Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1667 พินิจพิเคราะห์ดู
จางจื่ออันลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเหมือนปลาเค็ม ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสื้อแนบไปกับตัว รู้สึกเหนียวตัวอย่างมาก
ตรงหน้าของเขามีแต่ความมืด ราวกับยังเหลือภาพตอนตกเขาเหลืออยู่ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุจากอก ดูท่าทางที่คนบอกว่าถ้าตายในความฝัน ร่างกายในความจริงจะตายไปด้วย นี่อาจจะไม่ใช่คำพูดโกหก
สมองแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริง คิดว่ายังอยู่ในสถานการณ์เฉียดตาย ขับเคลื่อนร่างกายให้เกิดปฏิกิริยาความเครียด จึงปล่อยฮอร์โมนออกมาในปริมาณมาก หัวใจเต้นเร็วจนความดันโลหิตสูงขึ้น หลังจากถึงขีดสุดแล้วหัวใจอาจจะหยุดเต้นในฉับพลัน
เขานั่งงุนงงอยู่บนเตียงอย่างนั้นสักพัก ถึงจะค่อยๆ หลุดจากภวังค์
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกผีเสื้อน่ากลัวทำให้ตกใจจนเป็นโรคหัวใจแน่
ลมพัดผ้าม่านพลิ้ว มีแสงอ่อนๆ ส่องผ่านช่องผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ท้องฟ้าเพิ่งมีแสงสีทองเล็กน้อย เช้ากว่าเวลาตื่นนอนปกติของเขาเล็กน้อย พูดได้ว่าฝันดีช่างแสนสั้น แต่ฝันร้ายช่างยาวนาน
เมื่อครู่เขาลุกขึ้นนั่งเร็วเกินไป และไม่แน่ใจว่าก่อนตื่นนอนได้กัดฟันหรือเปล่า ภูตสัตว์เลี้ยงที่ประสาทสัมผัสไวหลายตัวตื่นนอนแล้ว น่าจะเห็นเขาฝันร้ายอย่างบ้าคลั่ง จึงเริ่มทยอยตื่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ดีที่ตอนเช้าตรู่ในช่วงนี้ไม่ร้อนไม่หนาว ไม่อย่างนั้นนั่งเอ๋อพร้อมเหงื่อเย็นๆ ท่วมตัวแบบนี้อาจจะเป็นหวัดได้
หลังจากฝันร้ายควรจะรีบเบี่ยงเบนความคิดไปเรื่องอื่น และไม่สนใจฝันร้ายอีก แต่จางจื่ออันทำได้แค่คิดทบทวน พยายามคิดถึงฝันเมื่อครู่เพื่อไม่ให้ตัวเองลืม ไม่อย่างนั้นฝันร้ายครั้งนี้จะต้องวุ่นวายกับเขาไปทั้งชีวิตแน่
ทิ้งเรื่องคึกคักก่อนหน้านี้ไปก่อน ประเด็นสำคัญคือคำถามสองข้อของจวงเสี่ยวเตี๋ย
เขาคิดทบทวนจนเข้าใจ ทำไมเธอต้องใช้วิธีข่มขู่มาบังคับเขา เพราะเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เขาไม่สนใจเจตจำนงเสรี ถ้าเธอแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย เขาน่าจะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้นัก ถึงเจอเด็กสาวมัธยมต้นคนนั้นอีก ก็คงจะไม่ถาม คุณลุงชวนเด็กผู้สาวมัธยมต้นคุยเล่น ถามว่าเธอรู้จักเจตจำนงเสรีหรือเปล่า…คิดอย่างไรภาพนี้ก็ดูเหมือนล่าของแปลก เข้าไปขอเงินยังจะดีเสียกว่า
เขาสงสัยมากว่าลางสังหรณ์ของจวงเสี่ยวเตี๋ยผิดพลาดหรือเปล่า หญิงสาวคนเดียวทำลายความจริงของเจตจำนงเสรีได้เหรอ ล้อเล่นอะไรกัน เด็กสมัยนี้ถ้าไม่ถูกการเรียนกดดันจนหายใจไม่ออก ในใจก็น่าจะเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นเงียบๆ วิ่งไปให้กำลังใจเพื่อนผู้ชายตัวสูงผอมหน้าตาหล่อเหลาข้างๆ สนามบาสเก็ตบอลทุกวัน เด็กคนไหนจะไปคิดเรื่องบ้าบออย่างเจตจำนงเสรีกัน
