บทที่ 69 ชิงอมอส กับ ตระกูลที่สาบสูญ
ดวงจันทร์สะท้อนแสงลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า ดวงดาราเปล่งประกายยามค่ําคืน
หุบเขาอาบแสนจันทร์ยามนิทราดั่งผืนผ้าทมิฬพาดผ่าน เสียงร้องของสัตว์เวทมนตร์ดังออกมาบางครั้ง ทําให้หุบเขานั้นเงียบและสงบมากกว่าที่เคย
ไอน้ําสีขาวลอยขึ้นไปบนอากาศ และ เปลวไฟจากแคมป์ที่ลุกโชน
น้ํามันเนื้อสีเหลืองทองมันวาวของเนื้อสัตว์เวทมนตร์ย่างส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจ น้ํามันนั้นหยดติ่ง ทิ้งลงไปบนกองไฟทําให้เกิดเสียงฉ่ฉ่า ชวนเรียกน้ําลายและน้ําย่อยของเหมิงเหล่ยให้ทํางาน
“ก่อกองไฟข้างแม่น้ํา กินข้าวท่ามกลางแสงจันทร์” อมอสลอยอยู่กลางอากาศ มองบรรยากาศรอบๆตัวของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมา “กองไฟ เนื้อย่าง แล้วก็เหล้าเอล แหมๆ ช่างเป็นภาพที่ชวนคิดถึงเสียจริง”
“555
เหมิงเหล่ยหัวเราะออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของอมอสดี ถ้าเกิดเขาต้องติดอยู่ที่ใดที่นึ่งเป็นเวลากว่า 2 หมื่นปี แต่แล้ววันนึ่งมีใครบางคนพาเขาออกมาข้างนอก เขาเองก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
“หึหึ เนื้อสุกแล้ว”เหมิงเหล่ยหยิบมีดออกมาพร้อมแล้วตัดชิ้นเนื้อออกมาก่อนจะส่งให้กับอมอสแล้วพูด “ท่านประธานไม่ได้กินเนื้อมานานแล้วซินะครับ นี้ครับ ลองที่ผมทําดู
“ไอ้หนู นี้เจ้าล้อข้าเล่นอยู่อย่างงั้นเหรอ” อมอสมองหน้าเข้า “เจ้าไม่เห็นเหรอว่าข้าเหลือแต่วิญญาณอยู่เนี่ย”
“เออ วะ…”
เหงื่อไหลเย็นก่อตัวขึ้นบนหน้าผากเขาอีกครั้งก่อนที่เขาจะตอบอย่างเป็นๆ “คือข้า ขอโทษด้วย ข้าลืมไปเลย แหะๆ ถ้างั้นข้าไม่เกรงใจละนะ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หยิบเนื้อกลิ่นหอมชิ้นโตแล้วสวาปามอย่างมีความสุข ว่ากันว่าอาหารจะอร่อยขึ้นหลายเท่าถ้าเราหิวอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงๆ เพราะตอนนี้ เหมิงเหล่ยมีความสุขกับการกินสุดๆ
อีกอย่าง เนื้อของงจระเข้หัววัวนั้นสะสมพลังเวทมนตร์ไว้จํานวนมาก แถมการที่มันอาศัยอยู่ในบ่อน้ําพุร้อน ทําให้สัมผัสของเนื้อมันอร่อยยิ่งขึ้นไปอีก
“นี้มัน ยอดเยี่ยม ของโคตรดีเลยจริงๆ”
เหมิงเหล่ยเตี๋ยวเนื้อตุ้ยในปาก
“หึม” อมอสมองเหมิงเหล่ยที่กําลังปากมอมอยู่ตอนนี้แล้วเขาก็กลืนน้ําลายไม่ได้ ตอนนี้เขาอยากที่จะกระโดดเข้าไปหยิบเนื้อซักชิ้นแล้วกัดเข้าไปค่าโตๆมาก
แต่น่าเสียดายที่สภาพเขาตอนนี้เป็นแค่วิญญาณเท่านั้น กินอาหารยังกินไม่ได้เลย
อีก ทําไมชีวิตมันน่าเศร้าขนาดนี้ อา คงต้องทําอะไรซักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองซินะ
“เจ้าหน เจ้ามีทั้งพรสวรรค์เวทมนตร์ธาตุไฟแล้วก็ธาตุดินเลยใช่ไหม”
“3 ธาตุเลยตั้งหาก!”
