นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็บ…
บทที่ 65 ไปขุดแกนมังกรแล้วก็เก็บข์มังกรกลับมาด้วย
บทที่ 65 ไปขุดแกนมังกรแล้วก็เก็บขี้มังกรกลับมาด้วย
ตกใจ
สับสน
และไม่เชื่อ
ความรู้สึกหลากหลายผสมปนเปอยู่ในใจของเขา
มังกรไฟระดับเซียนเทพตัวตนที่แข็งแกร่ง มากไปด้วยพลัง อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารทั้งปวงสิ่งมีชีวิตที่พอจะสได้นั้นนับด้วยนิ้วได้แต่ทําไมมันถึงยังถูกฆ่าตายแบบนี้ละ
แล้วพลังของสิ่งที่ฆ่ามันจะขนาดไหน
“ในแดนสวรรค์คงมีปปลาใหญ่อยู่เยอะเลยซินะ เห้อ ฉันเองก็คงต้องเก่งขึ้นให้ได้ไวๆซะแล้วละ”
เหมิงเหล่ยปรับความคิดของตัวเองก่อนที่จะมองไปที่ซากของมังกรไฟบนเกาะกลางภูเขาไฟเล็กๆจากนั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้ ว่าค่าของซากศพมังกรไฟระดับเซียนเทพต้องมีค่ามหาศาลเกินกว่าที่จะฝันถึงแน่ๆในจักรวรรดิเทพมังกรเกล็ดมังกรแค่ อันเดียวหรือขี่มังกรก็มีค่าแลกเป็นเงินได้มหาศาล แถมมันยังเป็นเกล็ดหรือของมังกรระดับเซียนเทพด้วย
แกนมังกรเองก็ประเมินค่าไม่ได้ เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด แม้แต่ราคาของแกนสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ยังราคาปาเข้าไปมากกว่า 10 ล้านเลยแกนของมังกรระดับเซียนเทพจะขนาดไหน
“แถม ว่ากันว่าเผ่าพันธุ์มังกรนั้นรักในของแวววาวสวยงามด้วยมันชอบนอนกกตัวเองอยู่ในรังที่สร้างขึ้นมาจากเหรียญทองและเพรชพลอยเพราะงั้นมังกรทุกตัวจึงเป็นเหมือนขุมทรัพย์เดินได้”
ในจังหวะนั้นเอง เหมิงเหล่ยก็ฟื้นสติกลับคืนมา ขุมทรัพย์เดินได้งั้นเหรอถ้าเป็นงั้นจริงตัวของมันเองก็ต้องแพงมากแน่ๆ
“ฉันต้องลงไปตรงนั้น ฉันต้องไปให้ได้!”
ยิ่งเหมิงเหล่ยคิดเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้นเขาแทบจะอยากโดดลงไปในบ่อลาวาแล้วเดินกลับขึ้นมาพร้อมกับซากมังกรไฟระดับเซียนเทพขอดูเกล็ดมังกรเหมือนขอดเกล็ดปลาแล้วสวนตูดเอาขี่มังกรออกมาขายด้วย
แต่ปัญหาคือ เขาจะลงไปยังไงมากกว่า
เหมิงเหล่ยลองโยนหินลงไปในหลุมที่เขาขุดแล้วเขาก็ค้นพบว่ามันเหมือนมีกําแพงที่มองไม่เห็นกันไม่ให้หินหล่นลงไปในหลุมได้และกําแพงที่ว่านั้นก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่กั้นไม่ให้น้ำไหลลงไปในหลุมนั้นเช่นกัน
“กาแพงเวทมนตร์งั้นเหรอ?”
