Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1681 วายร้ายกล่าวหาก่อน
หลังจากพวกพนักงานร้านออกไปแล้ว เหล่าฉาก็เดินออกมาจากในร้าน เนื่องด้วยกำลังลมแรงขึ้นเรื่อยๆ มันจำต้องใช้อุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งกดหมวกไม้ไผ่สานเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ถูกพัดปลิวไป มันเตือนว่า “จื่ออัน สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทุกช่องกำลังออกอากาศข่าวด่วน บอกว่าไต้ฝุ่นจะมาถึงแล้ว เจ้าจะไปดูหรือไม่?”
นี่เป็นข่าวที่น่าเชื่อถือที่สุดของสถานการณ์ไต้ฝุ่นแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดไปได้
จางจื่ออันกับเสี่ยวฉินไช่กลับเข้าไปในบ้าน แล้วอยู่หน้าโทรทัศน์พร้อมกับทุกคน
พวกภูตสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ไม่เคยเจอไต้ฝุ่น ในความทรงจำของพวกมัน ไต้ฝุ่นก็เป็นแค่ลมพายุลูกใหญ่ขึ้นมาหน่อยเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าทำไมจางจื่ออันกับมนุษย์คนอื่นถึงได้ทำท่าทางเหมือนเจอกับศัตรูตัวฉกาจ
กลับเป็นเหล่าฉาที่ดูโทรทัศน์อยู่ตลอด เข้าใจอานุภาพของไต้ฝุ่นผ่านโทรทัศน์มาบ้างแล้ว นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนจะต่อต้านได้ ถึงเป็นซาเมียลที่เจอในป่าเรดวูด มันสร้างสภาพอากาศสุดขั้วภายในขอบเขตเล็กๆ ผ่านการอธิษฐานได้ แต่ขอบเขตของไต้ฝุ่นใหญ่กว่านั้นเป็นพันเป็นหมื่นเท่า อย่าว่าแต่อธิษฐานต่อเทพเลย ถึงแม้เทพลงมาจุติก็คงจะขวางไม่ได้
สีหน้าของผู้ประกาศข่าวค่อนข้างเคร่งเครียด หนึ่งเพราะไต้ฝุ่นที่ใกล้เข้ามาอาจจะสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับเมืองปินไห่ สองคือการรายงานข่าวของเธอไม่ได้ออกอากาศอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเท่านั้น ซีซีทีวีอาจจะเชื่อมต่อไปเผยแพร่ด้วย
บนภาพโทรทัศน์กำลังแพร่ภาพที่ส่งมาจากพวกชาวประมงบนเรือในมหาสมุทรไกลออกไป ไปจนถึงแถบชายฝั่งทะเล บนผิวน้ำทะเลมีคลื่นโหมซัดอย่างรุนแรง ลมพัดอย่างบ้าคลั่ง พายุฝนเทลงมา เรือยนต์หมื่นตันโคลงเคลงขึ้นลงตามยอดคลื่นและฐานของลูกคลื่น
ภาพที่ส่งมาจากกล้องตรงฝั่งทะเลมีคลื่นทะเลลูกแล้วลูกเล่ากระแทกแนวชายฝั่ง บนเขื่อนกันคลื่นของท่าเรือมีละอองน้ำทะเลกระเซ็นขึ้นสูงเท่าตึกหลายชั้น ต้นไม้ในป่ากันลมริมทะเลแทบจะถูกลมพัดจนโกร๋นหมดแล้ว ด้วยแรงลมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นไปได้มากว่าต้นไม้ที่อ่อนแอส่วนหนึ่งจะหักโค่นลง
ผู้ประกาศรายงานข่าวใหม่ล่าสุดของสถานีอุตุนิยมวิทยาส่งมา ไต้ฝุ่นลูกที่เจ็ดของปีนี้เดิมทีเปลี่ยนทิศทางไปยังตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อคืนจนถึงตอนเช้า ตอนที่ทุกคนสบายใจแล้ว มันกลับย้อนมาทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็ว จนกระทั่งโถมเข้ามาที่เมืองปินไห่และเมืองใกล้เคียง ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นฝั่งที่ไหน
