Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1607 หายนะของสัตว์ป่า
ฟราเทอร์อยู่ห่างจากผู้หญิงคนนั้นยี่สิบกว่าเมตร รอบๆ มืดมาก ที่จริงมันมองไม่ถนัดว่าแววตาของเธอแฝงนัยอะไรอยู่กันแน่ แต่สัญชาตญาณสัตว์ป่าของมันบอกให้ระวังตัว เพราะบางอย่างน่าสงสัย
เสียงร้องสองครั้งของเธอดูหวาดกลัวสุดขีด ราวกับเจออันตรายถึงชีวิต แต่หลังจากเห็นเธอด้วยตาของตัวเอง ฟราเทอร์กลับไม่พบอันตรายรอบๆ นี้เลย แล้วเธอร้องทำไม?
อีกอย่างการแต่งตัวของเธอก็แปลกมาก คิดไม่ถึงว่าจะเปลือยน่อง ดูเหมือนไม่ได้ใส่ถุงเท้า เสื้อผ้าก็ตัวบางมาก ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ตอนกลางคืนต้องหนาวแน่นอน
ตั้งแต่ฟราเทอร์ปรากฏตัวที่ซานฟรานซิสโกและมุ่งหน้าขึ้นเหนือมาตลอดทาง มันวิ่งห้อและติดรถคนอื่นมายังป่าเรดวูด เห็นกลุ่มนักเดินป่ามาแล้วไม่น้อย แบบมาตรฐานน่าจะเป็นอย่างจางจื่ออัน สะพายกระเป๋า เตรียมเสบียงและของใช้ต่างๆ ครบครัน ใส่เสื้อผ้าป้องกันฝน เก็บความอบอุ่น และทนการเสียดสี
มันรู้มาจากฝูงหมาป่าว่า นอกจากรังโจรของพวกหลี่ผีเท่อแล้ว สิ่งก่อสร้างของมนุษย์เพียงแห่งเดียวบริเวณนี้ก็คือหมู่บ้านอินเดียแดง และตอนนี้ในหมู่บ้านก็มีเพียงเมแกน
ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนนักเดินป่า แล้วก็ไม่ใช่เมแกน งั้นเธอน่าจะมาจากรังโจรของหลี่ผีเท่อ
ที่ทำนาในทุ่งนาเป็นผู้ชายทั้งหมด ผู้คุมเองก็เป็นผู้ชายทั้งหมด ฟราเทอร์เดาว่าผู้หญิงจำนวนน้อยนิดน่าจะรวมกันอยู่ในบ้านหลังใหญ่บนแหลมทางเหนือ ทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถู ซักผ้า งานครัว และงานจิปาถะอื่นๆ
ผู้หญิงพวกนี้ก็ถูกล้างสมองในระดับต่างกันไป
ฉะนั้นผู้หญิงที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวในป่าลึกคนนี้จึงน่าสงสัยมาก
เมื่อรู้ว่านี่อาจจะเป็นกับดับ ฟราเทอร์กลับรู้สึกโชคดีเล็กน้อย ดีที่คนมาดูสถานการณ์คือตัวเอง ไม่ใช่เฟยหม่าซือ นี่ไม่ได้หมายความว่ามันรู้จักตัวเองดีกว่าเฟยหม่าซือ แค่ต้องการเสียสละ และยอมเสี่ยงอันตรายอยู่ที่นี่เอง
มันหมุนตัวคิดจะถอย ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนของศัตรูหรือไม่ ถอยไปอยู่ในระยะปลอดภัยแล้วค่อยว่ากัน
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงดังสนั่นหลายครั้งดังอยู่เหนือหัว
ไม่ใช่เสียงปืนปกติ และไม่เหมือนปืนเทเซอร์
ฟราเทอร์เงยหน้าขึ้นมองด้วยจิตใต้สำนึก ก็เห็นตาข่ายเชือกคล้ายตารางหมากรุกกำลังครอบลงมาบนหัวตัวเอง
แย่แล้ว!