เหมิงเหลี่ยขมวดคิ้วเข้าหากัน กําแพงเวทมนตร์นั้นเป็นหนึ่งในเวทมนตร์ประเภทป้องกันมันทําหน้าที่ได้ตามชื่อของมันกลายเป็นกําแพงที่ไม่สามารถผ่านได้
แต่สิ่งที่ต่างจากกาแพงปรกตินั้นคือเรื่องขนาดและรูปร่างของกําแพพงมากกว่า
“ถ้ามีก่าแพงเวทมนตร์อยู่แบบนี้แล้วฉันจะลงไปยังไงดีละ”
เหมิงเหล่ยกังวล การจะก้าวข้ามก่าแพงเวทมนตร์ไปได้นั้น มี 2 วิธี 1 คือต้องเป็นจอมเวทที่ได้รับอนุญาตถึงจะผ่านกาแพงไปได้ หรือไม่ก็ต้องใช้กําลังทําลายก่าแพงนั้น ทิ้งไปซะ มีแค่ 2 วิธีนี้เท่านั้นไม่มีวิธีอื่น
“ถ้าเกิดมังกรไฟระดับเซียนเทพนั้นเป็นคนตั้งกําแพงเวทมนตร์นี้ขึ้นมาแล้วฉันที่ยัง เป็นแค่ระดับนี้จะไปทําลายกําแพงได้ไงละเนี่ย”
ถึงเหมิงเหล่ยจะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ยังลองโจมตีเข้าท่าแพงนั้นอยู่ดี
ก็ เผื่อว่ามันจะพังนะ
เหมิงเหล่ยใช้เวทดิน รวมหินดินทรายทั้งหมดรอบบริเวณมาสร้างเป็นโกเลมหินขนาด10เมตร มันคือเวทธาตุดินระดับ 6 ยักษ์หนองน้ำ
ตู้ม!!!
โกเลมง่างหมัดก่อนจะต่อยเข้าใส่กาแพงเวทมนตร์อย่างแรง แรงกระแทกทําให้เกิดเสียงดังลั่นแต่กาแพงเวทมนตร์ก็ยังคงอยู่ดีมีสุขส่วนโกเลมหินนั้นโดนแรงกระแทกสวนกลับจนตัวแตกไปเรียบร้อย
“อย่างที่คิดจริงๆด้วย แข็งเป็นหินเลย”
เหมิงเหลยเปลี่ยนเวทมนตร์ไปใช้เวทมนตร์ธาตุดินที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาจะร่ายได้อุกกาบาตหินทันทีที่เขาร่ายธาตุดินก็เริ่มก่อตัวขึ้นบนฟ้าก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างตามค่าสั่งของเหมิงเหล่ยจากก้อนหินกลายเป็นเหมือนสว่าน
“อุกกาบาตหิน..เอาเลย!!!”
เหมิงเหล่ยพูดออกคําสั่งเบาๆก่อนที่อุกกาบาตหินจะร่วงหล่นลงมาจากฟ้าพุ่งทะลุพื้นน้ำก่อนที่จะลงมากระแทกอย่างรุนแรงกับกาแพงเวทมนตร์
ตู้ม!!!!
แรงกระแทกอย่างรุนแรงของอุกกาบาต ส่งผลให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ทําให้น้ำและทุกอย่างรอบๆจดปะทะกระจัดกระจายไปทั่วทั้งเศษดินเศษหินใต้บ่อน้ำรวมไปถึงเหมิ่งเหล่ยเองก็ด้วย
“อีก!!”
เหมิงเหล่ยกระเด็นกลิ้งออกมาไกลพอสมควร ก่อนที่เขาจะก้มลงกลับไปมองที่กําแพงเวทมนตร์ แรงปะทะนั้นทําให้ดินทั้งหมดหายไปเผยให้เห็นกําแพงเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่แม้แต่เวทระดับ 7 อย่างอุกกาบาตหินก็ไม่สามารถทําอะไรได้เลยแล้วต้องทํายังไงละถึงจะทําลายก่าแพงนั้นได้
เวทสายฟ้าเหรอ
เวทไฟเหรอ
หรือหมัดรุ่นๆ
“มันอยู่ใต้บ่อน้ำ เพราะงั้นผลของเวทมนตร์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเวทสายฟ้าหรือเวทไฟจะลดพลังลงมาก ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีแค่แรงกายล้วนๆเท่านั้นละ
พอคิดได้แบบนั้นเหมิงเหล่ยก็แปลงร่างตัวเองเป็นครั้งมังกร เขาใช้เวทดินสร้างกําแพงหินขึ้นมารอบตัวของเขาเพื่อกันน้ำในบ่อออกไปให้หมดเหลือเพียงช่องโล่งๆระหว่างเขากับกําแพงเวทมนตร์จากนั้นเขาก็กระโดดสูงขึ้นฟ้าก่อนจะทิ้งหมัดลงมาด้วยความเร็วสูง
“ขอละแตกที่เถอะ!!”
