Physicians Odyssey - ตอนที่ 37 ช่วงเวลาที่แสนวิเศษเมื่อได้อยู่ด้วยกัน
บทที่ 37 ช่วงเวลาที่แสนวิเศษเมื่อได้อยู่ด้วยกัน
เมื่อซูเถากลับมาถึงที่ตำหนัก มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาสั่นเนื่องจากมีข้อความเข้า เป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก ข้อความเขียนว่า “หัวหยานกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ , หยานจิ้ง”
ซูเถาอ่านข้อความนั้นก่อนจะเซฟเบอร์เอาไว้ เขากลับเข้าห้องและพยายามนอนหลับ มีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายในเดือนนี้ซึ่งมีเรื่องให้เขาคิดเยอะแยะทีเดียว
เรื่องแรก เขาได้รักษาอาการป่วยของเวร่าและได้เข้าทำงานที่แผนก TCM ของโรงพยาบาลเจียงหัว และยังสามารถเอาตำหนักเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับโรงพยาบาลเจียงหัวได้อีกด้วย
เรื่องที่สอง ไคซงพูได้ยอมจำนนแล้ว และซูเถาได้สัญญากับเขาว่าจะดูแลไคหยานอย่างดี และในตอนนี้เขายังมีเรื่องขัดแย้งกับพวกตระกูลเนี่ยและแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์อีกต่างหาก
เรื่องที่สาม เขาได้เข้าต่อสู้กับพวกหงเชงกรุ๊ปเกี่ยวกับเรื่องการรื้อถอน เขาเอาชนะเนี่ยเว่ยถิงและได้กระชากหน้ากากผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ออกมาซึ่ง ก็คือหยานจิ้งนั่นเอง
นอกจากนี้ เขายังได้รับลูกศิษย์เข้ามาถึงสามคน ซึ่งพวกเขาทั้งสามกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันของมหาลัยเจียงหนานเร็วๆนี้อีกด้วย
สำหรับทัวร์นาเม้นท์ราชันย์แห่งแพทย์ เขายังคงอยู่ในระหว่างตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมดีหรือไม่เหราะมีหลายเรื่องทีเดียวที่เขานั้นไม่รู้เกี่ยวกับการแข่งขันนี่
ถึงแม้ว่าจะมีหลายเรื่องตีกันในหัวของเขา แต่ซูเถาก็เป็นคนฉลาด ทุกๆอย่างกำลังไปได้ดีเพื่อที่ตำหนักของเขาจะได้เติบโตมากขึ้น
เขาอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นจนถึงเช้า ทันใดนั้นตี้ชีหยวนก็ได้โทรมาหาเขา
“นายได้รับการแจ้งเตือนของเมื่อวานหรือเปล่า ?”
“แจ้งเตือนอะไร , ผมไม่เห็นจะได้รับข้ออความอะไรเลย” ซูเถาถามด้วยความงุนงง
ตี้ชีหยวนหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะ “ถ้านายว่างก็มาที่โรงพยาบาลเจียงหัวหน่อย ชั้นมีเรื่องสำคัญจะคุยกับนาย”
ซูเถาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เรื่องอะไรล่ะ ?”
ตี้ชีหยวนต้องการจะอุบเอาไว้ก่อน “นายต้องมาที่นี่ก่อน มาให้ถึงภายใน 8 โมง อย่ามาสายล่ะ !”
ซูเถายิ้มก่อนจะวางสาย เขาได้ยินเสียงดังมาจากครัว บางทีไคหยานอาจจะยังไม่ได้นอนและกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่
เมื่อเขาเดินเข้าไปในครัวเขาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นไคหยานสวมเสื้อยืดหลวมพร้อมกับใส่ผ้าโพกหัวลายการ์ตูนมันทำให้ผมของเธอนั้นปรกบ่าในขณะที่เธอกำลังซาวข้าวและกำลังหั่นวัตถุดิบ
เธอยืนไขว้ขาโดยที่ขาอีกข้างนึงอยู่ด้านหลัง หน้าอกของเธอนั้นโค้งได้รูปพอดี เนื่องเสื้อยืดที่เธอสวมนั้นค่อนข้างบาง มันจึงทำให้มองเห็นชุดชั้นในของเธอ ขาที่ยาวได้รูปโผล่ออกมาจากเสื้อของเธอ มันทำให้เขาจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน
ซูเถาไม่สามารถระงับส่วนล่างของเขาได้ในตอนเช้าเมื่อเขาเห็นภาพนี้ เมื่อรู้สึกว่าใครบางบนอยู่ข้างหลัง ไคหยานหันไปมองดูซูเถาที่สวมเพียงเสื้อกล้ามและบ็อกเซอร์ ก่อนที่เธอจะยืนกอดอกและจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆ “ทำไมนายถึงตื่นเช้าจังล่ะ ?”
