Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก - ตอนที่ 63 ภาระหนักอึ้งหนทางยังอีกยาวไกล
- Home
- Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก
- ตอนที่ 63 ภาระหนักอึ้งหนทางยังอีกยาวไกล
บทที่ 63 ภาระหนักอึ้งหนทางยังอีกยาวไกล
เจ้าของ เหมิงเหล่ย
เผ่าพันธุ์ มนุษย์ (มีสายเลือดมังกรและสายเลือดมารเพลิง)
ความมั่งคั่ง 1,007,835 เหรียญทอง
ค่าร่างกายนักรบระดับ 7 (15123/50000)
พลังวิญญาณจอมเวทระดับ 7(10128/50000)
พลังเวทจอมเวทระดับ 7(10032/50000)
เวทมนตร์เยอะมาก
วิชาออร่าสงครามวิชามังกรไฟ
ทักษะการต่อสู้เยอะมาก
“ค่าพลังเวทของฉันมันเพิ่มขึ้นเยอะมากถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะมีน้อยสุดแต่พลังทําลายของมันตอนนี้มีมหาศาลค่าพลังวิญญาณก็เพิ่มขึ้นไปอีกจอมเวทระดับ 7 หุหุตอนนี้ฉันได้เป็นจอมเวทระดับ 7 แล้ว 555 จอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ยังไงละ”
เหมิงเหล่ยตื่นเต้นมากตอนที่เขานั่งดูค่าความสามารถของตัวเอง
การฝึกเวทมนตร์นั้นจําเป็นจะต้องขยันหมั่นเพียรทําจิตสมาธิและค่อยๆเพิ่มพูนวิชาไปอย่างช้าๆทุกวันทุกคืน มันยากกว่าการฝึกออร่าสงครามของนักรบมาก
แต่ด้วยความที่กระบวนการร่ายต่างๆ ในการใช้เวทมันกินเวลาเยอะเพราะงันจอมเวทก่อนระดับ 7 จึงมีพลังในต่อสู้ที่จํากัดพวกเขาไม่ค่อยต่างอะไรจากนักรบเท่าไรแต่เมื่อไรก็ตามที่จอมเวทคนนั้นกลายเป็นระดับ 7 ได้ สถานการณ์จะต่างออกไปโดยสิ้นเชิงระดับ 7 นั้นสามารถร่ายเวทระดับ 3 แบบฉับพพลันได้แถมยังสามารถร่ายเวทขั้นสูงที่ซับซ้อนได้อีก ทําให้ความเสียหายที่จอมเวททําได้มีมากกว่านักรบในระดับ เท่ากันมาก
และเพราะแบบนั้นทําให้จอมเวทระดับ 7 มีค่ามากกว่านักรบระดับ 7 มากทางอาณาจักรเองเลยตบรางวัลให้กับจอมเวทระดับ 7 ให้เป็นขุนนางหรือมีที่ดินเป็นของตัวเองเพื่อสร้างบุญคุณไว้เรียกใช้งานยามศึกสงคราม
ในขณะที่นักรบระดับ 7 ยังไม่ได้อะไรเลย
สิทธิพิเศษต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ถ้าฉันกลับไปเมืองหลวงตอนนี้ ถ้าโชคดี ใครจะไปรู้ บางทีฉันอาจจะได้ยศเป็นบารอนเลยก็ได้ 5555”
เหมิงเหล่ยพอใจกับผลงานในวันนี้มาก เงิน 570000 กับสมบัติอีกมากมายรวมถึงอุปกรณ์มิติที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 30 ล้าน นี้เรียกว่าบุญหล่นทับของจริงการมาที่ป่าสัตว์วิเศษรอบนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว
“ยังไงก็เถอะ ถ้าฉันอยากจะพัฒนาต่อ ก็คงต้องหาเงินเพิ่มมากกว่านี้อยู่ดี”
ค่าร่างกายยังขาดอีก 34877 แต้ม ถ้าจะไปให้ถึงระดับ 8 ก็ต้องใช้เงินประมาณ 3แสน 4 ค่าวิญญาณกับค่าพลังเวทเองก็ยังต้องการอีกอย่างละ 3แสน 9 รวมๆแล้วถ้าอยากจะไปให้ถึงระดับ 8 ทั้งหมดจริงๆต้องใช้เงินรวม 1,120,000 เหรียญทอง
เหมิงเหล่ยตอนนี้พึ่งมีอยู่ล้านเดียวยังไม่พอเลย
แค่เล้านเดียวมันไม่ใช่ปัญหาหรอก เหมิงเหล่ยสามารถหาเงินแค่นั้นได้โดยการขายแกนเวทมนตร์เพรชพลอยของมีค่าทั้งหมดที่เขาเก็บมาได้
แต่ปัญหาหลักก็คือ หลังจากนั้นแล้วจะเอายังไงต่อ
ขนาดจากระดับ 7 ไประดับ 8 ยังต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ แล้วถ้าระดับ 8 ไประดับ 9 ละ แล้วระดับ 9 ไประดับเซียนเทพละ ต้องใช้เงินเท่าไรกัน
10,000,000 เหรอ ?
