Physicians Odyssey - ตอนที่ 11 ตัวเปียกเพราะดอกบัวในสระน้ำ
บทที่ 11 ตัวเปียกเพราะดอกบัวในสระน้ำ
เซี่ยเฉงรู้สึกว่าการที่อยู่ที่นี่มันช่างเสียเวลาเปล่า จุดประสงค์ที่เขาอยู่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในทักษะการแพทย์ของซูเถาเท่านั้น
หนานเชงเป่าปาก “เทคนิคการฝังเข็มสี่ภาค คนที่รู้เทคนิคนี้ในประเทคนี้มีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ”
ด้วยผลการประเมินของหนานเชง เหมือนกับการตบเข้าไปที่หน้าของเซี่ยเฉง
เซี่ยเฉงไม่รูว่าจะปลีกตัวออกไปจากห้องให้คำปรึกษานี่ได้ยังไง แต่ทว่าหนานเชงได้สั่งให้เขาอยู่ช่วยซูเถาให้คุ้นเคยกับแผนก TCM และให้เป็นผู้ช่วยของซูเถา
ทุกคนในแผนก TCM นั้นรู้สึกต่อต้านซูเถา สาเหตุมาจากเซี่ยเฉง เขาไม่ต้องการให้ใครมาแย่งตำแหน่งหัวหน้าแผนกที่ควรจะเป็นของของเขา
จากว่าที่หัวหน้าแผนกสู่ตำแหน่งผู้ช่วย มันทำให้เราสู้สึกแย่และในหัวของเขานั้นว่างเปล่าจนแทบจะสูญเสียความมีเหตุผลไปแล้ว
เซี่ยเฉงเดินไปที่บันไดด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ไปยังเลขาฯกรรมการเฉียว เต้อหาว “เลขาเฉียว , ผมต้องการให้คุณช่วย”
ทักษะทางด้านการแพทย์ของเซี่ยเฉงนั้นจัดได้ว่ายอดเยี่ยม หนานเชงนั้นไว้วางใจเขามาก แต่วย่าเขาก็ไม่สามารถเป็นหัวหน้าแผนก TCM ได้และเขารู้สึกว่าตี้ชีหยวนนั้นลำเอียง ดังนั้น เขาจึงได้ติดต่อเฉียวเต้อหาว ซึ่งเต้อหาวได้ให้สัญญากับเซี่ยเฉงว่าจะทำให้เซี่ยเฉงเป็นหัวหน้าแผนก TCM หากเซี่ยเฉงช่วยเขาให้ขึ้นเป็นประธาน
เฉียวเต้อหาวนั้นได้ติดต่อกับตี้ชีหยวนแบบลับๆ ซึ่งระยะหลังนี้เขาพยายามบังคับให้ตี้ชีหยวนสละการเป็นประธานให้เขา ซึ่งด้วยผู้สนับสนุนนี่ โอกาสของเขาจึงเป็นไปได้สูง
ไม่ถึงชั่วโมง คนไข้ทั้งหมดได้ออกไป ถังหนานเชงมองไปยังซูเถาแล้วยิ้ม “สายตาของประธานตี้ช่างเยี่ยมจริงๆ เธอนี่เก่งกว่าทุกคนใน TCM เลย ตำแหน่งหัวหน้าแผนก TCM นั้นน่าจะเหมาะสมกับนายนะ”
ซูเถาอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะมองไปยังตี้ชีหยวน เขามอองไปที่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มซึ่งยืนอยู่ข้างหลังและพลางคิดว่าทำไมเขาถึงได้รับตำแหน่งอื่นอีก เขาไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่ง เพราะมันจะทำให้เขาต้องรับผิดชอบมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงรีบตอบกลับทันควัน “เข้าใจผิดแล้วหมอถัง , ผมเป็นแค่หมอชั่วคราวของที่นี่เท่านั้น ผมมีร้านยาที่ต้องดูแลอยู่แล้ว”
ถังหนานเชงโบกมือพลางยิ้ม “นายหมายถึงตำหนักงั้นเหรอ ? ปู่ของนายกับชั้นเป็นเพื่อนกันมาก่อน ชั้นก็ได้ชวนเขาเข้ามาเหมือนกัน แต่มันน่าเสียดายที่เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและปฏิเสธ ไม่อย่างงั้น แผนก TCM นี่ก็ไม่ถูกปล่อยให้ร้างแบบนี้หรอก”
ตี้ชีหยวนเสริม “หมอถังนี่แหละที่คนแนะนำปู่ของนายให้ชั้นรู้จัก”