“3ธาตุงั้นเหรอ”
“ใช่แล้วข้ามีพรสวรรค์ถึง 3 ธาตุเลย ดิน ไฟ แล้วก็สายฟ้า”
“เจ้ามีพรสวรรค์ธาตุสายฟ้าด้วยอย่างงั้นเหรอ ไม่เลวเลยนี่ ก็ดูเหมาะสมอยู่นะ”
“เหมาะสมเหรอ คิดว่างั้นนะ”
“แล้วพรสวรรค์ธาตระดับไหนเหรอ มีพรสวรรค์ธาตุใดเป็นระดับสูงบ้างไหม มีแค่พรสวรรค์ธาตุระดับสูงเท่านั้นนะที่สามารถกลายไปเป็นระดับเซียนเทพได้นะ ถ้าเจ้าไม่มีละก็ ต่อให้พยายามยังไงแต่อนาคตก็ไปได้ไม่ไกลหรอก”
“ก็งั้นๆแหล่ะ มีแค่ธาตุสายฟ้ากับธาตุไฟของข้าที่เป็นระดับ ดีเลิศ ส่วนธาตุดินของข้าเป็นแค่ระดับสูงเอง ข้าเทียบกับท่านประธานไม่ได้หรอก”
(@_O) “อะไรนะ?” (O_O)
อมอสตกใจหนักมาก ถึงแม้ว่าเขาจะคาดหวังกับเหมิงเหล่ยพอสมควร แต่เขาก็ยังอึ้งกับพรสวรรค์ที่เหมิงเหลี่ยมอยู่ดี “ระดับดีเลิศ 2 ธาตุระดับ สูง ธาตุนึงงั้นเหรอ เจ้าหนู นี้เจ้าพูดเล่นรึเปล่าเนี่ย”
“ข้าจะล้อท่านเล่นเพื่ออะไรละ”
เหมิงเหลี่ยมันเต็มปาก “ข้ามีพรสวรรค์เวทมนตร์โดดเด่นที่สุดในเด็กปี 1 ที่เข้าวิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟมา แถมข้ายังได้ทุนการศึกษา 5000 เหรียญ ต่อปีเชียวนะ”
อมอสไม่รู้จะพูดยังไงดี เขาอึ้งไปอยู่ซักพักใหญ่ๆก่อนจะพูดแบบกระอักกระอัก “พรสวรรค์เวทมนตร์ระดับดีเลิศเดิมที่ก็หายากอยู่แล้ว แถมยังมีพรสวรรค์ระดับดีเยี่ยม ถึง 2 ธาตุอีก เจ้านี่มีดวงโง่ๆเข้าข้างมากมายที่เดียวนะ”
ดวงโง่ๆเข้าข้างเหรอ
ใช้ค่ายังไงของตาแก่นี้วะเนี่ย
ฉันก็แค่เก็บธาตุมาได้เอง ถ้าเก่งมากก็ไปเก็บพรสวรรค์ธาตุเอาเอง
เหมิงเหล่ยเบะปากแล้วไม่สนใจตาแก่ที่ไม่รู้จักสรรหาค่ามาใช้อีก
“แล้วก็อีกอย่าง ข้าสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของเจ้าค่อนข้างแข็งแกร่งที่เดียวนะ เจ้าหน เจ้าคงจะสามารถฝึกตนได้ไวมากเลยซิท่า ตอนนี้เจ้าพัฒนาระดับขั้นได้ถึงระดับไหนกันแล้วละ
“ก็งั้นๆแหล่ะ คิดว่านะ ขายังเป็นแค่จอมเวทระดับ 7 อยู่เลย”
“เจ้าเป็นได้แค่จอมเวทอยู่แล้วซิ เจ้ามีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ที่วิเศษขนาดนี้” อมอสพูดแล้วถามอย่างไม่พอใจ “เจ้าหนู เจ้าคงจะอู่ขี้เกียจแทนที่จะฝึกดีๆซินะ”
“ตั้งระดับ 7 เลยนะ???”
