Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1621 ศาสดากับนักบุญ
ฟราเทอร์ไม่เข้าใจกังฟูของประเทศจีนแม้แต่น้อย เมื่อครู่มันมองกระบวนท่าประจัญบานระหว่างเหล่าฉากับเอเมียร์แค่ครึ่งเดียว รู้สึกแค่ว่ามหัศจรรย์มาก วิธีใช้แรงแตกต่างกับวิธีต่อสู้ยิ่งใหญ่เหมือนนักรบตะวันตกโดยสิ้นเชิง ทั้งสวยงาม ทั้งมหัศจรรย์ ราวกับทุกกระบวนท่าแฝงเล่ห์กลเอาไว้นับไม่ถ้วน และแมวที่ร่างกายปราดเปรียวยังส่งให้ระดับกังฟูของพวกมันเหนือขีดจำกัดของมนุษย์ไปมาก แม้แต่ดวงตาของฟราเทอร์ก็ตามการเคลื่อนไหวของพวกมันไม่ค่อยทัน
แต่ฟราเทอร์จับทางได้เร็วมาก อาจจะเป็นเพราะมีประสบการณ์การล่าสัตว์ในป่าเต็มเปี่ยม มันเห็นภาพของสัตว์บางชนิดจากกระบวนท่าของเหล่าฉาและเอเมียร์ ราวกับกระบวนท่าพวกนี้เป็นการเคลื่อนไหวเลียนแบบสัตว์ แล้วถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น ประกอบไปด้วยแมว งู สิงโต เหยี่ยว และสัตว์ป่าต่างๆ นี่ก็คือด้านที่ฟราเทอร์เชี่ยวชาญที่สุด
ตั้งแต่มันมาปรากฏตัวในเมืองที่ชื่อว่าซานฟรานซิสโก ฟราเทอร์ก็สังเกตเห็นว่านี่ไม่ใช่ยุคเดิมของมันแล้ว แตกต่างกันมากในด้านต่างๆ ด้านหนึ่งในนั้นก็คือป่า ป่าในยุคนี้รกร้างมาก แต่ในยุคนั้นของมันเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์ป่าต่างๆ ป้วนเปี้ยนในยามค่ำคืน รวมถึงสัตว์ป่าที่ค่อยๆ สูญพันธุ์ไปในยุคนี้ ยังมีโจรป่าชั่วช้าคอยเผาป่าและเข่นฆ่าด้วย
ฟราเทอร์เคยต่อสู้กับสัตว์ป่ามาแล้วทุกชนิด ดังนั้นมองปราดเดียวก็รู้ถึงชนิดของสัตว์ในกังฟูจีนพวกนั้น ทีแรกคิดแผนรับมือไว้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าซาเมียลจะใช้วิธีต่อสู้แบบเจ็บทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้ามาประจัญบานกับมัน ที่ใช้คือท่าทางมุทะลุโดยการกระแทกร่างกาย ข่วน กัด และหมัดโง่เง่าเต่าตุ่นซึ่งหยาบคายเกินกว่าจะสุภาพด้วย ฟราเทอร์เห็นดังนั้นก็ตกตะลึง!