แต่เขาตอบคำถามไปแล้ว ไม่ถามก็ไม่ได้ แบบนั้นน่าขำจริงๆ
แน่นอนว่าเงื่อนไขข้อแรกของทุกอย่างนี้ คือต้องเจอกับเด็กสาวมัธยมต้นคนนั้นอีกครั้งถึงจะทำได้ ถ้าไม่เจอ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูด
ตอนนี้เขาดีใจมากที่เธอไม่ได้ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ที่โรงน้ำชาอิ่นอู้ ไม่อย่างนั้นคงยุ่งยาก ถือเสียว่าใช้เงินให้อาหารสุนัข เขาก็ไม่อยากกลับไปแล้ว
ผู้คนมากมาย ไม่มีช่องทางการติดต่อ แม้แต่หน้าตาและชื่อของเธอก็ไม่รู้ แล้วจะไปถามหาเธอจากที่ไหน ถึงเมืองปินไห่ไม่นับว่าเป็นเมืองแถวหน้า แต่อย่างน้อยก็มีประชากรที่อาศัยอยู่เป็นประจำหลายล้านคน บวกกับคนทำงานที่หลั่งไหลมาจากนอกเมือง เกรงว่าคงถึงสิบล้านคน
ดังนั้นแม้คำถามนี้จะเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยในชีวิตของเขา แต่ความจริงแล้วก็ยังเหลือเวลาอีกมาก ใช้เรื่องนี้ถ่วงเวลาไปได้อีกสักพัก
แต่อีกคำถามหนึ่ง…
หุ่นยนต์ฝันถึงแกะอิเล็กทรอนิกส์ได้ไหม?
ความจริงแล้วคำถามที่ดูแปลกๆ นี้เป็นชื่อของนิยายไซไฟเรื่องหนึ่ง หลายคนไม่เคยได้ยิน ย่อมไม่เคยอ่าน ถึงอย่างไรนิยายเรื่องนี้ก็ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1968 ไม่ค่อยเหมาะกับการอ่านในปัจจุบัน และฝีมือการเขียนของผู้แต่งหนังสือนิยายเล่มนี้ ฟิลลิป ดิก และจินตนาการของเขาก็มีสไตล์โดดเด่นเสมอมา ถ้าไม่ใช่นักอ่านนิยายไซไฟตัวยงก็คงทนอ่านต่อไปได้ยาก
แม้นิยายเล่มนี้จะไม่เป็นที่นิยม แต่ภาพยนตร์ดัดแปลงของมันเรียกได้ว่าโด่งดังเป็นพลุแตกในวงการภาพยนตร์ นั่นก็คือ ‘เบลด รันเนอร์’ ที่เข้าฉายเมื่อปี 1982 ซึ่งแฟนภาพยนตร์ไซไฟ กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ต่างก็ยกย่องให้เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่ดีที่สุด
แต่น่าบังเอิญ เรื่องบรรยายในภาพยนตร์เกิดขึ้นในศตวรรษก่อนการขัดแย้งกันในลอสแองเจลิสปี 2019 ด้วย
ที่จวงเสี่ยวเตี๋ยพูดถึงคือชื่อนิยาย ไม่ใช่ชื่อภาพยนตร์ ดังนั้นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์น่าจะมองข้ามไปได้ และความจริงทุกวันนี้เนื้อหาของนิยายก็ไม่สดใหม่แล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นชื่อหนังสือที่ทำให้คนจำได้ขึ้นใจ
“หุ่นยนต์ฝันถึงแกะอิเล็กทรอนิกส์ได้ไหม?” หลังจากจางจื่ออันคิดอย่างละเอียดซ้ำๆ เขาก็รู้สึกว่าที่เธอถามน่าจะเป็นความหมายตามตัวหนังสือของประโยคนี้ ไม่ได้ทดสอบว่าเขายังจำเนื้อหาของนิยายได้ไหม เขาเคยอ่านนิยาย แต่จำเนื้อหาไม่ค่อยได้แล้ว
