Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1617 บริจาคเลือด
พอได้ยินคำพูดของจางจื่ออัน เมแกนและพวกภูตสัตว์เลี้ยงต่างก็ตะลึงงัน
“ถ่ายเลือด? คุณหมายถึงถ่ายเลือดให้เจ้าตัวนี้เหรอคะ?” เมแกนถามเพื่อความแน่ใจ
จางจื่ออันพยักหน้า “ถูกต้อง”
ฟีน่าตาเป็นประกาย มันไม่เคยยอมติดหนี้น้ำใจใคร แต่ครั้งนี้มันติดหนี้น้ำใจครั้งใหญ่เพราะความประมาทของตัวเอง แม้ถ่ายเลือดจะชดใช้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยก็ทำให้มันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
มันจึงกระโดดขึ้นมาเสนอตัวเป็นตัวแรก “ถ่ายเลือดใช่หรือไม่? ใช้เลือดของข้าเถิด!”
“หา? ถะ…ถ่ายเลือด?” เสวี่ยซือจื่อตกใจกลัวจะต้องขดตัว ราวกับกลัวว่าตัวเองจะถูกเจาะเลือด “ถ่ายเลือด เจ็บมากใช่หรือไม่?”
เมแกนถามต่อ “หมายความว่า…ต้องใช้เลือดของแมวอีกสามตัวถ่ายให้แมวสีน้ำเงินที่บาดเจ็บตัวนี้เหรอคะ”
แมวอีกสามตัวนี้ย่อมหมายถึงฟีน่า เสวี่ยซือจื่อ และซิงไห่
จางจื่ออันกลับส่ายหน้า ทั้งไม่ปฏิเสธคำขอของฟีน่า และไม่ปฏิเสธคำถามของเมแกน “ไม่ ไม่ใช่เลือดของพวกมัน”
เสวี่ยซือจื่อถอนหายใจ “แม่เฒ่าตกใจแทบตายแล้ว”
เมแกนกับพวกภูตสัตว์เลี้ยงกลับตะลึง เพราะที่นี่มีแมวทั้งหมดสี่ตัว ไม่ต้องการเลือดของแมวอีกสามตาม แล้วจะหาเลือดมาถ่ายให้แมวตัวนี้จากที่ไหน
สายตาของจางจื่ออันมองไปยังเฟยหม่าซือที่หมอบอยู่หน้าประตู ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยองๆ ลง แล้วตบตัวของมันเบาๆ “เฟยหม่าซือ ขอยืมเลือดของนายให้วลาดิเมียร์หน่อยได้ไหม”
“เอ๋?”
“แกว๊ก?”
“เจี๊ยกๆ?”
“เมี๊ยวๆๆ?”
พอพูดคำนี้ออกไป ลูกตาของเมแกนก็แทบจะถลนออกมาแล้ว พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็อ้าปากค้างจนคงจะแตะพื้นอยู่แล้ว ด้วยไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“แกว๊กๆ! เจ้าโง่ ข้าเข้าใจความรู้สึกของเอ็งนะ แต่เอ็งร้อนใจจนเลอะเลือนแล้วเหรอ” ริชาร์ดโผล่หัวออกมาจากในช่องฮู้ดพลางร้องด่า
เสวี่ยซือจื่อ “จบเห่แล้ว ชายเฮงซวยสมองบวมน้ำแล้ว!”
เฟยหม่าซือเองก็ทำหน้าตางุนงง มันคิดว่าตัวเองช่วยอะไรไม่ได้เสียอีก “เอ่อ…ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่เลือดของฉันถ่ายให้วลาดิเมียร์ได้เหรอ”
เมแกนพุ่งเข้ามาดึงแขนของเขา “นี่! คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องสัตว์เลี้ยง แต่คิดยังไงก็ถ่ายเลือดของหมาให้แมวไม่ได้ไม่ใช่เหรอ จะต้องเกิดปฏิกิริยาต่อต้านแน่ ทีนี้ไม่ใช่แค่ช่วยชีวิตมันไม่ได้ ยัง…”
นี่เป็นการถ่ายเลือดแบบข้ามสปีชีส์ ในความคิดของเธอแล้ว ถึงถ่ายเลือดให้กันระหว่างคนกับลิงได้ แต่ระหว่างแมวกับสุนัขนั้นไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ญาติกัน
“ได้สิ!”
