Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1570
‘ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน’ คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงแท้
ตั้งแต่เข้ามาในป่าเรดวูด จางจื่ออันรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่หลายครั้ง แม้มีพวกภูตสัตว์เลี้ยงอยู่ข้างกาย แต่พูดตรงๆ คือพวกภูตสัตว์เลี้ยงช่วยเหลือได้ไม่มาก ผลงานใหญ่สุดที่เฟยหม่าซือทำก็แค่ดมกลิ่นเท่านั้น ซิงไห่เตือนว่ากองไฟใกล้ดับแล้ว เสวี่ยซือจื่อทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อรอบหนึ่ง ก็แค่เท่านั้น เรื่องส่วนใหญ่เขาทำสำเร็จด้วยตัวเอง
แต่ก็โทษพวกภูตสัตว์เลี้ยงไม่ได้ เพราะพวกมันเคยชินกับชีวิตในเมือง จึงปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในป่าไม่ค่อยได้ ตรงกันข้ามกับภูตสัตว์เลี้ยงหมาป่าตัวนี้ มันเป็นฆาตกรในป่าตั้งแต่เกิด ยิ่งไม่ต้องพูดการเป็นผู้นำฝูงหมาป่าอเมริกาเหนือฝูงหนึ่งเลย
เขาไม่ได้คิดมาก จึงพยักหน้าตกลง “ฉันยินดีร่วมมือ แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนนะ ฉันไม่ได้จนขนาดนั้น”
“เข้าใจแล้ว”
หมาป่าพยักหน้า แล้วยกอุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งขึ้นมา ราวกับอยากจับมือกับเขา
เพื่อแสดงความเคารพ จางจื่ออันไม่ได้โค้ง แต่นั่งยองๆ ให้อยู่ในระดับสายตาของมัน ก่อนจะยื่นมือขวาไปจับอุ้งเท้าหน้าข้างขวาของมัน
ตอนนี้เอง เขาสังเกตเห็นผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ว่าบนหลังอุ้งเท้าหน้าข้างขวาของมันมีรอยแดงบางๆ รอยหนึ่ง เป็นรอยจากแผลที่สมานกันแล้ว ถ้ามันไม่ได้ยกอุ้งเท้าขึ้นมาจับมือ ก็คงสังเกตเห็นได้ยากมากในชีวิตประจำวัน
แต่หลังอุ้งเท้าบาดเจ็บได้อย่างไรล่ะ? ดูท่าทางแผลนี้เหมือนจะเหยียบตะปูที่ตั้งตรงเอาไว้เข้า อุ้งเท้าจึงถูกตะปูแทงทะลุ
เขาลองครุ่นคิดเล็กน้อย ถ้าเดาไม่ผิด ตอนถูกตำอุ้งเท้าจะต้องเจ็บมาก ถึงอย่างไรทุกนิ้วก็เชื่อมกับหัวใจ
จากนั้นเขาก็เลื่อนโทรศัพท์มือถือ สายตาชำเลืองไปทางอุ้งเท้าอีกสามข้างโดยไม่รู้ตัว กลับประหลาดใจที่มองเห็นว่าบนอุ้งเท้าอีกสามข้างก็มีรอยแผลคล้ายๆ กัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? มันตกลงไปในกับดักที่โรยตะปูเอาไว้เหรอ? ไม่อย่างนั้นแผลเป็นแบบนี้มาจากไหน?
จางจื่ออันรู้สึกแปลกๆ ถ้ามันเคยเหยียบพลาดไปโดนกับดักจริงๆ ทั้งสี่เท้าถูกตะปูแทงทะลุทั้งหมด ก็คงมีชีวิตรอดในสถานการณ์แบบนั้นได้ยากมาก คงต้องเจ็บปวดจนล้มกลิ้ง จากนั้นทั้งร่างกายจะถูกตะปูแทงหลายร้อย หลายพันรู…
การคาดเดาอีกอย่างหนึ่ง มันอาจจะเคยถูกคนจับและทารุณมาก่อน คนที่จับมันอาจจะตั้งใจทรมานมันเพื่อแก้แค้น หรืออาจจะเพื่อความสนุก ใช้ตะปูแทงเท้าทั้งสี่ข้างของมัน….เมื่อคิดถึงเรื่องทารุณแมวในเมืองปินไห่ก่อนหน้านี้ การคาดเดาแบบนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ถึงอย่างไรก็มีคนโรคจิตตั้งแต่สมัยโบราณ
หมาป่ารู้สึกถึงสายตาของเขา แต่ก็ไม่ได้อธิบาย พอจับมือเสร็จแล้วก็วางอุ้งเท้าลง
“แผลของนาย ยังเจ็บอยู่ไหม?” จางจื่ออันชี้ที่รอยแดงบนหลังอุ้งเท้าของมันพลางถาม
“เป็นความทรมาน และเป็นเกียรติ” มันพูดอย่างแฝงนัยลึกซึ้ง “ถ้าไม่ได้ผ่านความทรมานเช่นนี้ แล้วจะหล่อหลอมจิตวิญญาณได้อย่างไร?”
