Physicians Odyssey - ตอนที่ 32 ให้ลูกสาวเผชิญหน้ากับความตาย
บทที่ 32 ให้ลูกสาวเผชิญหน้ากับความตาย
ในฐานะที่เป็นศิษย์โดยตรงแห่งยุคของแพทย์ศาสตร์แห่งราชันย์ เนี่ยเหยาจงมีท่าทีที่รวดเร็วพร้อมกับทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แต่หากลองพิจารณาทักษะการต่อสู้ของเขาดูแล้ว เขาได้บรรลุศาสตร์แห่งการใช้พิษขั้นสูงซึ่งเป็นรองเพียงแค่แพทยศาสตร์ราชันต์เท่านั้น เพียงแต่เนี่ยเหยาจงไม่สามารถที่จะหยิบพิษของเขามาใช้ได้เนื่องจากจากโจมตีที่ว่องไวของซูเถา เขาทำได้แค่โยกหลบไปมาเท่านั้น และเขาก็เริ่มรู้สึกมีอาการหนาวสั่นราวกับว่าเข็มบินได้เจาะทะลุเข้าไปในผิวหนัง ฝังลึกเข้าไปในร่างกายเลยทีเดียว
เนี่ยเหยาจงรู้สึกตื่นตระหนกเพราะเขาไม่รู้ว่าซูเถานั้นใช้วิชาอะไรกันแน่ เขากลิ้งลงไปบนพื้นก่อนจะโยนขวดยาไปยังทิศที่ไคหยานอยู่ เขารู้ดีว่าเล่นงานซูเถาไม่ได้ง่ายๆแน่ แต่ไคหยานนั้นง่ายกว่ากันเยอะ
“ไอ้คนน่ารังเกียจ !” ซูเถารู้เรื่องของพวกแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันต์ ถึงแม้พวกนี้จะมีชื่อเสียงในทางลบ แต่พวกเขาก็เป็นแพทย์แผนจีนขนานแท้ อีกทั้งการรักษาของพวกนี้ก็ไม่เหมือนกับที่อื่นเพราะว่าพวกเขาใช้พิษในการรักษา !
ในปีสุดท้ายของราชวงค์ชิง ลูกศิษย์ของแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันต์ได้ถวายการรักษาโรคทางเพศสัมพันธ์ของพระจักรพรรดิ ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมา
ขวดยาได้แตกออกกลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล มันเป็นระเบิดยาที่เนี่ยเหยาจงเอามาจากพี่ชายของเขา และพิษของมันเบื้องต้นทำให้เป็นอัมพาต
ซูเถาตะโกนพลางโยนเก้าอี้ ขณะที่เขาพลิกโต๊ะและโยนมันออกไป ซึ่งมันได้เข้าไปขวางผงยาเอาไว้
“ไอ้เวรตะไลเอ้ย , ทำไมจัดการมันยากนักนะ !” ดวงตาของเนี่ยเหยาจงแลดูเย็นชาก่อนจะหยิบปืนพกออกมาจากกระเป๋า มันเป็นปืนที่ดัดแปลงมาจากปืนอัดลม แต่มันสามารถเจาะทะลุผิวหนังได้เนื่องจากโหลดกระสุนยางชนิดพิเศษเอาไว้ข้างใน
เก่งนักใช่มั้ย ? มาดูกันว่ามือของแกกับปืนของชั้นอันไหนมันจะเร็วกว่ากัน !
เนี่ยเหยาจงเล็งปืนและยิงไปที่ไหล่ของไคหยานโดยไม่ลังเล เธอร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็มีเลือดสีแดงไหลย้อมไปทั่วแขนของเธอ
เนี่ยเหยาจงยิ้มเมื่อเห็นซูเถาตัวแข็งทื่อ เขาคิดว่าซูเถาคงจะกลัวจนขยับไม่ได้ เขายังคงเล็งปืนไปที่ไคหยานก่อนจะท้าทายซูเถา “เก่งนักไม่ใช่เหรอไง ? เข้ามาเซ่ ! เข้ามาสิโว้ย !”
แววตาของซูเถาในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เนี่ยเหยาจงทำให้เขาฟิวส์ขาดโดยการทำร้ายไคหยาน เขาจึงได้หันไปมองที่แผลของไคหยาน กระสุนยางไม่ได้เจาะทะลุตัวเธอไป แสดงว่ากระสุนต้องฝังอยู่ตรงไหนสักแห่งในร่างกายแน่นอน ซึ่งจะต้องรีบเอาออกมาทัน หากปล่อยไว้จะเป็นอันตราย
เนี่ยเหยาจงเข้าใจผิด เขาคิดว่าได้ทำการข่มขู่ซูเถาไปแล้วเรียบร้อย เขาจึงได้หรี่ตาลงและเดินไปยังไคหยาน ก่อนจะจับคางเธอให้เงยหน้าขึ้น “ไอ้เวรนั่นคงเป็นชู้รักของเธอหล่ะสิท่า ? น่าเศร้าจริงๆที่ลูกพี่ลูกน้องของชั้นตายก่อนที่จะได้แต่งงานแล้วปล่อยให้หม้ายสะใภ้คนนี้คอยหาชู้รัก , แต่จะว่าไปแล้ว ของดีๆมันก็ต้องเก็บไว้ใช้กันในครอบครัวหล่ะนะ แล้วทำไมถึงเป็นมัน ไม่ใช่ชั้นกันห้ะ !”