จางจื่ออันกลับให้คำตอบยืนยันความจริงจัง
“แมวก็มีกรุ๊ปเลือด ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปเอ ส่วนน้อยเป็นกรุ๊ปบี เอบีน้อยมาก เหมือนกับคนนั่นแหละ กรุ๊ปเลือดต่างกันเอามาปนกันไม่ได้” เขามองไปที่วลาดิเมียร์ แล้วกวาดสายตามองแมวตัวอื่น “แต่ผมไม่รู้ว่ามันกรุ๊ปเลือดอะไร แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกมันกรุ๊ปเลือดอะไร ไม่ว่าเจาะเลือดจากแมวตัวไหนในนี้ไปถ่ายให้วลาดิเมียร์ ก็เหมือนกับเล่นพนันเท่านั้น”
นอกจากความเป็นห่วง เขาก็ไม่แน่ใจว่าแมวโบราณอย่างฟีน่ากับเสวี่ยซือจื่อมีความแตกต่างกับสายเลือดแมวในยุคปัจจุบันบ้างหรือเปล่า
“แต่ว่า ถึงเป็นการเล่นพนัน อย่างน้อยก็มีโอกาสชนะครึ่งหนึ่งนะ คุณไม่ได้บอกว่าส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปเอกันหมดเหรอ” เมแกนยังไม่เข้าใจ พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน “แต่ถ้าใช้เลือดหมา งั้นแม้แต่โอกาสชนะหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ไม่มีไม่ใช่เหรอคะ”
จางจื่ออันหยิบอุปกรณ์ฉีดยาออกมาจากในกล่องปฐมพยาบาล นี่เป็นสิ่งที่เขาปล้นออกมาจากในตู้ห้องน้ำของบ้านหลังนี้
“คุณไม่เข้าใจ ถ่ายเลือดหมาให้แมวได้ และไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องกรุ๊ปเลือดด้วย” เขาเตรียมถ่ายเลือดไปด้วย อธิบายไปด้วย ไม่อย่างนั้นเมแกนอาจปฏิเสธที่จะช่วย
“ตั้งแต่ปี 1962 มีแมวเกินหกสิบตัวรอดชีวิตจากการถ่ายเลือดหมา อีกอย่าง จากบทความเรื่องนี้ที่ตีพิมพ์ออกมาสี่ฉบับ หลักการทั่วไปคือ ระบบภูมิคุ้มกันโรคของแมวจะไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านทันทีเมื่อได้รับเซลล์เม็ดเลือดของหมาเข้าสู่ร่างกาย แต่จะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงจะเกิดปฏิกิริยานั้น” เขาพูด
“เอ๋?” เมแกนฟังไม่เข้าใจ
“ประเด็นคือ ระยะกึ่งเสื่อมเซลล์เม็ดเลือดของหมาในตัวแมวมีแค่สี่วัน! เข้าใจไหม? ก่อนที่แมวจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน เซลล์เม็ดเลือดหมาก็จะตายไปเองโดยธรรมชาติแล้ว และเวลาสี่วันก็เพียงพอที่จะพ้นระยะอันตรายของการรับเลือดได้!”