ทางรัฐบาลเมืองวอนให้ชาวเมืองทุกคนอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย อย่าออกข้างนอก เพื่อกันไม่ให้ถูกต้นไม้หักหรือป้ายโฆษณาที่เอียงลงมาทับเข้า ผู้ที่ไม่มีบ้านให้กลับไปหลบภัยอยู่ในสิ่งปลูกสร้างสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ได้
พวกภูตสัตว์เลี้ยงเห็นภาพที่ไม่ได้ทำจากเทคนิคพิเศษของภาพยนตร์แล้ว ก็อดหวาดกลัวไม่ได้
ฟีน่าร้องตกใจ “ลมนี่รุนแรงกว่าลมร้อนในทะเลปิศาจจริงๆ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่หมุนไปรอบๆ ได้ในธรรมชาติก็น่ากลัวหมดนั่นแหละ”
“แกว๊กๆ! ถูกต้อง! ข้าก็รู้สึกว่าชักโครกดูดน้ำน่ากลัวเหมือนกัน กลัวว่าชักโครกจะม้วนข้าเข้าไปตลอดเลย!” ริชาร์ดพูดแทรก
“นี่ก็คือเหตุผลที่นายอึนอกชักโครกตลอดเลยน่ะเหรอ? คอยดูนะ วันนี้ฉันจะตีนายให้ตายเลย!” จางจื่ออันทำท่าทางอยากตี
เสี่ยวฉินไช่มองเขาที่คุยกับแมวรู้เรื่องด้วยสีหน้าอิจฉา
ตอนนี้เอง อยู่ๆ หน้าประตูก็มีเสียงร้องประหลาดเหมือนเป็ดตัวผู้โก่งคอร้อง “นี่! เสี่ยวฉินไช่ โรงเรียนเลิกแล้วไม่กลับบ้าน ฉันจะไปฟ้องคุณครู!”
พอจางจื่ออันหันไปมอง ก็เห็นเด็กดื้อคุ้นหน้าคนหนึ่งยืนอยู่หน้าร้าน สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นพร้อมสะพายกระเป๋าหนังสือเช่นเดียวกัน สวมแค่รองเท้าแตะรัดส้น แต่เด็กๆ โตเร็ว เสื้อแขนสั้นตัวนี้เล็กเกินไปแล้ว มันรัดแน่นไปกับตัว บีบห่วงยางตรงเอวออกมา ยังมีสะดือสกปรกด้วย
“…เธอมาได้ยังไง?”
จางจื่ออันรู้จักเด็กอ้วนคนนี้ สวี่จ้วงจ้วงที่เจ็บตัวร้ายแรงเมื่อครั้งเกิดภัยหนอน ไม่เห็นหน้ากันช่วงหนึ่ง เขาไม่เห็นตัวสูงขึ้นเลย แต่รอบเอวกลับหนาขึ้นอีก
สวี่จ้วงจ้วงยืนตัวและหดคออยู่ที่หน้าร้าน เห็นในร้านมีแมวและสุนัขโตเต็มวันอยู่มากมาย จึงไม่กล้าเข้าไปข้างใน แต่จับกรอบประตูพร้อมจะวิ่งหนีตลอดเวลา เขาไม่สนใจคำพูดของจางจื่ออัน แต่ชี้เสี่ยวฉินไช่แล้วพูดว่า “พูดกับเธอน่ะ? ได้ยินไหม!”
ปกติสวี่จ้วงจ้วงซุกซนก่อเรื่องในโรงเรียนแล้วถูกพวกผู้หญิงฟ้องคุณครูอยู่เสมอ วันนี้เขาได้โอกาสอันหายากจับผิดคนอื่น จึงไม่รู้สึกกลัวในทันที
ตั้งแต่เขาถูกหนอนผีเสื้อแทงเมื่อครั้งก่อน เขาก็เป็นเด็กดีอยู่แค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่พอพ้นภัยหนอนไปแล้ว เขาก็ลืมแผลก่อนหน้านี้ไปเลย
เสี่ยวฉินไช่ลำบากใจมาก ร้อนใจจนหน้าแดงแล้ว “ฉัน…ฉันกำลังจะกลับบ้าน…”
“เธอยังจะปากแข็งอีกเหรอ? เห็นชัดๆ ว่าเธอไม่เชื่อฟังคุณครู! ฉันจะฟ้องคุณครู เธอรอคุณครูดุเธอก็แล้วกัน! อาจจะเรียกผู้ปกครองเธอมาด้วยนะ!” สวี่จ้วงจ้วงไม่ยอมแพ้
พอจางจื่ออันเห็นสถานการณ์แบบนี้ เขาก็แก้ตัวแทนเสี่ยวฉินไช่ “ตอนนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ คนในบ้านเสี่ยวฉินไช่ไปทำงานกันหมด กลับบ้านไปก็ไม่มีใครอยู่ ถึงเธอฟ้องคุณครู คุณครูก็จะเข้าใจและให้อภัย แถมฉันก็ช่วยเสี่ยวฉินไช่ยืนยันได้ด้วย เพราะว่าฉันชวนเธอเข้ามาหลบไต้ฝุ่นในร้าน”
สวี่จ้วงจ้วงเบะปาก “คุณเหรอ? คุณช่วยยืนยันไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงยังไงผมก็ต้องฟ้องคุณครูอยู่แล้ว!”