ถึงแม้ว่าไคหยานจะพยายามซ่อนมันไว้เท่าไหร่ แต่ซูเถาก็รู้ว่าเธอนั้นไม่ได้ใส่บราหน้าอกของเธอข้างขวาถูกแขนขวาของเธอบังเอาไว้ ซึ่งที่อกข้างซ้ายก็เผยให้เห็นถึงหัวนมสีชมพูที่มองเห็นได้รางๆเพราะว่าเสื้อค่อนข้างบาง ซูเถาว่าปีศาจในตัวนั้นเริ่มที่จะไม่สามารถควบคุมได้เสียแล้ว
เขาเอามือลูบจมูกก่อนที่จะแกล้งไอกลบเกลื่อนเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะเผลอแสดงท่าทางอะไรแปลกๆออกไป “เสียงมันดังน่ะ ชั้นเลยตื่น” เขาพูดขณะที่จ้องมองไปยังจุดบางอย่างของไคหยานตามสัญชาติญาณลูกผู้ชาย
ไคหยานเริ่มหน้าแดง เธอไม่คิดว่าซูเถาจะเข้ามาเพราะสองสามวันมานี้เขาแทบจะไม่โผล่เข้ามาเลย เธอเลยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยเมื่อเธอตื่นขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คิดว่าซูเถาจะเข้ามาในครัววันนี้ ท่อนบนของเธอจึงค่อนข้างเปลือยเลยทีเดียว
เธอโบกมือไล่ซูเถา “ออกไปนะ อย่ามากวนการทำอาหารเช้า”
พอเห็นว่าไคหยานกำลังอาย ซูเถาจึงคิดจะหยอกเธอเล่นและโน้มตัวเข้ามาทางประตู “ชั้นมีเคล็ดลับที่ทำให้อาหารรสชาติอร่อยขึ้นนะ”
ไคหยานหน้าแดงเมื่อเธอมองไปยังด้านล่างของซูเถา หมอนี่ทำไมถึงได้เป็นคนที่ไร้ยางอายอย่างนี้กันนะ ?
“หยุดเลยนะ , ขืนนายยังโผล่เข้ามาอีกชั้นจะจกตานายมาทำข้าวเช้าซะเลย !” ไคหยานรู้ว่าถ้าเธอนิ่งไม่ทำอะไรเลยซูเถาก็คงจะตื้อไม่เลิก เธอจึงเลือกที่จะหยิบกระทะแล้วโยนมันใส่เขา
ซูเถารับกระทะเอาไว้ “เดี๋ยวๆ เธอรู้วิธีใช้กระทะหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันถึงบินมานี่ในตอนที่เธอกำลังทำอาหารอยู่ล่ะ ?”
