Physicians Odyssey - ตอนที่ 86 โลกที่มัวเมา และมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่ตื่นอยู่
Physicians Odyssey บทที่ 86 โลกที่มัวเมา และมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่ตื่นอยู่
บทที่ 86 โลกที่มัวเมา และมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่ตื่นอยู่
มีคํากล่าวที่ว่าโลกนี้กําลังมัวเมา และมีเพียงตัวเรานั้นที่ตื่นอยู่ และนั่นก็คือสภาพของซูเถาในตอนนี้เขามองไปรอบๆและพบว่าทุกๆคนกําลังหัวเราะเยาะเขา บางคนถึงขนาดตะโกนให้เขาลงมาจากเวทีด้วยซ้ํา
ในตอนที่กาลิเลโอค้นพบทฤษฎีกฏการตกอย่างเสรี เขาถูกมองว่าเป็นพวกนอกรีตในสายตาของคนอื่น ซึ่งก็ตรงกับสถานการณ์ของซูเถาในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เขากลับรู้สึกสนุกด้วยซ้ําที่ยั่วโมโหคนอื่นได้
ทําไมเจ้าหมอนี่ถึงได้ดูท่าทางมั่นใจมาก ทั้งๆ ที่กําลังทําผิดอยู่เนี่ยนะ ?
กรรมการทั้งห้าคนต่างก็ไม่เข้าใจกับการกระทําของซูเถา ถ้าเขาไม่สามารถรักษาคนไข้ได้ก็ควรจะยอมแพ้ไป แต่ทําไมเขาต้องไปขัดขวางผู้เข้าแข่งขันคนอื่นด้วย ?
“อย่างนี้นี่เอง!” หลิวโร่เฉินออกมาจากห้องพร้อมกับสายตาที่แสดงถึงความประหลาดใจ
โมซูเอ้อตกใจเล็กน้อยกับคําพูดของหลิวโร่เฉิน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ถึงทําให้เธอขยับออกมา “เจ๊ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ ?”
หลิวโร่เฉินเอานิ้วแตะที่ริมฝีปาก “อีกเดี๋ยวก็รู้”
ถึงแม้ว่าหลิวโร่เฉินจะยิ้มไม่มากนัก แต่ก็เผยให้เห็นถึงฟันสีขาวที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบนี่เป็นครั้งแรกที่โมซูเอ้อเห็นเธอยิ้ม มันราวกับว่าโลกของเธอนั้นสั่นไหวไปชั่วขณะนึ่ง
ในที่สุดก็มีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นซักที เนื่องจากการแข่งขันนี้มันน่าเบื่อเกินไปสําหรับหลิวโร่เฉินแต่เหตุการณ์ที่กําลังเกิดขึ้นได้ดึงดูดความสนใจของเธอเอาไว้
ซูเถาหยิบเข็มออกมาจากมือของอี้หรืออ่านก่อนจะเดินไปยังเสี่ยวอัน มันทําให้เขาโกรธยิ่งขึ้นไปอีกซูเถาตั้งใจจะทําอะไรกันแน่ ?
ซูเถาไม่ยอมให้อีกฝ่ายฝังเข็มในขณะที่เขากําลังรักษาผู้ป่วยอยู่ นี่เขาตั้งใจจะถ่วงเวลาของคู่แข่งงั้นเหรอ ?
“ไอ้หมอนี่มันสกปรกเกินไปแล้ว !”
“เขาไม่เคารพคู่แข่งเลย !”
“ไอ้ขยะกากเดนเอ้ย !”
