Physicians Odyssey - ตอนที่ 20 เด็กมหาลัยไม่ได้ไร้เดียงสานะ
บทที่ 20 เด็กมหาลัยไม่ได้ไร้เดียงสานะ
ไคซงพูเพิ่งจะหายจากอาการป่วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ถูกอัดลงไปนอนกองบนพื้นง่ายๆแน่ ชายคนนั้นเหยียบเอวของไคซงพูอยู่ซึ่งมันทำให้เขาชาจนขยับไม่ได้
ชายคนนั้นกำลังโกรธจัด เขาจึงได้ระบายความโกรธทั้งหมดลงไปที่ไคซงพู ไคหยานกรีดร้องด้วยความตกใจ ซูเถาคิดว่าเขาคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว
จู่ๆชายคนนั้นก็เสียการทรงตัวกะทันหัน ซูเถาจึงอาศัยจังหวะต่อยเข้าไปที่ท้องของเขา จนทำให้ชายคนดังกล่าวกระเด็นไปชนกำแพงจนทำให้รู้สึกเวียนหัว พอรู้สึกตัวอีกทีเขาก็เห็นว่าซูเถานั้นเข้ามาช่วยพยุงไคซงพูเอาไว้แล้ว
ชายคนนั้นสีหน้าดูซีดเซียว เขารู้นี่ไม่ใช่แค่การผลักธรรมดาๆแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นการเคลื่อนไหนแบบนั้นมาก่อน
ซูเถามองไปที่ชายคนนั้นก่อนจะถาม “เทียบกับพวก อีกาเฒ่า แล้ว ฝีมือของนายจะดีแค่ไหนกันเชียว ?”
ใบหน้าของชายคนนั้นบูดเบี้ยวพลางรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณท้องซึ่งเป็นผลจากการโดนต่อยเมื่อกี้ “เขา(อีกาเฒ่า)แข็งแกร่งกว่าชั้นอีก”
ซูเถาวิเคราะห์ “ลุงไคอ่อนแอกว่านาย ในขณะที่นายอ่อนแอกว่า อีกาเฒ่า แล้วอย่างงี้ลุงไคจะไปขโมยของมาจาก อีกาเฒ่า ได้ยังไง ?”
ชายคนนั้นถอนหายใจ “ชั้นรู้อยู่แล้วว่า อีกาเฒ่า โกหกชั้น แต่ชั้นไม่รู้ว่าตอนนี้ อีกาฌฒ่า ไปอยู่ที่ไหน ชั้นปล่อยให้เรื่องนี้เสียเปล่าไม่ได้หรอก”
ซูเถาเถียงกลับ “ของนั่นอยู่กับลุงไค ซึ่งเขาซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้นของจึงเป็นของเขา นายจ่ายเงินให้กับ อีกาเฒ่า แต่ดันมาลงกับลุงไคเนี่ยนะ มันไม่ต่างอะไรจากการปล้นหรอก”
ชายคนนั้นมองไปยังซูเถา “ถึงชั้นจะไม่ใช่ศัตรูของนาย แต่ชั้นก็ยังไม่ตัดใจหรอก ชั้นจะไปตามหา อีกาเฒ่า แต่ถ้าหาไม่เจอ ชั้นจะกลับมาอีก”
หลังจากที่ชายคนนั้นจากไป ซูเถาได้เข้าไปดูอาการของไคซงพูซึ่งบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใช้แค่ขี้ผึ้งทาเอานิดหน่อยก็เพียงพอแล้ว
“ขอบใจ , ถ้านายไม่เข้ามาช่วยไว้ มันคงพังร้านของชั้นไปแล้ว” ไคซงพูขอบคุณซูเถา
ซูเถามองไปยังไคซงพูก่อนจะถอนหายใจ “ลุงไค ผมคิดว่าคุณเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยแล้วหละ”
ไคซงพูยิ้ม “คนเราหน่ะยอมตายเพื่อความร่ำรวย มันก็เหมือนกับนกที่ยอมตายเพื่ออาหารนั่นแหละ ถ้าไม่เสี่ยงแล้วมันจะได้อะไรล่ะ ?”
ซูเถาถาม “งั้นพิษโทเมนนั่น อีกาเฒ่า เป็นคนวางยาคุณงั้นสิ ?”
