Player Who Returned 10,000 Years Later - ตอนที่ 4: ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยและภูมิประเทศที่คุ้นเคย (1)
- Home
- Player Who Returned 10,000 Years Later
- ตอนที่ 4: ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยและภูมิประเทศที่คุ้นเคย (1)
ตอนที่ 4: ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยและภูมิประเทศที่คุ้นเคย (1)
— อะไรนะ… คุณหมายถึงอะไร? — ฮันซอลมองไปที่คังยูด้วยความลำบากใจ
ข้อเสนอนี้ถูกยื่นมาอย่างกระทันหัน เธอไม่รู้ว่าควรโกรธหรือขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าของเธอดี
— อ่า ฉันขอโทษที — สามัญสำนึกได้ย้อนกลับมาหาคังยูและเขาส่ายหัวของเขาพร้อมปล่อยมือของหญิงสาว
‘ไปด้วยกันเถอะ!’ นั่นคือมนุษย์ที่เขาอยากจะเจอมากที่สุด
‘ฉันไม่ควรที่จะทำตัวดูบ้าตั้งแต่แรกสินะ’
— ฉันชื่อโอคังยุ เธอบอกว่าเธอชื่อฮันซอลสินะ? แผลเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม?
“ใช่ ใช่แล้ว… มันไม่ได้เจ็บมากค่ะ” แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดจากบาดแผลก็ทำให้เธอกรีดร้องออกมาและเธอก็ล้มลง “โอ้!”
ขณะที่เธอหล่นกระแทกลงบนพื้น วัตถุทรงสี่เหลี่ยมได้หล่นออกมาจากกระเป๋าของเธอ
“สมาร์ทโฟน” เขาพึมพัมออกมาพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายเมื่อเขามองดูสิ่งของที่ตกลงมา
เขาแน่ใจว่ามันคือสมารืทโฟนซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังคงมีในความทรงจำอันคลุมเครือของเขาอยู่
‘ฉันเดาว่า… นี่คือโลกใช่ไหมนะ?’ และชื่อของเธอบนสมาร์ทโฟนก็คือภาษาเกาหลี ฮันซอลอีกด้วย
มีอะไรอีกไหมนะ…
‘พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่!’ ไม่ใช่ภาษาของพวกปีศาจในนรกแต่เป็นภาษาเกาหลีเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน
ความสามารถในการสื่อสารเป็นเครื่องพิสูจน์ว่านี่คือโลกและเห็นได้ชัดว่าเธอคือคนเกาหลี
‘มันจะดีมากถ้าฉันได้ฝึกฝนในสถานที่นี้’ เพื่อที่จะไม่ลืมภาษาเกาหลีในนรกในช่วงเวลานั้นคังยูจึงห้ามไม่ให้คนรับใช้ของเขาใช้ภาษาปีศาจและสอนพื้นฐานภาษาเกาหลีให้พวกมัน
— เธอโอเคไหม? — คังยูฉีกเสื้อผ้าส่วนหนึ่งออกแล้วมัดไว้รอบขาที่บาดเจ็บของหญิงสาว
มันไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดา มันเป็นเครื่องแบบที่ทำจากผ้าที่แทบจะหาไม่ได้ในนรก
— โอ้ ใช่แล้ว ขอบคุณนะคะ — เธอดึงผ้าพันแผลของเธอขึ้นและหน้าของเธอก็แดงขึ้น แม้ว่าหญิงสาวจะสงสัยในความเมตตาจากคนแปลกหน้าก็ตาม
เธอรู้สึกตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดและในขณะเดียวกันก็ระมัดระวังอย่างยิ่งทั้งข้อเสนอแนะในการจับมือและวลีเกี่ยวกับการมีลูกอีกด้วย
— ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะคะ — ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าคังยูละก็เธอคงจะตายไปแล้วในตอนนี้
