Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1294
หนึ่งก้าวหนึ่งยุค มันช่างสะเทือนขวัญเหลือเกิน!
ไม่ต้องพูดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แค่พลังแบบนี้ก็ทำให้คนแข็งเป็นหินแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นสือฮ่าวหรือมดน้อย ต่างก็ตะลึงงัน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่อยากจะเชื่อเลย พูดไม่ออกกันแล้ว
“แค่ก้าวเดียวไม่ใช่หรือ ข้าข้ามไป!” สือฮ่าวได้สติกลับคืนมาแล้วพึมพำเช่นนี้ จากนั้นสาวเท้าก้าวออกไป
แต่ทว่า ต่อมาดวงดาวก็เคลื่อนตัว กาลเวลาไหลเชี่ยว เขาแทบจะแหลกสลาย หากไม่ใช่เพราะเรือกระดาษปรากฏขึ้นข้างกาย ปล่อยแสงสว่างออกมา เขาคงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว
มันทำให้สือฮ่าวพรั่นพรึง แค่เพียงก้าวเดียว ก็เท่าน่ากลัวปานนี้เลยหรือ?
จากนั้น เขาก็เงยหน้ามอง พบว่าหญิงชุดขาวเลือนรางลงไปทุกที ไกลออกไปเรื่อยๆ ห่างกันหนึ่งผืนฟ้า กาลเวลาอันยาวนานขวางกั้น ห่างกันหนึ่งภพ!
ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่า ระหว่างพวกเขาห่างไกลกันมากเหลือเกิน!
มันทำให้เขาขนพองสยองเกล้า หนึ่งก้าวหนึ่งยุค หญิงคนนั้นมาพบเขาถึงที่นี่ได้อย่างไร มันเป็นพลังปานใดกัน ช่างสะเทือนประวัติศาสตร์ ไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่นางมาหาเขาที่นี่เพราะอะไรกัน?
สือฮ่าวนึกถึงหม้อใบนั้นอีกแล้ว มันก็เป็นเช่นนี้ คล้ายว่าจะมาเรียกตัวเขาไปร่วมศึก ต้องการความช่วยเหลือจากเขา!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ขนลุกขนชันขึ้นมา มันเป็นสงครามที่โหดร้ายขนาดไหนกัน แม้แต่จักรพรรดินีก็ต้องการให้ช่วยเหลือ?
ในดินแดนนั้น ถูกศัตรูแบบไหนรุกรานกันแน่? สือฮ่าวเสียวสันหลังวาบ หนาวเย็นจับขั้วหัวใจ
เขาก็นึกถึงยุคนี้ขึ้นมาทันที ยุคที่ได้ชื่อว่ามืดมนที่สุดจะมาเยือนแล้ว เหนือกว่าประวัติการณ์ ทุกสิ่งที่ต้องเผชิญจะน่ากลัวเป็นล้นพ้น เขามีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นที่ไหนกัน
ใจของสือฮ่าวหนักอึ้ง บางทีอาจต้องรู้จนโลกพินาศ ดินแดนที่จักรพรรดินีอยู่ก็ไม่สู้ดีเช่นกัน นี่เป็นสงครามที่กระทบไปทั่ว หรือเป็นศึกที่ดำเนินไปยุคแล้วยุคเล่า
ศัตรูเป็นใครกันแน่ น่ากลัวปานนี้จริงหรือ?
เขารู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ ใจสั่นระรัว จู่ๆ ก็พบว่า ความรับผิดชอบของเขามีมากเหลือเกิน กดดันจนแม้แต่หายใจก็ลำบากแล้ว
ทุกสิ่งเหล่านี้ถาโถมเข้ามา ท่วมท้นสือฮ่าวประหนึ่งมหาสมุทร ทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก ชีวิตจวนจะดับสูญแล้ว
ไม่เคยมีครั้งไหนที่ความปรารถนาของสือฮ่าวจะพุ่งทะยานเช่นนี้ เขาต้องแข็งแกร่ง หากมิเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นภพนี้หรืออนาคต มันจะเต็มไปด้วยความลำบาก ศัตรูที่รับมือไม่ได้!
หากเขาอ่อนแอ มันจะเป็นโศกนาฏกรรมเปื้อนเลือด
เขามีความรู้สึกว่า อนาคตต้องเจ็บปวดอย่างยิ่งเป็นแน่ เขาต้องเปลี่ยนแปลง เขาจะแก้ไขความทรมาน ความเศร้าทั้งหมด เขาต้องทำให้ได้
เขานึกถึงภาพนั้น หลังผ่านไปเนิ่นนานแล้ว เขาอ้างว้างเดียวดาย ยืนอยู่บนจุดสูงสุดเพียงลำพัง ทั้งโลกเงียบสงัด ต้นหลิวดำเกรียมข้างหลังโรยรา
มันเป็นเสี้ยวหนึ่งของอนาคตที่ถูกทำนายไว้ตั้งแต่อยู่ในสามพันแคว้น ศัตรูหน้าไหนก็ไม่คงอยู่ เหลือเพียงตัวเขา เขารับไม่ได้ ไม่มีทางรับได้!