ว่ากันว่าหมัดมั่วซั่วก็ฆ่าอาจารย์ตายได้ ฟราเทอร์ไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกายจึงถูกต่อยไปหลายครั้ง ถูกข่วนจนเป็นรอยเลือดหลายรอย ด้วยอาศัยขนาดตัวและน้ำหนักตัวได้เปรียบ ตอนนี้จึงพอทนไปได้
ในสถานการณ์ที่ถูกต่อยเหมือนกับพายุฝน ฟราเทอร์ก็ต้องถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อกันไม่ให้ถูกอีกฝ่ายปิดล้อม เพราะเมื่อพวกมันสองตัวปิดล้อม ก็จะใช้กระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ไม่ได้ อย่างนั้นต่อไปก็ทำได้แค่กัดคอกันตามสัญชาตญาณ ดูว่าใครจะกัดใครตายก่อนกัน
ฟราเทอร์ไม่รู้ว่าทำไมซาเมียลถึงใช้กลยุทธ์แบบนี้ เพราะถ้าแค่กัดคอ จะต้องเป็นฟราเทอร์ที่ได้เปรียบอย่างแน่นอน ไม่ว่าความยาว ความคม หรือแรงกัดของฟัน มันไม่มีทางแพ้ให้แมวตัวหนึ่งแน่ๆ มันมั่นใจว่าจะกัดศัตรูให้ตายได้ก่อน
แน่นอนว่าตอนศัตรูแว้งกัด มันเองก็บาดเจ็บเช่นกัน แต่ไม่ได้ขนาดถึงตาย
แต่แบบนี้ดูง่ายเกินไป มันกลับรู้สึกสงสัย ทำไมซาเมียลถึงใช้การโจมตีแบบฆ่าตัวตายล่ะ
มันยอมถูกต่อยจนกว่าจะเข้าใจเรื่องนี้
ตอนที่ยังไม่เจอกับจางจื่ออัน ตอนที่มันนำฝูงหมาป่าคุมเชิงกับฝูงแมว ก็รู้สึกได้ถึงความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายอยู่ลึกๆ ฉะนั้นยิ่งต้องเพิ่มความระวัง
“เจ้ามีความสามารถแค่นี้เองหรือ? เจ้าของของเจ้าสอนแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านี้หรือ? หรือจะบอกว่าเจ้าคิดจะเป็นเหมือนเจ้านายไร้อนาคตของเจ้า หลบๆ ซ่อนๆ ไปทั้งชีวิต เสียเวลาชีวิตไปกับเรื่องเล็กน้อย แล้วสุดท้ายก็ตายไปอย่างน่าเวทนาราวกับหมาแก่ๆ?” ซาเมียลใช้ร่างกายโจมตีไป พลางพูดจาทำร้ายจิตใจ พยายามยั่วโมโหฟราเทอร์ เป็นวิธีเดียวกับที่มันยั่วโมโหฟีน่าก่อนหน้านี้
ฟราเทอร์ใช้ชีวิตแตกต่างกับฟีน่า นิสัยย่อมแตกต่างกับฟีน่า มันไม่ได้หยิ่งยโสเหมือนฟีน่า ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์เจ้าของเหมือนอย่างฟีน่า แต่เหมือน…เพื่อนมากกว่า ดังนั้นคำพูดของซาเมียลจึงใช้ไม่ได้ผลกับฟราเทอร์ ความรุ่งโรจน์และยิ่งใหญ่ของเจ้าของมันได้รับหลังจากตายไปแล้ว การใส่ร้ายป้ายสีของแมวนอกรีตตัวหนึ่งไม่มีผลเลยสักนิด
แก้ไขเรื่องราวใต้หล้าของสำนักวาติกัน ได้มาซึ่งชื่อเสียงของทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้ เลือกหนทางที่ตัวเองต้องการ และยึดมั่นไปตลอดชีวิต ยิ่งผู้ติดตามชาติก่อนมากเท่าไร ตายแล้วก็จะมีผู้ยอมรับกว้างขวางมากขึ้น แม้แต่ศัตรูของเขาก็ยอมรับว่าเขาเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีเรื่องให้ตำหนิ เป็นคนที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ ถึงวันนี้ยังมีเมืองทิวทัศน์งดงามตั้งชื่อตามชื่อของเขา…ยังมีเรื่องอะไรให้มีความสุขไปมากกว่านี้
เนื่องจากยุคก่อนขาดแคลนข้อมูล เจ้าของของฟีน่าต้องทรมานจากการโต้เถียง ด้วยเหตุนี้ฟีน่าจึงตอบสนองกับคำวิจารณ์ใส่ร้ายป้ายสีเธออย่างรวดเร็ว เห็นอะไรขัดตาเป็นไม่ได้ แตกต่างกับฟราเทอร์ เจ้าของของมัน…ไม่ใช่สิ พี่น้องของมัน เป็นนักปราชญ์ที่ไร้ข้อกังขา!
อยู่ๆ ฟราเทอร์ก็เข้าใจ มันนึกถึงแมวประหลาดที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพพวกนั้น ถ้าแมวพวกนี้ฟื้นคืนชีพได้จากพลังของซาเมียล อย่างนั้นต้นเรื่องอย่างซาเมียล ก็ต้องฟื้นคืนชีพได้เช่นกัน!