จางจื่ออัน “…” ฟังมันพูดไม่รู้เรื่องเลย เหมือนพระที่ชอบเผยแพร่ศาสนาจริงๆ
เขาใช้มือข้างเดียวถือโทรศัพท์มือถือพิจารณามันอยู่ตลอด จนแขนเมื่อยอยู่บ้าง ดังนั้นจึงคิดจะเปลี่ยนมือ แต่หลังจากโทรศัพท์มือถือเลื่อนออกจากสายตา เขาราวกลับเห็นฉากน่าประหลาดเข้าแล้ว ถ้าไม่ได้มองผ่านอินเตอร์เฟซจับของเกม ก็น่าจะมองไม่เห็นหมาป่าตัวนี้ ความจริงแล้วเป็นอย่างนั้น แต่เขากลับมองเห็นว่ามีรอยแดงบางๆ ค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ พอมองต่ำลง ยังมีรอยแดงอื่นอีกสี่รอยบนพื้นดินด้วย
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีก มองหมาป่าตัวนี้อีกครั้ง รอยแดงสี่รอยยังคงอยู่บนอุ้งเท้าของมัน แต่รอยแดงที่ลอยอยู่กลางอากาศเมื่อครู่กลับอยู่ตรงซี่โครงข้างซ้ายของมัน
เมื่อวางโทรศัพท์มือถือลง มันก็หายไป แต่รอยแดงยังคงอยู่
เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขาก็มองเห็นมัน มองเห็นรอยแดง
เมื่อวางโทรศัพท์มือถือลง มองไม่เห็นมัน แต่ยังมองเห็นรอยแดง
ราวกับว่ารอยแดงห้ารอยนี้ไม่เกี่ยวข้องกับร่างกายของมัน แต่เพิ่มขึ้นมาในภายหลัง
ยกตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม ก็เหมือนรอยวงแหวนบนหัวของพระ
ถึงจะเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงหน้า ก็ยากจะมองเห็นรอยแดงห้ารอยนี้ด้วยตาเปล่า เพราะเดิมทีรอยแดงก็เป็นจุดวงกลมขนาดเล็กมาก สีก็จางมากด้วย
“จริงสิ ฉันควรจะเรียกนายว่าอะไร? ฉันชื่อจางจื่ออัน คาดว่าเทพของนายคงจะบอกนายแล้วสินะ? ในเมื่อจะร่วมมือกัน ใช้ชื่อเรียกกันและกันจะได้สะดวกขึ้นหน่อย” เขาเปลี่ยนเรื่องพูด
“ชื่อ…” มันก้มหน้าราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
มันไม่เคยมีชื่อ ตอนทำร้ายคนเดินถนนและปศุสัตว์นอกเมืองกุบบิโอ ผู้คนเรียกมันอย่างเกลียดชังว่า ‘หมาป่าตัวนั้น’ หรือ ‘เจ้าตัวน่าตาย’แต่เขามีผลให้มันเปลี่ยนนิสัย พอปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนก็ทำท่าทางว่านอนสอนง่าย ผู้คนให้อภัยมัน แต่ก็ยังเรียกมันว่า ‘หมาป่าตัวนั้น’ หรือ ‘หมาป่าของเขา’ แม้จะเป็น ‘หมาป่าตัวนั้น’ เหมือนกันทั้งหมด ทว่าน้ำเสียงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แต่เขากลับเรียกมันว่า ‘น้องชาย’ เสมอ
“เรียกข้าว่าฟราเทอร์แล้วกัน”
“ฟะ…ฟราเทอร์?”