50,000,000 เหรอ ?
หรือมากกว่านั้น
เหมิงเหล่ยเองก็ตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ๆคือ ยิ่งพัฒนาไปมากเท่าไรก็ยิ่งต้องการมากเท่านั้นตัวเลขจํานวนมันอาจจะเกิดขอบเขตจินตนาการของเขาไปเลยก็ยังได้
“ยังไม่พอแหะ แค่นี้ยังไม่พอ”
เหมิงเหล่ยหายใจออกมา ความรู้สึกดีใจมันหายวับไป มันกลับแทนที่มาด้วยภาระที่หนักอึ้งหัวใจ และเส้นทางที่ยังห่างไกลจากความเป็นจริง
“ต้องทาเงินให้ได้มากกว่า ต้องการเงินมากกว่านี้”
เหมิงเหล่ยออกเดินทางต่อเข้าไปในป่าใหญ่อย่างไม่ลังเล
“มีสัตว์เวทมนตร์ที่ 1 นาฬิกา”
“ติ้ง ท่าการสังหารแมวผี ได้รับ 3200 เหรียญทอง”
“อีกตัวที่ 4 นาฬิกา”
“ติ้ง ทําการสังหาร แรดหนาม ได้รับ 8300 เหรียญทอง”
เขาเข้าไปลึกขึ้น ลึกขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าสัตว์เวทมนตร์จะยังโดนเขาฆ่าแต่พวกมันก็แกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 4
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 5
สัตว์เวทมนตร์ ระดับ 6
เหมิงเหล่ยค่อยเดินเท้าเข้าไปยังส่วนลึกจนกระทั้งเข้าถึงเขตที่มีสัตว์เวทมนตร์ระดับ 6 อยู่ ตอนนั้นมันค่ําพอดี ป่าสัตว์วิเศษก็เริ่มเข้าสู่ความมืดมิด
“มืดแล้วแหะ หาที่ปลอดภัยพักก่อนดีกว่า”
สัตว์เวทมนตร์ส่วนมากนั้นจะซ่อนตัวอยู่ในรังช่วงเช้า และออกล่าตอนกลางคืน ดังนั้น ป่าสัตว์วิเศษจะอันตรายขึ้นหลายเท่าตอนช่วงกลางคืน และเพราะแบบนี้ ตอนกลางคืนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่าสัตว์เวทมนตร์มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเหมิงเหล่ยก็ไปปต่อไม่ไหวแล้วหลังจากที่วิ่งๆเดินๆมาทั้งวันเขาเหนื่อยล้าและต้องการการพักผ่อนเพื่อเติมพลังงาน
แต่ไม่ว่ายังไง ในป่าส่วนลึกแบบนี้ เขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
ในป่าอันตรายยามค่ําคืนแบบนี้จะไปหาที่พักได้ที่ไหนกันละ
เหมิงเหล่ยเลยกางพรมวิเศษและลอยตัวขึ้นเหนือป่า หาที่ตั้งแคมป์ดีๆ พอเขาขึ้นมามองบนที่สูงบนฟ้า เขาก็มองเห็นได้กว้างไกลขึ้น ทําให้เขาหาได้ง่ายขึ้น
“หุบเขานั้นดูดีเลยนะ”
เขาเห็นรอยแยกของป่าไม้เหมือนกับว่ามีใครตัดมันออก และตรงกลางของมันคือหุบเขาที่เหมือนโดนแซนวิชด้วยภูเขาลูกใหญ่ 2 ลูก
“ลองไปดูดีกว่า” เหมิงเหล่ยใช้พรมวิเศษเดินทางบินตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วไม่นานเขาก็ได้มาถึงบนยอดของหุบเขา เขาเห็นลําธารไหลลงในหุบเขาส่วนล็กมีพืชผักต่างๆรอบๆขึ้นรกไปหมดถ้าเกิดใครตาไม่ดีคงมองข้ามไปแน่ๆ