และถ้าเกิดว่าเธอถูกจับเข้าคุกอาจมีบางอย่างที่แย่กว่านั้นเกิดขึ้น
‘อย่างไรก็ตามมันมีการพูดกันว่าสัตว์ประหลาดก็สามารถดึงดูดผุ้คนได้เช่นกัน’ ต้องขอบคุณเขาจริงๆที่ทำให้ฮันซอลสามารถใช้ชีวิตของเธอต่อไปได้อย่างสงบสุข
หญิงสาวรู้สึกผิดที่ปฏิบัติต่อชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว
“ขอบคุณนะคะ” ฮันซอลตัดสินใจและก้มหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
แม้ว่าเธอจะกลายมาเป็นผู้เล่นได้ไม่นานแต่เธอก็ได้ยินเกี่ยวกับโลกของเกมมาค่อนข้างบ่อย
เพื่อผลประโยชน์ของผู้เล่นจำนวนมากจึงควรจัดปาร์ตี้และจากนั้นเพื่อเอาชีวิตรอดจึงได้ทรยศเพื่อนอย่างเลือดเย็น
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำแบบนี้แต่ผู้เล่นเช่นคังยูที่รีบพุ่งเข้ามาเมื่อพวกมันเริ่มกรีดร้องนั้นเป็นสิ่งที่หายากเป็นอย่างมาก
“อย่าเครียดเกินไปและนั่งลงก่อนนะ
“ตกลงค่ะ”
ชายหนุ่มมองไปที่รอยยิ้มของฮันซอลและได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยเหมือนกัน
‘ตกลง’ คือการได้รับไว้วางใจจากเธอเป็นสิ่งสำคัญ ใช่ มันถูกต้องแล้ว
คังยูต้องการให้เธออยู่ใกล้ๆและไม่ใช่เพียงแค่เพราะเธอเป็นมนุษย์คนแรกที่เขาพบตั้งแต่กลับมาจากนรก เธอสามารถให้ข้อมูลที่สำคัญกับเขาได้
‘สัตว์ประหลาดพวกนั้นมาทำอะไรบนโลกกันนะ?’ ความแตกต่างระหว่างโลกที่เขารู้จักและโลกที่เขามานั้นมีความแตกต่างที่ใหญ่มาก
และหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นวิธีที่ดีที่จะรุ้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกกันแน่
‘นี่คืองานหลักของฉันในตอนนี้’ คังยูเดินตรงไปที่สมาร์ทโฟนที่หล่นลงมา เมื่อเขาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา เขาก็กดปุ่ม ‘โฮม’ทันที
นั่นเป็นวิธีที่เขาได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาสนใจ มันได้ปรากฏหน้าจอที่ถูกล็อคอยู่
[22.05.2023 | 3:34PM]
“2023”? – แน่นอนว่าเขาได้ไปยังนรกในปี 2018
ปรากฏว่าเขาอยู่ในอนาคตอันใกล้แค่ห้าปีเท่านั้นเอง
‘ฉันไม่ได้ทำให้การตั้งเวลาเกิดข้อผิดพลาด’ ในทางกลับกันเขาคาดหวังว่าจะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันถึง 10-20 ปีโดยประมาณ
เขาสามารถพิจารณาได้ว่าการเดินทางข้ามเวลาประสบความสำเร็จเพราะว่าข้อผิดพลาดนั้นน้อยกว่าที่คิดไว้มาก
แต่เวลาเพียงแค่ห้าปี บนโลกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก
‘นี่หมายความว่าในห้าปี มีมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นมาบนโลก?’ คังยูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกในช่วงเวลาแค่ห้าปีโดยมีสัตว์ประหลาดมากมายเดินไปทั่วป่าได้กัน
‘ข้อมูลยังไม่เพียงพอ’ มีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะเข้าใจสถานการณ์ที่นี่ได้อย่างถ่องแท้ เขาได้หันกลับไปทางฮันซอล
“ฉันคิดว่านี่คือสมาร์ทโฟนของเธอ”
“โอ้ ใช่ ขอบคุณนะคะ”
“ฉันขอถามได้ไหมว่าเธอมาทำอะไรที่นี่กัน?”
