นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็…
บทที่ 61 เข้าป่าอีกครั้งล่าสัตว์เวทมนตร์
พวกเธอทั้งคู่สวมชุดกระโปรงยาวเนื้อผ้าหยาบเหมือนกระสอบ เท้าเปล่าหน้าตาเปื้อนโคลนตุ๊กตาดินปั้นแต่เด็กทั้ง 2 คนทั้งคนซ้ายและคนขวาก็ยังคงเหมือนกันอย่างกับแกะเหมือนกับแงะออกมาจากแป้นพิมเดียวกันยังไงอย่างงั้น
ฝาแฝดผู้โชคดีคู่นั้นก็คือ
เฮสเตอร์ ดราปเปอร์ธาตุไฟระดับสูง
โมนิก้าดราปเปอร์ธาตุน้ําระดับสูง
“พรสวรรค์ธาตุระดับสูงทั้งคู่เลยดีกว่าของฉันอีกนะเนี่ย”
โจนาห์ตะลึงกับผลลัพท์ที่ได้ทําการทดสอบพรสวรรค์ระดับสูงนั้นหาได้ยากมากในหมู่มนุษย์ทั่วไปแล้วยิ่งไม่ใช่ชนชั้นสูงแถมยังอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญอย่างหมู่บ้านสัตว์เวทมนตร์อีก
แต่พอจะมีที่กลับมีถึง 2 คนเลยทีเดียวจะบอกว่าต่างกรรมต่างวาระก็ว่าได้ชะตากรรมของแต่ละคนก็ไม่เหมือน
กัน
“น่าเสียดายแย่เลยถ้าพวกเธอไม่ได้ฝึกเวทมนตร์น่ะมีพรสวรรค์ดีขนาดนี้”
เหมิงเหล่ยมองคู่ฝาแฝดแล้วยิ้ม “เฮสเตอร์โมนิก้านับแต่นี้เป็นต้นไป ทั้ง 2 คนเรียนรู้วิธีการทําจิตสมาธิจากพี่โจนาห์นะเพิ่มระดับพลังวิญญาณของพวกเจ้าซะก่อนจะได้ไปเข้ารับการทดสอบ สมัครเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์ในปีหน้าได้
“ได้ค่ะ!” เด็กสาวทั้ง 2 คนพยักหน้าพร้อมกันถึงแม้ว่าพวกเธอจะดูเข้าใจแบบไม่มากก็น้อยแต่ใบหน้าอันใสซื่อเปื้อนไปด้วยโคลนนั้นพอถ้ามองผ่านรอยสิวจางๆเข้าไปบ้านในทั้งคู่ก็ถือว่าน่ารักมากทีเดียว
ดวงตาอิจฉาส่องประกายมายังแฝดทั้ง 2 คนถึงแม้ว่าเด็กพวกนี้จะยังอายุน้อยแต่พวกเขาก็เข้าใจความหมายของการมีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์เป็นอย่างดี
“ส่วนคนที่ไม่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์เองก็อย่าพึ่งท้อใจไป พวกเจ้าสามารถมาเรียนรู้วิธีการใช้ออร่าสงครามจากแอนดริวกับโจเซฟได้ พวกเจ้าทุกคนมีโอกาสที่จะเก่งขึ้นได้ทุกคนนั้นละ”
“ค่ะ/ครับ!!”
เวลาพลบค่ำมาเยือน เสียงกู่ร้องของ สัตว์ป่าดังโหยหวนออกมาจากป่าเบาๆ
แคมป์ไฟยามค่ำคืนถูกจุดขึ้นบนพื้นที่ โล่งกว้างใจกลางหมู่บ้าน เนื้อย่างสีเหลืองทองส่งกลิ่นหอมของเนื้อย่างไฟอบอวลไปทั่วหมู่บ้านในขณะที่เหล่าชาวบ้านนั่งล้อมวงหัวเราะพูดคุยกันอย่าง สนุกสนาน
“เหมิงเหล่ย ขอบใจนะที่เจ้าจับแรด เกราะเหล็กให้กับข้า ดื่มให้กับเจ้าเลย!”