มันอธิบายทุกอย่างได้แล้ว ส่วนทำไมซาเมียลใช้วิธีต่อสู้มุทะลุแบบชีวิตแลกชีวิตแบบนี้…เพราะมันฟื้นคืนชีพได้ แต่ฟราเทอร์ทำไม่ได้
ฟราเทอร์ไม่เหมือนกับฟีน่าและวลาดิเมียร์ มันรู้ว่าเมื่อสองพันปีก่อนเคยมีคนตายแล้วฟื้นคืนชีพ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สงสัยจึงไม่สงสัยเลยว่าตายแล้วยังฟื้นคืนชีพได้อีก
ฟราเทอร์เข้าใจเหตุผลแล้วยิ่งเพิ่มความระมัดระวังไม่ยอมให้ซาเมียลเข้าประชิดตัว แต่จะโจมตีอีกฝ่ายให้พ่ายแพ้อย่างไร มันยังคิดไม่ออก
ความรวดเร็วในการตอบสนองและการมองเห็นขณะเคลื่อนไหวของพวกสุนัขได้เปรียบกว่าพวกแมวอยู่แล้ว หลังจากกลายเป็นภูตสัตว์เลี้ยงก็เหนือชั้นยิ่งขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมอย่างบ้าคลั่งไร้ความหมายของศัตรู ฟราเทอร์ก็หลบการจู่โจมไม่พ้นเลยสักครั้ง ทำได้แค่สู้ไปถอยไป ร่างกายได้รับบาดเจ็บภายนอกมากมาย ถ้าสงครามตัดกำลังแบบนี้ยืดเยื้อต่อไป มันต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเช่นเดียวกัน
“พี่น้องของข้า ขอจงมอบพลังให้ข้า ช่วยข้าเอาชนะปิศาจร้าย!”
มันไม่มีวิธีอื่น ทำได้แค่อธิษฐานด้วยใจศรัทธา
“ลืมความศรัทธาของเจ้าไปเถิด! ความศรัทธาของเจ้าคุ้มครองไม่ได้!” ซาเมียลหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะบุกโจมตีมากขึ้น พยายามรบกวนการอธิษฐานของมัน
ฟราเทอร์ไม่ขยับ มันเคยได้รับบททดสอบที่ทารุณมากกว่านี้มาแล้ว การโจมตีจุดอ่อนจากศัตรูไม่ได้ทำให้มันเบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อเริ่มอธิษฐาน ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายก็จะไม่หยุด
มันอธิษฐานเสียงดังขึ้น สายตาเหมือนกับมองทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิดและเมฆสีดำทมิฬ มันมองเห็นเขาที่อยู่บนท้องฟ้าแล้ว
“ปิศาจร้ายจะปรากฏตัวด้วยโฉมหน้าต่างๆ บางครั้งเป็นคน บางครั้งไม่ใช่คน วิธีดีที่สุดที่จะรบชนะพวกมันก็คือการเสียสละส่วนตัวและความพยายามไม่ลดละ!”
“พี่น้องของข้า! ในเวลาที่ข้าต้องการ โปรดมอบพลังให้แก่ข้า! เจ้าเป็นผู้คุ้มครองข้า เป็นพลังของข้า ข้าไม่กลัวสิ่งใด เพราะข้ามีเจ้าอยู่!”
การอธิษฐานของฟราเทอร์เหมือนจะไร้ประโยชน์ บาดแผลบนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลือดก็ไหลอย่างต่อเนื่อง แต่มันยังอธิษฐาน แผดเผาชีวิตของตัวเองราวกับเทียน
เลือดสดๆ ไหลลงจากข้างหลังมัน หยดลงจากสี่ขาของมัน ไหลผ่านซี่โครงซ้ายและเท้าทั้งสี่ข้างของมัน และทิ้งรอยเลือดเป็นหยดๆ ไว้บนพื้น
บนซี่โครงด้านซ้ายและเท้าทั้งสี่ข้าง รอยแผลสีแดงอ่อนแทบจะมองไม่เห็นห้ารอยนั้น หลังจากเปื้อนเลือดแล้วก็ชัดเจนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทั้งที่ตำแหน่งของห้ารอยนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แต่กลับเหมือนมีเลือดไหลออกมา
การเสียสละส่วนตัวและความพยายามไม่ลดละ เป็นหนทางเดียวที่จะได้ความชื่นชอบจากเทพ นี่เป็นบททดสอบคนจากทวยเทพ ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถพิสูจน์ความจริงใจของตัวเองได้