Physicians Odyssey - ตอนที่ 72 ปฏิเสธงั้นเหรอ ? ร้องขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ ?
บทที่ 72 ปฏิเสธงั้นเหรอ ? ร้องขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ ?
เรียกตํารวจงั้นเหรอ ?
เจ้าของร้านอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตอนนี้ดูเหมือนจะยุ่งมาก เขาเลยไม่สามารถมาเปลี่ยนลูกบิดให้ได้ ซึ่งคู่ชีเหมียวดูจะเป็นกังวลเล็กน้อยขณะกําลังกินข้าวอยู่ มีเสียงฟ้าผ่าและเสียงฝนตกดังอยู่ข้างนอก ซู เถาถอนหายใจ “พยากรณ์อากาศดันมาแม่นเอาวันนี้ซะได้”
ตอนนี้พวกเขากําลังกินอาหารที่ภัตตาคารแถวๆหอพักใหม่ของลู่ชีเหมียว ซึ่งมีคู่รักคู่หนึ่งเป็นเจ้าของรสชาติอาหารถือว่าธรรมดาๆ พวกเขาใช้เครื่องปรุงค่อนข้างเยอะ แรกๆกินเข้าไปก็ปกติดีแต่พอกนเข้าไปเรื่อยๆก็เริ่มจะกระหายน้ํามากขึ้นเนื่องจากเกลือที่พวกเขาใช้ปรุงอาหาร
สู่ชีเหมี่ยวจิบน้ําก่อนจะพูดขึ้น “ฝนตกหนักมาก นายไม่ต้องรีบกลับก็ได้”
ซูเถถายิ้ม “นี่ก็เกือบๆ 3 ทุ่มแล้ว ชั้นเกรงว่าขึ้นอยู่ต่อมันจะดูไม่ดีเท่าไหร่”
สู่ชีเหมียวเหมือนจะสบถอะไรออกมาเล็กน้อย ซูเถาทําเป็นไม่ได้ยินก่อนที่เธอจะตอบกลับ “ถ้านายยังดึงดันจะกลับให้ได้ ชั้นก็ไม่ห้ามหรอก”
เมื่อเห็นท่าทางของคู่ชีเหมี่ยวดูจะผิดหวังเล็กน้อย ซูเถายิ้ม “ก็ ได้ๆชั้นจะอยู่กับเธอเองคืนนี้ จนกว่าช่างจะมาเปลี่ยนลูกบิดให้ ไม่ ต้องกลัวนะ”
เมื่อซูเถาดูเหมือนจะรู้สึกถึงความกังวลจองเธอได้ เธอหน้าแดงก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทางโกรธ “ใครบอกว่าชั้นกลัว ?”
พอเห็นเธอทําท่าไม่ยอมรับ เขาเอามือกุมคางก่อนจะตอบกลับ “ชั้นคิดว่าชายกลางคนที่เราเจอวันนี้เขาแกล้งเมา มันจะมีคนโง่ที่ ไหนแกล้งเคาะห้องผิดหลังจากที่พวกเขาย้ายออกไปแล้ว 2 ชั้นเล ยสรุปว่าเขาพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนกับโยนหินถามทาง”
สู่ชีเหมียวดูจะตกใจกลัวกับคําพูดของซูเถา ชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้มองมาที่เธอด้วยสายตาตื่นกระหายราวกับจะกลืนกิน เธอ เธอรู้สึกว่าคอแห้งผากก่อนจะพูดออกมา “จริงๆแล้วชั้นไม่จําเป็นต้องเข้าไปนอนที่หอพักใหม่ก็ได้ตอนนี้คืนนี้ชั้นจะกลับไปที่หอ พักของโรงพยาบาล
