นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็บ…
บทที่ 66 เหนือกว่าระดับเซียนเทพอาวุธเทวะ
ภายในบ่อลาวาร้อนละอุ ควันดาลอยออกมา ฟองลาวาเดือดๆแตกไปมาบนพื้นผิว
อากาศในนี้มันร้อนและแห้งผาก แถมยังมีออกซิเจนที่ต่า ไม่มีสัตว์ปรกติที่ไหนมา อยู่แถวนี้หรอกที่นี้มันเป็นเหมือนสถานที่ต้องห้าม เป็นพื้นที่แห่งความตายเป็นนรกบนดินเลยก็ว่าได้
“เอาไงดีละเรา จะทํายังไงดีวะเนี่ย”
เหมิงเหล่ยเดินวนเป็นวงกลมพยายามหาทาง ซากของมังกรไฟนั้นมีขนาดใหญ่ เกินไปพื้นที่เก็บของในแหวนมิติไม่มีทางพอแน่นอน นั้นหมายความว่าการจะเอามันออกไปทั้งแบบนี้แล้วขายทั้งตัวคงไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
และเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะกลับออกไปมือเปล่าด้วย เขาเลยพยายามวางแผนที่จะดึงเอาบางอย่างที่มีค่ามาจากตัวของมังกร อย่างเช่นเกล็ดมังกร แกนมังกรเขามังกร และของอื่นๆที่ขายได้ราคาดี
“แต่ปัญหาก็คือ จะไปถอนมันออกมายังไง”
เหมิงเหล่ยชายตาไปมองหอกสีดาที่ดูเหมือนจะเป็นอาวุธสังหาร มันเสียบคาอยู่บน หัวของมังกรไฟระดับเซียนเทพแล้วทะลุออกมายันคอของมัน
หอกนั้น มันเสียบทะลุมังกรไฟระดับเซียนเทพจนตาย
“ส่วนหัวเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของมังกรไฟด้วย แต่หอกนั้นกลับสามารถแทงทะลุเข้าไปได้งั้นเหรอหอกนี้…”
สายตาลังเลของเหมิงเหล่ยปรากฏขึ้นมา เขากระโดดถีบตัวเองขึ้นจากพื้นแล้วขึ้นไปยืนบนหัวของมังกรไฟ เข้าใกล้อาวุธสังหารมังกร
สีของมันเป็นสีดาด้านเหมือนหมึก หอกนั้นหนาพอๆกับแขนของผู้ใหญ่ มีอักขระเวทมมนตร์สลักเอาไว้บนหอกมากมาย หอกนี้ทําจากวัสดุปริศนาอีกด้วย
“มันดูเรียบง่าย ดูไม่โดดเด่น แต่แฝงไปด้วยพลังมากขนาดเสียบหัวของมังกรไฟ ได้หมายความว่ามันต้องคมมากๆเลยนะ ถ้าฉันดึงมันออกมาได้ ฉันก็คงจะแงะของจากมังกรนี้ได้บ้างละ”
เหมิ่งเหล่ยจับหอกสีดาแน่นก่อนจะดึง
“อะ…”
มันไม่ขยับเลย
เขาออกแรงดึงอีกรอบแต่หอกนี้มันก็ยังไม่ขยับเหมือนเดิม ถึงเขาจะออกแรงดึงสุดตัวกัดฟันดึงยังไงมันก็ยังไม่แม้แต่จะกระดิกแม้แต่นิดเดียว
“ช…บ้าเอ้ย!!”
เหมิงเหล่ยออกแรงเยอะไปจนล้มกันกระแทกหัวของมังกร เขาสบถออกมา “หอก บ้าหอกบออะไรวะเนี่ยถามจริงเหอะ หนักอะไรขนาดนั้นวะ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ซิ ด้วยกําลังระดับ 7 ของฉัน มันไม่ควรจะมีหอกที่ฉันถึงไม่ได้ไม่ใช่เหรอ หรือว่ามันติด อยู่กับหัวของมังกรไฟกันนะ… ไม่ซิ อย่าพึ่งยอมแพ้ เจ้านี้เป็นความหวังเดียวที่จะแยก ส่วนมังกรไฟได้เลยนะ”
เหมิงเหล่ยกัดฟันแล้วออกแรงดึงซ้ําแล้วซ้ําเล่าเหมิงเหล่ยใช้แรงทั้งหมดที่เขามีก็ แล้ว แต่เขาก็ยังดึงหอกสีดาออกมาจากหัวของมังกรไฟไม่ได้อยู่ดี มันไม่ขยับเลยซะด้วยซ้ํา
“โอ้ยย เหนื่อยชิบ!!!” เหมิงเหล่ยหอบหนัก เขาลองใช้อุปกรณ์ทุกอย่างมาช่วยดึง แล้วแม้แต่เอาค้อนมาทุบ หอกนี้ก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อย
บ้าเอ๊ยหงุดหงิดชิบหาย นี้ฉันเสียเวลาดึงหอกบ้านมาครึ่งวันละนะทําไมมันถึงไม่ขยับซักกะนิดเลยวะ
“ใครใช้ให้เจ้าดึงหอกสังหารเทพแบบนั้นกันเล่า!”
