Physicians Odyssey - ตอนที่ 30 ไม่มีหญิงสาวคนไหนไม่โหยหาความรักหรอก
บทที่ 30 ไม่มีหญิงสาวคนไหนไม่โหยหาความรักหรอก
ซูเถาได้ให้เสี่ยวจิงจิงอยู่ที่นี่และได้พาเธอไปยังห้องยาหลังเลิกงาน เธอมองไปยังเครื่องมือแก้วต่างๆซึ่งมีครีมส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เธออดไม่ได้ที่จะสูดกลิ่นหอมๆนั่นเข้าไปก่อนจะถามขึ้น “อาจารย์ , พวกนี้มันคืออะไรเหรอ ?”
ซูเถาเลือกที่จะอุบเอาไว้ก่อนจะชี้ไปยังอ่างล้างหน้า “ก่อนอื่นเธอไปล้างหน้าก่อน”
เสี่ยวจิงจิงเขิน เธอเช็ดหน้าเพราะคิดว่าอาจจะมีอะไรติดอยู่ที่ใบหน้าของเธอ แต่เมื่อเธอสำรวจดูดีๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เธออถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเริ่มเดินไปยังอ่างน้ำเพื่อล้างหน้า พอล้างเสร็จ ซูเถาได้ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ก่อนจะพูดกับเธอ “นั่งลง แล้วถอดแว่นออกด้วย”
เสี่ยวจิงจิงถอดแว่นเก็บไว้ในกระเป๋า รู้ตัวอีกทีซูเถาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอแล้ว ซึ่งมันทำให้เธอประหม่า
แสงภายในห้องยานั้นไม่ได้สว่างมากนัก ทุกอย่างมันดูสลัวๆไปหมด อาจารย์ต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ?
มีเพียงแค่เธอกับซูเถาเท่านั้นที่อยู่ในห้องสองต่อสองซึ่งมันทำให้เธอจินตนาการเตลิดไปไกลซึ่งทำให้เธอนั้นหน้าแดงก่ำ ซึ่งมันก็มีข่าวออกมาหลายอย่างในสถานการณ์แบบนี้ เช่นการที่อาจารย์ทำร้ายนักเรียนของเขา หรือไม่ก็ลูกศิษย์เกิดตกหลุมรักอาจารย์ของตนเอง เป็นต้น
ซูเถาไม่รู้ว่าเสี่ยวจิงจิงนั้นคิดอะไรอยู่ เขามองไปยังเสี่ยวจิงจิงก่อนจะพยักหน้า “อืม…เธอนี่ใช้ได้เลย งั้นเอาเธอเป็นหนูทดลองก็แล้วกัน”
“ใช้ได้ ? , ทดลอง ?” เสี่ยวจิงจิงตกใจกับคำพูดเหล่านั้นของซูเถา
ซูเถายกขวดแก้วทดลองขึ้นมาก่อนจะอธิบาย “ชั้นกำลังวิจัยครีมบางอย่างอยู่ พอดีต้องการคนมาทดลองซักหน่อย เป็นครีมที่มีสรรพคุณหลายอย่างเลยล่ะ อย่างเช่นการบำรุงผิว การักษารอยแผลเป็น การทำให้ผิวขาวขึ้น เป็นต้น”
เสี่ยวจิงจิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะว่าซูเถานั้นไม่ได้ชื่นชมว่าเธอสวย แต่เพราะว่าหน้าตาของเธอนั้นเหมาะที่จะเอามาใช้ทดลองครีมได้ต่างหาก
เธอยิ้มฝืนๆ “แล้วครีมนี่มีผลข้างเคียงหรือเปล่า ? อย่าเช่นผิวที่บอบบางแพ้ง่าย หรือไม่ก็ผื่นแดงอะไรแบบนี้ ?”