พอซูเถาเห็นว่าคู่ชีเหมียวดูจะกระวนกระวายมาก เขารู้สึกตลกก่อนจะยิ้ม “เธอจะซ่อนตัวได้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละหนีไปไม่ได้ตลอดหรอกไหนๆเราก็เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและก็เพื่อนกันชั้นจะทําให้เธอรู้สึกสนุกและอยู่กับเธอทั้งคืนเลยซึ่งถ้าวันนี้เขาไม่โผล่หัวออกมาก็แปลว่าชั้นคงคิดมากไปเองไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไปหลังจากเปลี่ยนลูกบิดเสร็จแล้วในวันพรุ่งนี้แต่ถ้าขึ้นเขายังคิดจะเข้ามาหาเธออีกคืนนี้ชั้นจะสอนบทเรียนให้มันเอง”
ถึงเธอจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้างแต่เธอก็ทําตามที่ซูเถาบอก
อาหารมื้อนี้ราคา 60 หยวนลู่ชีเหมียวรีบจ่ายเงินทันทีและซูเถาก็ไม่ได้ห้ามเธอพอพวกเขากลับไปที่อพาร์ทเม้นท์สู่ชีเหมียวหยิบเสื้อผ้าของเธอออกมาจากตู้ซึ่งซูเถากําลังมองไปยังชุดชั้นในของเธออยู่เธอกลอกตาไปยังซูเถา “วันนี้ขยับตัวทั้งวันเหนอหนะไปหมดแล้วชั้นจะอาบน้ําก่อน”
แพทย์ทุกคนโดยเฉพาะแพทย์หญิงนั้นมักจะรักษาความสะอาดกันทั้งสิ้น เนื่องจากพวกเขาสัมผัสกับแบคทีเรียกทุกวัน ซึ่งในโลก นี้ ไม่ว่าจะที่ไหนก็มีเชื้อโรคทั้งนั้น
มีเสียงฮัมเพลงดังออกมาห้องน้ํา ซูเถาก็ได้เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อมองหาหมอนและผ้าห่มเอาไว้ใช้นอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแต่เนื่องจากเสียงร้องเพลงของลู่ชีเหมียวที่ดังขึ้นมาก็ทํา ให้เขาเกิดความคิดฟุ้งซ่านทันทีเขาเริ่มจินตนาการฉากในห้องน้ําหากเขาโผล่พรวดเข้าไปตออนนี้ลู่ชีเหมียวก็ทําอะไรเขาได้ไม่ถนัดนัก
แต่เขาก็ได้แค่คิดเท่านั้น เขาเดินไปเปิดทีวีแล้วเปลี่ยนไปที่ช่อง CCTV-7 ซึ่งกําลังฉายสารคดี ชีวิตสัตว์ป่า> อยู่สิงโตตัวผู้กําลังนอนหมอบอยู่ภายใต้เสียงคํารามของสิงโตตัวเมีย เขาไม่รู้ว่าสิงโตตัวเมียนั้นกําลังสนุกอยู่หรือว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยกันแน่ เพราะบางครั้งตัวเมียก็เดินวนไปวนมาก่อนจะขย้ําเข้าไปที่คอของตัวผู้
จินตนาการของมนุษย์นั้นทั้งน่ากลัวและทรงพลัง เขาต้องเปลี่ยนท่านั่งของตัวเองบ่อยๆ ทําไมเธอต้องร้องเพลงตอนอาบน้ําด้วย นะ ? เธอตั้งใจจะทดสอบขีดจํากัดของเขาหรือยังไง ?
ทันใดนั้นเอง ได้มีความคิดแปลกเข้ามาในหัวของซูเถาเขาคิดว่าลู่ชีเหมี่ยวอาจจะกําลังถั่วเขาอยู่
จินตนาการของมนุษย์มักจะเปลี่ยนไปเสมอในยามที่พวกเขานั้นสับสน
เหตุผลจริงๆที่ลู่ชีเหมียวนั้นร้องเพลงก็เพราะว่าเธอรู้สึกประหม่า และสับสนเธอสบถกับตัวเองเนื่องจากเธอเป็นคนชวนซูเถาให้มาค้างคืน
ซึ่งจริงๆแล้วเธอก็รู้สึกระแวงซูเถาอยู่บ้างในตอนที่อาบน้ํา แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงๆเธอควรจะทําตัวยังไง ? ควรจะปฏิเสธมั้ย ? หรือร้องขอความช่วยเหลือดี ? หรืออาจจะแจ้งตํารวจ ?