ร่างกายของเหมิงเหลี่ยเดิมทีนั้นเป็นระดับนักรบระดับ 7 หลังจากที่เขากลายร่างเป็นมังกรไฟแล้วพละกําลังของเขาก็จะเสริมเพิ่มขึ้นไปอีกแถมยังบวกแรงโน้มถ่วงของโลกอีกหมัดของเขาในตอนนี้เรียกได้ว่ามีพลังมหาศาลขนาดที่ว่าแม้แต่สัตว์เวทมนตร์ระดับ 8 ถ้ารับหมัดนี้เข้าไปจังๆละก็คงได้ใส้แตกแน่ๆ
นี้เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เหมิงเหล่ยจะทําได้ในตอนนี้แล้ว
“ถ้าระดับนี้ยังไม่แตกอีก ก็คงทําอะไรต่อไปไม่ได้แล้วละ”
เหมิงเหลี่ยมุ่งมั่นมาก สายตาของเขาพุ่งเป้าไปที่กําแพงเวทมนตร์แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทันทีที่หมัดของเขาผสานเข้ากับกาแพงเวทมนตร์กำแพงก็เกิดแรงสั่นสะเทือนบางอย่างที่ทําให้จากก่าแพงที่แข็งเหมือนเหล็กกล้ากลายเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ละลายอ่อนยวบเหมือนเนยโดนไฟ
ฟีด!!!
หมัดของเหมิงเหล่ยทะลุผ่านก่าแพงเวทมนตร์ ตามมาด้วยทั้งตัวของเขาก็ทะลุผ่านกําแพงเวทมนตร์มาได้
เหมือนกับยิงธนูจ่อกระดาษเปียกน้ำ เหมิงเหล่ยเหมือนกับว่าต่อยกระดาษโดยที่ไม่มีอะไรกันอยู่เลย
“เชียอะไรวะเนี่ย!!
!”
เหมิงเหล่ยงงตาแตก เขาเสริมพลังของหมัดตัวเองมากเกินไปใช้ทุกอย่างจนทําให้หมัดนี้มันแรงที่สุดที่ทําได้แต่สุดท้าย เขากลับไม่ได้ต่อยอะไรทั้งนั้นแถมยังผ่านมาได้เหมือนไม่มีอะไรกันอยู่
แล้วเขาจะหยุดตัวเองยังไงดีละ
ตอนนี้เหมิงเหล่ยกําลังพุ่งเข้าใส่บ่อภูเขาไฟด้วยความเร็วสูงเหมือนอุกกาบาตพุ่งชนโลกของจริง คลื่นความร้อนซัดเข้าหน้าของเขาอย่างรุนแรงซะจนเหมิงเหล่ยหน้าซีดด้วยความกลัวอุณหภูมิของลาวานั้นพุ่งสูงเกิน 1000 องศาเซลเซียสอยู่แล้วถ้าตกลงไปละก็ร่างน้อยๆของเขาคงโดนหลอมละลายทันทีแน่ถึงแม้ว่าจะมีสายเลือดมังกรเพลิงกับมารเพลิงอยู่ด้วยก็คงรับไม่ไหวอยู่ดีอุณหภูมิมันสูงเกินไป
“ลูกบอลหิน!!”