“โดยปกติแล้ว ยาทุกตัวก็มักจะมีผลข้างเคียงกันทั้งนั้น เนื่องจากครีมนี้ ใช้ส่วนผสมหลายชนิดมาก มันอาจจะมีอาการคันเล็กน้อย หรือในกรณีร้ายแรงหน่อยก็อาจจะเกิดอาการผิวหนังเหี่ยวลีบได้” พอเห็นเสี่ยวจิงจิงหน้าถอดสี ซูเถาหัวเราะขึ้นมา “ล้อเล่นน่า ! มั่นใจได้เลย ชั้นใช้แต่ตัวยาอ่อนๆที่ส่งผลดีต่อผิวเท่านั้นแหละ”
เสี่ยวจิงจิงมองบน ถึงแม้อาจารย์คนนี้จะดูเคร่งขรึม แต่เขาก็เพิ่งจะอายุยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง บางครั้งเขาก็เล่นแผลงๆแบบนี้แหละ
เธอเชื่อใจซูเถา ก่อนที่จะหลับตาลง “ชั้นพร้อมแล้ว เชิญใช้ชั้นเป็นหนูตะเภาทดลองได้เลย”
“โอเค , แต่เธออก็ไม่ได้ขาวพอจะเป็นหนูตะเภาซะด้วยสิ เอาเป็นว่าเป็นหนูตะเภาดำก็แล้วกัน และถ้าครีมนี้มันเกิดผลขึ้นมา ผิวเธอจะขาวราวกับเด็กแรกเกิดเลยเชียวล่ะ” ซูเถากวนครีมในขวดแก้วเบาๆก่อนจะบรรจงทามันลงบนใบหน้าของเสี่ยวจิงจิง
เสี่ยวจิงจิงรู้สึกชาเล็กน้อยที่ใบหน้า ก่อนที่จะรู้สึกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รูขุมขนบนใบหน้าของเธอเปิดกว้างมากขึ้น จนเธอเผลอครางออกมาเบาๆ ก่อนที่จะรู้สึกตัวและรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้
ซูเถาไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาพูดขึ้น “จำเอาไว้ว่าชั้นใช้ครีมนี่กับเธอยังไง ในอนาคตเธอจะต้องใช้ครีมนี้กับผู้ป่วยของเราด้วย”
เสี่ยวจิงจิงพยักหน้า ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเย็นๆที่คอก่อนที่จะเห็นว่าซูเถานั้นใช้ครีมทาที่บริเวณคอของเธอด้วย หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะในขณะที่ตาของเธอนั้นเบิกกว้างมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของซูเถาที่รดต้นคอซึ่งทำให้เธอเผลอกลับมาจินตนาการไปไกลอีกครั้ง
พอเห็นท่าทางของเสี่ยวจิงจิงแบบนั้น ซูเถารู้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว เขายิ้ม “ขี้ผึ้งของชั้นสามารถใช้ทาได้ทั่วร่างกาย ชั้นแค่ต้องการจะทดลองว่านอกจากที่ใบหน้าแล้ว ถ้าทาที่อื่นมันจะได้ผลด้วยหรือเปล่า””
เสี่ยวจิงจิงมองไปยังซูเถา เธอกำลังเข้าใจผิดอย่างแรง ในสายตาของซูเถานั้นเธอคงเป็นเพียงแค่ลูกเป็ดขี้เหร่เท่านั้นเอง
เสี่ยวจิงจิงนั้นมีรูปร่างที่ผอมเพรียว ซึ่งมันเผยให้เห็นถึงต้นคอของเธอ มันทำให้ซูเถานั้นค่อนข้างอึกอัดใจเลยทีเดียว แต่เขาก็พยายามจะสงบใจเอาไว้ถึงแม้ว่าเธอจะมีรูปลักษณ์เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆเท่านั้น ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดมากอะไร แต่พอเห็นถึงความตั้งใจจริงของเธอที่ทำงานอย่างจริงจังแล้ว มันทำให้บรรยากาศดูจะอึดอัดขึ้นเล็กน้อย
สิบนาทีต่อมา ซูเถาได้ทาครีมจนเสร็จก่อนจะยิ้มขึ้นมา “ปล่อยทิ้งไว้ซักห้านาทีเพื่อให้ครีมซึมเข้าไปในผิวก่อนค่อยล้างนะ ชั้นจะไปรอข้างนอก”
พอเห็นซูเถาออกไปจากห้อง เสี่ยวจิงจิงถอนหายใจอออกมาอย่างโล่งอก นี่คงจะเป็นครั้งแรกสำหรับเธอที่ได้รู้สึกแบบนี้ เธอมักจะเก็บตัวอยู่กับหนังสือเสมอเพราะเธอรู้ว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียนอย่างหนัก เธอก็จะเป็นเหมือนกับแม่ของเธอ ; ผู้ซื่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