และตอนที่จักรพรรดินีลงมือครั้งก่อน เคยบอกแล้วว่า เขาจะทรมาน เขาจำต้องเป็นใหญ่ในประวัติศาสตร์เพียงลำพังเท่านั้น!
หากมิเช่นนั้น จะนับว่าศัตรูทั้งโลกโชคดี ถ้าเคราะห์ร้าย เท่ากับจะแตกสลาย พินาศ เดียวดาย เหลือแค่เขาที่ทอดมองเส้นขอบฟ้าด้วยความเศร้าสลด
ญาติสนิท มิตรสหาย คนรู้จักทั้งหมด จะถูกฝังอยู่ในความเศร้าที่มองไม่เห็น
“เปลี่ยนแปลง!” สือฮ่าวตะโกนลั่น เขาตื่นจากภวังค์ พบว่าเพียงเสี้ยววินาทีก่อนหน้านี้ เนื้อตัวเขาชุ่มเหงื่อ ใบหน้าซีดเผือด
ความกระทบกระเทือนครั้งนี้ กระแทกลงกลางใจเขา ทำให้ความมีความรู้สึกร้อนรนเหมือนไฟแห่งชีวิตจะมอดดับ อยากประสบผลสำเร็จ ไร้เทียมทานขึ้นมาทันที
“เป็นใหญ่ในประวัติศาสตร์!”
มันจะเป็นโศกนาฏกรรมของโลก หรือเป็นความเศร้าของเขาเพียงผู้เดียว เขาไม่รู้ ตอนนี้มีเพียงต้องเดินหน้า แข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลิกผันทุกอย่าง!
จากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ทำให้ตกตะลึง จักรพรรดินีกำลังสนทนากับเขา เพียงแค่อีกฝ่ายกำลังไกลออกไปเรื่อยๆ
“อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนี้!” เขาตะโกนลั่น
“น่าเสียดาย โลกที่ผิดพลาด สุดท้ายแล้วร่องรอยทั้งหมดก็จะหายไป” ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจครั้งสุดท้าย หญิงชุดขาวเลือนรางแล้ว ขณะเดียวกัน เส้นทางก็สั่นคลอน
ปัง!
ต่อมา สือฮ่าวรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มแล้ว
จากนั้นก็มีเสียงดังแกรกตามมา เขาได้ยินเสียงแตก มีรอยแยกปรากฏขึ้นบนหน้ากากสำริดของหญิงชุดขาว จะแยกเป็นสองชิ้นแล้ว!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
ขณะเดียวกัน เขาก็เห็นลำแสงเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากรอยแยกของหน้ากากที่แตกแล้ว สัมผัสผิวกายของเขา ทำให้เขาตกใจยิ่งนัก!
จากนั้น เขาก็เห็นหญิงคนนั้นถอยหลังโซเซ ขณะที่หมอกซัดสาด หน้ากากสำริดแตกออกเป็นสองชิ้นดังแกรก จากนั้นก็ตกลงไปในอากาศ
จักรวาลสั่งสะเทือนดังครืน เขากับมดน้อยกระเด็นออกมา หลุดออกจากเส้นทางแห่งกาลเวลา
ชั่ววินาทีสุดท้าย เขาเห็นแค่จักรพรรดินีถอยหลัง หน้ากากแตกแล้วตกลงไปพร้อมกับเลือดหนึ่งหยด จากนั้นทุกอย่างก็หายไป
นางยอมทุ่มเทงั้นหรือ!
ตอนนี้ สือฮ่าวอยากแผดร้อง อยากให้ความทรงจำซึมซาบไปถึงหัวใจ ไม่อยากลืมเลือน แต่เมื่อเส้นทางแห่งกาลเวลาค่อยๆ เลือนราง พลังประหลาดบางอย่างก็แผ่กระจาย
เสมือนมีคมดาบไร้รูปร่างพุ่งมาจากอากาศอย่างไม่ปรานี
สือฮ่าวอยากดิ้นรน อยากต่อต้าน อยากหยุดยั้ง แต่ก็ล้มเหลว บางอย่างในสมองของเขาเลือนหายไป
มอดดับแล้ว หายไปอย่างไร้ร่องรอย!