ในตอนนั้นเอง เสียงของชายแก่ก็ดังขึ้นมาในหูของเหมิงเหล่ย
“เห้ย ใครวะ?!”
เหมิงเหล่ยสะดุ้งตัวสปริงออกจากพื้นแล้วตั้งท่าพร้อมสู้ทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดระแวง เขาตกใจที่ใครบางคนอยู่ที่นี่กับเขาด้วยทั้งๆที่เขาไม่รู้สึกถึงตัวตนของคนๆนั้นเลย
เขาประมาทเกินไปเอง ถ้าเกิดอีกฝ่ายมาร้ายละก็ เขาที่อยู่ในบ่อลาวาแบบนี้ก็คง… เหมิงเหล่ยเสียวสันหลังวาบ
“ใจเย็นก่อน ข้าไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์ร้าย”
ควันสีเขียวโผล่ขึ้นมาจากหอกสีดําก่อนจะลอยแล้วก็ตัวขึ้นมาในอากาศ กลายเป็นรูปร่างมนุษย์ ไม่ซิถ้าจะเรียกให้ถูกต้องบอกว่ากลายเป็นรูปร่างของครึ่งมังกรมากกว่า
เขาแต่งกายในชุมผ้าคลุมยาวสีแดงเพลิง มีผมสีแดงยาวกับหนวดสีแดง หน้าตาดใจดีไม่มีภัยอะไร พร้อมด้วยเขาสีแดงคู่นึ่งบนหัว
“จ.จ.เจ้าเป็นใครกัน” เหมิงเหล่ยถามด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ เขาจ้องมองชายแก่ที่มาในสภาพควันลอยอยู่เหนือหัวมังกรตาเขม็ง
“ข้าคือใครอย่างงั้นเหรอ”
ชายแก่ผมแดงหัวเราะก่อนจะสางหนวดของตัวเอง “ข้าคือประธานแห่งวิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ ผู้นําสภาจอมเวทระดับเซียนเทพแห่งอาณาจักรมังกรไฟ นามของ ข้า คือ อมอส คล็อค เจ้าหนู เจ้าน่าจะเคยได้ยินนามของข้าผู้นี้มาก่อนใช่ไหม”
“ประธานแห่งวิทยาลัยมังกรไฟงั้นเหรอ??”
เหมิงเหล่ยพึมพําเบา ๆ อย่างอื่น ๆ “ประธานวิทยาลัยตอนนี้คือเฟรด ฟริท นี้ เคยเห็นอยู่ในตาราอยู่เขาดูไม่เหมือนกับท่า….เดี๋ยวก่อนนะ!!! อมอส คล็อค งั้นเหรอ!!!” เหมิงเหล่ยตกใจ “ท่านบอกว่าท่านคือ อมอส คลือคงั้นเหรอ?!”
“ห์นี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักข้าซึนะ” ชายผมแดงยิ้มอย่างพอใจ “ถ้าเช่นนั้นข้าก็สบายใจแล้วละ”
เหมิงเหลี่ยมองชายแก่ตรงหน้าแล้วพูด “อมอส คล็อค ประธานคนที่ 2 แห่งวิทยา ลัยมังกรไฟ แต่เขาตายไปตั้ง 2 หมื่นกว่าปีแล้วนี่ ท่านมาบอกว่าท่านคืออมอสคล็อค เป็นไปได้ยังไงกัน”
อมอสคล็อค ประธานคนที่ 2 แห่งวิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ ครึ่งมังกรระดับเซียนเทพสุดแกร่งผู้เชี่ยวชาญ ทั้งธาตุน้ําและธาตุไฟ เขาเป็นครึ่งมังกรคนแรกที่สําเร็จและเชี่ยวชาญวิชาเวทวจนะมังกร อีกทั้งเขายังมากความสามารถด้านการวิจัยเวท มนตร์อีกด้วย เขาได้ประดิษฐ์ เวทมนตร์ธาตุน้ําและธาตุไฟทั้งหมด 189 อาคมแถม ยังมีผลงานโดดเด่นในงานวิจัยเวทธาตุน้ําและไฟอีกด้วย
เหมิงเหล่ยเคยอ่านผลงานของเขา บนรูปปั้นที่จัตุรัสมังกรไฟ เกียรติประวัติอันโดดเด่นของอมอสคล็อค ประธานคนที่ 2 แห่งวิทยาลัยมังกรไฟถูกสลักจารึกไว้บนแผ่ นหิน และยังติดแน่นอยู่ในความทรงจําของเหมิงเหลยตอนนี้ และเขาเองก็ชื่นชมเขามากด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาก็คือ อมอสคล็อค ได้หายตัวไปอย่าลึกลับหลังจากที่ลงจากตําแหน่งประธานวิทยาลัยไปแล้ว ไม่มีใครได้ข่าวเขาอีกเลยนับจากนั้น ทุกคนเลยคิดว่าเขาตายไปแล้ว
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ เวลามันก็ผ่านมาร่วม 2 หมื่นปีแล้ว