เหมิงเหล่ยเริ่มไม่พอใจ “ท่านประธาน ท่านพูดถูก ข้าอายุแค่ 15 เอง ข้าเข้าสู่หนทางเวทมนตร์ตั้ง ครึ่งปีแล้ว แต่ข้ายังเป็นได้แค่จอมเวทระดับ 7 เอง ข้าว่าข้าคงต้อนขยันมากกว่านี้แล้วละ เดี๋ยวข้าจะตามเพื่อนไม่ทัน”
“อะไรนะ เจ้าอายุ 15 เหรอ แล้วเจ้าพึ่งเข้าสู่หนทางเวทมนตร์แค่ครึ่งปีเองงั้น เหรอ?!”
อมอสตกใจมากจนกรามแทบค้าง (ถ้ายังมีกรามอยู่อะนะ) เขาคิดว่าตัวเองหูฝาดไปซะด้วยซ้ํา “เจ้าพึ่งเข้าสู่หนทางเวทมนตร์มาได้แค่ครึ่งปีเองงั้นเหรอ พระเจ้ามังกรช่วย เป็นไปได้ไงกัน แม้แต่ข้าเองก็ต้องใช้เวลาตลอด 4 ปี ครึ่งกว่าที่จะเป็นระดับ 7 ได้เชียวนะ”
เป็นไปไม่ได้สําหรับคนอื่น แต่ฉันน่ะมีเครื่องมีขี้โกงอยู่ยังไงละ จะเอาฉันไปเทียบกับคนอื่นได้ไงกัน
เหมิงเหล่ยอยู่เงียบๆแล้วกินเงียบๆแทน เขานั่นเอาเนื้อสุดอร่อยขึ้นมากินเพิ่มอีก พยายามฉายภาพของอัจฉริยะที่ทําตัวติดดินซ่อนรูปของพลังที่แข็งแกร่งเอาไว้
แต่อมอสไม่ได้เชื่อที่เหมิงเหล่ยพูด เขามองหน้าเหมิงเหล่ยแล้วพูดย้ํา “นี้เจ้าหนู ไม่ใช่ว่าเจ้ากําลังคุยโม้ข้านะ ถ้าเจ้าอายุ 15 ปีนี้จริงๆ ทําไมเจ้าถึงพึ่งเข้าสู่หนทางแห่งเวทมนตร์มาได้ครึ่งปีเองละ”
“เออ ว่าไงนะ”
เหมิงเหล่ยผงะ
“ในฐานะทายาทของตระกูลคล็อค เจ้าจะต้องเข้าสู่หนทางเวทมนตร์ตั้งแต่อายุ 5 ขวบเริ่มศึกษาเวทมนตร์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แล้วก็สมัครเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์ตอนอายุ 14 แล้วก็เรียนจบตอนอายุ 20 ไม่ใช่เหรอ”
อมอสมองด้วยสายตาดุดันแล้วพูดสวนเข้าใส่ “แต่เจ้ากลับมาบอกว่าตัวเองพึ่งจะเข้าสู่หนทางแห่งเวทมนตร์ได้เพียงแค่ครึ่งปีกว่าๆงั้นเหรอ?! เจ้ามันพูดโป้ปดโกหกกันนี่ ไอ้ลูกหลานไม่รักดีเอ้ย กล้าดียังไงมาหลอกข้า โอหังซะจริงๆ”
“เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวๆๆๆ ตระกูลคล็อคงั้นเหรอ” เหมิงเหล่ยรีบขัดเสียงต่อว่าของอมอส แล้วพูด “คือท่านประธาน ท่านคงเข้าใจผิดแล้วแน่ๆ ข้าไม่ใช่คนของตระกูลคล็อค จะว่าไปปแล้ว ตระกูลคล็อคคือตระกูลไหนกันละท่าน ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อของตระกูลนั้นในอาณาจักรมังกรไฟเลยนะ?!”