มันออกตัววิ่งไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว แต่ตาข่ายเชือกมาเร็วเกินไป ไม่ใช่แค่อันเดียว แต่ตาข่ายสามอันคลุมมันจากข้างหน้า ข้างหลัง ทางซ้ายและขวาของมัน มันหลบพ้นอันหนึ่ง แต่กลับถูกตาข่ายอีกอันคลุมซะแล้ว
มันถูกตาข่ายเชือกคลุมลงมาแล้ว ดิ้นรนยิ่งทำให้ตาข่ายเชือกพันมันแน่นกว่าเดิม ไม่นานก็ถูกมัดจนเหมือนบ๊ะจ่าง
“ฮ่าๆ! จับได้แล้ว!”
“จับได้แล้วตัวหนึ่ง!”
ผู้คุมสองสามคนกระโดดลงมาจากต้นไม้ข้างๆ ในมือทุกคนถือสิ่งของคล้ายปืนรูปร่างแปลกๆ ไว้อันหนึ่ง
ถ้าจางจื่ออันอยู่ที่นี่ เขาต้องรู้แน่ว่านี่คือปืนตาข่ายปราบจลาจล และมีชื่ออื่นมากมายอย่างปืนยิงตาข่าย ตาข่ายจับกุม และอื่นๆ เป็นอาวุธที่ไม่ถึงตายเหมือนปืนเทเซอร์ ส่วนใหญ่ใช้จับเป้าหมายในสถานการณ์ที่ต้องพยายามไม่ทำร้ายเป้าหมาย ไม่เพียงใช้เขตแดนปราบจลาจล ยังใช้จับสัตว์ป่าอันตรายอยู่บ่อยครั้งด้วย
รูปร่างของของสิ่งนี้เหมือนเครื่องเป่าลม ใช้แก๊สกดอัดขับเคลื่อน ยิงไกปืนแล้วจะมีตาข่ายเชือกพร้อมตัวถ่วงน้ำหนักสี่ด้านพุ่งออกมา ตาข่ายเชือกจะกางออกมาเองเมื่ออยู่กลางอากาศ เจอสิ่งกีดขวางก็จะพันแน่นโดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนการยิงปืนตาข่ายต้องใช้เวลานานกว่าปืนเทเซอร์เล็กน้อย ที่จริงใช้ไม่ค่อยได้ผลกับคน เพราะคนยืนนิ่ง มีสองมือว่องไว หลังจากถูกตาข่ายคลุม ขอเพียงไม่ตื่นตระหนกเกินไป พอเข้าใจสถานการณ์แล้ว ใช้เวลาสิบกว่าวินาทีก็หลุดออกจากตาข่ายเชือกได้แล้ว อีกอย่างคนที่ถูกตาข่ายจับยังควักมีด ปืน หรืออาวุธอันตรายต่างๆ ออกมาโจมตีกลับได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ของสิ่งนี้ในพื้นที่ของตำรวจ ปืนเทเซอร์ยังใช้ได้ดีกว่าอีก
ปืนเทเซอร์เหมาะกับการรับมือคน ไม่เหมาะรับมือกับสัตว์ป่า ตรงกันข้ามกับปืนยิงตาข่าย มันใช้ได้ผลอย่างน่าประหลาดกับการจับสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นสิงโตหรือเสือ ถูกตาข่ายเชือกพันแล้วก็ยากจะดิ้นหลุด ทำได้แค่ยอมแพ้ไปเอง
ฟราเทอร์โกรธจัด มันอยากดิ้นออกจากตาข่ายเชือก แต่ตาข่ายเชือกกลับรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นภูตสัตว์เลี้ยง มันฉลาดกว่าหมาป่าทั่วไปมาก รู้ว่าดิ้นแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ต้องใช้ฟันกัดตาข่ายเชือกให้ขาดเป็นรู มันถึงจะหลุดออกไปได้
ถ้ามันมีเวลามากพอ มันอาจจะทำได้ ถึงแม้ตาข่ายเชือกไนล่อนจะแข็งแค่ไหน มันก็มั่นใจในฟันอันแหลมคมของตัวเอง
แต่ผู้คุมสองสามคนนี้ไม่คิดจะให้มันสมปรารถนา มันเพิ่งกัดเป็นรูเล็กๆ พวกเขาก็ล้อมเข้ามา กดหัวและตัวของมันกันอุตลุต จนตัวมันแนบติดไปกับพื้น
จบเห่แล้ว ฟราเทอร์รู้ดีอยู่แก่ใจ ตกอยู่ในมือของคนพวกนี้ เกรงว่าอยู่ยังไม่สู้ตาย