เหมิงเหล่ยเดินตามล่าธารไปแล้วลงมายังส่วนลึกของช่องลมหุบเขา ในตอนนั้นเองจากพื้นที่หุบเขาที่เคยแคบ พอหลุดออกมาได้มันกลับกว้างขวางพื้นที่ไม่สม่ำเสมอยิ่งเข้าไปล็ก ก็ยิ่งเห็นกว้าง
ณ ส่วนลึกที่สุดของหุบเขานั้น มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ไอควันสีขาวลอยออกมาจากผิวน้ำดูไปดูมาเหมือนเป็นถ้ําของเทพยังไงอย่างนั้น
“นั้นมัน บ่อน้ำพุร้อนเหรอ”
ตอนที่เขาลอยอยู่บนอากาศเหมิงเหลยรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่มากระทบที่หน้าของเขามันทําให้เขารู้สึกดีมาก น้ำข้างล่างนั้นน่าจะอ่นกาลังดี
“ถ้ามันเป็นบ่อน้ำพุร้อนก็ดีซินะ”เหมิงเหล่ยร่อนลงจอดก่อนจะเอื้อมมือไปแตะน้ำกระแสน้ำอุ่นๆทําให้กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาผ่อนคลายลงได้อย่างเหลือเชื่อผิวหนังดูเต่งตึงขึ้นรู้สึกสบายสุดๆ
“บ่อน้ำร้อนนี้ ของโคตรดีเลยนี่หว่า”
หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน อะไรมันจะไปดีไปกว่าการได้แช่บ่อน้ำร้อน ไม่ว่าใครก็อดใจไม่ไหวแน่นอน เหมิงเหล่ยเองก็แทบร้องเหมือนกัน เขาถอดผ้าคลุมออกแล้วจ่มตัวเองลงไปทันที ก่อนที่เขาจะร้องออกมา
“โอ๊ย ร้อน ร้อนเกิน… แต่ก็สบายจริงๆเลย”
ด้วยอุณหภูมิของน้ำในตอนนี้ มันสามารถต้มคนธรรมดาให้สุกเป็นหมูได้แต่เหมิงเหล่ยนั้นไม่ใช่ ค่าร่างกายของเขาเป็นนักรบระดับ 7 แถมเขายังมีสายเลือดธาตุไฟอีก 2 สายเลือด ทําให้เขาไม่ต้องกลัวความร้อนเลยอุณหภูมิน้ำ 70-80 องศาก็ไม่ต่างอะไรจากบ่อน้ำพุร้อนแถวบ้านเขาเลย
“5555 เยี่ยมไปเลย”
เหมิงเหล่ยกางแขนกางขาเตะน้ำเล่นว่ายไปมาในบ่อ เขาสามารถว่ายด้วยความเร็วที่เท่ากับปลาได้เลย
ตู้ม!!!ตู้ม!!! เสียงน้ำกระเซนจากการเตะขาดังก้องไปทั่ว
เริ่มด้วยท่าฟรีสไตล์ที่ส่ายได้เร็วสุดๆ ตามมาด้วยท่ากบเน้นประหยัดพลังงาน
แล้วก็ต่อด้วยท่าผีเสื้อสวยงาม …. เขาจะไปว่ายเป็นได้ไงวะ
หลังจากที่ว่ายอย่างบ้าคลั่งไปกลับรอบสระอยู่หลายรอบเขาก็พิงหลังลงบนโขดหินข้างบ่อแล้วหลับตาลง ความรู้สึกของน้ำอุ่นๆชําระล้างความเหนื่อยล้าของผิวหนังค่อยๆไหลเวียนผ่านร่างของเขาไปเขารู้สึกดีมากๆทีเดียว
ตู้ม!!!
ทันใดนั้นเอง บางอย่างก็เกิดขึ้น
เสียงน้ำระเบิดอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างสีดําขนาดใหญ่กระโดดออกมาจากน้ำพร้อมอ้าปากสีด่ากว่างพุ่งตรงเข้าใส่เหมิงเหล่ยอย่างไว
“เชี่ยอะไรวะเนี่ย!!”
เหมิงเหล่ยไม่ทันจะได้ตอบสนอง เขาโดนงาบเข้าไปทั้งตัวก่อนจะโดนกลืนไปโดยสิ่งมีชีวิตตัวนั้น
เลือก เลือก
อ๊อก!!!
ร่างสีดํานั้นเรอออกมาเสียงดังก่อนจะสะบัดหัวแล้วดาลงไปใต้น้ำอีกครั้งเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน