บทที่ 58 คลื่นอสูรอีกครั้งพลิกกลับด้วยสายฟ้า
หลังจากที่จัดการโค่นกองโจรหมาป่าเดียวดายสําเร็จเหมิงเหล่ยกับพวกก็ออกเดินทางกันต่อโจนาห์กับคนอื่นๆก็ยังคุยโม้กันต่อไปดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและเชิดชูตอนที่ มองเหมิงเหล่ยทุกๆอย่างที่พวกเขาพูดนั้นจะจบประโยคด้วยประโยคเดียวกันนั้นคือ
“พี่เหมิงเหล่ย โคตรสุดยอดเลย”
เหมิงเหล่ยเองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเสมอ“พวกเจ้าเองก็แข็งแกร่งได้นะถ้าฝึกฝนดีๆน่ะ”
จากนั้นเขาก็แอบโอนเอาเงินทั้งหมดในแหวนมิติเข้ามาอยู่ในระบบ ทําให้ค่าความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นพุ่งขึ้นไปกว่า 3 แสนเหรียญทอง
ถ้าบวกกับของเก่าแล้วตอนนี้เขามีเงินรวมทั้งหมด 480,000 เหรียญทอง
นี้ยังไม่รวมราคาของแกนเวทมนตร์อัญมณีและของอื่นๆทั้งหมดที่อยู่ใน แหวนมิติถ้าเขาขายของทั้งหมดในแหวนมิติได้เขาก็ได้จะเงินก้อนใหญ่มาอีกชุดนึง
บุญหล่นทับของจริงเลยรอบนี้
เหมิงเหล่ยสวมแหวนมิติที่นิ้วความรู้สึกเหมือนกับถูกหวยรางวัลที่ 1 มันกลับมาอีกครั้งมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเหมือนกับอยู่ในฝันกลางวันยังไงอย่างงั้น
แน่นอนว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดที่เขาได้มาก็ยังเป็นแหวนมิติที่มีค่าหลายล้านเหรียญทอง
การใช้งานแหวนมิตินั้นเรียกได้ว่าได้ที่ติถ้ามีแหวนมิติเหมิงเหล่ยก็สามารถล่าสัตว์เวทมนตร์ได้อย่างใจคิดโดยที่ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องที่เก็บอีกต่อไป
ถึงแม้ว่าขนาดของแหวนมิตินี้จะมีแค่ 50 ตารางลูกบาศเมตรมันจะไม่ได้กว้างใหญ่อะไรขนาดนั้นแต่มันก็เพียงพอสําหรับการเก็บแนเวทมนตร์มากมายใจของเหมิงเหล่ยตอนนี้ไปอยู่ที่ป่าสัตว์วิเศษตั้งนานแล้วเขากําลังฝันกลางวันถึงการล่าและฆ่าสัตว์เวทมนตร์ต่างๆ เก็บแกนเวทมนตร์แล้วเอาไปขายได้ตั้ง
มหาศาล
พพรมวิเศษนั้นบินเร็วมาก หลังจากที่บินไปอีกแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ พวกเขาก็ถึงหมู่บ้านสัตว์เวทมนตร์พอดีแต่ถึงอย่างนั้นภาพเหตุการณ์ของหมู่บ้านในตอนนี้มันทําให้ทั้ง 4 คนตกใจ
คลื่นอสูร (จะเรียกครึ่งสัตว์ว่าครึ่งอสูรบ้างบางครั้งนะครับเพื่อให้ได้อารมณ์)
คลื่นอสูรกลับมาอีกครั้งแล้ว ทั้งภูเขาทุ่งหญ้าเหล่าสัตว์ป่ากระหายเลือดแห่กันเข้ามาที่หมู่บ้านสัตว์เวทมนตร์กันมืด
ฟ้ามัวดิน เหมือนกับน้ําป่าที่ไหลหลากเตรียมจะถล่มหมู่บ้านสัตว์เวทมนตร์น้อยให้พังพินาศได้อย่างง่ายดาย
เหล่าวัยรุ่นที่ยืนอยู่บนกําแพงหมู่บ้านสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
วัยรุ่นกลุ่มนี้คือหน่วยปกป้องหมู่บ้านที่นําโดยกับตันฮัดเดอร์ ในฐานะสมาชิกหมู่บ้านพวกเขาต้องปะทะกับคลื่นอสูรครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะงั้นพวกเขาทุกคนจึงเป็นนักรบเจนสนามคลื่นอสูรปรกติไม่ได้ทําให้เขาหวาดหวั่นได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้น คลื่นอสูรในครั้งนี้ มันต่างออกไปอย่างชัดเจน
“ทําไมมันถึงเป็นอย่างนี้ได้วะ”
ฮัดเดอร์ที่ยืนอยู่บนสุดของกําแพงมองลงมาที่เหล่าสัตว์เวทมนตร์หลาย 10 ตัวที่อยู่ตรงกลางของคลื่นอสูรพอมองดูแล้วนอกจากความสิ้นหวังแล้ว ก็ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ในสีหน้าอีกเลย
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 แรดเกราะเหล็ก 4
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 3 ตัวนิ่มภูเขากับงจุดโลหิต
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 มี งฟ้าครามเต่าปากเหล็กขาวแมงป่องเกราะทองคําหนูพุ่มหนามเต่ามังกรหนองน้ําหมูป่าเขี้ยวเลือดด้วยยักษ์เขายาวราชาหมาป่าวายุ
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 1ตัว
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 3 2 ตัว
สัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 8 ตัวและสัตว์เวทมนตร์ระดับไอีกนับไม่ถ้วน
ถ้าดูกองทัพก็รู้แล้วว่าไม่มีทางสู้ได้เลยไม่มีแม้แต่ความหวังที่จะรอด อย่า หวังถึงคําว่าชนะ
“ทําไมกัน”
“ทําไมคลื่นอสูรรอบนี้ถึงเป็นแบบนี้”
ฮัดเดอร์ไม่เข้าใจ หมู่บ้านสัตว์เวทมนตร์นั้นตั้งอยู่ชายแดนขอบของป่าสัตว์เวทมนตร์ปรกติแล้วแค่เจอสัตว์เวทมนตร์ระดับ 1 ก็นับว่าซวยมากๆแล้วแต่นี้ทําไมถึงมีสัตว์เวทมนตร์ระดับสูงอย่างแรด เกราะเหล็กอยู่ในฝูงนี้ด้วยละ
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย
แต่ถึงยังไง สถานการณ์ตอนนี้ไม่ต้องการเหตุผลอะไรทั้งนั้นแล้ว ในเมื่อเจ้านั้นมันโผล่มาต่อหน้าพร้อมกับฝูงสัตว์ร้ายที่โหดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาหมู่บ้าน สัตว์เวทมนตร์กําลังเจอเข้ากับหายนะที่ยากจะรับมือได้
“กัปตัน เราเอาไงกันดีครับ”
หน่วยป้องกันตัวสั่นด้วยความกลัวพูดเสียงสั่นเคลือไปหมดขนาดของคลื่นอสูรรอบนี้มันน่ากลัวเกินไปเขาไม่เคยเจอมาก่อนเลย
“เราคงต้องใช้ทุกอย่างที่เรามีเพื่อให้รอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้แล้วละ”
กัปตันฮัดเดอร์ พูดก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตะโกนดังลั่นดังกลองศึก “ด้านหลังนั้นคือบ้านของพวกเราครอบครัวของพวกเรา เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้จนตัวตาย!!!”
“เพื่อบ้านเรา”
“เพื่อครอบครัวของเรา!!”
คําพูดพวกนั้นเติมเต็มความกล้าและขจัดความกลัวทุกอย่างจนหมดสิ้น ตอนนี้มีแต่ความฮึกเหิมเด็ดขาดพร้อมจะสู้กับทุกอย่างเพื่อคนข้างหลัง
“กัปตันพูดถูก ทางเดียวที่เราจะรอดคือต้องสู้จนตัวตายเท่านั้น!”