“อืม…” ฮันซอลยังคงตอบอย่างเชื่องช้า “ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงต้องออกมาล่าด้วยตัวฉันเอง ฮ่าๆ ฉันค่อนข้างเป็นมือใหม่แต่ฉันตัดสินใจที่จะผ่านประตูระดับ E มันเป็นเรื่องโง่เง่าที่ต้องทำค่ะ”
เห็นได้ชัดจากน้ำเสียงของเธอว่าเธอไม่พอใจตัวเองเป็นอย่างมาก
ดวงตาของคังยูเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินคำว่า ‘เกท’ ‘ผู้เล่น’ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่บนโลกแต่อยู่ในอีกระดับหนึ่ง
‘และความจริงที่ว่าเธอเป็น “ผู้เล่นใหม่”…’ คังยูนึกถึงหน้าต่างค่าสถานะที่เขาเห็นก่อนหน้านี้
“เธออยู่ในระดับไหน?” เขาถามอย่างสบายๆ
“ฉันเป็นผู้เล่นใหม่ ฉันอยู่แค่เลเวล 6 คุณคงเป็นผู้เล่นระดับสูงสินะคะ? คุณมาทำอะไรที่นี่กัน?”
คังยูมีเลเวลน้อยกว่าเธอ 3 เลเวลแต่เธอเชื่อว่าเขาเป็นผู้เล่นระดับสูง
เธอคงคิดว่ามันแปลกที่เขาสามารถกำจัดฝูงก็อบลินได้อย่างง่ายดายในขณะที่เธอที่อยู่เลเวล 6 ไม่สามารถทำได้
แน่นอนว่าเธอประเมินเลเวลของเขาอย่างคร่าวๆตามความแข็งแกร่งของเขา
“ฉันมีเหตุผลที่ต้องมาอยู่ที่นี่”
“อ่า…ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ฮันซอลไม่ได้ถามอะไรอีกหลังจากคำตอบที่คลุมเครือของคังยูและพยักหน้า
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะพบผู้เล่นระดับสูงในพื้นที่ระดับต่ำ แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ถามคำถามที่ต้องการจากเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่
“อืม…”
“เธอยืนได้หรือยัง?”
“ใช่ ต้องขอบคุณคุณจริงๆ ฉันคิดว่าฉันสามารถเดินได้แล้วค่ะ”
“ฉันจะไปที่นั่นกับเธอเอง”
“โอ้ คุณไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาเพิ่มอีกแล้ว”
“เธอไม่ควรจะพูดปฏิเสธถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือนะ” คังยูโอบแขนของเขารอบๆหญิงสาวที่ดูอ่อนแอเพื่อพยุงเธอ
ฮันซอลเอียงหัวอย่างช้าๆและหน้าของเธอก็แดงขึ้น
“เธอต้องการจะไปที่ไหน?”
“ทางนั้นค่ะ” หยิงสาวพูดพร้อมชี้ไปยังทิศทางด้วยนิ้วของเธอ ด้วยความอายเธอจึงไม่ได้สังเกตว่าคนที่อยู่ในระดับสูงอย่างเขาจะไม่รู้ว่าเกทอยู่ที่ไหน
“ไปกันเถอะ” คังยูจับเธอเอาไว้แน่นและพวกเขาก็ไปอย่างช้าๆ
‘เป็นเรื่องที่ดีที่เธอไม่ถามคำถามที่ไม่จำเป็น’ แน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาแต่เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เขาต้องพยายามไม่ให้เกิดความสงสัย
‘ไม่อย่างนั้น เธอจะคิดว่าฉันบ้าได้’ เขาไม่ต้องการที่จะดูคนป่วยทางจิตต่อหน้ามนุษย์คนแรกที่เขาพบและต่อหน้าคนสวยๆแบบนี้
เขาต้องกลมกลืนไปกับผู้คนท้องถิ่นทั่วไป
คังยูคิดว่าเขาบังเอิญได้พบกับฮันซอลอย่างไม่คาดคิดที่กำลังเกิดอยู่กับเขาได้ยังไง
“ที่นี่ค่ะ…”
มีประตูหิมะสีขาวอยู่เบื้องหน้าพวกเขา
มันสูงประมาณ 30 เมตร ถ้าเทียบกับเกทสีดำที่คังยูได้ออกมา เกทนี้ใหญ่กว่าและทรงพลังกว่าหลายเท่า
‘นี่ไม่ใช่โลกอย่างแน่นอน’ ถ้าเธอมาที่นี่ด้วยเกทนี่ละก็นั่นก็หมายความว่าป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยก็อบลินนั้นไม่ใข่โลกอย่างแน่นอน
‘สถานที่แห่งนี้…คล้ายๆกับนรกงั้นหรอ?’ สถานที่ที่เข้ามายังเกทนี่อาจดูเหมือนในนรกก็เป็นได้
‘เกทนี้มาจากไหนกันนะ?’ คังยูมองไปที่เกทด้วยท่าทางเหม่อลอยและตาเบิกกว้าง
มันไม่มีอะไรเหมือนเกทที่ก่อตัวขึ้นในนรกด้วยพลังของปีสาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดได้อย่างแน่นอน
“คังยู”
“อ่า ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” คำพูดของฮันซอลได้ดึงสติของเขากลับมาและพวกเขาก้ก้าวเข้าไปในเกท
การบินผ่านจากโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่ง ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนที่เข้าไปในอุโมงค์ได้อย่างง่ายดายเป็นอย่างมาก
“มารวมตัวกันที่ระดับ E และล่าก็อบลินกัน
“ได้แทงค์มาหรือยัง?”
