Physicians Odyssey - ตอนที่ 73 ดูวีดีโอลับ
บทที่ 73 ดูวีดีโอลับ
มีวีดีโอส่งมาที่มือถือของลู่ชีเหมี่ยว และเมื่อเธอเห็นว่าซูเถาเข้ามา ก็รีบปิดมือถือทันทีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ซึ่งแม้แต่ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นและมีเหงื่อออกที่จมูก ซูเถาเลยถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทําไมดูลุกลี้ลุกลนอย่างนั้นล่ะ ?”
ลู่ชีเหมี่ยวส่ายหัว “ไม่มีอะไรนี่ แล้วทําไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ ห้องของแขกน่ะอยู่อีกห้องนึงนะ เดี๋ยวชั้นจะไปจัดห้องเตรียมไว้ให้นายเอง”
เธอคิดจะซ่อนอะไรบางอย่างจากเขางั้นเหรอ ? ซูเถาจับจมูกตัวเองก่อนจะแกล้งทําเป็นเดินออกไปและรีบหันมาคว้ามือถือของลู่ชีเหมี่ยว เขาใส่รหัสที่เธอเคยบอกเขาเอาไว้
ลู่ชีเหมี่ยวตกใจมาก และเมื่อเธอรู้สึกตัว เธอก็เห็นซูเถากําลังจิ้มหน้าจอมือถือของเธออยู่ เธอสังเกตเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของซูเถาก่อนที่เขาจะค่อยๆใจเย็นลงและดูวีดีโอนั่นด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
ลู่ชีเหมี่ยวนั่งเอามือประสานกันบนเตียงก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฉียวโบเพิ่งส่งมันมานะ และนั่นก็น่าจะเป็นวีดีโอที่เขาพูดถึง แม้ว่าคนในคลิปจะหน้าตาคล้ายกันแต่ไม่ใช่ชั้นแน่นอน”
วันก่อนเฉียวโบพูดเอาไว้ว่าเขาได้ดูวีดีโอที่เธอกับเฉียวเต้อเหานั้นมีซัมติงบางอย่างกัน และเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะส่งมันมาจริงๆ ซึ่งทําให้เธอช็อคมาก
ซูเถาส่ายหัว เพราะเขาสามารถบอกความแตกต่างได้ ก่อนจะยิ้ม “รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้คล้ายเธอก็จริง แต่รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ก็ยังถือว่าน้อยกว่าเธอ ซึ่งคนในคลิปนี่เป็นแค่แอปเปิ้ลเท่านั้น ในขณะที่เธอนั้นเป็นแตงโม”
ลู่ชีเหมี่ยวพูด “ดูจะหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้จังเลยนะ? ให้ชั้นส่งคลิปให้มั้ยล่ะ นายจะได้เอาไปนอนดูให้หนําใจทั้งคืนไปเลย”
ซูเถาส่ายหัว แต่สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่มือถือ “วีดีโอนี้ไม่ค่อยชัดเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ? มันแค่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของชั้นเท่านั้นเอง และที่สําคัญเลยเฉียวโบไปเอาวีดีโอนี้มาได้ยังไง ?”
“เป็นไปได้มั้ยว่าเฉียวเต้อเหาจะส่งมันให้กับเฉียวโบเอง ?” ลู่ชีเหมี่ยวขมวดคิ้ว
ถึงความคิดนั่นมันจะดูเป็นไปได้ แต่ก็มีโอกาสน้อย แม้ว่าเฉียวเต้อเหาจะดูเป็นคนไม่ดี แต่เขาก็ไม่ต่ําช้าขนาดที่จะส่งวีดีโอนี้ให้กับลูกชายตัวเอง หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ซูเถาพูด “บางทีอาจจะมีการแอบติดกล้อองไว้รอบๆบ้านเธอก็ได้”
ลู่ชีเหมี่ยวพยายามนึกแล้ว แต่เธอก็ส่ายหัวกลับมา “ไม่มีกล้องหรอก เพราะชั้นเก็บกวาดบ้านบ่อย ถ้ามีกล้องจริงๆก็น่าจะเห็นแล้ว”
ซูเถาเอานิ้วแตะหน้าจอก่อนจะวิเคราะห์ “งั้นก็มีเหตุผลเดียว มีบางคนตั้งใจจะใส่ร้ายเฉียวเต้อเหาและส่งวีดีโอนี้ ให้กับเฉียวโบเพื่อยั่วโมโหเฉียวเต้อเหา อย่างไรก็ตามดูเหมือนเฉียวโบจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอกับเฉียวเต้อเหาเป็นคนในวีดีโอนั่น”
“ฟังดูมีเหตุผล” ลู่ชีเหมี่ยวยิ้ม ก่อนจะค่อยๆเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ เข้าด้วยกัน
ซูเถาเอามือลูบคาง “สิ่งสําคัญคือผู้หญิงที่อยู่ในวีดีโอ ถ้าเราสามารถยืนยันตัวตนของเธอได้ เราก็จะสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ดูจะมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับเฉียวโบ ซึ่งจะต้องเป็นคนรู้จักกับเขาแน่ เธอพอจะนึกอะไรออกบ้างมั้ย ?”