“ถ้าจะมาย่ํายีคนที่ข้ารัก ก็ต้องข้ามศพพวกข้าไปก่อนนี้ละวะ!!
“สู้จนตัวตาย!!!!
“สู้ตายโว้ย!!!!!!”
เฮ!!!!!!!
โฮก!!!!!!!
ในตอนนั้นเอง เสียงคํารามที่ดังลั่นจนพื้นดินสะเทือนก็ซัดตอบโต้กลับมาแรดเกราะเหล็กที่อยู่ตรงกลางของคลื่นอสูรคํารามออกมาอย่างดุร้ายส่งสัญญาณบุกโจมตีกับคลื่นอสูรทุกตัว
อาวววววว
แฮ่!!!
โฮ่ง!!!
มูววววว!!
คลื่นอสูรทุกตัวตอบรับเป็นเสียงเดียวกันจนกลายเป็นคลื่นเสียงที่ซัดเข้าหาฝั่งมนุษย์
โฮกกกก!!!!
เสียงคํารามดังไปไกลโพ้น คลื่นอสูรตอนนี้วิ่งทะลวงมาอย่างบ้าคลั่งจนกลายเป็น “คลื่น”อสูรของจริงทันใดนั้นเองเหล่าสัตว์เวทมนตร์ทั้งหลายก็เริ่มใช้เวทมนตร์โจมตีเข้าใส่หมู่บ้านเป็นชุด
ทั้งกระสุนหิน ศรวารี คมวายุเถาวัลย์พิษหอกสายฟ้า
สัตว์เวทมนตร์ทั้งระดับ 1 และระดับ 2 ต่างยิ่งเวทมนตร์ของตัวเองออกมาอย่างถาโถมจนมองไปมองมาคล้ายๆกับฝน แต่ที่ตกลงมาไม่ใช่น้ําแต่เป็นหายนะที่ทําลายทุกอย่าง
ทุกคนมองดูเวทมนตร์ที่ลอยเข้ามาแล้วก็สิ้นหวังกําแพงของหมู่บ้านก็เป็นไม้ธรรมดาจะไปทนรับการโจมตีด้วยเวทมนตร์ระดับนั้นได้ยังไงกันแถมคนที่ป้องกันหมู่บ้านทุกคนยังเป็นแค่นักรบอีก จะให้ไปสู้กับเวทมนตร์ก็คงไม่ไหวแน่ๆ
“จ…จะไปสู้มันยังไงวะเนี่ย?!”
“กัปตันครับ เอาไงดีครับ!!”
“พระเจ้า…”
“เราจบเห่แน่!!!”
ฮัดเดอร์เองก็หมดสิ้นความหวังแลล้วเหมือนกันเขามองดูเวทมนตร์ที่พุ่งเข้า มาทางหมู่บ้านเขารู้ดีว่าวันนี้คือวันสุดท้ายแน่นอน
การโจมตีด้วยเวทมนตร์มากมายขนาดนั้นกําแพงเมืองคงแหลกเป็นเศษซากแน่ๆ ทุกๆคนจะตายกันหมด!!
เปรี้ยง!!
ทันใดนั้นเอง ตอนที่ห่าฝนเวทมนตร์จะเข้าโจมตีถึงภาพเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้นมีโล่สีเหลือง-เงินเรืองแสงพร้อมด้วยสะเก็ดสายฟ้าปรากฏขึ้นมาและครอบคลุมอาณาเขตของหมู่บ้านทัน
เวลาเขตขอ
ตุ้ม!!!!!!!!
