Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 271.1
ผู้ป่วยมีความสำคัญมาก แต่……คนที่รออยู่นั้นก็มีความสำคัญมากกว่า หลิน ชูจิ่วไม่ต้องคิดถึงสองครั้ง ก่อนที่จะไปดูเสี่ยวเทียนเหยาก่อน
ทารกที่เป็นโรคปอดบวมได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมแล้ว เธอแค่อยากจะไปดูอาการเขาก็เท่านั้น เธอสามารถไปดูอาการของเขาได้ในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้หรือในช่วงบ่ายได้ ดังนั้นเธอจึงจะไปดูเสี่ยวเทียนเหยาก่อน จากนั้นเธอก็จะบอกว่าเธอต้องไปดูทารกอีกที
หลิน ชูจิ่ว ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะหันหลังกลับและวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่
“ หวางเฟย หวางเฟย……” เมื่อผู้ดูแลโรงหมอเห็นหลิน ชูจิ่ว วิ่งเขาก็ไล่ตามหลังนางไปอย่างรวดเร็วและตะโกนขึ้น แต่เขาไม่ได้รับการตอบกลับจากหลิน ชูจิ่วแต่อย่างใด
“ โอ้…” ผู้ดูแลโรงหมอตบต้นขาของเขา ก่อนจะพูดขึ้น“ หวางเฟยยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าของนางด้วยซ้ำ มันทั้งเต็มไปด้วยเลือด”
หลิน ชูจิ่ว ดีใจมากจนถึงจุดที่ว่าเธอลืมไปเลยว่าเธอเพิ่งจะออกมาจากห้องผ่าตัด เสื้อผ้าของเธอมีทั้งเหงื่อและเลือดเต็มไปหมด เมื่อเธอวิ่งไปหาเสี่ยวเทียนเหยาใบหน้าของเสี่ยวเทียนเหยาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและคว้าแขนของหลิน ชูจิ่วเอาไว้”เกิดอะไรขึ้น”
“เจ็บ…ปล่อยข้าก่อน” หลิน ชูจิ่ว ผลักมือของเสี่ยวเทียนเหยาออกทันที เมื่อเธอเห็นสายตาของเขาที่จ้องมองมาที่หน้าอกที่เปื้อนเลือดของเธอ เธอก็ตบหน้าผากอย่างช่วยไม่ได้และพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญตัวเองขึ้น“ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ข้าแค่ลืมเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ มันไม่ใช่เลือดของเจ้าหรอกหรือ?” เสี่ยวเทียนเหยารู้สึกเป็นกังวลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเขาเห็นว่าหลิน ชูจิ่วยังดูมีชีวิตชีวาดีอยู่ เสี่ยวเทียนเหยาก็เข้าใจทันทีว่าเขาถูกหลอกแล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ ก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งลงตามเดิม
ผู้หญิงโง่ ทำให้เขาเป็นกังวล
หลิน ชูจิ่ว ไล่ตามเขาและพูดขึ้น“ ท่านโกรธหรือ ?”
“เปล่า!”
ใบหน้าของเขาดูดำมืด ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเขาโกรธ
อย่างไรก็ตาม หลิน ชูจิ่วไม่กล้าพูดออกมาดัง ๆ ว่าสัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอเช่นนั้น เธอรู้ว่าถ้าเธอกล้าที่จะพูดคำเหล่านั้นออกไป เสี่ยวเทียนเหยา จะโกรธมากขึ้น
หลิน ชูจิ่วไม่ได้ลากตัวเองให้ไปพบกับปัญหาเหล่านั้น เธอจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อขึ้นทันที“ หวางเย่ ทำไมท่านถึงมาที่โรงหมอได้ ? ท่านต้องการอะไรหรือไม่”
“ไม่มีอะไร มันเป็นแค่ทางผ่านของเปิ่นหวาง” หลิน ชูจิ่วไม่ได้สังเกตว่าใบหน้าของเสี่ยวเทียนเหยานั้นเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นอีก
“ทางผ่าน?” หลิน ชูจิ่วกะพริบตาแล้วพูดขึ้น “ หวางเย่ ไม่ใช่ว่าท่านไปที่วังหลวงตั้งแต่เช้าแล้วหรือ?” จากวังหลวงถึงโรงหมอไม่มีระยะทางที่จะผ่านไปได้เลยไม่ใช่หรือ?
ท่านช่วยหยุดแสดงท่าทีที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ และยอมรับว่าท่านมาหาข้า
“เปิ่นหวางมาพบซู่ฉา” เสี่ยวเทียนเหยาพูดด้วยใบหน้าที่สงบมาก เขาดูเหมือนจะไม่ได้โกหกหรือรู้สึกอึดดัดแต่อย่างใด เขามองหลิน ชูจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดขึ้น“ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะกลับในทันที”
“ ช้าก่อน ยังมีผู้ป่วยอยู่อีก” หลิน ชูจิ่วดมกลิ่นของตัวเอง เธอยังมีกลิ่นเลือดและยาฆ่าเชื้ออยู่
“เป็นเช่นนั้นหรือ?” ริมฝีปากของเสี่ยวเทียนเหยาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาลุกขึ้น “ไปเถอะ เปิ่นหวางจะไปกับเจ้า” จริง ๆ แล้วนางมาพบเขาก่อนคนไข้ใช่ไหม หลิน ชูจิ่ว ยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง การรอนางนาน ๆ ก็ถือว่ายังคุ้มค่าอยู่
“ไม่ต้อง ท่านเพียงแค่รอข้าอยู่ที่นี่ก่อน แล้วข้าจะรีบกลับมา” หลิน ชูจิ่วส่ายหัวแล้วปฏิเสธ แต่เสี่ยวเทียนเหยา เป็นคนที่กินการปฏิเสธเป็นหรือ?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่
“ไปกันเถอะ” เสี่ยวเทียนเหยาย้ำขึ้นอีกครั้งแล้วออกเดินไปกับหลิน ชูจิ่ว หลิน ชูจิ่วคิดอยู่ครู่หนึ่งตอนนี้เด็กหายขาดแล้ว คงไม่เป็นไรถ้าเสี่ยวเทียนเหยาจะไปกับเธอ
“เขาคือเด็กผู้ชายที่เป็นโรคปอดบวม ดูเหมือนว่าเขาจะอายุเพียงประมาณหนึ่งขวบปี ดูเหมือนว่าเขาจะเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ดี ข้าไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถูกทอดทิ้ง” ระหว่างทางหลิน ชูจิ่วระบุถึงข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเทียนเหยา อย่างไรก็ตามเสี่ยวเทียนเหยาเพียงแค่ฮัมเพลงและไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่สนใจเด็กผู้ชายคนนั้น เขาแค่อยากจะเดินไปกับหลิน ชูจิ่วเท่านั้น