ถังหนานเชงยิ้ม “พวกเรายังไม่เคยเจอกันมาก่อน , นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าชั้นจึงทดสอบนาย และนายก็ทำมันได้อย่างยอดเยี่ยม นายเหมาะสมมากในตำแหน่งหัวหน้าแผนก และชั้นเองก็แก่มากแล้ว การให้คำปรึกษาแต่ละครั้งมันทำให้ชั้นเหนื่อย ชั้นสามารถที่จะเกษียณตัวเองและพักรักษาตัวได้ถ้าชั้นได้ฝากฝังตำแหน่งหัวหน้านี้ให้กับนาย แล้วก็ตี้ชีหยวนก็จะได้เลิกมากวนชั้นซักที ”
ตี้ชีหยวนยิ้ม “หมอถัง คุณเป็นเสาหลักของโรงพยาบาลเจียงหัว ถึงแม้ว่าหมอซูจะรับตำแหน่งหัวหน้าแผนก ผมก็ไม่ปล่อยคุณไปหรอก นอกจากนี้ นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกหมอซู นายสามารถที่จะดูแลตำหนักของนายได้ในขณะที่นายเป็นหัวหน้า เดี๋ยวจะมีคนช่วยจัดการงานทางนี้ให้นายเอง”
ซูเถารู้ตัวแล้วว่าเขากำลังถูกบังคับให้ขึ้นเรือโจรสลัดเสียแล้ว(หมายความประมาณว่าโดนบังคับแบบไม่มีทางเลือก) ซึ่งมันหมายความว่าคำพูดของตี้ชีหยวนนั้นเด็ดขาด หน้าที่ของเขาเพียงแค่จัดการโรคที่รักษาได้ยากหรือโรคที่อาการไม่ชัดเจน งานนอกเหนือจากนี้เขาสามารถโยนให้คนอื่นจัดการได้ ซึ่งจากความเข้มงวดของโรงพยาบาลเจียงหัว การกระทำของตี้ชีหยวนนั้นได้ให้อิสระแก่ซูเถามากทีเดียว
ซูเถานั้นเป็นคนประเภทที่เกลี้ยกล่อมได้ง่าย แต่ยากที่จะบังคับฝืนใจ เห็นแก่การที่พวกเขาทั้งสองเป็นเพื่อนเก่ากับปู่ของเขา และพวกเขาได้มองมาอย่างคาดหวัง เขาหน้าแดง “ก็ได้ , ผมจะลองดู แต่อย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ ถ้าผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะกับที่นี่ ได้โปรดปล่อยให้ผมไปด้วย”
ในวันนั้นเอง ตำแหน่งของซูเถาได้เปลี่ยนไปจากหมอชั่วคราวเป็นหัวหน้าแผนกของโรงพยาบาลเจียงหัวพร้อมกับมีสำนักงานเป็นของตนเอง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าตี้ชีหยวนนั้นได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้เห็นว่าสำนักงานขอองเขานั้นสะอาดเอามากๆ
เขาถอดเสื้อคลุมออกและได้เห็นเซี่ยเฉงเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มและได้ยื่นมือเข้ามา “ยินดีด้วยที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก TCM”
ซูเถามองไปยังใบหน้าของเซี่ยเฉงและรู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาไม่ได้ยินดีด้วยแน่นอน
ซูเถานั้นรู้ว่าจากการแข่งขันที่แผนก TCM เซี่ยเฉงรู้สึกว่าตัวเขานั้นเป็นศัตรู ดังนั้น เขาตจึงได้ตอบกลับ “ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก ตั้งแต่ที่เราจับมือกัน ชั้นเกรงว่าเราจะญาติดีกันด้วยยากหน่อยละนะ”
เซี่ยเฉงชักมือกลับอย่างช้าๆพลางมองดูซูเถาออกไปพร้อมกลับกล่องยา เขากำหมัดในบณะที่สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาสาบานว่าจะต้องเฉดหัวซูเถาอออกจากโรงพยาบาลนี้ให้จงได้
ซูเถามีนัดกับเวร่าที่สวนใกล้ๆนี่ เลขาฯหลี่มาส่งเธอก่อนที่จะหลบออกไป
เขามองไปที่เวร่าและยิ้ม “เดินกับคุณนี่ทำให้ผมเครียดจริงๆ”
เวร่านั้นตัวสูง เธอสวมสูทสีพีชซึ่งเข้ากับรูปร่างของเธอ ซึ่งดูราวกับเทพธิดา
เธอก้มหัวก่อนที่จะยิ้มให้ซูเถา “ทำไมล่ะ ?เพราะชั้นเป็นชาวต่างชาติงั้นเหรอ ?”