แต่มันก็คงจะดูตลกเกินไป เนื่องจากเธอนั้นดูจะเป็นฝ่ายที่เชื้อเชิญซูเถาซะมากกว่า
เหตุผลที่เธอร้องเพลงก็เนื่องจากรวบรวมความกล้า ซึ่งเผื่อไว้ถ้าหากซูเถาเข้ามาจริงๆ เธอจะได้ไล่เขาออกไปได้โดยที่ไม่เผลอทําอะไรที่ไม่เข้าท่าไปซะก่อน
เมื่อมีเสียงทีวีดังอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอก็รู้สึกเบาใจเล็กน้อยซูเถาอาจจะกําลังดูทีวีอยู่ ซึ่งหมายความว่าซูเถาคงไม่โผล่พรวดเข้ามาใน ห้องน้ําเร็วๆนี้เธอรีบอาบน้ําก่อนจะสระผมอย่างรวดเร็วและล้างสบู่ที่ตัวออก
ผิวของลู่ชีเหมียวนั้นสีขาวราวกับไข่มุก เธอไม่เคยไปสปาขัดผิวที่ไหนทั้งสิ้นผิวขาวนี้เป็นสิ่งที่สวรรค์ให้เธอมาตั้งแต่เกิดซึ่งมันทําให้ ผู้หญิงคนอื่นๆต่างก็อิจฉาในขณะที่เธอกําลังถูสบู่อยู่ มันก็เปลี่ยนเป็นฟองปกคลุมร่างของเธอเอาไว้เธอลูบไล้มือไป ทั่วแขนและหน้าอกพร้ออมกับฟองน้ําที่คอยเป็นเซ็นเซอร์ปกคลุมจุดสําคัญของเธอ
เธอหยุดหายใจชั่วครู่ก่อนจะเปิดฝักบัวให้น้ําไหลออกมาล้างตัว
เธอรู้แล้วว่าในตอนนี้เธอสามารถเชื่อใจซูเถา
ความน่าเชื่อถือนั่นเป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆสะสม ตั้งแต่ที่เขารักษาเจียวเจียว อู่ชีเหมี่ยวก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มที่ดูไม่เหมือนใครคนนี้ได้เข้ามาในชีวิตของเธอแล้วเขาอาจจะดูหยาบคายไปบ้าง แต่ เขาก็เป็นคนที่ละเอียดรอบคอบเวลาต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เขา มักจะเป็นห่วงคนที่อ่อนแอกว่าและมักจะเข้าต่อสู้เพื่อความยุติธ รรมอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับที่เขาทําให้เฉียวเต้อเหาหยุดลวนลามเธอในการประชุมครั้งก่อน หรือจะเป็นในตอนที่เขายืนหยัดสู้เพื่อเธอกับเฉียวโบใน ผับ และที่สําคัญที่สุดเขาคอยอยู่ข้างเธอในยามที่เธอลําบากที่สุดการกระทําเหล่านี้สามารถจับใจของใครบางคนได้เสมอ
ในใจของเธอ ภาพลักษณ์ของซูเถาที่เป็นคนตื่นกามได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นและมองโลกในแง่ดี
ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าซูเถาในตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับสัตว์ที่ถูกกักขังเอาไว้ในตอนนี้เขาทําได้แค่ระงับอารมณ์ที่กําลังตีกันอย่างวุ่นวายอยู่ในหัวเท่านั้นเอง
ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าอารมณ์เหล่านั้นมันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ !
พวกสัตว์นั้นมักจะมีเหตุการณ์ที่คอยจุดประกายความคิดให้กับเหล่าผู้คนอยู่เสมอ อย่างเช่นเมื่อเสือดาวขย้ําเข้าไปที่คอของละมั่งก่อนมันจะลงไปนอนดิ้นบนพื้น ละมั่งคงจะตกอยู่ในความเจ็บ ปวดเป็นแน่ ซูเถาคิดว่าหากลู่ชีเหมี่ยวนอนอยู่แล้วเขาเข้าไปจูบที่ คอขาวๆของเธอเธอจะร้องเหมือนกับละมั่งหรือเปล่า
ซูเถาไม่ปล่อยให้ความคิดของเขาฟังซ่านไปมากกว่านี้ เขาดึงมือถือออกมาก่อนจะเห็นว่าเวร่าส่งวีดีโอบางอย่างมาให้ เป็นวิดีโอสั้นๆความยาวแค่ 10 วินาที มันเป็นวีดีโอที่ถ่ายตอนเธอนั่งกินอา หารสไคล์ตะวันตกเธอพูดขึ้น “มิเซลบอกว่าเธอจะกลับไปรัสเซี ยพรุ่งนี้ พระเจ้าช่วย ชั้นคงกินฉลองมากไปหน่อยถ้าชั้นเกิดอ้วนขึ้นมานายคงจะมีวิธีลดความอ้วนง่ายๆอยู่ใช่มั้ย ?”