ไคซงพูพยักหน้า “อีกาเฒ่า ได้วางแผนเอาไว้หมดแล้ว หลังจากที่ชั้นติดพิษ ร่างกายของชั้นก็อ่อนแอลง พอมีคนซื้ออีกคนเข้ามาเพื่อรับสินค้าไป พอเขาได้ของไปแล้ว อีกาเฒ่า ก็ได้เงินอีกรอบนึง”
ซูเถาถอนหายใจ “แล้ว อีกาเฒ่า ที่ว่านี่ใคร ? คุณรู้จักเขามั้ย ?”
ไคซงพูส่ายหน้า “เพื่อนชั้นเป็นคนแนะนำเขามาน่ะ ชั้ยเคยซื้อขายกับเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง เขามีของหายากเยอะแยะเลยทีเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสมบัติจากประเทศต่างๆ ชั้นเลยถูกพวกมันหลอกเอา”
เมื่อร้อยปีก่อน ประเทศจีนเกือบจะล่มสลายเนื่องจากการรุกรานของชาติตะวันตก พวกมันได้ยึดเอาทรัพย์สมบัติต่างๆไปหมด ซึ่งหมายถึงพวกโบราณวัตถุต่างๆที่ได้สูญเสียไป พวกนักสะสมของเก่าทั้งหลายต่างต้องการที่จะเอาของเก่าพวกนั้นคืนมา มันทำให้ไคซงพูถูกล่อลวงให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ซูเถาพยักหน้า “เจ้าอีกาเฒ่า นี่ดูท่าจะไม่ใช่คนธรรมดา ลุงไค ผมคิดว่าคุณน่าจะซ่อนตัวซักพักแล้วหล่ะ อาจจะมีคนมาอีกเพราะเรื่องนี้ก็ได้”
สายตาคงไคซงพูยังคงดูแน่วแน่ก่อนที่จะปฏิเสธ “ทำไมชั้นต่องซ่อนตัวด้วยล่ะ ? ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวซักหน่อย”
ในตอนแรก ซูเถาไม่ได้คิดจะข้องแวะกับคนอย่างไควงพูด้วยซ้ำ เขาคิดว่าไคซงพูนั้นเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แต่หลังจากที่พวกเขาได้พูดคุยกันแล้ว ความคิดของซูเถาก็เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่านักโบราณคดีคนนี้จะเป็นพวกโลภมาก แต่ลึกๆแล้วเขาก็เป็นคนที่มีความแน่วแน่และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ในตอนที่ซูเถาเดินออกมาจากร้านขายของเก่า ไคหยานก็เดินตามเขามาก่อนที่จะขอโทษ
“พวกเราแค่ตั้งใจจะเชิญนายมากินข้าวเย็นแท้ๆ แต่ดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาซะได้ ชั้นต้องขอโทษจริงๆ”
ซูเถาดีดนิ้วไปที่หน้าผากขอองไคหยาน “ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ ไว้โอกาสหน้าเธอค่อยตอบแทนชั้นแล้วกัน”
ไคหยานหน้าแดง “ยังไงก็เถอะ นายยัง….อยากที่จะนอนกับชั้นหรือเปล่า ?”
ซูเถาระเบิดหัวเราะออกมา เขาไม่คิดว่าไคหยานยังคงจำเรื่องล้อเล่นนั่นได้ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ตอนแรกชั้นคิดนะว่าที่ย่านถนนเก่านี่สงบสุขดี เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากเลยล่ะ ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเกิดปํญหาต่างๆเยอะขนาดนี้ และมันก็คงจะเกิดปัญหามากขึ้นอีกในอนาคตแน่ๆ”
ไคหยานมองไปยังใบหน้าของซูเถา เธอใจสั่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “แล้วสิบปีก่อนนายอยู่ที่ไหนมาเหรอ ?”
ซูเถาเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะตอบกลับ “มันเป็นที่ๆไกลและไม่ค่อยจะคุ้นเคยมากนัก ไว้ถึงเวลาแล้วชั้นจะบอกนะ”
ไคหยานนั้นรู้สึกว่าซูเถานั้นชอบทำตัวลึกลับเสมอ เพราะเขานั้นไม่ยอมพูดอะไรเลย แต่เธอก็ไม่คิดจะซักไซ้ เธอเออามือสยายผมไปด้านหลังก่อนที่จะพูดขึ้น “ทักษะการแพทย์ของนายนั้นยอดเยี่ยมมากเลยล่ะ ตำหนักจะต้องไปได้สวยแน่ถ้ามันอยู่ในมือของนาย”
ซูเถามองไปยังร้านขายของเก่า “ร้านนี่ก็เหมือนกัน ใครจะไปรู้อีกหน่อยมันอาจจะเป็นร้านขายของโบราณที่เจ๋งที่สุดในประเทศจีนก็ได้”
ตี้ชีหยวนนั้นบริหารงานเก่งมาก เขาได้ส่งคนมาที่ตำหนักเพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลในการดำเนินการปรับปรุงมันขึ้นมาใหม่
ตามที่ซูเถาร้องขอ ตำหนักนี่จะยังคงอยู่ในสภาพเดิม เขาแค่ต้องการตกแต่งและปรับปรุงมันเล็กน้อยเท่านั้น
ตำหนักนี่เขาได้รับสืบทอดมาจากซูกวงเฉิง เขาจึงอยากจะรักษาเอาไว้ให้ใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด
หลังจากที่ได้หารือเกี่ยวกับการปรับปรุงตำหนักเรียบร้อยแล้ว ตี้ชีหยวนได้รับโทรศัพท์ก่อนจะยิ้ม “ชั้นได้เตรียมหมอคนใหม่เอาไว้สำหรับตำหนักเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะส่งรายชื่อให้นายดู”
ตี้ชีหยวนได้วางแผนเอาไว้แล้ว เขาตั้งใจว่าจะส่งหมอจากแผนก TCM ไปให้ซูเถา เพื่อที่หมอเหล่านั้นจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากตำหนัก และเอามาใช้พัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลเจียงหัวต่อไป
ซูเถายิ้มก่อนจะตอบปฏิเสธ “ผมดูรายชื่อที่คุณส่งมาให้แล้ว หมอพวกนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์กันทั้งนั้น ผมเกรงว่าพวกเขาจะไม่ยอมฟังที่ผมพูดน่ะสิ”
ตี้ชีหยวนอึ้งเล็กน้ออย ก่อนจะถอนหายใจ “ชั้นคิดว่านายน่าจะมีแผนในใจไว้แล้ว ไหนลองว่ามาให้ชั้นฟังหน่อย”
ซูเถาอธิบายอย่างละเอียด “คุณต้องการให้หมอที่คุณจัดมาเรียนรู้วิชาจากผมใช่ไหมล่ะ ที่จริงผมได้เห็นผลงานของพวกเจามาแล้วที่ TCM พวกนี้ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่หรอก ต่อให้พวกเขาตามผมมาที่นี่ พวกเขาก็ไม่สนใจที่จะเรียนรู้อยู่ดี และผมก็ไม่คิดจะสอนพวกเขาด้วย ซึ่งคุณก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้นใช่ไหม ?”
ตี้ชีหยวนถูกซูเถามองออกทะลุปรุโปร่ง เขาหัวเราะ “ถูกของนาย , พวกนี้มันน้ำเต็มแก้ว ยากที่จะสอนอะไรเพิ่มเติมอีก”
ซูเถาแนะนำ “ผมก็ตั้งใจจะหาเด็กฝึกงานเหมือนกัน มันจะดีที่สุดถ้าพวกเขาเพิ่งจะจบจากมหาลัยในสาขาการแพทย์จีน มันก็เหมือนกับกระดาษเปล่านั่นแหละ หากได้สอนงานพวกเขาแล้ว พวกเขาก็จะสามารถเป็นแพทย์ฝึกหัดตามแนวทางของผมได้”
ตี้ชีหยวนตบต้นขา “ง่ายนิดเดียว , โรงพยาบาลเจียงหัวของเรามีความใกล้ชิดกับสาขาแพทย์จีนของวิทยาลัยหัวหนานในเมืองหางโจว ซึ่งหมอถังนั้นเป็นอาจารย์กิตติมศักดิ์ของที่นั่น คำพูดของเขามีน้ำหนักพอที่จะจัดการเรื่องนี้ให้นายได้อย่างแน่นอน”
ซูเถายิ้ม “งั้นเรื่องนี้ผมต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ”
หลังจากวางสาย ตี้ชีหยวนเอามือจับคางก่อนจะบ่นพืมพำกับตัวเอง “ไอ้นี่ , มันคิดจะเล่นเกมกับชั้นหรือยังไง….”
