอยู่ที่นี่ บ่าวจึงรีบมาที่นี่เจ้าค่ะ”
“ท่านยายของข้าป่วยหรือ” สีหน้าของหลิน ชูจิ่วเปลี่ยนไปทันที จากนั้นเธอก็ถามอย่างประหม่าขึ้น“ เกิดอะไรขึ้น”