พวกเขาจับเป็นมันไม่ใช่เพราะสงสาร แต่ตรงกันข้าม พวกเขาจับเป็นมันก็เพื่อทรมานมันให้มากขึ้น หลังจากทรมานถึงขีดสุดก็ค่อยฆ่ามัน
เมแกนก็เคยเจอแบบนี้
เป็นสิ่งที่คนคนนั้นซึ่งถูกตรึงบนไม้กางเขนเคยประสบเมื่อสองพันปีก่อน
หางตาของฟราเทอร์มองเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้น ร่างกายไม่บอบช้ำเลยแม้แต่น้อย ท่าทางเธอคงแสร้งทำเป็นบาดเจ็บ เธอกับพวกผู้คุมพูดคุยกันเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกเดียวกัน
ถึงจะเป็นอย่างนั้น มันก็โกรธเพราะตัวเองถูกปั่นหัว และถูกคนชั่วพวกนี้จับกุมเอาไว้ แต่มันกลับไม่รู้สึกเสียใจ ถ้าให้โอกาสมันเลือกอีกสักครั้ง มันได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ยังอยากมาช่วยคนอยู่ดี แต่จะระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เหมือนกับจางจื่ออัน
มันรู้ว่าจางจื่ออันระวังตัวมาก ต้องรู้สถานการณ์ให้แน่ชัดก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
ที่จริงมันก็ระวังตัวมากแล้ว ดังนั้นถึงพวกนักล่าสัตว์ในช่วงยุคกลางคิดวิธีแทบตายก็ยังจับมันไม่ได้ แต่มันดูถูกเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ไม่รู้ว่าจะมีศัตรูของสัตว์ป่าอย่างปืนยิงตาข่ายอยู่ด้วย
มันยังไม่เลิกดิ้น ยังอ้าปากหมายจะกัดผู้คุมพวกนั้นอยู่ตลอด ถึงแม้ตายก็ต้องลากพวกเขาลงนรกไปด้วยกัน
เอ๋งๆ…
มันเสียความสามารถในการจู่โจมกลับโดยสิ้นเชิง แม้แต่ด่าคนพวกนี้อย่างเจ็บแสบก็ทำไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงหงิงๆ ออกมา
ตอนนี้เอง มันได้กลิ่นบางอย่าง จึงหันหน้าไปชำเลืองมอง ถึงเห็นแมวตัวหนึ่งกำลังเยื้องย่างเข้ามา บนหน้าผากมีลายรูปตัวเอ็มเตะตามาก
หงิงๆ…
แม้ฟราเทอร์จะไม่เคยเจอแมวตัวนี้ แต่ลางสังหรณ์บอกมันว่า อีกฝ่ายเป็นหัวหน้าก่อการร้ายที่สั่งให้แมวประหลาดพวกนั้นทำลายระบบนิเวศป่า เป็นหนึ่งในตัวการของเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันอยากจะกินเนื้อเจ้าแมวทั้งเป็นใจจะขาด
แมวตัวนั้นมองมันอย่างเยือกเย็น ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย “สุดท้ายเจ้าก็พ่ายแพ้แล้ว ผู้ชนะในการแย่งชิงความศรัทธาครั้งนี้มีเพียงข้า”
หงิงๆ…
ฟราเทอร์อยากคำราม อยากจะถ่มน้ำลายใส่หน้าแมวตัวนี้ อยากใช้ทุกวิถีทางยั่วโมโหศัตรู ‘เก่งจริงก็ฆ่าข้าเสียสิ!’
“ไม่ ข้าไม่ฆ่าเจ้าเร็วขนาดนี้หรอก เจ้ามีประโยชน์ต่อข้ามาก” แมวเลื่อนสายตามองไปในป่ามืดทึบ นั่นเป็นทิศทางที่ฟราเทอร์วิ่งมา จากนั้นก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “เจ้าเป็นเหยื่อล่อของข้า ช่วยข้าจัดการภูตสัตว์เลี้ยงพวกนั้นในคราวเดียว!”
หัวใจของฟราเทอร์เหมือนตกเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็ง นี่คือเรื่องที่มันไม่อยากเห็นที่สุด