มีเสียงสาปส่งซูเถามาจากทั่วสารทิศ
ซเถาหันไปทางเสี่ยวอันก่อนจะจิ้มไปยังจุดฝังเข็มหยินถังที่อยู่ระหว่างคิ้ว ทันใดนั้น เสี่ยวอันค่อยๆหายใจได้ดีขึ้นและดูไม่ทรมานหรือทุรนทุรายเหมือนก่อนหน้านี้
ในสายตากรรมการที่นั่งอยู่ตรงกลาง กรรมการซึ่งยิ้มก่อนที่จะถอนหายใจ “ในฐานะที่เป็นการแข่งขันรอบแรก นี่มันออกจะยากเกินไปหน่อยนะ” หลังจากพูดจบ เขาก็ได้หันไปกระซิบกับกรรมการอีกคนที่อยู่ด้านขวามือนามสกุลโต่ว
ในที่สุดกรรมการโต่วก็เข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นพร้อมๆกับคําอธิบายของกรรมการซึ่งเขาพยักหน้าก่อนจะคว้าไมค์ “พวกเราได้ประมาทไปหน่อยในการเลือกคนไข้ ดังนั้นเราจะขอเลือกผู้ปวยใหม่และทําการแข่งขันกันอีกครั้ง”
เมื่อกรรมการพูดออกมาแบบนั้น บริเวณรอบๆก็เกิดความปั่นปวนขึ้นทันที นั่นเพราะกรรมการไม่แม้แต่จะสนใจการกระทําของซูเถา หนําซ้ํายังตัดสินใจเปลี่ยนคนไข้อีกด้วย ซึ่งมันดูจะไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย และทุกคนในที่นี้ต่างก็งงกันไปหมดเพราะเหตุการณ์แบบนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นครั้งแรก
หน้าของอี้อ่านถอดสี เขาไม่รู้ว่ามันเกิดออะไรขึ้นก่อนจะพูดด้วยความไม่พอใจ “ทําไมถึงเปลี่ยนคนไข้ล่ะ ? พวกเขาแค่ทรมานจากอาการความร้อนในกระเพาะอาหารเนื่องจากกรดไทฟอยด์เท่านั้นการฝังเข็มของผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมสามารถรักษาเธอได้”
กรรมการโต่วไม่คิดว่าอี้ฮ่านจะเป็นคนที่ใจร้อนแบบนี้ เขามองไปที่กรรมการทั้งสองก่อนที่กรรมการจะพยักหน้าด้วยความสามัคคี
กรรมการโต่วถอนหายใจ “หากคุณไม่เห็นด้วย เราก็คงต้องปรับให้คุณแพ้”
คําพูดนั่นทําให้ทุกคนอ้าปากค้าง ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็แค่อี้อ่านเริ่มรักษาผู้ป่วยและซูเถาเข้าไปขัดขวาง แล้วทําไมเขาจะต้องถูกปรับแพ้ด้วย ?
หวังเกาเฟิงที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยราวกับเดจาวู มันเหมือนกับที่ซูเถาเข้ามาขัดขวางเขาตอนที่รักษาฉินเม่ยเม่ย
เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันต่างออกไป หวังเกาเฟิงรู้ในทันทีว่าทําไม ในขณะที่อี้ย่านยังคงหน้ามีดตามัวมออองไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง
หากอี้ฮ่านยอมรับข้อเสนอที่จะเปลี่ยนผู้ปวย กรรมการอาจจะผ่อนปรนให้เขาได้ และทั้งสองคนก็จะได้กลับมาแข่งกันใหม่ แต่อี้อ่านปฏิเสธ พวกกรรมการเลยฟันธงได้ว่าอี้อ่านนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน พวกเขาจึงได้ปรับแพ้ไป
กรรมการซ่งมองไปยังซูเถา ก่อนจะพูดกับอี้ฮ่าน “เราจะให้คู่ต่อสู้ของคุณ หมอซูอธิบายเองว่าทําไมเราถึงปรับให้คุณแพ้”
ซูเถาอุ้มเสี่ยวอันมานอนลงบนเตียง ถึงแม้ว่าเขาจะทําตัวสบายๆ แต่เนื่องจากคําสาปแช่งต่างๆนาๆก่อนหน้านี้ มันก็ทําให้เขารู้สึกกดดันอยู่ดี
ซูเถาชี้ไปยังเสี่ยวอันและเสี่ยวจิง “ทั้งคู่มีการเชื่อมต่อกระแสจิตด้วยกันอยู่ ดังนั้นมันจึงเปล่าประโยชน์ที่จะฝังเข็มแค่คนใดคนหนึ่ง หากรักษาเพียงคนเดียว อีกคนก็จะรู้สึกไม่สบาย”
อย่างไรก็ตาม อี้ฮานยังคนถูกกรรมการปรับแพ้อยู่ดี เขาส่ายหัว “นายพูดเรื่องบ้าออะไรอยู่ 2 ชั้นไม่เคยได้ยินเรื่องพรรค์นี้มาก่อนเลย นายคิดอะไรของนายอยู่กันแน่ ?”