ซูเถามองไปยังคออันเกลี้ยงเกลาของเธอก่อนจะตอบ “ความสวยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศ เธอสวยจริงๆ การที่เธอมาจากไหนนั้นมันไม่สำคัญ ซึ่งตอนนี้ชั้นกำลังเดินกับเธออยู่ คนอื่นคงจะอิจฉาชั้นมากแน่ๆ”
เวร่ากระพริบตา “คนสวยที่ว่าหมายถึงชั้นงั้นเหรอ ?ทำไมไม่มีใครชมชั้นเลยล่ะ ?”
ซูเถาวิเคราะห์และอธิบายให้เวร่าฟัง “เพราะว่าในสายตาคนอื่น เธออยู่ไกลเกินเอื้อม ทุกคนนั้นยกให้เธอเป็นมากกว่าผู้หญิงธรรมดาซะอีก”
เวร่าอายเล็กน้อยก่อนที่จะกอดแขนของซูเถา “รสนิยมดีนี่ !”
เมื่อเห็นว่าเวร่านั้นนั้นดูจะมีความสุขกับคำพูดของเขา เขารู้ในทันทีว่าเขาได้เกี้ยวเธอไปโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบฟัง ดังนั้น คำพูดจึงมีผลมากกว่าเหล้าซะอีก แค่คำหวานง่ายๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเธอนั้นลุ่มหลง
ถึงแม้ว่าสวนนี่จะไม่ใหญ่มาก แต่มันก็มีความพิเศษอยู่ มันล้อมรอบไปด้วยป่าไผ่ พอตกเย็น แสงสีทองตกกระทบกับใบไผ่ ทำให้ดูงามสง่ามาก
เวร่าร้องขึ้นมาพลางวิ่งไปยังสระน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัว ซูเถารีบวิ่งตามหล่อนไป เขาเห็นว่าเวร่านั้นได้ถอดรองเท้าและถุงเท้าออกก่อนที่เธอจะลงไปเดินบนทรายและเอื้อมมือไปยังดอกบัวที่ใกล้ที่สุด
ซูเถารีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายฉากนี้เอาไว้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ดุเหมือนว่าเวร่าจะเอื้อมมือมากเกินไป ทำให้เธอเสียการทรงตัวและพลัดตกลงไปในสระน้ำ เธอตะโกน “ช่วยด้วย !”
ซูเถาส่ายหัว ก่อนมองไปที่เวร่าซึ่งท่าทางวิตกเกินจริง “ฟังที่ชั้นจะบอกให้ดี อย่าขยับ และยืนขึ้นช้าๆ”
สระน้ำมันไม่ได้ลึกเลย อยู่แค่ระดับหัวเข่าของเวร่าเท่านั้น ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ เธอขมวดคิ้ว “บ้าจริง ดูเหมือนข้อเท้าชั้นจะแพลงแฮะ”
เพียงแค่นั้น ก็ทำให้ซูเถารู้สึกวิตก เขาถอดอรองเท้าและเข้าไปในสระน้ำ ยื่นมือไปจับที่เท้าของเวร่า อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกถึงความร้อนบริเวณหลังของเขา เวร่าขึ้นมาขี่หลังเขา ซึ่งมันทำให้เขาประหลาดใจจนเขาตกลงไปในน้ำ
พอเขายืนขึ้น , เวร่าก็ได้ออกมาจากสระน้ำเรียบร้อยแล้ว หล่อนหยิบรองเท้าขึ้นมาสวมก่อนที่จะพูด “ใครใช้ให้นายหัวเราะกับความโชคร้ายของคนอื่นกันล่ะ”
ซูเถายิ้มเล็กน้อย ในฐานะหญิงแกร่ง เวร่าจะให้คนอื่นเห็นความน่าอายของเธอได้อย่างไร เพราะงั้นเธอเลยจงใจแกล้งเขา
แต่มันก็หมายความว่าอาการป่วยของเวร่านั้นดีขึ้นมากแล้ว เธอดูจะมองโลกในแง่ดีและสดใสมากขึ้น ถึงขนาดที่เธอแกล้งคนอื่นเล่นได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าการรักษานั้นมาถูกทางแล้ว
พวกเขาทั้งสองนั้นตัวเปียกโชก ซูเถาถอนหายใจ “ถ้าเราไปกินข้าวกันทั้งอย่างงี้ คนอื่นคงคิดว่าเราเป็นขอทานแน่ๆ พวกเราไปเปลี่ยนชุดกันก่อนเถอะ”