“ไปให้พ้น !” ไคหยานส่ายหัว แต่เนื่องจากแผลที่ไหล่ของเธอ ทำให้เธอขัดขืนได้ยากขึ้น
เนี่ยเหยาจงฉีกเสื้อของไคหยานออก ซึ่งเผยให้เห็นถึงไหล่ขาวๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองซูเถา และสังเกตเห็นแววตาสีเงินส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะมืออ่อนเผลอทำปืนตกลงพื้น เขาเห็นเข็มเงินปักอยู่บนมือของเขา ก่อนที่แขนของเขาจะรู้สึกแปลกๆและสั่นแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้
เนี่ยเหยาจงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาตั้งใจจะใช้มือซ้ายหยิบปืนขึ้นมา ในความคิดของเขา ซูเถานั้นกลัวปืน อย่างไรก็ตาม ได้มีแสงสีเงินส่องมาที่เขาก่อนที่เข่าของเขาจะถูกกระแทก
ซูเถาเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเย็นชาโดยที่มีรังสีสีเงินไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา ก่อนที่เนี่ยเหยาจงจะถูกปกคลุมไปด้วยเข็มเงินทั้งตัว เขาเป็นอัมพาตไปชั่วครู่และอยู่ในท่าทางคุกเข่า
พอเขากำลังจะพูด ก็ได้มีเข็มปักอยู่ที่ลิ้นของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นและก่อนที่เขาจะกระพริบตา ก็ได้มีเข็มอีกสองเล่มปักอยู่บนเปลือกตาของเขา !
ในตอนนี้เนี่ยเหยาจงรู้สึกทรมานตนถึงขีดสุด เขารูสึกทรมานราวกับเป็นโรคนอนไม่หลับ
ซูเถาเดินไปยังไคหยานก่อนจะจี้จุดไปที่ไหลของเธอ ก่อนที่จะมีกระสุนหลุดออกมาจากบาดแผล เขาได้จี้จุดซ้ำๆอีก 2 ครั้ง ทันใดนั้นเลือดก็หยุดไหล
หลังจากจัดการกับบาดแผลของไคหยานเรียบร้อยแล้ว เขาได้เดินไปยังเนี่ยเหยาจงก่อนจะดึงเข็มที่ลิ้นออก ความเจ็บปวดไหลผ่านไปทั่วร่างของเขาและกรามของเขาจะสั่นสะเทือน
“ยาแก้พิษอยู่ไหน ?” ซูเถาดึงเข็มอีกเล่มออก
ความเจ็บปวดได้แล่นทะลุไปจนถึงวิญญาณของเนี่ยเหยาจง ก่อนที่เขาจะปฏิเสธ “ชั้น…ไม่ให้แกหรอก !”
ซูเถาถอนหายใจก่อนที่จะดึงเข็มอีกเล่มออก ทำให้ตาของเนี่ยเหยาจงกลอกขึ้นและเขาก็หมดสติไป
ซูเถาต่อยไปยังบริเวณหน้าอกของเนี่ยเหยาจง ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาความกลัวได้ปกคลุมไปทั่วใบหน้าของเขาราวกับว่าเขาได้เดินผ่านประตูแห่งความตายมาแล้ว
“พอแล้ว ! ชั้นจะบอกนายว่ายาแก้พิษอยู่ไหน !” เขารู้แล้วว่าเข็มพวกนี้ไม่สามารถเอาออกได้ง่ายๆเนื่องจากทุกเล่มมันเชื่อมกับหัวใจของเขาทั้งหมด เขารู้สึกราวกับหัวใจแทบจะหยุดเต้นทุกครั้งที่ซูเถาดึงเข็มออก
ซูเถาไม่ให้เวลาเนี่ยเหยาจงได้พักหายใจ ก่อนที่จะดึงเข็มออกอีกสองเล่มในพริบตา มีโฟมสีขาวออกมาจากปากของเนี่ยเหยาจงก่อนที่เขาจะลงไปกองบนพื้น
พอเนี่ยเหยาจงฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็แทบจะไม่มีแรงขอร้องแล้ว เขารู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์ และเป็นไปตามที่เขาคิด ซูเถายังคงดึงเข็มอย่างต่อเนื่อง
สิบนาทีต่อมา ร่างกายของเนี่ยเหยาจงถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ และร่ายกายของเขาหดลงเหลือครึ่งเดียว น้ำภายในร่างกายของเขาถูกดูดออกมามากและเขาก็เหลือเข็มเล่มสุดท้ายบนร่างกายของเขา
ซูเถามองไปยังไคหยานก่อนจะสังเกตเห็นความลังเลในดวงตาของเธอ “ชั้นจะให้เธอดึงเข็มเล่มสุดท้าย !”