ประโยคนี้มีความหมายสองชั้น เด็กนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านภาษาก็วิเคราะห์ได้ หนึ่งคือหุ่นยนต์ฝันได้หรือไม่ สองคือถ้าหุ่นยนต์ฝันได้ จะฝันถึงแกะอิเล็กทรอนิกส์ได้หรือเปล่า
จวงเสี่ยวเตี๋ยถามคำถามนี้ต้องมีนัยแฝงอยู่แน่นอน ไม่ได้ถามโดยไม่มีเหตุผล เธอไม่ได้ว่างและไม่ได้มีอารมณ์ขันขนาดนั้น
หุ่นยนต์ที่ว่า ในโรงงานขนาดใหญ่ก็มี แขนเครื่องจักรที่ชำนาญการประกอบชิ้นส่วนอย่างสม่ำเสมอ ดูไปแล้วค่อนข้างน่าตกใจ แต่หุ่นยนต์ที่ทำงานตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้กับหุ่นยนต์ที่ผู้คนมักจะจินตนาการไม่ใช่เรื่องเดียวกัน พอทุกคนพูดถึงหุ่นยนต์ ก็มักจะหมายถึง ‘หุ่นยนต์เหมือนคน’ จริงๆ หรือจะบอกว่าเป็นหุ่นยนต์เลียนแบบสิ่งมีชีวิต หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างภายนอกเหมือนคน การพูดจา การกระทำ และวิธีคิดคล้ายกับคน
หุ่นยนต์ระดับนี้ไม่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ไม่อย่างนั้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งต่อไปคงจะปะทุขึ้นแล้ว การเกิดของสังคมมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สิ่งมีชีวิตอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง มนุษย์ไม่ได้มุ่นอยู่กับการทำงานเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เพื่อเข้าสู่สังคมอุดมคติล่วงหน้า…คิดในทางที่ดีก็เป็นอย่างนั้น ถ้าคิดในทางที่ไม่ดี ‘คนเหล็ก’ ก็อาจจะกลายเป็นความจริง หุ่นยนต์จะปฏิวัติชีวิตมนุษย์…
หุ่นยนต์เลียนแบบสิ่งมีชีวิตยังห่างไกลความจริงมาก ตอนนี้เทคโนโลยีของมนุษย์ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น จวงเสี่ยวเตี๋ยสนใจคำถามที่ยังห่างไกลตัวขนาดนี้เลยเหรอ?
เขาลองคิดอย่างละเอียดอีก ร่างกายของหุ่นยนต์เลียนแบบสิ่งมีชีวิตไม่ใช่ประเด็น ไม่ว่ามีหน้าตาเหมือนคนหรือไม่ก็เป็นเรื่องเล็กที่ไม่สลักสำคัญอะไร ระดับเทคโนโลยีของสังคมปัจจุบันก็พอจะใช้เครื่องจักรขับเคลื่อนมนุษย์จากภายนอกได้ด้วยการทำของปลอมให้เป็นของจริง สมองของหุ่นยนต์จะตัดสินใจได้อย่างมนุษย์หรือไม่ ก็เหมือนตัดสินให้มนุษย์กลายเป็นสมองศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่ง ไม่ใช่ร่างกายอันอ่อนแอของมนุษย์
ถ้าขยายความคำว่า ‘หุ่นยนต์’ ไปถึงปัญญาประดิษฐ์ ก็เหมือนจะอธิบายได้ชัดเจนแล้ว
เมื่อปัญญาประดิษฐ์ปรากฏขึ้นจริงๆ หุ่นยนต์เลียนแบบสิ่งมีชีวิตก็จะเกิดตามมาเรื่อยๆ
แน่นอนว่าสังคมปัจจุบันจะไม่ค้นพบปัญญาประดิษฐ์ที่แตกต่างกับมนุษย์ แม้จะพูดอย่างนั้น…
จางจื่ออันควักโทรศัพท์มือถือออกมาจากใต้หมอน พลางจ้องหน้าจอมืดสนิท เขายังไม่ได้ปลดล็อก แค่จ้องอย่างเหม่อลอย
ในโทรศัพท์มือถือของเขากลับมีปัญญาประดิษฐ์ของแท้อยู่ อย่างน้อยมันก็บอกว่าอย่างนั้น
ดังนั้น ความจริงแล้วคำถามของจวงเสี่ยวเตี๋ยเป็นคำถามคลุมเครือ เหมือนถามว่าผู้ชี้แนะภูตสัตว์เลี้ยงฝันได้ไหม?