ในช่วงเวลาเฉียดตาย เหมิงเหล่ยร่ายเวทลูกบอลหินที่เป็นเวทระดับต่าที่สุดของธาตุดินขึ้นมารองรับแรงกระแทกของหมัดเขาขึ้นมาหลาย10ก้อนเขาพยายามลดความเร็วของตัวเองให้ได้มากที่สุด ซึ่งกว่าเขาจะหยุดหมัดสุดแรงของตัวเองได้ขาของเขาก็แทบจะไปจ่ออยู่ผิวลาวาแล้ว
“ฮ่า!!! เฮ้ออ!!! ฮ่า!!!”
พอรู้ตัวว่าร่างของเขาหยุดลงแล้ว เหมิงเหล่ยก็หอบหายใจออกมาแรงๆเมื่อกี้มันโคตรอันตรายเลยถ้าเกิดหยุดตัวเองไม่ทันแล้วหล่นลงไปในบ่อลาวาละก็ไม่อยากจะคิดสภาพตัวเองเลย
หลังจากนั้นเหมิงเหล่ยก็ควบคุมลูกบอลหินให้ยกตัวเขาขึ้นก่อนที่จะพาตัวเองไปที่เกาะกลางของบ่อลาวา ในจังหวะที่เขาเข้าใกล้เกาะนั้นเองคลื่นแรงกดดันมหาศาลก็พุ่งเข้าซัดตัวของเขาจนเหมิงเหล่ยเกือบจะได้คุกเข่าลงกับพื้นแรงกดดันมันมหาศาลขนาดที่ว่าแค่หายใจยังล่าบาย
“น่ากลัว…”
“รุนแรงเกินไปแล้ว นี่ขนาดแค่ซากศพยังสร้างแรงกดดันได้มากขนาดนี้ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่จะน่ากลัวขนาดไหนกัน”
เหมิงเหล่ยปาดเหงื่อที่คิ้วของตัวเองก่อนจะพยายามดึงตัวเองตั้งตรงอีกครั้งเขาจ้องมองและสังเกตซากของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่นอนอยู่ด้านหน้าของเขา
ขนาดตัวของมันใหญ่มากขนาดแค่เกล็ดก็พอๆกับตัวของเขา
เมื่อยืนเทียบขนาดตัวของมัน ก็เหมือนกับไปยืนอยู่ที่ใต้กําแพงเมืองใหญ่
ร่างกายสีแดงเข็มของมันหนาและแข็งมา เกล็ดของมันแวววาวเหมือนโลหะพอแตะแล้วเหมือนแตะเหล็กกล้าเคาะเบาๆแล้วไม่เกิดเสียงกลวงเหมือนกับว่ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีเลือดมีเนื้อจริงๆ
“แข็งแกร่ง ใหญ่โต และร้อนแรง นี้หน่ะเหรอคือมังกรไฟ”
เหมิงเหล่ยเดาะลิ้นด้วยความชื่นชม เขาเดินวนไปรอบๆมังกรไฟแล้วสังเกตดูอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้เขาทําได้แค่เห็นสิ่งมีชีวิตแบบนี้ผ่านทางรูปปั้นบนกําแพงหรือในต่าราเขาไม่เคยได้มีโอกาสเห็นตัวเป็นๆแบบนี้มาก่อน
หลังจากที่สังเกตดูรอบแล้ว เหมิงเหล่ยก็พอจะเข้าใจพลังของมังกรไฟมากขึ้นแล้วก็เข้าใจทันทีว่าทําไมสิ่งมีชีวิตแบบนี้ถึงยืนอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตอื่นทั้งปวง
“แค่ร่างกายแบบนี้ ต่อให้อยากอ่อนก็คงทําไม่ได้ซินะ แต่ ถึงจะแกร่งจะแข็งยังไงที่ฉันต้องทําคือขุดเอาแกนมังกรกับขอดเกล็ด….แล้วก็ฉันต้องเก็บขี่มังกรด้วยจริงๆเห
รอ”
MANGA DISCUSSION