ลู่ชีเหมี่ยวเดินไปข้างๆซูเถา ก่อนจะดูวีดีโออยู่เป็นเวลานาน เนื่องจากแสงไม่ค่อยพอเธอจึงเห็นแค่ลางๆเท่านั้น
เฉียวเต้อเหาซึ่งมีรูปร่างท้วมกําลังอยู่กับผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ ซึ่งซูเถาได้แสดงท่าทางที่ดูตื่นเต้นมากขณะกําลังดูวีดีโอ
ซึ่งปัจจุบัน พวกคลิปหลุดแบบนี้ก็มีมาก ถึงแม้ว่ามันจะคุณภาพไม่ดี แต่ก็เป็นของแท้
ลู่ชีเหมี่ยวรู้สึกประหม่า เธอกําลังทําอะไรอยู่เนี่ย ยืนดูคลิปหลุดกับซูเถางั้นเหรอ ?
ไร้สาระน่า เธอแอบมองซูเถาก่อนจะเห็นว่าเขากําลังดูอย่างตั้งใจราวกับว่าไม่ถูกรบกวนเลย
เธอพยายามสงบใจลงก่อนที่จะพยายามยืนยันตัวตนของผู้หญิงในวีดีโอว่าเป็นใครกันแน่ อย่างไรก็ตาม สายตาของเธอก็ไม่ได้จับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นกับเฉียวเต้อเหามากนัก เธอรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นร้อนขึ้นก่อนที่เธอจะยอมแพ้ “ชั้นนึกไม่ออก มันมัวเกินไป”
ซูเถาถอนหายใจ “ชั้นเข้าใจ ฉากนี้มันดูเร้าใจเกินไป ทําให้ง่ายต่อการคิดฟุ้งซ่าน”
ถึงแม้ว่าลู่ชีเหมี่ยวจะเป็นคนที่เย็นชาราวกับน้ําแข็ง แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิง ความสัมพันธ์ของหล่อนกับสามีนั้นดูแข็งที่อมาก แถมเธอก็งานยุ่งมากอีกต่างหาก แต่ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ย่อมมีความต้องการเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับผลไม้ต้องห้ามซึ่งได้กลายเป็นผลไม้แห้งหลังจากปล่อยผ่านไปนาน หากมันถูกจุดไฟแล้ว มันก็จะโหมลุกขึ้นเป็นเปลวไฟที่ร้อนแรง
ลู่ชีเหมี่ยวโกรธมาก ก่อนเธอจะเหยียดมือออก “เอามือถือมาหน่อย ชั้นจะลองดูใกล้ๆ”
หลังจากคืนโทรศัพท์ให้เธอแล้ว สายตาของซูเถาก็มองไปยังร่างกายขอองลู่ชีเหมี่ยว ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเฉียวโบถึงเข้าใจผิด ถ้าไม่ดูให้ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นดูคล้ายกับลู่ชีเหมี่ยวมาก เหมือนยันอายุ อย่างไรก็ตามผู้หญิงคนนั้นยังขาดอะไรไปหน่อยเมื่อเทียบกับลู่ชีเหมี่ยว
หลังจากจ้องดูอยู่นาน ลู่ชีเหมี่ยวยังคงไม่สามารถยืนยันตัวตนของผู้หญิงคนนั้นได้ “เหตุการณ์ในคลิปนี่มันเลือนลางเกินไป เป็นไปไม่ได้เลยสําหรับชั้นที่จะดูให้มันชัดๆ”
ซูเถาพยักหน้า “เหตุผลที่เฉียวโบเข้าใจผิด บางที่อาจเป็นเพราะมันเกิดขึ้นในบ้านของเธอ และหากลองดูจากการที่เฉียวเต้อเหาเอาใจใส่เธอดีแค่ไหน มันเลยทําให้เขาคิดว่าผู้หญิงในวีดีโอนั้นคือเธอ”
ลู่ชีเหมี่ยวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะปิดวีดีโอนั่นแล้วมองมายังซูเถา “เรื่องนี้มันไม่สําคัญอีกต่อไปแล้ว เฉียวโบคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือชั้น มันก็เท่านั้นแหละ”