ซูเถาถอนหายใจ “เคสนี้หาได้ยากมาก นายอาจจะเคยได้ยินเรื่องคล้ายๆแบบนี้มาบ้างในข่าวมีพี่น้องฝาแฝดอยู่คู่หนึ่ง คนนึงเป็นมะเร็งเนื่องจากควันและเหล้า ส่วนอีกคนนั้นสุขภาพดีแต่ทั้งคู่กลับมีปัญหาที่ตับเหมือนกัน”
อี้ฮ่านก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจึงถามต่อ “ถึงแม้ทั้งคู่จะมีการเชื่อมต่อกระแสจิตด้วยกันก็จริงโรคของพวกเขาก็น่าจะเหมือนกันสิ แล้วทําไมชั้นจะรักษาเสี่ยวอันไม่ได้หลังจากที่ชั้นรักษาเสี่ยวจิงแล้ว ?”
“เพราะว่าเสียวอันเป็นโรคอื่นน่ะสิ เธอเป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจมาตั้งแต่กําเนิด ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทนการฝังเข็มของนายได้หรอก ในตอนที่นายรักษาเสี่ยวจิง เสี่ยวอันก็จะได้รับการรักษาแบบเดียวกันซึ่งมันไม่ปลอดภัยอย่างมาก”
อี้ฮานอึ้งไปพักนึงก่อนจะมองไปยังเสี่ยวอันและสังเกตเห็นว่าผิวของเธอนั้นซีดเซียวและแก้มของเธอนั้นแดงผิดปกติ มันเป็นอาการของโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ
เขาเอาแต่มุ่งความสนใจไปที่เสี่ยวจิงจนลืมเรื่องของเสี่ยวอัน ในตอนนั้นเอง เขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมกรรมการถึงได้ปรับแพ้เขา
สําหรับในเคสรุนแรงแบบนี้ มันไม่สามารถใช้ในการตัดสินในขั้นต้นได้ ทางผู้จัดงานได้เลือกคู่ฝาแฝดมาก็เพราะแค่อาการป่วยของพวกเธอนั้นดูเหมือนกัน
เนื่องจากพวกเขาทั้งสองเป็นฝาแฝดที่มีการเชื่อมต่อทางจิตอยู่ ดังนั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับการรักษา มันก็จะส่งผลให้อีกฝ่ายเช่นกัน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องของความซับซ้อน หนึ่งในนั้นมีโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ มันจึงเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้อี้อ่านตกรอบตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรก
อี้ฮ่านถอนหายใจ ซูเถาสามารถมองเห็นเทคนิคการฝังเข็มของตระกูลอี้ของเขาได้ นั่นก็หมายความว่าซูเถามีสายตาที่น่าฟัง เขายิ้ม “ผมขอยอมรับความพ่ายแพ้ !”
เมื่อเห็นอี้อ่านลงจากเวที กรรมการโต่วยิ้มก่อนจะประกาศ “ผู้ชนะ ซูเถา !”
“ผมยังรักษาไม่เสร็จเลยนะ”ซูเถาส่ายหัว
กรรมการโต่วอึ้ง “งั้นเราจะรอ !”