ไคหยานหยิบมีดทำครัวขึ้นมาพลางยิ้ม “และชั้นก็ไม่รู้วิธีมีดด้วย ถ้านายยังอยู่ที่นี่ มีดนี่แหละจะบินไปหานายเป็นอันถัดไป”
ซูเถาตกใจ แต่เขาก็ยังท้าทายไม่เลิก “ไหนโชว์ให้ดูหน่อยว่ามีดมันจะบินได้ยังไง ?” เขาไม่คิดว่าไคหยานจะโหดร้ายถึงขนาดนั้น เธอเพียงแค่ขู่เขาเท่านั้น
ไคหยานทำเสียงฮึขึ้นจมูก เธอรู้ว่าซูเถานั้นเก่งศิลปะป้องกันตัว เธอจึงหยิบมีดขึ้นมาและปามันออกไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันขาดแรงขว้างไปหน่อย มีดเลยร่วงก่อนถึงตัวซูเถา ทำให้ซูเถานั้นตกใจมาก
“เชี่ย !!” ถ้าเขาอยู่ในสถาพปกติ การจะรับมีดที่ลอยมานั้นง่ายนิดเดียว แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะปามีดมาจริงๆ เขาจึงถอยไปหลายก้าวเพื่อที่จะหลบมัน
ขาของเขานั้นอ่อนปวกเปียกก่อนจะชี้ไปยังไคหยาน พอเห็นเธอหัวเราะดังนั้น เขาจึงพูดขึ้นมา “ก็ได้ เธอชนะ !”
ในตอนที่เขาเดินออกไป เขาก็ยังรู้สึกอยากกลับเข้าไปในครัวเนื่องจากรูปร่างที่งดงามและน่าดึงดูดของไคหยาน แต่เขาก็ต้องยอมแพ้ในที่สุด ยังไงซะ ไคหยานก็ยังพักอยู่ที่นี่ ยังคงมีโอกาสอีกเยอะในอนาคต
ซูเถาล้างหน้าล้างตาก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
หลังจากมื้อเช้า เขาได้พาลูกศิษย์ทั้งสามคนไปฝึกคลื่นชีพจร ก่อนที่ซูเถาจะออกจากตำหนักเพื่อไปยังโรงพยาบาลเจียงหัว
เมื่อเขามาถึงด้านนอกของสำนักงานตี้ชีหยวน เลขาบอกว่าตี้ชีหยวนอยู่ที่ห้องประชุมชั้นสาม พอซูเถาเข้าไปยังห้องประชุมก็พบว่าทุกคนได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ตี้ชีหยวนนั่งอยู่ตรงกลางโดยถังหนานเชงอยู่ด้านขวาและเฉียวเต้อเหาอยู่ทางด้านซ้าย เฉียวเต้อออเหาพูดขึ้นมา “เด็กสมัยนี้ไม่ตรงต่อเวลาเลย มาประชุมสายซะได้”
ซูเถามาถึงสำนักงานของประธานตอน 8 โมง ก่อนจะให้เวลาประมาณ 7-8 นาทีเพื่อมาห้องประชุม เอาจริงๆเขาแค่สายไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
ตี้ชีหยวนพูดขึ้น “เลขาเฉียว , เขาเพิ่งจะรู้เกี่ยวกับการประชุมเมื่อเช้านี้เอง เหตุผลที่มาสายเพราะว่าไม่มีใครบอกเขาล่วงหน้าต่างหาก เดี๋ยวผมจะตรวจสอบทีหลังเองว่าทำไมซูเถาถึงไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้”
โชคดีที่ตี้ชีหยวนได้โทรไปบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่งั้นเขาอาจจะพลาดการประชุมของทีมพิเศษนี่ก็ได้
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขาหากเขาพลาดการประชุมนี้ แต่เฉียวเต้าเหาจะต้องเล่นงานเขาจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน ตี้ชีหยวนเริ่มที่จะอึดอัดมากขึ้นเกี่ยวกับเฉียวเต้อเหา ซึ่งกลอุบายสกปรกของเขาชักจะมากขึ้นทุกวันมันทำให้เขารำคาญ
เฉียวเต้อเหาอธิบาย “เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะมองข้ามมัน ซังไงซะเขาก็เป็นพนักงานใหม่ของโรงพยาบาลนี้ ไม่แปลกที่ฝ่าย HR ยังไม่มีข้อมูลติดต่อเขาเลย”
ตี้ชีหยวนไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเขา จึงได้โบกมือ “กลับมาเข้าเรื่องของเราดีกว่า ที่เราจะประชุมกันในวันนี้ก็คือเรื่องทีมพิเศษ มีใครมีข้อเสนอแนะอะไรไหม ?”