เหมิงเหล่ยเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันเพราะว่าเขาเองก็ไม่ค่อยรู้จักตระกูลต่างในอาณาจักรมังกรไฟ
“ยังจะพูดโกหกอีกอย่างงั้นเหรอ?!” อมอสขึ้นเสียง “ตระกูลคล็อค คือตระกูลที่ข้าสร้างขั้นมากับมือเป็นตระกูลที่รวบรวมเหล่าผู้มีพรสวรรค์ และอัจฉริยะนับไม่ถ้วนและเป็นตระกูลอันดับต้นๆ 1 ใน สามของราชอาณาจักรมังกรไฟเชียวนะ แต่เจ้ากล้าปากดีมาบอกว่าตระกูลของข้าไม่มีตัวตนงั้นเหรอ กล้าดีเกินไปแล้วนะ?!”
“เอาละๆ เข้าใจแล้ว”
เหมิงเหล่ยรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาไม่พูดต่อแต่เขาหยิบเอาโทรศัพท์เวทมนตร์ออกมา แล้วโทรหาฮาร์ตทันที
“เจ้าจะทําอะไรน่ะ” อมอสมองเขม็ง
“ใจเย็นๆแล้วรอซักหน่อยนะท่านประธาน
หลังจากนั้นซักพัก หน้าอ้วนๆของฮาร์ตก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ เขาหาวหลายรอบพร้อมขยี้ตาด้วยความงัวเงีย เห็นได้ชัดเลยว่าเขาพึ่งตื่นจากฝันหวานๆมา
“พี่ชาย โทรมามีเรื่องอะไรดึกดื่นป่านนี้เนี่ย” ฮาร์ตหาวซ้ําใส่ “เจ้าไม่รู้เหรอว่าโทรมารบกวนคนตอนจะนอนน่ะมันเสียมารยาทมากนะ”
“ขอโทษทีนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวมื้อใหญ่เลยตอนกลับไปดีไหม” หลังจากที่เหมิงเหล่ยขอโทษแล้วเขาก็เข้าเรื่องถามฮาร์ตทันที
“ฮาร์ต คือ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม เจ้าพอจะรู้จักตระกูลที่ชื่อ คล็อค ไหม”
“ตระกูลคล็อคเหรอ”ฮาร์ตส่ายหัว “ไม่รู้จักอะ”
เหมิงเหลี่ยมองหน้าอมอส ก่อนจะพยายาทวนความจําของฮาร์ต “คิดให้ดีอีกรอบนะ ข้าได้ยินว่าตระกูลนั้นติดอันดับ 1 ใน สามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรด้วยตระกูลถูกสร้างขึ้นโดย อมอส คล็อค ประธานวิทยาลัยคนที่ 2 วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟน่ะ”
“ตระกูลที่ถูกสร้างโดยประธานคนที่ 2 เหรอ” ฮาร์ตขยี้ตาแล้วพูดแห้งๆ “พี่ชาย เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ นั้นมันเมื่อ หมื่นกว่าปีที่แล้วโน้นนนนนนเลยนะ จะไปอยู่ถึงตอนนี้ ได้ยังไง ตระกูลนั้นมันสูญหายไปนานแล้ว!!”
“สูญหายเหรอ?”
“ใช่ หายไปแล้วแน่ๆ ตระกูลนั้นไม่ได้มีอยู่ในอาณาจักรตั้งนานแล้ว อย่าว่าแต่ติดอันดับ 3 ตระกูลเลย!”
MANGA DISCUSSION