เมื่อเธอออกมาท่องโลกกว้าง เธอก็ได้รู้ว่าโลกภายนอกนั้นมันน่าหลงไหลแค่ไหน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเธอ ดังนั้นเธอจึงเก็บตัวอยู่ในโลกของตัวเองมาตลอดเป็นเวลาสามปี
คนเก็บตัวและหนอนหนังสือ เหล่านี้เป็นชื่อที่พวกเพื่อนร่วมชั้นใช้เรียกเธอ แต่ทั้งสองอย่างนั่นมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ
เอาจริงๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่โหยหาความรักหรอก
ซูเถานั่งจิบชาอยู่ในห้อง ทันใดนั้นได้มีเสียงกรีดร้องดังออกมาซึ่งมันทำให้เขาขมวดคิ้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขารีบวิ่งเข้าไปในห้องยาก่อนจะเห็นเสี่ยวจิงจิงเอามือจับหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจกด้วยท่าทางที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น “อาจารย์ , กระ…กระบนหน้าชั้นมันหายไปแล้ว !”
เสี่ยวจิงจิงยังคงสวมแว่นตาของเธอ แต่ผิวของเธอนั้นได้รับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ เธอมีใบหน้าที่ยอดเยี่ยมและดูมีน้ำมีนวล ซึ่งกระที่อยู่บริเวณแก้มและปลายจมูกของเธอทำให้ใบหน้าเธอนั้นดูไม่สวย
ฝ้าและกระนั้นยากที่จะรักษาให้หายขาดได้ ผู้หญิงส่วนมากก็ประสบกับปัญหานี้ ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางจะปกปิดฝ้าและกระได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ
ซูเถาเดินเข้าไปใกล้ๆและถอดแว่นตาของเสี่ยวจิงจิงออกก่อนที่เขาจะจ้องหน้าเธอเป็นเวลานานก่อนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดูเหมือนผลลัพธ์มันจะเป็นไปตามที่ชั้นคิด ถึงแม้ว่ามันจะยังมีรอยกระอยู่เล็กน้อยก็เถอะ”
เมื่อเห็นซูเถาดูเคร่งเครียด เธอถามด้วยความประหลาดใจ “ยังมีปัญหาอะไรอีกงั้นเหรอ ?”
ซูเถาหยักหน้าก่อนจะยิ้ม “ชั้นแค่คิดว่าอยากจะลองรักษาอาการสายตาสั้นของเธอดูน่ะ ! เลนส์แว่นหนาๆมันทำให้เธอดูตลก ในฐานะแพทย์ที่ดูมีคุณวุติ สายตาของเธอมันจะส่งผลต่อทักษะการวินิจฉัยของเธอด้วย”
เสี่ยวจิงจิงเข้าผิดคิดว่าซูเถานั้นดูถูกแว่นตาของเธอ “ชั้นทำอะไรมันไม่ได้หรอก ชั้นเรียนหนักเกินไปตอนสมัยมัธยมซึ่งมันทำให้ชั้นสายตาสั้น”
ซูเถถาตบไหล่เธอเบาๆ “ใจร่มๆไว้ , อาการสายตาสั้นมันไม่ได้รักษายากหรอก นี่ก็ดึกแล้ว เธอกลับไปที่มหาลัยก่อน แล้วพรุ่งนี้ชั้นจะเริ่มรักษาให้”
ซูเถารู้สึกยินดีเมื่อเขาเห็นผลลัพธ์ของครีมที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวจิงจิง การแสวงหาความงามนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับผู้หญิง ซึ่งหนอนหนังสืออย่างเสี่ยวจิงจิงยังรู้สึกสนใจแปลว่ามันประสบความสำเร็จ
ซูเถาหยิบขวดขนาด 100 มิลลิลิตรก่อนส่งให้เสี่ยวจิงจิง “เอากลับไปใช้สิ ใช้ครีมนี่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แล้วมันจะทำให้เธอเปลี่ยนไปอย่างมากเลยล่ะ”
เสี่ยวจิงจิงรับขวดมาด้วยความประหลาดใจก่อนที่เธอจะกระซิบ “อาจารย์ , ชั้นจะลองแนะนำครีมนี้ในมหาลัยดู เราอาจจะได้คนมาทดลองเพิ่มขึ้นก็ได้นะ !”