ห่าฝนเวทมนตร์ชนเข้ากับโล่สายฟ้าอย่างจังก่อนจะระเบิดออกมาเหมือนดอกไม้ไฟชุดใหญ่
“นั้นมัน…”
ทุกคนเบิกตากว้าง
“โล่เวทมนตร์งั้นเหรอ” ฮัดเดอร์ตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขามองไม่ผิดแน่ เมื่อกี้คือโลเวทมนตร์แน่ๆ ตอนที่โดนแรงระเบิด โล่นั้นยังคงตั้งอยู่ดีโดยไม่มีแตกออกมาเลย แม้แต่น้อย
ประกายสายฟ้าเริ่มจางลงหมอกควันจากแรงปะทะเริ่มหายไป
กําแพงหมู่บ้านยังไม่ถูกโจมตีและยังอยู่ดีครบถ้วน ทุกคนปลอดภัยดี
“ป้องกันการโจมตีได้งั้นเหรอ” หน่วยป้องกันงงแตก
“ใครกัน ใครที่กางโล่เวทมนตร์เมื่อกี้”
ฮัดเดอร์มองไปรอบๆแล้วเขาก็เห็น พรมวิเศษสีแดงฉานที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาใครบางคนกําลังยืนอยู่ด้านบนพรมหน้าตาของเขาดูคุ้นๆแต่ก็ไม่คุ้นไปพร้อมๆกัน
“นั้นมัน…”
ฮัดเดอร์พูดขึ้นมาทันที “เหมิงเหลี่ยเหรอ”
“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ กัปตัน”
คนที่ยืนอยู่ด้านบนพรมนั้นคือเหมิงเหล่ยตัวจริงทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นฮัดเดอร์ก็ตกใจส่วนเหมิงเหล่ยก็ยิ้มให้กับเขา
“กัปตันครับ ไว้เราค่อยคุยกันหลังจากคลื่นอสูรจบลงนะครับ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เหมิงเหล่ยก็ยกมือขึ้นก่อนจะส่องประกายแสงที่ปลายนิ้วลูกบอลสายฟ้าจํานวนมากปรากฏ ออกมาแล้วยิงเข้าใส่สัตว์ป่าที่โถมเข้ามาทุกตัวเหมือนกระสุนปืนกล
ตุ้ม ตูม ตู้ม!!
เสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนดังจนหูดับฝุ่นควันกระจายไปทั่วพื้นที่เสียงกรีดร้องและคํารามของสัตว์ป่าซากแขนขากระจัดกระจายเลือดเนื้อนองเต็มไปหมด
สัตว์ป่าในคลื่นอสูรส่วนมากแล้วจะเป็นแค่สัตว์ป่าดุร้ายธรรมดา พวกมันรับมือกับเวทมนตร์ไม่ได้อยู่แล้วเพียงแค่ใช้เวทระดับ 1 โจมตีต่อเนื่อง ภายในชั่วอึดใจเดียวจํานวนสัตว์ป่านับไม่ถ้วนก็ โดนฆ่าตายคาที่
ภาพที่ปรากฏมันทําให้สัตว์ตัวอื่นๆเริ่มขวัญผวาพวกมันกลัวจนแทบจะหนีหางจุกตูดใครมันจะไปกล้าโจมตีหมู่บ้านอีกถ้าเข้าไปแล้วโดนแบบนั้น
โฮกกกก
แรดเกราะเหล็กคลั่งมากกว่าเดิมมันคํารามร้องลั่นเพื่อกดความตื่นตระหนกของสัตว์ป่าทั้งหมดแล้วเพียงแค่ไม่กี่ เสียงคําราม กองทัพคลื่นอสูรก็เริ่มเปลี่ยนแผนการโจมตี
เหล่าสัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 ต่างคํารามอย่างบ้าคลั่งแล้วพุ่งตัวไปด้านหน้า หวังจะฉีกกระชากเหมิงเหล่ยที่ยืนอยู่บนพรมวิเศษเป็นชิ้นๆเป็นตัวอย่างการเชือดไก่ให้ลิงดู
แต่สิ่งที่รอคอยพวกมันอยู่กลับเป็นฝนห่าหอกสายฟ้าที่ตกลงมาทั่วบริเวณ
เสียงที่น่าขนลุกดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องสัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 และ 3 ทุกตัวโดนหอกสายฟ้าแทงจนตายหมด
“อ…อะไรกัน”
ฮัดเดอร์กับหน่วยป้องกันทุกคนตะลึง
MANGA DISCUSSION