“คุณไม่ต้องการโจรหรอ?”
“ไม่ล่ะ โทษที”
เมื่อพวกเขาออกมาจากเกทแล้ว พวกเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งตะโกนกันไปมาราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในตลาดสด
คังยูมองไปที่ผู้คนที่มารวมตัวกันที่ทางเข้าเกทและรู้สึกเจ็บจี๊ดในอกของเขาอีกครั้ง
ผู้คน
สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการให้ผู้คนรายล้อมเขาจากทุกๆด้าน
‘ฉันได้กลับมาแล้วจริงๆสินะ’ แม้ว่าโลกจะแตกต่างจากที่เขาจำได้ แต่ทิวทัศน์ก็ยังคงเหมือนเดิม
ตอนนี้เขารู้อย่างแน่นอนว่าเขาได้กลับมาแล้ว เศษเสี้ยวความวิตกกังวลของเขาค่อยๆหายไปและความพึงพอใจและความสุขก้ได้เข้ามาแทนที่ทันที
มันรู้สึกราวกับภาระทั้งหมดได้ถูกยกออกไป
“อะ แฮ่ม คังยู…” ฮันซอลได้เรียกเขาอย่างเรียบร้อยและเขาได้หันมาหาเธอ “ถ้าคุณพอมีเวลาละก็ทำไมคุณไม่มาด้วยกันล่ะ? อย่างน้อยฉัน้องการที่จะเลี้ยงข้าวเที่ยงคุณ”
เธอพุดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดก่อนที่จะมองไปยังเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของคังยูแล้วจากนั้นก็มองไปที่ขาที่มีผ้าพันแผลพันอยู่บนขาของเธอ
แน่นอนว่าการเสนอผลตอบแทนเป็นเงินจะเหมาะสมกว่ามากแต่เธอไม่มีโอกาศนั้น นอกจากนี้เธอไม่ต้องการแยกทางจากผู้ช่วยชีวิตของเธอโดยเพียงแค่พูดว่า “ขอบคุณ”
คังยูรู้สึกตกใจมากที่ได้ยินคำชวนของเธอ
หญิงสาวที่เขาเพิ่งช่วยเหลือมาได้เชิญเขาไปกับเธอด้วย!
ในช่วงเวลาหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา เขาสามารถเหตุหญิงสาวได้เพียงแค่ในจินตนาการของเขาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาได้รับคำชวน เขารู้สึกถึงความปราถนาอันแรงกล้ากำลังแผดเผาอีกครั้ง
ความตื่นเต้นนั้นมีมากจนคุณสามารถเปรียบเทียบกับคำเชิญให้ไปดื่มที่บาร์ได้เลยทีเดียว
‘นี่คือ…’ คังยูกำมือแน่นขึ้น
ความปราถนาอันแรงกล้าได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเขา
‘ความอบอุ่น’ได้ถูกเล่นในจิตนาการของเขาซ้ำไปซ้ำมา
เขาได้ขิตนาการถึงพวกเขาทั้งสองที่กำลังเลี้ยงดูลูกๆทั้งสามคนด้วยความอบอุ่นในบ้านที่อบอุ่นทำให้ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาคิดว่า ‘จะอบอุ่นแค่ไหนกันนะ’ นั้นจะทำให้หัวใจอันเย็นชากว่าหมื่นปีของเขากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นอีกครั้ง