ซูเถายิ้ม ถึงแม้เลือดผสมในตัวเวร่าจะค่อนข้างน่ารําคาญอยู่บ้าง แต่เธอก็ดูแลแม่ของเธอเป็นอย่างดีเมื่อไม่นานมานี้
หลังจากคุนคริดอยู่สั้นๆ ซูเถาตอบกลับ “กินให้เต็มที่เถอะ ถ้าเธอเกิดอ้วนขึ้นมาและไม่มีใครเอาชั้นจะรับเธอไว้เอง”
เวร่าตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยสติกเกอร์ที่เขียนว่า “ไอ้เจ้าคนหัวหมู” ซึ่งทําให้ซูเถาหัวเราะ ในฐานะนักธุรกิจหญิงชาวรัสเซียเวร่าได้ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของจีนได้อย่างดี ถึงแม้จะ มีรูปร่างหน้าตาที่ไม่ต่างไปจากนางฟ้าแต่การแสดงความน่ารักของ เธอออกมานั้นก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ากันเลย
ประตูห้องน้ําเปิดออกก่อนที่ซูเถาจะจ้องไปที่ประตู ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลู่ชีเหมียว อย่างเช่นเธอเกิดลื่นล้มขึ้นมา เขาจะรีบวิ่งเข้าไปทันทีและอาจจะฉวยโอกาสถูกเนื้อต้องตัวเธอไปด้วย ซะเลยแต่น่าเสียดายที่เธอไม่เปิดช่องว่างให้ทําอย่างนั้นได้ อย่าว่า แต่จะใส่ชุดกระเลยเธอใส่แจ็คเก็ตด้วยซ้ําซึ่งทําให้เขานั้นผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ผู้หญิงออกมาหลังจากอาบน้ํานั้นเป็นช่วงเวลาที่พวกเธอนั้นมีเสน่ห์ที่สุดโดยเฉพาะสาวสวยอย่างสู่ชีเหมี่ยวผมเปียกโชกพาดไปที่ไหล่และผิวของเธอซึ่งดูจางๆเล็กน้อย เนื่องจากไอน้ํามันดูอ่อนโยนมากจนอยากจะเข้าไปพิงเลยทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูเถาสังเกตเห็นว่าคู่ชีเหมี่ยวไม่ค่อยได้แต่งหน้าเท่าไหร่ สภาพที่เธอเพิ่งอาบน้ําเสร็จจึงไม่ต่างจากตอนปกติเลย
ในช่วงเวลานี้ ความงามตามธรรมชาตินั้นหายากกว่าหมีแพนด้าซึ่งเป็นสมบัติของชาติซะอีก
“เธอไม่ร้อนเหรอ ? ทําไมถึงใส่เสื้อผ้าหลายชั้นขนาดนั้น ?” ซูเถายิ้มเนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงซึ่งอุณหภูมิเฉ ลี่ยราวๆ 30 องศาถึงแม้ว่าฝนจะตกอยู่ก็ตาม แต่ในห้องก็ยังรู้สึกอับ
สู่ชีเหมียวเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูก่อนจะตอบ “นาย ร้อนเหรอ ? ชั้นควรจะเปิดแอร์ดีมั้ย แล้วมาดูว่ามันจะช่วยได้ หรือเปล่า ?”
พอพูดจบ เธอก็คว้ารีโมทมาเปิดแอร์
ซูเถาจ้องไปยังลู่ชีเหมียว เขาไม่แปลกใจเลย ขนาดพ่อตาของเธอเฉียวเต้อเหาก็ยังถูกความงามของเธอดึงดูด อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความจริงตามที่เฉียวโบพูดเอาไว้ว่าระหว่างเธอและเฉียว เต้อเหานั้นมีเรื่องอื้อฉาวกันอยู่ เขายังมีวีดีโอนั่นอยู่หรือเปล่านะ ?
แต่ด้วยสายตาของซูเถา ลู่ชีเหมียวไม่ใช่คนประเภทที่จะทําอะไรแบบนั้นไม่อย่างนั้น ทักษะการแสดงตบตาของเธอก็คงอยู่ในระดับ เทพแล้ว
“ทําไมถึงมองมาที่ชั้นจังเลย ?” สู่ชีเหมียวรู้สึกสายตาของซูเถาและมันทําให้เธอประหม่า
“ชั้นมองเพราะว่าเธอน่ารัก มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ ?” ซูเถาเหยียดแขนพาดบนโซฟา
คู่ชีเหมียวดูจะโกรธก่อนเธอจะเตือน “ชั้นแก่กว่านายนะเพราะงั้นนายต้องเรียกชั้นว่าพี่และให้ความเคารพกับชั้นบ้างอย่ามาทําตัวเหลาะแหละเมื่อพูดกับชั้น ไม่ชั้นแล้วชั้นจะไม่พูดกับนายอีก”
ไม่มีทางที่ซูเถาจะกลัวคําขู่ของลู่ชีเหมียว เขายักไหล่ก่อนจะยิ้ม“นับเป็นข่าวดีเลย อย่างน้อยชั้นก็รอดพ้นจากปัญหาไปได้ข้อนึง”
พอลองมองเรื่องนี้ลงไปลึกๆ สู่ชีเหมียวก็รู้สึกว่าซูเถานั้นพูดถูกเนื่องจากเธอได้รบกวนเขาเอาไว้มาก เธอไม่อาจปฏิเสธคําพูดของซู เถาได้เธอถึงตะเบ็งเสียงเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน
ซูเถาขมวดคิ้ว นี่เธอตั้งใจจะทําอะไรเธอโกรธชั้นงั้นเหรอ
เขายืนขึ้นทันทีก่อนจะตามเธอเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลังเล ทําให้ลู่ชีเหมียวตกใจมากในขณะที่มือนั้นถือโทรศัพท์อยู่ในหัวเธอ ตอนนี้รู้สึกว่างเปล่า