แทนที่จะเรียกว่าการประชุม นี่น่าจะเรียกว่าการประกาศมากกว่า
ซูเถารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นรายชื่อ มีถังหนานเชงเป็นหัวหน้าและมีเขากับลูชีเหมียวเป็นรองหัวหน้า เธอนั่งอยู่ข้างเฉียวเต้อเหา เขาเห็นเธอมาหลายแล้ว
เมื่อซูเถามองดูลูชีเหมียว พอดูจากปากของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังพูดว่า ‘ไอ้บ้ากาม’ ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเขามากทีเดียว
เรื่องนี้มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นสาวงามแต่ก็มีหนามมากเกินไป ดังนั้น ในตอนที่ซูเถาเผลอจับไปที่หน้าอกของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกตกใจมากและพยายามห่อไหล่เพื่อปกปิดหน้าอกของเธอ
ลูชีเหมียวสวมชุดทางการ โดยที่เธอทาครีมบำรุงผิวที่แก้มของเธอ เธอย้อมผมสีม่วงแดงและได้มัดผมขึ้น หน้าอกของเธอได้ดันเสื้อขึ้นมา เธอจึงได้จัดเสื้อขึ้นและมองไปทางอื่น
ตี้ชีหยวนได้อ่านรายชื่อก่อนจะแนะนำพวกเขาทีละคน ซูเถารู้สึกเบื่อเล็กน้อยก่อนจะนั่งหมุนปากกาเล่นด้วยหัวแม่มือของเขา พอตี้ชีหยวนพูดจบ เขาก็เผลอทำปากกาหลุดมือและมันได้ร่วงลงไปบนพื้น
อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างก็กำลังใจจดใจจ่ออในสิ่งที่ตี้ชีหยวนพูด จึงไม่มีใครสังเกตซูเถา เขาค่อยๆเลื่อเก้าอี้ออกและมุดเข้าไปยังใต้โต๊ะเพื่อหยิบปากกา แต่เขาก็ได้พบกับความลับบางอย่างซึ่งทำให้เขาอึ้ง
ที่ว่าบ้ากาม ลูชีเหมียวไม่ได้หมายถึงซูเถา ขาซ้ายของเฉียวเต้อเหาขยับเข้าไปหาเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งตัวตรง แต่ขาของเธอก็ยังขยับหนี
เฉียวเต้อเหากล้าทำเรื่องแบบนี้ในที่ประชุมเชียวหรือนี่ ข้อมือของซูเถาสะบัดเล็กน้อยก่อนที่ปากกาจะบินไปโดนกระเพาะปัสสาวะของเฉียวเต้อเหา
เฉียวเต้อเหาส่งเสียงร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวดและเขารู้สึกว่าปัสสาวะเขานั้นเล็ดออกมา เขารีบเอามือกุมเป้ากางเกงก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเลขาเฉียว ?” มีเสียงถามขึ้นมาด้วยความงุนงง
“ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้งั้นเหรอ ? คุณมีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือเปล่า ?” มีคนสังเกตเห็นเป้ากางเกงของเฉียวเต้อเหาเปียกในขณะที่เขาวิ่งออกไปพร้อมกับทิ้งร่องรอยปัสสาวะเอาไว้บนพื้น
ลูชีเหมียวรู้สึกหงุดหงิดเฉียวเต้อเหามาก เธอหวังว่าการประชุมจะจบลงโดยเร็ว ในตอนนั้นเธอรู้สึกงุนงงปนโล่งใจ เธอมองลงไปที่พิ้นและพบปากกาซึ่งเป็นอันเดียวกับที่ซูเถาควงเล่นก่อนหน้านี้
เธอรูสึกตกใจ เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เขาทำนั้นทำให้เฉียวเต้อเหาเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ ? หรือบางทีเขาอาจจะเห็นเรื่องใต้โต๊ะเมื่อกี้และเขาได้ช่วยเธอเอาไว้ ?
ลูชีเหมียวคิดว่าเธอคงคิดมากเกินไป ท้ายที่สุดแล้วเธอคิดว่ามันไม่น่าเชื่อที่ซูเถาจะใช้แค่ปากกาเล่มเดียวทำให้เฉียวเต้อเหาเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้