จางจื่ออันพูดในใจว่าได้สิ คิดไม่ถึงว่าหมาป่าตัวนี้จะรู้จักคำว่าฝ่า*ด้วย อาจจะเกี่ยวข้องอะไรกับฝาไห่**…
พูดถึงฝาไห่ ก็นึกถึงนางพญางูขาว พูดถึงนางพญางูขาว ก็นึกถึงเสี่ยวชิง…งูก็นับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงสินะ? ไม่แน่ว่าจะได้นางพญางูขาวผ่านช่องทางนี้ ได้นางพญางูขาวก็จะได้เสี่ยวชิง*** ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ได้สองต่อไม่ใช่เหรอ?
ริชาร์ดกระโดดขึ้นไปบนหัวของเขาอย่างไม่ให้เสียโอกาส แล้วใช้กรงเล็บนกแหลมๆ จิกหนังหัวของเขา
“แกว๊กๆ! ฟราเทอร์แปลว่า ‘น้องชาย’ ในภาษาละติน เห็นสายตาของเอ็งคิดเลยเถิด ต้องให้ข้าฉี่ปลุกเอ็งไหม? วันนี้ข้าดื่มน้ำน้อยพอดี ฉี่เหลืองกลิ่นแรง ให้ยาน้ำตี้หวงหกรสกับเอ็งฟรีๆ รับรองว่าฉี่ขจัดโรคได้แน่!”
“นายน่ะไสหัวไป! ฉันไม่ได้คิดเรื่อยเปื่อย! เสี่ยวชิงกับนางพญางูขาวอะไรนั่น ฉันไม่รู้จักทั้งนั้น!”
จางจื่ออันโบกมือและพูดไล่มันไป แต่กลับยากที่จะปิดบังความผิดหวังในใจ
วุ่นวายอยู่ตั้งนานแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝาไห่ น่าเสียดาย…ดีใจเก้อเลย!
หางตาของเสวี่ยซือจื่อก้มต่ำลง ก่อนจะมองเขาด้วยความรังเกียจ “ถุยๆๆ! ชายเฮงซวยน่ารังเกียจจริง! ถึงแม้มีเสี่ยวชิงกับนางพญางูขาวก็คงถูกย่อยอยู่ข้างใน ถูกเมืองกดขี่จนไม่ได้เวียนมาถึงเจ้า! เฮอะ ข้าจับงูก็เหมือนกัน!”
เทพของ ‘ฟราเทอร์’ ภูตสัตว์เลี้ยงหมาป่าน่าจะบอกเรื่องที่จำเป็นกับมันบางส่วน แต่ไม่ได้บอกเรื่องเสี่ยวชิงกับนางพญางูขาวอะไรพวกนี้กับมันแน่นอน พอมันได้ยินแบบนั้นหน้าตางุนงง ไม่รู้ว่าจางจื่ออันกับหนึ่งนก หนึ่งแมวนี้กำลังวุ่นวายกับอะไร
จางจื่ออันกลัวว่ามันจะรู้ความต้องการจริงๆ และทำร้ายความประทับใจแรกของตัวเอง เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง พูดสะเปะสะปะว่า “จริงสิ ในป่ามีงูไหม? ไม่ๆ! ฉันหมายความว่า…ฟราเทอร์ใช่ไหม? รู้จักกับทุกคนสักหน่อยแล้วกัน!”
ฟราเทอร์ยังงุนงงอยู่เล็กน้อย “งูในป่าแห่งนี้น้อยมาก อย่างน้อยข้ามาที่นี่แล้วก็เคยเห็นแค่หนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น เป็นงูไม่มีพิษ เจ้าไม่ต้องกังวล”
ได้ยินว่าที่นี่มีงูน้อยมาก เขาไม่เพียงยิ่งผิดหวัง แม้แต่เสวี่ยซือจื่อก็ผิดหวังเช่นกัน
ริชาร์ดใช้ปีกข้างหนึ่งบังหน้า ทนมองสภาพน่าเขินอายของเขาตรงๆ ไม่ได้ “เอ็งไม่ต้องอธิบายกับเขาแล้ว ที่เจ้าโง่นี่สนใจไม่ใช่งูด้วยซ้ำ!”
พูดไป พูดมามันก็ร้องเพลงขึ้นมา “ฟราเทอร์ไม่รู้จักความรัก สวี่เซียนถึงจะเป็นอาหารของเขา!”
*ฝ่า ภาษาจีนออกเสียงคำว่า ฟรา เป็น ฝ่า
**ฝาไห่ เป็นนักพรตในเรื่องนางพญางูขาว
***เสี่ยวชิง เป็นน้องสาวของนางพญางูขาว