“อ๊าก ไม่ ข้าลืมอะไรไป?!” สือฮ่าวตะโกนลั่น
ชั่ววินาทีสุดท้าย จักรพรรดินีน่าจะพูดอะไรบางอย่าง บอกเรื่องบางอย่างกับเขา แต่ตอนนี้มันกำลังเป็นอย่างที่นางพูด สุดท้ายทุกอย่างจะไร้ร่องรอย
ยิ่งไปกว่านั้น ร่างของจักรพรรดินีจะเลือนหายไปจากใจของเขาแล้ว
มันแตะต้องพลังกฎเกณฑ์ที่พลิกผันไม่ได้!
ท้องฟ้าและผืนทะเลบรรจบกัน เป็นสีครามไม่มีสีอื่นปนเปื้อน
ผิวทะเลเงียบสงบดุจกระจก สีครามส่องแสงแวววาว เงียบสงัดไม่มีเสียง ที่นี่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา งดงามยิ่งนัก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด สือฮ่าวตื่นจากภวังค์ เขากับมดน้อยสบตากัน เขาอยากจำได้ แต่กลับปวดหัว สมองจะแตกแล้ว
“พวกข้าเห็นหญิงสาวชุดขาวคนหนึ่ง นางพูดอะไรกับข้า?” สือฮ่าวถาม
“ใช่ เห็นนางฟ้าน่ากลัวคนหนึ่ง ต้องไม่ด้อยไปกว่าพ่อของข้าแน่ นาง…พูดอะไรกับเจ้ากันแน่?” มดน้อยกลุ้มใจ จำอะไรไม่ได้เลย
สือฮ่าวเงียบ จักรพรรดินีคนนั้นถ่ายทอดข้อมูลอะไรให้เขากันแน่
“เหมือนว่าจะเป็นถูกที่ ถูกคน แต่กลับผิดเวลา” มดน้อยตะโกนเสียงดัง
“ใช่ ข้าก็จำเรื่องพวกนี้ได้ มีอะไรอีก?” สือฮ่าวนึกเรื่องอื่นไม่ออก พอจำได้เลือนรางว่า หน้ากากสำริดแตกเป็นสองชิ้น ลำแสงเส้นหนึ่งพุ่งมาหาเขา
เขานั่งขัดสมาธิ สำรวจภายใน ตรวจสอบทุกอณูในร่างกาย รวมถึงดวงจิต อยากมองให้ทะลุปรุโปร่ง แต่เขาก็ต้องผิดหวัง ยังคงไม่พบอะไร
“มันสำคัญมากสำหรับข้า ทำไมข้านึกอะไรไม่ออก?!” สือฮ่าวทึ้งผมของตัวเองพร้อมกับคำรามในคอ
“ต้องจำได้สักวัน อย่างแรกคือเจ้าต้องมีความสามารถไร้พ่าย ขอเพียงเจ้าแข็งแกร่งมากพอ ไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้” มดน้อยพูด
“ต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของอนาคตแน่นอน แต่ข้ากลับนึกไม่ออก” สือฮ่าวพึมพำ สุดท้ายก็พูดว่า “วันนี้ ไม่ธรรมดาสำหรับข้า ต้องจำให้ได้สักวัน วันหน้าเมื่อข้าแข็งแกร่งมากพอ ข้าจะฟื้นฟู ลำแสงที่พุ่งมาตอนหน้ากากสำริดแตก ต้องสำคัญกับข้ามากแน่นอน บางทีอาจเป็นสัญญาณ บางทีความทรงจำอาจไม่เลือนหาย!”
เรือกระดูกสีดำยังคงพาพวกเขาออกจากทะเลสีครามผืนนี้ ตอนนี้กำลังแล่นเข้าไปในทะเลมรณะที่รายล้อมด้วยหมอกดำ เห็นโครงกระดูกขนาดใหญ่มากมาย
กะโหลก กระดูกสันหลังพวกนั้น มหึมาจนโผล่พ้นผิวน้ำ กลิ่นอายมรณะหนาแน่นเป็นที่สุด
แม้ประสบการณ์เมื่อครู่จะสั้น แต่สือฮ่าวกลับคิดว่า ส่งผลกระทบกว้างไกล บางทีอาจกระทบกับชีวิตของเขาทั้งชีวิต ต้องเป็นชนวนในอนาคตแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขาต้องออกเดินทางแล้ว!
ทะเลผืนนี้ สร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนแก่เขา!