“ข้าตายมากว่า 2 หมื่นปีแล้วอย่างงั้นเหรอเนี่ย?” ชายแก่ลิ้งเล็กน้อยแล้วถอนหาย ใจก่อนจะพูด “ข้าไม่เคยคิดเลยนะเนี่ยว่าเวลามันจะผ่านไป 2 หมื่นปีเร็วขนาดนี้ เวลา และ ที่ไม่เคยคอยใครจริงๆ”
เหมิงเหล่ยยังคงจ้องเขม่นชายแก่คนนั้นไม่ลดการ์ดตัวเองลงแม้แต่น้อย
“ใจเย็นได้แล้ว เจ้าหนู ข้าคืออมอสคล็อค ตัวจริงเสียงจริงนี่ละ”
อมอสพูดต่อ “ตอนนั้นข้าติดอยู่ในคอคอดของระดับเซียนเทพอยู่นานหลายปี ข้าสามารถพัฒนาไปต่อมากกว่านี้ได้ ข้าเลยลาออกจากตําแหน่งประธานวิทยาลัยแล้วออกเดินทางรอบทวีปเพื่อหนทางในการพัฒนาตัวเอง และในที่สุด ความพยายามของข้าก็ไม่เสียเปล่า ข้าได้ค้นพบโอกาสที่จะได้พัฒนาไปอีกขั้น…ข้าได้ค้นพบภูเขาไฟแห่งนี้เข้าในป่าสัตว์วิเศษ”
“แต่ในช่วงสุดท้ายของการพัฒนาของข้า จู่ๆก็มีหอกสีดาบินมาจากไหนก็ไม่รู้ ฆ่าข้าตายคาที่แล้วดูดกลืนวิญญาณกักขังข้าไว้ในหอกเล่มนี้”
อมอสดไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน ไม่โกรธ ไม่เกลียดชังใดๆทั้งสิ้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่อง นี้เขาพูดด้วยความใจเย็นและสงบมาก เหมือนกับว่าเขาพูดถึงความตายของตัวเองเป็นเรื่องจิ๊บจอยธรรมดา
เพราะแบบนั้นทําให้เหมิงเหล่ยเริ่มหวั่นไหว
เขาโดนใครบางคนฆ่าตายคาที่แบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา แต่เขากลับยังคงใจเย็นได้ขนาดนี้ เป็นจิตใจที่แข็งแกร่งเสียจริงๆ
แต่แน่นอนว่าเขายังไม่ไว้วางใจและตัดความคิดที่ว่าอมอสนั้นโกหกออกไปอยู่ดี
ถึงอย่างนั้น เหมิงเหล่ยก็ไม่ได้บอกไปแบบนั้น เขาตามน้ําชายแก่แล้วถาม “หมายความว่าท่านไม่รู้เหรอว่าใครเป็นคนฆ่าท่านกันแน่”
“ใช่แล้ว” อมอส พยักหน้าเล็กน้อย “ข้าโดนผนึกอยู่ในหอกเล่มนี้ไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันกลายเป็นตัวตน เป็นผีก็ไม่ใช่ จะยังมีชีวิตก็ไม่เชิง ข้าเองก็เคยมีความโกรธ ความโศกความแค้นมาก่อน…แต่หลังจากเวลาผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว ความรู้สึกพวกนั้นมันก็หายไปจนหมดสิ้นแล้ว ใช่แล้ว ข้าโดนฆ่าตาย แถมข้ายังไม่รู้ด้วยว่าใครทําข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะแค้นใครดีเหมือนกัน”
“เป็นใครก็หัวเสียทั้งนั้นละเจอแบบนั้น” เหมิงเหล่ยส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “แต่ เจ้าของหอกเล่มนี้ ถึงขนาดฆ่าท่านได้เนี่ยความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็คงไม่เป็น 2 รองจากใครแน่ๆ บางทีการไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใครก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้นะ”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน” อมอสยิ้ม แล้วพูด “วัสดุที่สร้างหอกเล่มนี้ขึ้นมาไม่ใช่สิ่งที่ถูกพบได้ในแดนสวรรค์ วงแหวนเวทที่สลักบนหอกเองก็เต็มไปด้วยพลังมนต์ ขลังมากมายเกินกว่าระดับเซียนเทพซะอีก ข้าเลยสันนิฐานว่า เจ้าของหอกทมิฬเล่มนี้อาจจะเป็นตัวตนที่สูงกว่าระดับเซียนเทพเป็นแน่ ข้าเองเลยคิดเสียว่าตัวเองโชคร้ายที่โดนเขาฆ่าตาย”
“งั้นหมายความว่า หอกเล่มนี้ คือสมบัติล้ําค่าเลยน่ะซิ”
“เกินกว่าคําว่าล้ําค่าอีกเจ้าหน หอกเล่มนี้น่ะ คืออาวุธเทวะตั้งหาก”
MANGA DISCUSSION