ในฐานะที่เป็นนักศึกษาผลการเรียนดีคนหนึ่ง ในที่สุดเมแกนก็เข้าใจแล้ว นี่เป็นการใช้ประโยชน์จากความต่างของเวลา ปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันโรคในแมวต่อเซลล์เม็ดเลือดสุนัขค่อนข้างช้า ตอนที่ตอบสนองขึ้นมาได้ เซลล์เม็ดเลือดสุนัขที่รับเข้าไปในร่างกายก็จะตายไปเองแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง ดีกว่าเสี่ยงโชครับเลือดแมวในสถานการณ์ที่ไม่รู้กรุ๊ปเลือด
“มหัศจรรย์จริงๆ…คิดไม่ถึงว่าแมวกับหมาจะมีความสัมพันธ์แบบนี้ด้วย…” เธอพูดพึมพำ “พระเจ้าจัดแมวและสุนัขเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของมนุษย์จะต้องมีเหตุผลแน่ๆ…”
“งั้นกลับกันได้ไหมคะ? ถ่ายเลือดแมวให้หมา…” เธอถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ได้” จางจื่ออันพูด “กลับกันไม่ได้ และสุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นแค่แผนฉุกเฉิน เพราะในชีวิตของแมวตัวหนึ่งรับเลือดหมาได้แค่ครั้งเดียว ถ้าเป็นครั้งที่สอง ถึงแม้เลือดมาจากหมาตัวเดียวกัน ถ่ายเลือดให้แมวตัวเดียวกัน แมวที่ถูกถ่ายเลือดก็จะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรง”
ระบบภูมิคุ้มกันของแมวอาจจะตอบสนองช้าในครั้งแรก แต่ไม่ได้โง่ มันจะจำลักษณะพิเศษของเซลล์เม็ดเลือดของสุนัขได้แม่นยำ และบันทึกเป็นสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามา ถ้าครั้งที่สองมีเลือดสุนัขเข้ามาในร่างกายอีก มันจะทำการเคลื่อนไหวภูมิคุ้มกันโรคอย่างรวดเร็ว กำจัดเลือดสุนัขที่เป็นสิ่งแปลกปลอม ไม่เพียงช่วยชีวิตไม่ได้ กลับจะทำให้แมวตายเสียด้วยซ้ำ
เขาไม่ได้แน่ใจสถานการณ์ในอเมริกาเหนือและยุโรป แต่ส่วนใหญ่โรงพยาบาลสัตว์ทุกแห่งในประเทศจีนจะไม่มีโกดังเลือดแมวเตรียมพร้อมไว้ตลอด อย่าว่าแต่ประเทศจีนเลย ถึงเป็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศญี่ปุ่นที่ร่ำรวยและปฏิบัติกับสัตว์เลี้ยงดีกว่าประเทศจีน ก็ไม่มีโกดังเลือดแมวเช่นเดียวกัน ตอนที่ต้องการเลือดก็ทำได้แค่เจาะเลือดจากแมวที่แข็งแรงในโรงพยาบาลดูเท่านั้น
ถ้าตอนนั้นในโรงพยาบาลไม่มีแมวที่แข็งแรง มีแต่แมวแก่ เด็ก และอ่อนแอเกินไป และไม่เหมาะกับการเจาะเลือดล่ะจะทำอย่างไร? อย่างนั้นก็ได้แค่ประกาศ ขอบุคคลจิตใจดีพาแมวมาบริจาคเลือดโดยไม่มีค่าตอบแทน
ถ้าเป็นสถานที่ที่ห่างไกล ละแวกนั้นไม่มีคนยอมพาแมวมาบริจาคเลือด หรือสถานการณ์คับขันอย่างยิ่ง รอแมวที่ยอมมาบริจาคเลือดไม่ได้จะทำอย่างไร?
ถ้าแถวนี้มีสุนัข ขอแค่เป็นสุนัขโตเต็มวัยร่างกายแข็งแรง ก็กลายเป็นผู้บริจาคเลือดเร่งด่วนได้ชั่วคราว และร่างกายของสุนัขใหญ่กว่าแมวทั่วไปมาก จึงไม่ค่อยได้ผลกระทบจากการบริจาคเลือด
แต่คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยมาก น้อยมากๆ อาจจะมีคนเคยได้ยินเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์ แต่ไม่เข้าใจหลักการนั้น แม้กระทั่งสัตวแพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศจีนก็ไม่รู้ ดีที่เขารู้จักสัตวแพทย์เฉพาะทางที่เรียนเก่งมากคนหนึ่ง
จางจื่ออันยื่นเข็มฉีดยาอันหนึ่งให้เมแกน “ถ้าเข้าใจแล้วก็เตรียมเริ่มได้เลย คอยฟังคำแนะนำของผม”
“ได้ค่ะ!”
เมแกนรับเข็มฉีดยาไปอย่างตึงเครียด ในใจเปี่ยมด้วยความรู้สึกคล้ายได้รับภารกิจหนักอึ้งมาจากพระเจ้า
เฟยหม่าซือนั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะน้ำชา อุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งพาดอยู่บนโต๊ะ “มาเลย!”