ตี้ชีหยวนเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าซูเถานั้นเพียงแค่ต้องการใช้ประโยชน์จากโรงพยาบาลเจียงหัวในการปรับปรุงตำหนักของตัวเอง เหตุผลที่ซูเถาปฏิเสธคนจากแผนก TCM ไม่ใช่เพียงเพราะพวกนั้นยากจะสอนงานเท่านั้น แต่เพราะพวกเขาเป็นคนของโรงพยาบาลเจียงหัวด้วยต่างหาก
ดังนั้นซูเถาจึงเลือกพวกนักเรียนแทน มันก็ไม่เหมือนกัน ซูเถาสามารถสอนอย่างใกล้ชิดได้ และพวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดกับโรงพยาบาลเจียงหัวอีกด้วย
ตี้ชีหยวนเข้าใจแล้วว่าซูเถานั้นต้องการที่จะสอนลูกศิษย์ของเขาเอง หมอทั้งหมดในแผนก TCM ต่างก็เป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในความดูแลของถังหนานเซงซึ่งซูเถาไม่ได้ต้องการแบบนั้น
ตี้ชีหยวนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นและยังคงสนับสนุนซูเถาต่อไป เพราะว่าเขาต้องการให้แผนก TCM นั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งหากถังหนานเซิงยังอยู่ วิธีของเขานั่นไม่เหมาะกับแนวทางในปัจจุบัน แผนก TCM จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้แล้วหลักจากที่ซูเถาได้เข้าร่วมที่แผนกนี้
ตี้ชีหยวนได้เห็นทักษะการแพทย์ของซูเถามาแล้วเป็นการส่วนตัว ทักษะของเขานั้นยิ่งมีมากขึ้น แผนก TCM ก็จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นตามไปด้วย
ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะมาจากตำหนัก เขาก็จะดึงพวกนักเรียนนั่นเข้ามาที่แผนก TCM ของโรงพยาบาลเจียงหัว และตี้ชีหยวนก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถรวมพวกนั้นให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้
คิดได้ดังนั้น เขาจึงโทรไปหาถังหนานเชง
เมื่อถังหนานเชงได้ยินดังนั้น เขาก็ยิ้มขึ้นมา “ซูเถาจะรับลูกศิษย์งั้นเหรอ ? ตอนนี้ทางมหาลัยยังขาดอาจารย์พอดี เดี๋ยวชั้นจะแนะนำเขาในฐานะอาจารย์ เขาจะได้หาลูกศิษย์ได้ คิดว่าไง ?”
ตี้ชีหยวนอึ้งไปเล็กน้อย “ให้เขาสอนหนังสืองั้นเหรอ ? นั่น ฟังดูไม่เลวเลยทีเดียว”
ถังหนานเชงถอนหายใจ “ตอนนี้วงการแพทย์จีนกำลังถดถอยลง พวกนักเรียนก็ค่อยๆเปลี่ยนสาขากันไปเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มที่จะยอมแพ้ในแผนการแพทย์จีนหรือไม่ก็พวกเขาอาจจะถูกทิ้งให้อยู่แค่ฝั่งเภสัชกรรมเท่านั้นเอง บางทีการที่ซูเถาเข้ามาสอน ด้วยอายุของเขาแล้วอาจจะเป็นการจุดประกายให้กับเหล่านักเรียนก็ได้”
ตี้ชีหยวนเกาคางก่อนจะตอบกลับ “ฝากด้วยแล้วกัน”
หลังจากคุยโทรศัพท์กับถังหนานเชงเสร็จ เขาก็ได้โทรไปหาซูเถาอีกครั้ง ซูเถาเห็นด้วยกับความคิดนั้น มหาวิทยาลัยนั้นค่อนข้างจะเป็นที่ๆบริสุทธ์ ปราศจากสังคมภายนอก พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีแรงจูงใจทั้งสิ้น ซึ่งสามารถที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีได้หากได้รับการชี้แนะแนวทางที่เหมาะสม
ซูเถาได้ค้นหาข้อมูลแผนกการแพทย์แผนจีนของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน วิทยาเขตหางโจว ในตอนนั้นเอง เขาก็ต้องขมวดดิ้วด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาได้เจอกับข้อความนี้ ‘มหาวิทยาลัยเจียงหนาน วิทยาเขตหางโจวกำลังเปิดให้บริการเพื่อนเที่ยว เบอร์โทรติดต่อ : 138xxxxx เพียงแค่ 300 หยวน/ชั่มโมง หรือ 2000 หยวน/ค้างคืน คุณจะได้รับการดูแลสุดพิเศษ…’
ซูเถาถอนหายใจ ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนมหาลัยจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนกับที่เขาคิดไว้ซะแล้ว !