เวร่ากระพริบตา เธอยิ้ม “สบายมาก เดี๋ยวเราไปหาโรงแรม ชั้นจะให้เลขาฯหลี่หาชุดเปลี่ยนให้พวกเรา”
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีที่โรงแรม เลขาฯหลี่ได้กดกริ่งประตูและส่งชุดที่เอาไว้เปลี่ยนให้ซูเถา ก่อนที่เขาจะยิ้ม “ผมรบกวนคุณแค่นี้แหละ”
เมื่อซูเถาเห็นรอยยิ้มของเลขาฯหลี่ เขารู้ในทันทีว่าเลขาฯหลี่กำลังเข้าใจผิด เขาจึงอธิบาย “พวกเราแค่ตกลงไปในสระตอนกำลังดูดอกบัวที่สวนสาธารณะเท่านั้นเองนะ”
อย่างไรก็ตาม เลขาฯหลี่ขยิบตาก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ก่ออนที่จะฮึมฮัมออกไป “ลุยเลยเพื่อน !”
หลังจากเวร่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ซูเถาเดินเข้ามาในห้องน้ำและเห็นชุดของเวร่าอยู่ในอ่าง มันเป็นกางเกงในสีฟ้าอ่อน เป็นกางเกงในลูกไม้ที่มีรอยจางๆ มันเพิ่งจะถูกถอดสดๆเมื่อกี้นี้เอง
ในตอนนั้นเอง เวร่าได้เปิดประตูออกมาและเห็นซูเถากำลังมองที่กางเกงในของเธออยู่ ก่อนที่เธอจะกอดอก “ไม่เคยเห็มาก่อนหรือไง ?”
เธอค่อนข้างที่จะอ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจึงตั้งใจที่จะเอามันออกไป
ซูเถามองไปยังเวร่า ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วเกี่ยวกางเกงในของเธอแล้วโยนไปที่หล่อน จากนั้นเขาก็หัวเราะ “นี่แค่กางเกงในธรรมดาเท่านั้นเอง ชั้นเคยเห็นกางกางในที่แปลกว่านี้เยอะ”
เวร่าทำเสียงฮึในจมูกก่อนที่เธอจะคว้ากางเกงในเอาไว้ เธอนึกในใจ ซูเถาไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เธอคิด
พอเวร่าปิดประตู ซูเถามองไปที่เงาสะท้อนในกระจกอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเช็ดจมูกตนเอง มีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของเขา
ซูเถาหายใจลึกๆสองสามครั้งก่อนที่เขาจะล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อทำให้ใจเขานั้นสงบลง ถ้าเขารักษาเวร่าจนหายดี เขาก็สามารถวางใจได้ แต่ถ้าทั้งสองยังคงมีปฏิสัมพันธ์กันต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ก็จะแย่ลง
ซูเถาเปลี่ยนชุดพลางคิดในใจว่าถ้าเวร่าเปิดประตูเข้ามาออีกครั้ง เขาอาจจะจับกดเวร่าลงไปอย่างไม่ลังเลยเลย แต่น่าเสียดายที่ประตูไม่เปิดเลยจนกระทั่งเขาเปลี่ยนชุดเสร็จ
เมื่อซูเถาออกมาจากห้องน้ำ เขาสังเกตเห็นว่าเวร่าเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวโดยสิ้นเชิง เธอสวมกางเกงขาสั้นซึ่งเผยให้เห็นก้นเล็กน้อย และสวมเสื้อรัดรูปที่เผยให้เห็นร่องอก
เวร่าดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจชุดที่เลขาฯหลี่เอามาให้ซักเท่าไหร่ การเป็นนักธุรกิจหญิง จึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่จะใส่แบบทางการ แต่ในตอนนี้เธอคิดว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะใส่ชุดแบบนี้
ซูเถาสังเกตเห็นสเน่ห์อีกจุดหนึ่งของเวร่าในตอนนี้ เธอดูเด็กลงในชุดพวกนี้ เธอดูคล้ายกับนักเทนนิสชาวรัสเซียที่โด่งดัง แอนนา คูร์นิโคว่า