ซูเถาอึ้งไปชั่วครู่ เพราะเฉียวโบนั้นได้ทําร้ายลู่ชีเหมี่ยวไว้มาก เขาถอนหายใจ “แต่จากนิสัยเขาแล้ว ชั้นเกรงว่าเขาอาจจะยังตามรังควานเธออยู่ ส่งมือถือมาให้ชั้นหน่อย”
“นายจะทําอะไรน่ะ ?” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เธอก็ยื่นมือถือให้กับซูเถา
ซูเถายิ้มก่อนจะบล็อคเบอร์ของเฉียวโบ “ชั้นจะทําให้เธอได้ตัดสินใจและตัดขาดการติดต่อกับเขา”
หลังจากลู่ชีเหมี่ยวมองดูซูเถาออกจากห้องไป เธอรู้สึกหดหู่เล็กน้อย บางทีวิธีการตัดขาดการติดต่อแบบนี้คงทําให้เธอรู้สึกว่างเปล่า ยังไงซะ ความเกลียดชังก็เป็นความรู้สึก ตราบใดที่เธอยังคงมีความรู้สึก เธอก็ต้องการเวลามากขึ้นอีกนิดเพื่อเอาชนะมัน…
จากนั้นไม่นาน ลู่ซีเหมี่ยวก็ได้ออกมาจากห้องก่อนจะหาผ้าปูเตียงและผ้าห่มเตรียมไว้ให้ซูเถาที่ห้องรับแขก เธอได้ยินเสียงน้ํากระเด็นจากในห้องน้ํา ซูเถาคงกําลังอาบน้ําอยู่ และวีดีโอเมื่อกี้นี้ก็ได้กลายเป็นปีศาจคอยกวนใจเธอ เธอรู้สึกเย็นๆท้องนิดหน่อย ก่อนที่จะตบผ้าปูที่นอนให้ซูเถาและกลับเข้าห้องไป
หลังจากที่ซูเถาอาบน้ําเสร็จและกลับมาที่ห้องรับแขก เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อมองไปยังผ้าปูเตียงที่เต็มไปด้วยรอยย่น ในฐานะพวกอนามัยจัดและหมอแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ลู่ชีเหมี่ยวจะเป็นคนเลอะเทอะ เราทําผ้าปูที่นอนให้เรียบก่อนที่จะปิดไฟ
ผ้าปูที่นอนนั้นสะอาดมาก และมีกลิ่นหอมแปลกๆลอยออกมาจากผ้าห่ม เนื่องจากลู่ชีเหมี่ยวได้ตบมันนั่นเอง จนทําให้เขาเริ่มจินตนาการเพี้ยนๆอีกแล้ว และด้วยการกระตุ้นจากวีดีโอนั่น เขารู้สึกราวกับกําลังโดนจับไปทดลองยังไงยังงั้น
ห้องนอนห้องใหญ่ยังคงสว่างอยู่ ลู่ชีเหมี่ยวดื่มน้ําแก้วนี้นึงก่อนจะอ่านบทความที่เกี่ยวกับความรัก ไม่รู้ทําไม เธออ่านไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากในหัวของเธอเต็มไปด้วยการกระทําที่น่าขยะแขยงของที่เฉียวเต้อเหาพร้อมกับเสียงครางของผู้หญิงคนนั้น
มนุษย์ทุกๆคนย่อมต้องเผชิญหน้ากับความจริง และลู่ชีเหมี่ยวก็เช่นกัน ประตูนั่นคล้ายกับตัวล้อคบางอย่างที่ทําให้เธอนั้นหายใจไม่ออก
ในขณะที่เธอกําลังตกอยู่ในภวังค์ก็ได้เผลอหลับไปก่อนจะ เข้าไปสู่โลกแห่งความฝัน ในฝันของเธอนั้น ซูเถาได้เปิดประตูเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่แสนชั่วร้ายก่อนจะขึ้นคร่อมเธอ แม้ว่าเธอจะตะโกนให้เขาออกไป แต่เธอก็ไม่ได้ดิ้นขัดขืน แขนของเธอถูกจับขึงไว้พร้อมๆกับเอวของเธอ..