“สักวันหนึ่ง ข้าจะได้รู้ทุกอย่าง!” สือฮ่ามพึมพำ
พวกเขาไม่อยากคิดมาก จึงออกเดินทาง เรือวิญญาณโลดแล่น พาเขากับมดน้อยมุ่งหน้าสู่ทะเลกว้าง ครั้งนี้ไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งต่อมา หมอกดำเบาบางลงเรื่อยๆ ผิวน้ำกลับสู่ความสงบ
ไม่มีกระดูกและไร้พลังมรณะแล้ว มีแค่คลื่นสีคราม มีสัตว์แหวกว่ายในทะเลเป็นครั้งคราว กลายเป็นผืนน้ำที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิต
ป่าหินทะเลเหนือ ถึงแล้ว!
ทะเลกว้างใหญ่ไพศาล แต่ป่าหินแห่งนี้ก็น่าตะลึงมากเช่นกัน
เมื่อทอดมองข้างหน้า มีเสาหินปักอยู่กลางทะเล โผล่พ้นผิวน้ำอันแล้วอันเล่า มีขนาดใหญ่สุดแสน ตั้งเรียงรายเป็นทัศนียภาพอันตระการตา
หากจะพูดว่าเป็นก้อนหิน สู้พูดว่าเป็นภูเขาดีกว่า เพราะมันมีขนาดใหญ่มากเหลือเกิน
แต่พวกมันไม่ได้มีรูปร่างเหมือนภูเขา ล้วนเป็นก้อนหินไร้แบบแผน บ้างก็สูงตระหง่านดุจเสา บ้างก็เหมือนคมกระบี่ที่ชูขึ้นฟ้าสูง บ้างก็เป็นเหมือนวัวนอนหมอบกลางทะเล หินทุกก้อนล้วนใหญ่โตมโหฬาร จึงโผล่พ้นผิวน้ำได้
นี่แหละป่าหินทะเลเหนือ ภายใต้แสงอรุณ พวกมันถูกฉาบทับด้วยแสงสีทองจางๆ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก และเงียบสงบเป็นที่สุด มีหมอกเบาบางห้อมล้อมพร้อมกับพลังเซียน
ที่นี่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่วังเวงเลยสักนิด เพราะลึกเข้าไปในป่าหิน มีเมืองใหญ่สร้างอยู่นานแล้ว ซ้ำยังไม่ใช่แค่เมืองเดียว เป็นสถานที่ซึ่งรุ่งเรืองอย่างยิ่ง
ป่าหินทะเลเหนือมีอาณาเขตกว้างใหญ่ บางแห่งมีก้อนหินเชื่อมต่อกัน เมื่อผ่านการปลุกเสกของนักพรตยิ่งใหญ่ มันกลายเป็นแผ่นดิน
ตูม!
ยอดเขาที่อยู่ไม่ไกลมีสายฟ้าห้อมล้อม เกิดเสียงดังต่อเนื่อง มีอักขระนานาชนิดส่องแสงระยิบระยับ
มันเป็นยอดเขาสูง มีพลังธรรมของบรรพบุรุษ ทำให้คนบรรลุธรรมได้ แต่เงื่อนไขคือจำต้องปีนขึ้นไปบนยอดสูงสุด
เปลวไฟของดวงอาทิตย์เดือดพล่าน อีกาทองแผดเสียง บนเสาหินขนาดใหญ่ที่สูงทะลุชั้นฟ้าที่อยู่ไกลออกไป มีเปลวไฟลุกโชน เห็นอีกาทองตัวหนึ่งกระพือปีกอยู่รำไร
มันเป็นศพของอีกาทอง กลายร่างเป็นพระอาทิตย์ แต่กลับนอนอยู่บนยอดเขาสูง ทำให้ตรงนั้นกลายเป็นแดนต้องห้าม คนทั่วไปเข้าใกล้ไม่ได้
“นั่นหรือยอดเขาเหนือชั้น เป็นยอดเขาที่มีร่องรอยของผู้สูงส่งโบราณ?” สือฮ่าวพึมพำ
ในป่าหินมียอดเขาเหนือชั้นเช่นนี้ไม่น้อยเลย
พวกเทพจื่อรื่อ หลานเซียนก็ทิ้งชื่อไว้บนยอดเขาเหนือชั้นอันเลื่องชื่อเหล่านี้ได้สำเร็จ ถึงได้มีชื่อเสียงลือกระฉ่อน
ยอดเขาบางแห่งไม่มีคนปีนขึ้นไปนับหลายหมื่นถึงขั้นล้านปีแล้ว แม้กระทั่งว่ามีภูเขาวิเศษบางแห่งไม่มีใครเคยย่างกรายเข้าไปใกล้เลย!
“คัมภีร์อมตะอยู่ที่นี่หรือ?” ประกายในดวงตาของมดน้อยเจิดจ้ายิ่งนัก