“เหมิงเหล่ย ขอบใจเจ้ามากนะที่ให้ เงินโจเซฟหยิบยืมค่าเล่าเรียนหน่ะ”
55555..”
คืนนี้หมู่บ้านเต็มไปด้วยความคึกครื้น และสนุกสนาน เหล่าผู้ชายเล่นเกมวงเหล้ากันส่วนผู้หญิงก็ร้องรําทําเพลงเด็กๆก็หัวเราะกันสีหน้าของทุกคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
งานเลี้ยงแคมป์ไฟนั้นจัดขึ้นยาวนานต ลอดทั้งคืน จนกระทั้งเที่ยงคืนงานเลี้ยงถึงได้เลิกราคืนนั้นเองเหมิงเหล่ยก็ไม่ได้ทําสมาธิแทนการนอนเขาเลือกที่จะนอนหลับอย่างสบายแทน
เช้าวันต่อมา เขาเก็บของเตรียมตัวออกเดินทาง
หมอกยามเช้าเข้าปกคลุมป่ารกทึบ มองเห็นรอบตัวได้เพียงแค่ 3-4 เมตร เท่านั้นไม่เพียงแต่ทัศนวิสัยจะแย่แล้วพืชพรรณในปป่ายังขึ้นอยู่เต็มไปหมด ด้วย
ทั้งไม้ยืนต้นโบราณสูงใหญ่ เถาวัลย์ หนามพันคดเคี้ยว
พุ่มไม้เตี้ยดก กับพงหญ้าสูงรกทึบ
การที่จะเดินทางอย่างรวดเร็วในป่ารก มองอะไรไม่เห็นแบบนี้เป็นอะไรที่ยากมากเพราะสามารถถูกโจมตีได้ตลอดเวลาทั้งงูพิษ แมงป่องป่าฝูงยุงร้ายทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมเอาชีวิตได้ทั้งนั้น
“ยิ่งสัตว์เวทมนตร์ระดับสูงเท่าไร ก็ยิ่ง มีค่ามากเท่านั้น เราต้องพยายามเข้าไปในป่าให้ได้ลึกที่สุดที่ทําได้ซินะจะมาเสียเวลาอยู่กับป่าชายแดนก็ไม่ใช่ เรื่อง”
ชายแดนป่ารอบนอกนั้นมีแต่สัตว์ป่า ธรรมดา เหมิงเหลี่ยไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อยเขาเลยขี่พรมวิเศษออกเดินทางตรงเข้าไปยังส่วนลึกของป่า
ป่าสัตว์เวทมนตร์นั้นกว้างใหญ่ไพศา ลมาก จะบอกว่าไร้ขอบเขตก็ว่าได้หลังจากที่บินมาได้ครึ่งวันเต็มๆเหมิงเหล่ยก็ได้ลงจอดกลางป่าแล้วเตรียมล่าสัตว์เวทมนตร์
“แผ่นดินสะเทือน!”