ซูเถาพยักหน้าก่อนจะยิ้ม “เธอเอามันกลับไปลองใช้ดูก่อน ชั้นจะให้เธอวันละ 5 ขวด เธอจะเอาไปแจกให้คนอื่นทดลองหรือเอาไปขายก็ได้”
เสี่ยวจิงจิงตอบกลับ “ถ้าชั้นขายได้ชั้นจะเอาเงินมาให้ค่ะ !”
ซูเถาส่ายมือก่อนจะยิ้ม “ไม่จำเป็นหรอก นี่เป็นรางวัลของเธอสำหรับการเป็นหนูทดลองครีมของชั้น”
เสี่ยวจิงจิงรู้ถึงเจตนาของซูเถา เขารู้ว่าบ้านเธอนั้นฐานะไม่ค่อยดี เขาจึงได้ให้รายได้พิเศษกับเธอ
พอเห็นสีหน้าของเสี่ยวจิงจิงดูจะลังเล ซูเถายิ้ม “จิงจิง , เธอเป็นศิษย์คนแรกของชั้น และในแพทย์แผนจีน ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์น่ะสำคัญมากนะ ศิษย์จะต้องแสดงถึงความภักดีต่ออาจารย์ของเธอ และอาจารย์ก็จะต้องสอนอย่างไม่มีหวงวิชา พวกเราควรมีความไว้วางใจระหว่างกันมากขึ้น เหมือนกับเราเป็นครอบครัวเดียวกันยังไงล่ะ !”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเป็นห่วงเธอตั้งแต่เธอมายังที่หางโจวแห่งนี้ เธอน้ำตาคลอ “อาจารย์ , ชั้นจะตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ค่ะ !”
แต่ก่อนที่เจอจะออกไป เธอนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “อาจารย์ , ครีมนี่มันเรียกว่าอะไรงั้นเหรอ ?”
ซูเถายิ้มเล็กน้อย “ชั้นยังไม่ได้ตั้งชื่อมันเลย , มีชื่อดีๆมั้ย ?”
เสี่ยวจิงจิงยิ้ม “เอาเป็น ‘ครีมเสริมความงามจากตำหนัก’ ดูเป็นไง ?”
ซูเถาครุ่นคิดอยู่ซักครู่ก่อนจะตอบกลับ “ถึงชื่อมันจะฟังดูเห่ยไปหน่อย แต่มันก็ดูน่าดึงดูดและตรงจุดดี อืม… ลองเพิ่มสโลแกนเป็น ‘แม้แต่นกและสัตว์ป่าก็สวยขึ้นได้ด้วยครีมนี้’ ดีล่ะ เอาชื่อนี้แล้วกัน”
เสี่ยวจิงจิงกลับออกไปแล้ว ก่อนที่ซูเถาจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะศิษย์อาจารย์ได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่สามารถที่จะสร้างได้ภายในระยะเวลาอันสั้น มันจำเป็นจะต้องใช้เวลา
ถ้าครีมออกฤทธิ์ตามที่เขาคาดการณ์ไว้ เขาก็จำเป็นต้องหาโอกาสเพื่อที่จะโฆษณามัน
หากเขาต้องการขยายแบรนด์ของตำหนัก เพียงแค่การแพทย์แผนจีนก็อาจจะไม่พอ เขายังต้องโปรโมทสินค้าตัวชูโรงอย่างครีมเสริมความงามนี้เป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้น มันจะต้องเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิงอย่างแน่นอน และนั่นจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเขา
เขาคิดจะให้ไคหยานเป็นตัวทดลองครีมนี่ก่อนที่ซูเถาจะเติมครีมอีกขวดและเดินไปยังที่ร้านขายของเก่ามรกต