ซูเถาวางทั้งสองคนลงบนเตียงข้างๆกัน โดยเขาจะแทรกอยู่ตรงกลาง เขาหยิบเข็มออกมาสองเล่มถือไว้มือละเล่ม
ทุกคนรู้ว่าซูเถากําลังจะทําอะไร ซูเถาพยายามจะใช้การฝังเข็มรักษาคู่แฝดโลลิต้าพร้อมๆกัน !
ขณะที่เข็มในมือของเขากําลังเต้นอยู่ เทคนิคการฝังเข็มของเขานั้นช่างอัศจรรย์มาก ราวกับการแสดงศิลปะอันงดงาม
หลิวโร่เฉินอดที่จะยืนดูไม่ได้ ถึงขนาดเขย่งขาเพื่อจะดูการรักษาของซูเถาให้ชัดๆ เพราะมีเพียงพวกผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะมองเทคนิคขั้นสูงของซูเถาออก
เมื่อเข็มฝังเข้าไปในจุด ทั้งมือซ้ายและมือขวามต่างก็เข้าจังหวะกันได้อย่างแม่นยํา พลังได้เข้าไปที่ร่างกายของฝาแฝดทั้งสองโดยมีเข็มเป็นสื่อกลาง ทําให้หลิวโร่เฉินอกอที่จะดูอย่างใจจดใจจ่อไม่ได้
“เจ็ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น ?” โมซูเอ้อสังเกตเห็นท่าทางของหลิวโร่เฉินก่อนจะจับข้อมือของเธอ
เบาๆ
หลิวโร่เฉินได้สติกลับมาก่อนจะนั่งลงเหมือนเดิม “ไม่มีอะไร แค่อยากจะดูให้ชัดๆเท่านั้นเอง”
หวังเกาเฟิงซึ้งมองหลิวโร่เฉินอยู่ตลอด และเมื่อเขาเห็นเปลวไฟในตาของเธอ เขาก็รู้สึกแปลกๆในใจ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นที่รู้จักในฐานะของผู้นํายุคใหม่ แต่เธอก็ไม่เคยแสดงอารมร์ให้เขา เห็นมาก่อนเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสชาติของความหึงหวง ถึงแม้จะในวงการแพทย์แผนจีนที่เขานั้นภูมิใจมากก็ตาม เขากําลังกําหมัดด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย
ในตอนที่อี้อ่านกลับมาที่นั่ง เขายิ้มก่อนจะหันไปทางเถาเจิ้น “พี่ใหญ่ ขอโทษด้วยที่ผมแพ้”
“ถ้าชั้นเป็นนาย ชั้นก็แพ้เหมือนกันนั่นแหละ” เถาเฉินตบไหล่อี้หรืออ่านด้วยรอยยิ้ม
“แต่…ผมทําให้คุณเสียเงินนะ” อี้อ่านรู้ว่าเถาเงินนั้นมีปัญหาเรื่องเงิน และได้วางเดิมพันก้อนโตไว้กับเขา
เถาเงินตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “นอกจากนายแล้ว ชั้นยังวางเดิมพันคนอื่นเอาไว้อีกด้วยล่ะ”
อี้หรืออ่านมองไปยังซูเถา เขารู้สึกว่าคนที่ถูกมองข้ามมากที่สุดนี่แหละจะเป็นม้ามืดที่น่ากลัวที่สุด
ถึงแม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็ทําให้การแข่งขันสนุกขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย นออกจากหวังเกาเฟิง พวกตัวเต็งคนอี นอีก 7 คนก็ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย โดยเฉพาะเทคนิคการรักษาของไปฟ่าน ซึ่งทําให้คนอื่นนั้นต้องทิ้ง หลังจากผู้ปวยต้อกระจกคนนึงได้ใช้ครีมที่ไปฟานทําขึ้น ผู้ปวยคนนั้นก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
ดังนั้น เรียกได้ว่าทางแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์มีเทคนิคทาง
การแพทย์ที่เหลือร้ายจริงๆ !