ทันใดนั้นเอง จุดตรงกลางเท้าของเหมิงเหล่ยก็ได้ส่งคลื่นแรงกระแทกแพร่กระจายออกไปทุกทิศทางมันคือเวทมนตร์ธาตุดินที่มีชื่อว่าแผ่นดินสะเทือนนั้นเอง
เวทแผ่นดินสะเทือนนั้นเป็นเวทระดับ 1 ง่ายๆที่จอมเวทระดับ 1 ก็ยังร่ายได้มันสามารถทําให้พื้นดินรอบๆบริเวณนั้นสั่นไหวได้ส่วนขนาดและความแรงของแผ่นดินไหวจะขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณ และความสามารถในการควบคุมพลังเวทล้วนๆ
ในมือของจอมเวทระดับสูงแล้วเวทแผ่นดินสะเทือนสามารถเขย่าโลกทําให้หิมะถล่มหรือแม้กระทั้งทําลายเมืองทั้งเมืองเลยก็ยังได้หรือไม่ก็สามารถส่งคลื่นสันไหวออกไปเบามากๆจ นกระทั้งแทบไม่รู้สึกเพื่อเป็นสัญญาณเตือนก็ยังได้
เหมิงเหล่ยใช้เวทนี้เพื่อค้นหาสัตว์เวทมนตร์ที่อยู่รอบตัวด้วยพลังของเขาตอนนี้เขาสามารถกระจายคลื่นสั่นสะเทือนไปได้ไกลเกือบ 200 เมตร
“สัตว์เวทมนตร์ที่ 2 นาฬิกา”
เหมิงเหล่ยค่อยๆเดินย่องเข้าไปแล้วแหวกกอหญ้าเบาๆก่อนที่เขาจะเห็นกิ้งก่าสีเขียวเข้มทั้งตัวมีแต่หนามขนาดยาวเกิน 5 เมตร “สัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 กิ่งก่าหนามหินเหรอ”
เหมิงเหล่ยขมวดคิ้ว เขาสนใจในคุณค่าเงินที่จะได้มากกว่าราคาของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 นั้นเฉยๆ หรือถ้าเจอแกนเวทมนตร์ก็จะได้มาแค่ 2000 – 3000เหรียญทองต่ออันไม่ค่อยได้อะไรเท่าไร
แต่ถึงอย่างนั้น เหมิงเหล่ยก็ยังจัดกา รมันด้วยเวทธาตุดิน หอกหินทะลวงอยู่ดีหนามแหลมที่ทําจากหินพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินเสียงกิ่งก่าตายก่อนที่มันจะรู้ตัวซะอีก
“ติ้ง ทําการสังหารกึ่งก่าหนามหิน ได้รับเงิน 2400 เหรียญทอง”
“2400 เลยเหรอ ไม่ได้แย่นะเนี่ย” เหมิงเหลี่ยเดินตรงเข้าไปก่อนจะเอามีดออกมาแล้วแล่ชําแหละแกะเอาแกนเวท มนตร์ของกิ่งก่าหนามหินออกมาเขาไม่สนใจเลือดที่ติดอยู่เต็มไปหมดแล้วโยนแกนนั้นเข้าไปในแหวนมิติทันที
เริ่มมาก็ได้ มา 2000 เหรียญทองแล้ว
“ฆ่าง่ายๆตัวนึงก็ได้ตั้งมาเยอะขนาดนี้แล้วเหรอเยี่ยมไปเลย”
“แผ่นดินสะเทือน!”
“สัตว์เวทมนตร์อีกตัวข้างหน้า!”
“ระดับ 4 อีกแล้วเหรอ”
“หอกหินทะลวง!”
“ติ้ง ทําการสังหารด้วงแรดทองได้รับทอง 2200 ทอง”
“แผ่นดินสะเทือน”
“สัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 อีกแล้วเหรออะไรวะเนี่ย”
“ติ้ง ทําการสังหาร มดเงินจุดทองได้รับ 2400 เหรียญทอง”
และเหมิงเหล่ยก็ล่าอยู่แบบนั้นไปเรื่อย ๆ พื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยสัตว์เวทมนตร์ ระดับกลางเหมือนๆกับการได้เจอสัตว์ป่าธรรมดาในเขตชายแดน พวกมันสู้และกินกันเองเพื่อความอยู่รอดและความเป็นใหญ่ในป่านี้
“ฆ่ามาแค่ 7 ตัวเอง แต่ได้เงินมามากกว่า 20000 เหรียญทองแล้ว ภายในแค่ 2 ชั่วโมงเองไม่เลวเลยนะ เนี่ย”
เหมิงเหล่ยเดินตรงเข้าไปปหาจระเข้ 6 ปีกเงินที่ตายอย่างอนาถเพื่อควักเอาแกนเวทมนตร์ออกมาแล้วโยนมันเข้าแหวนมิติก่อนจะเริ่มออกเดินทางต่อ
“น่าเสียดายที่ยังหาทางแบกซากของสัตว์พวกนี้ออกไปด้วยไม่ได้ ไม่งั้นฉันคงหาเงินได้เยอะกว่านี้แน่ๆ!”