เสี่ยวฉินไช่เริ่มลั่นกลองถอยแล้ว เธอเชื่อฟังคุณครูมาโดยตลอด คุณครูไม่เคยตำหนิเธอ แล้วเธอก็ไม่อยากถูกตำหนิเพราะเรื่องในครั้งนี้
เธอกังวลกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้ เหตุผลจริงก็คือเธอไม่รู้ว่าไต้ฝุ่นน่ากลัวขนาดไหน
จางจื่ออันพูดยอกย้อน “ฉันพูดกับคุณครูยังไงก็มีประโยชน์กว่าเธอแน่นอน ฉันว่าในสายตาของพวกคุณครูอาวุโส เธอไม่เหลือความน่าเชื่อถืออะไรแล้วมั้ง?”
สวี่จ้วงจ้วงร้องเฮอะเสียงหนึ่ง ไม่ได้พูดต่อ แต่พยายามทำท่าทางไม่ใส่ใจอะไร
“อีกอย่าง คนอื่นๆ ก็ไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอยังไม่กลับบ้านอีก?” จางจื่ออันย้อนถาม
สวี่จ้วงจ้วงกลอกตา เกร็งหน้าพูดว่า “กะ…เกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณจะสนใจทำไม?”
เขาควักโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า เป็นรุ่นที่ตกรุ่นเมื่อสองสามปีก่อน แล้วพูดโม้ว่า “เห็นไหม? ผมมีมือถือ พ่อโทรฯ มาหาผมแล้ว พ่ออยากให้ผมหาที่หลบ แล้วเขาจะมารับผมทันที!”
“อ๋อ งั้นเธอไปหลบที่อื่นเถอะ ร้านค้าเล็กๆ ของฉันจะปิดแล้ว” จางจื่ออันพูดส่งแขก
“ชิ! คิดว่าผมอยากเข้าไปมาเลยเหรอ? ในร้านคุณมีขนแมว ขนหมาเต็มไปหมด ผมไม่อยากให้เปื้อนตัวหรอกนะ!” สวี่จ้วงจ้วงเบะปากจนแขวนขวดซีอิ๊วได้แล้ว เขาไม่ได้เดินเข้ามาในร้านจริงๆ แต่นั่งยองๆ อยู่ใต้เพิงร้านค้าด้านข้าง
จางจื่ออันรู้สึกว่าท่าทางของสวี่จ้วงจ้วงแปลกๆ แต่พูดไม่ถูกว่าแปลกตรงไหนกันแน่
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็เห็นสวี่จ้วงจ้วงควักหนังสือเรียนจากในกระเป๋ามาเปิดอย่างคาดไม่ถึง แล้วเริ่มอ่านหนังสือ
เชี่ย?
จางจื่ออันไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเองจริงๆ จึงแอบถามเสี่ยวฉินไช่ “ตอนนี้ผลการเรียนของสวี่จ้วงจ้วงเป็นยังไงบ้าง?”
“ต่ำที่สุดในชั้นค่ะ” เสี่ยวฉินไช่ตอบตามความจริง
นี่แปลกจริงๆ คนที่ถือโอกาสเรียนหนังสือแม้แต่ตอนที่ไต้ฝุ่นกำลังจะมาถึง จะมีผลการเรียนต่ำสุดได้อย่างไร?
สวี่จ้วงจ้วงพูดจาอวดดี แต่ถึงอย่างไรไต้ฝุ่นก็ใกล้เข้ามาแล้ว อยู่ข้างนอกอันตรายมาก จางจื่ออันกำลังลังเลว่าต้องบีบจมูกให้เขาเข้าบ้านไหม ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นตอนนี้ “จ้วงจ้วง! จ้วงจ้วง!”
จางจื่ออันหันไปมอง ที่แท้ก็เป็นพ่อของสวี่จ้วงจ้วงมาตามหานี่เอง