ไคหยานส่ายหัว “ชั้น…ชั้นไม่กล้าหรอก”
ซูเถาเดินไปที่ไคหยานก่อนจะพยุงเธอขึ้นมา “นี่แหละความเป็นจริงของสังคมล่ะ , เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด ถ้าชั้นไม่มาช่วย เธอคิดว่ามันจะเห็นใจเธอเหรอ ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไคหยานลังเล “ชั้นไม่เหมือนกับเขานะ !”
ซูเถายังคงโน้มน้าวเธอต่อ “เธอไม่เหมือนกับเขา เธอนั้นจิตใจดี แต่การความใจดีน่ะมันไม่ได้หมายความว่าเป็นคนอ่อนแอและยอมถูกรังแกหรอกนะ การใจดีกับพวกคนชั่วน่ะเป็นเพียงการกระทำของคนโง่เท่านั้นแหละ ! ลุงไคปกป้องเธอไม่ได้ตลอดหรอกนะ และชั้นก็ไม่ได้อยู่ข้างเธอตลอดเวลาด้วย เธอต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองได้แล้ว !”
ไคหยานพยักหน้า ในที่สุดเธอก็เข้าใจเจตนาของซูเถา เมื่อไม่นานมานี้เธอเปรียบเสมือนดอกไม้ที่เติบโตมาบนเตียงที่อบอุ่นซึ่งได้รับการปกป้องอย่างดี เธอได้เอามือที่ปิดแผลมาปิดตาของตัวเองไว้ก่อนจะดึงเข็มเล่มสุดท้ายออก
ร่างกายของเนี่ยเหยาจงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ก่อนที่อีก 10 นาทีต่อมาร่างกายของเขาจะส่งกลิ่นเหม็นออกมา เขาสูญเสียการควบคุมลำไส้ทั้งหมด ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ซู้ถาเอื้อมมือไปค้นตัวก่อนที่จะพบขวดยา เขาดมขวดแป๊ปนึงและรู้ว่ามันเป็นยาแก้พิษของลุงไค
เมื่อเขาหันกลับไป เขามองเห็นไคหยานกำลังมองไปยังเนี่ยเหยาจงด้วยท่าทางเคร่งเครียด เขายิ้มก่อนที่จะเข้าไปปลอบเธอ “ไม่ต้องห่วง , เขายังไม่ตาย เพียงแค่เขาไม่สามารถทำชั่วได้อีกแล้ว”
ซูเถาได้เอายาแก้พิษไปใช้กับไคซงพู ก่อนที่เขาจะจัดการแผลของไคหยาน ส่วนเนี่ยเหยาจง เขาได้แบกและโยนทิ้งลงไปในถังขยะ
ไม่กี่นาทีต่อมา ได้มีรถสีดำขับมาจจอดที่หน้าประตูร้านขายของเก่ามรกตก่อนที่จะมีชายทั้งสองมาแบกเนี่ยเหยาจงกลับเข้าไปในรถ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ไคซงพูก็ได้สติ เมื่อเขาเห็นไหล่ของไคหยานพันผ้าพันแผลยืนอยู่ข้างซูเถา เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพูดขึ้น “ลูกเอ้ย , ออกไปรอข้างนอกหน่อยนะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับซูเถา”
ไคหยานรูสึกแปลกๆ แต่เธอก็ทำตามที่พ่อพูด พอเธอออกไปจากห้องแล้ว ไคซงพูพยายามก้มตัวแต่มันดูจะฝืนไปซักหน่อยก่อนเขาจะถอนหายใจ “ชั้นควรจะต้องโค้งขอบใจนาย ถ้าไม่มีนาย ร้านขายของเก่ามรกตคงถูกทำลายตั้งแต่เมื่อคืนไปแล้ว”
ซูเถาถาม “ลุงไค , คุณได้ไปยุ่งกับใครเข้าล่ะเนี่ย ?”
ไคซงพูลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่เขาก็รูว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดบังอีกต่อไป ดังนั้น เขาต้องการจะสะสางเรื่องนี้กับพวกตระกูลเนี่ยและเรื่องที่ร้านขายของเก่ามรกตนี่ทำการรับใต้โต๊ะอย่างลับๆด้วย
หลังจากฟังที่ไคซงพูอธิบาย ซูเถาขมวดคิ้ว “ร้านขายของเก่ามรกตนี่พวกตระกูลเนี่ยมันเล็งเอาไว้นานแล้ว พวกมันคงไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก”
ไคซงพูยิ้มเจื่อนๆ “ชั้นตัดสินใจยอมแพ้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหล่ะ”
ซูเถาอึ้ง “ลุงไค , นี่คุณ…”
ไคซงพูถอนหายใจ “ที่จริง ชั้นรู้ว่ามีตำรวจคอยแอบตามชั้นมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็เจอกับปัญหามากมายเพราะเรื่องนี้ ชั้นจะบอกเขาในสิ่งที่ชั้นรู้ บางทีมันอาจจะขัดขวางแผนการของพวกตระกูลเนี่ย และมันอาจทำให้พวกเขากลัวขึ้นมาบ้างก็ได้”
ดวงตาของซูเถาเต็มไปด้วยความขมขื่น “คุณอาจจะต้องติดคุกหลายปีก็ได้นะ”
ไคซงพูถอนหายใจ “ธุรกิจของชั้นไม่เหมือนกับของผู้เฒ่าซู ซึ่งมีความเที่ยงตรงและถูกกฎหมาย ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ชั้นร่ำรวย แต่ชั้นก็ไม่กล้าใช้เงินและใช้ชีวิตอยู่ทุกวันด้วยความกลัว ชั้นน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ชั้นจะไม่ยอมให้ไคหยานต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้ ชั้นมีเรื่องจะขอร้องนาย”
ซูเถารูว่าไคซงพูนั้นคงมีเรื่องที่ต้องคิดมากทีเดียวหลังจากผ่านความตายมาสองครั้งแล้ว “ลุงไค , ได้โปรดพูดมาเลย”
ไคซงพูขอร้องทั้งน้ำตา “ชั้นขอฝากฝังไคหยานไว้กับนาย ได้โปรด สัญญากับชั้นว่านายจะปกป้องเธอ ชั้นรู้ว่าพวกตระกูลเนี่ยจะต้องสร้างปัญหาอีกไม่รู้จบแน่ แต่นายลองนึกถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อนาย นายสามารถปกป้องเธอได้ ชั้นไม่แน่ใจว่าเพื่อนของชั้นจะเชื่อใจได้หรือเปล่า”
อันที่จริง ไคซงพูได้วางแผนเอาไว้หลายอย่าง แต่เขารู้สึกกลัวว่า ‘เพื่อน’ ของเขานั้นเป็นคนที่พวกตระกูลเนี่ยส่งมา หากเขาฝากฝังลูกของเธอให้คนผิดคน มันจะทำให้ไคหยานตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นแทน หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วย ถึงแม้ว่าซูเถาจะยังอายุน้อยและไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่เขาสามารถไว้ใจได้
ปราศจากความลังเล ซูเถาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “วางใจได้เลย , ผมจะปกป้องเธอเอง”
หลังจากได้ยินดังนั้น แววตาของไคซงพูก็เต็มไปด้วยความยินดี “แค่นี้ชั้นก็วางใจได้แล้ว”
ไคซงพูยังได้ยื่นแฟ้มเอกสารที่ซ่อนเอาไว้ให้ซูเถา ซึ่งมีตัวเลขเขียนอยู่บนกระดาษที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ
ภายใต้ความช่วยเหลือของซูเถา ไคซงพูได้เริ่มโทรศัพท์ “เจ้าหน้าที่โต๋ว ผมคือ ‘Broken Finger’ คนที่คุณกำลังตามหา ถ้าคุณอยากจะรู้ความจริง คุณสามารถมาเจอผมได้ที่ร้านขายของเก่ามรกตที่เมืองหางโจวย่านถนนเก่าก่อนวันพรุ่งนี้”
อีกฟากของโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่โต๋วถามขึ้นมา “นายทำแบบนี้ทำไม ?”
ไคซงพูตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง “ชั้นเป็นแค่คนที่ถูกทิ้งเท่านั้นแหละ , ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ไม่เกินพรุ่งนี้ชั้นก็จะตายแล้ว”
เจ้าหน้าที่โต๋วพูดต่อ “ชั้นคิดมานานแล้วว่านายต้องอยู่ในหางโจว ชั้นมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ที่นั่น ด้วยกำลังของเขา เขาสามารถปกป้องนายได้”
ไคซงพูตอบกลับ “ผมจะสะสางทุกอย่างเอง”
เจ้าหน้าที่โต๋วได้ให้สัญญา “ผมจะจัดการกับคุณอย่างปราณีที่สุดแล้วกัน”