ฉวก
ฉวก!
“เอ๊ะ”
ในตอนนั้นเอง เสียงแปลกๆก็ดังเข้ามาในหูของเขาเหมิงเหล่ยหยุดฝีเท้าตัวเองแล้วเงี่ยหูฟังดูอีกรอบก่อนจะมองตรงไปทางทิศ 3 นาฬิกาเสียงนั้นดังออกมาเข้าหูอีกหลายรอบมันเป็นเสียง เหมือนกับอะไรขาดดูสยองแปลกๆ
แต่เหมิงเหล่ยเองคุ้นเคยกับเสียงนี้พอสมควรมันเป็นเสียงของของมีคมแทงหรือเฉือนเนื้อหนัง
“มีคนกําลังสู้อยู่เหรอ? ไม่ซิ ไม่ได้ยินเสียงต่อสู้หรือเสียงอะไรเลย”
ความสงสัยเริ่มเข้ามาในใจของเขา เขาเลยค่อยๆย่องเข้าไปก่อนที่เห็นภาพที่ทําให้เขาจําติดตา
มันเป็นภาพของกองไฟที่มีเนื้อย่างหอมกลุ่นสีเหลืองทองเตะจมูกกระตุ้นให้ อยากอาหารได้อย่างง่ายดายแต่ถึงอย่างนั้นเหมิงเหล่ยไม่มีอารมณ์จะมาหิวอะไรตอนนี้ทั้งนั้นเพราะสิ่งที่อยู่รอบๆกองไฟนั้นคือซากศพของมนุษย์ 5 คนที่ตายเกลื่อนพื้นที่มีทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งนักรบและจอมเวทดวงตาของศพพวกนั้นยังคงเบิกโพลงเหมือนกับว่านอนตายตาไม่หลับคอของพวกเขาถูกเฉีอนเลือดทะลักออกมาจากแผลไม่หยุด.
“ใครมันเป็นคนทําวะเนี่ยทําไมเละเทะแบบนี้วะ”เหมิงเหล่ยพึมพําเบาๆสันหลังของเขาเย็นวาบขึ้นมาทันที
ดูจากสภาพการณ์ของศพที่ดูจะหวาดกลัวสุดๆ กับสภาพของศพที่ดูแทบไม่ได้ดูเหมือนกับว่าพวกเขาจะสู้ขัดขืนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
พวกเขาไม่ทันแม้แต่จะตั้งตัวแต่กลับถูกคนร้ายฆ่าปาดคออย่างโหดเหี้ยม
มันน่าเศร้าจริงๆ
“ตามหาข้าอยู่เหรอ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหูขวาของเหมิงเหล่ยกลไกการป้องกันตัวเองของเหมิงเหล่ยทํางานอัตโนมัติทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กําลังจ่อมาที่คอของเขา
อันตราย!!!
เหมิงเหล่ยตอบสนองฉับพลัน
ถอย
สิ่งที่เขาทําโดยไม่คิดคือกระโดดถอยหลังอย่างแรง
ตุ้ม!!!
ด้วยค่าร่างกายของเขาที่มีมากมหาศาลพอๆกับนักรบระดับ 7 การระเบิดพลังกระโดดแบบสะดุ้งนั้นส่งพลังออกมาเยอะมาก ทําให้ตอนที่กระโดดร่างของเขาถอยไปไกลหลาย 10เมตรในชั่วพริบตาทันที
เหล่าคนที่ซุ่มโจมตีเหมิงเหลี่ยอยู่ได้แต่เหวอกัน
MANGA DISCUSSION