หลังจากผ่านไปไม่รู้เท่าไหร่ เธอก็ตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง ก่อนที่เธอจะเอามือแตะไปที่หว่างขาและรู้สึกแฉะๆ เธอยิ้มเจื่อนๆเนื่องจากมันเป็นความฝันที่ไร้สาระ หลังจากหยิบกางเกงใน สีดําจากตู้เสื้อผ้ามาเปลี่ยน เธอได้ขยํากางเกงในที่เปียกก่อนจะเอาไปรวมกับเสื้อผ้าที่ใส่เมื่อวานเพื่อเตรียมซักทีหลัง
พอเธอออกมา ก็พบว่าซูเถากําลังยุ่งออยู่กับการเตรียมอาหารเช้าในครัว “เมื่อกี้ชั้นเพิ่งลงไปข้างล่างคุยกับเจ้าของร้านอุปกรณ์มา อีกซักพักเขาจะมาเปลี่ยนลูกบิดให้ ชั้นกําลังทําบะหมี่อยู่ เธอจะเอาไข่ดาวหรือเกลือหน่อยมั้ย ?”
เธอเปิดเครื่องซักผ้าและรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเมื่อเห็นเสื้อผ้าเหล่านั้นกําลังหมุน มันเหมือนกับการพยายามทําลายหลักฐานหลังจากก่ออาชญากรรมเสร็จ “นายเลือกมาเลย ชั้นได้ทั้งคู่”
หลังจากนั้นไม่นาน ซูเถาได้เอาบะหมี่สองถ้วยและไข่ดาวมาวางบนโต๊ะ ลู่ชีเหมี่ยวล้างหน้าเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะทาครีมบํารุงผิวหน้า พอมองไปที่ใบหน้าของเธอ ซูเถาถามขึ้น “เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ ?”
ลู่ชีเหมี่ยวรู้สึกว่าบะหมี่นั้นนุ่มและสุกได้ที่อย่างไม่น่าเชื่อด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม เธอกินไปคํานึงก่อนจะตออบกลับด้วยคําถาม “นายก็นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ ?”
ซูเถาเอาตะเกียบคีบไข่ดาวมาวางไว้ในถ้วย “เมื่อคืนชั้นนอนไม่หลับน่ะ ชั้นเผลอคิดอะไรฟุ้งซ่านมากไปหน่อย กว่าจะนอนหลับได้ก็นานอยู่”
ลู่ชีเหมี่ยวมองไปยังวูเถาก่อนจะตอบกลับ “ชั้นหยับยันเช้าเลยล่ะ แถมยังฝันดีอีกด้วย”
เมื่อพูดจบ เธอก็ลดเสียงลงและพยายามเลี่ยงการสบตากับซูเถา ไม่รู้ว่าซูเถาจะรู้ตัวแล้วหรือยัง
ในขณะที่เธอกําลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เธอรู้สึกว่ามีอะไรมาโดนเธอใต้โต๊ะ ซูเถาเหยียดเท้าออกมาก่อนจะเอาเท้าวนรอบๆเท้าของเธอ “ตอนนี้ชั้นเริ่มรู้สึกเสียใจมากเลยล่ะ ถ้าเมื่อคืนชั้นมีความกล้าอีกหน่อย ก็คงไม่ต้องมาทรมานกับการ นอนไม่หลับเมื่อคืนนี้หรอก”
ลู่ชีเหมี่ยวตกใจก่อนจะหดเท้ากลับและยืนขึ้นพลางจ้องมองไปยังซูเถา “นาย หยุดเลยนะ !”
มองดูลู่ชีเหมี่ยวถือชามเดินไปยังที่โซฟา เขาบ่นพึมพํากับตัวเอง “ถึงจะหนีก็ยังเอาอาหารติดตัวไปด้วย สัญชาติญาณเอาตัวรอดของเธอนี้มันแน่นอนจริงๆ !”