Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1288
ทพสวรรค์น้อยลงถนัดตา เพราะถูกไล่ตะเพิดไปก่อนหน้านี้แล้ว
ตอนนี้ สือฮ่าวพามดน้อยตัวหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ผิวดิน ทุกสายตาก็จับจ้องทันที ต่างก็มองทางออกของบ่อโคลนไม่ละสายตา
ฮวงออกมาแล้ว!
เขาได้อะไรจากถ้ำใต้พิภพ? นี่เป็นคำถามที่หลายคนให้ความสนใจ อีกอย่าง ทำไมเขากลับมาเร็วปานนี้ คนอื่นล่ะ?
“ฮวงออกมาคนแรก ได้ประโยชน์หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไร คนที่เหลือตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม?”
หลายคนกระซิบกระซาบด้วยความวิตกกังวล แม้แต่เหล่าผู้เฒ่าบางส่วนของสามสำนักก็ทำหน้าจริงจัง แม้จะมีผู้เฒ่าบางคนลงไป แต่ตอนนี้ยังไม่ขึ้นมา
“หือ? เขาพาสัตว์ตัวหนึ่งขึ้นมาด้วย!” ผู้เฒ่าสำนักเซียนหรี่ตา เพ่งมองหัวไหล่ของสือฮ่าว ด้านบนมีจุดสีทองเล็กๆ หากไม่สังเกตอาจมองข้ามไปได้
แต่แข็งแกร่งอย่างพวกเขา สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า แม้มันจะตัวเล็กกระจ้อยร่อย ยาวไม่ถึงหนึ่งหุน แต่กลับมีพลังน่ากลัวแฝงเร้น หากปะทุจะน่าตะลึงอย่างยิ่ง
“มันเป็นมดตัวหนึ่ง!” ผู้อาวุโสสำนักเทพสวรรค์คนหนึ่งพูดพร้อมกับทำหน้าตกใจ เขานึกถึงปรมาจารย์ขึ้นมาทันที
เมื่อหลายปีก่อน ปรมาจารย์มักจะนั่งอยู่ตรงนี้ทุกวัน ใช้เหยื่อล่ออะไรบางอย่างที่นี่ อยากให้มันออกมา หรือจะเป็นเจ้าตัวนี้?
“ไม่อยากเชื่อเลย สัตว์ตัวนั้นเป็นมดงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสคนนั้นพึมพำ
แต่เมื่อผู้คนได้ฟัง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ประหนึ่งสายฟ้าคำราม
เพราะปรมาจารย์เฝ้ารอทุกวี่ทุกวัน ตกปลาบ่อยครั้ง มันไม่ใช่ความลับอะไร หลายคนรู้ว่าถ้ำใต้พิภพมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอยู่
ความคิดของผู้เตลิดไปไกล คาดเดาไปต่างๆ นานา!
คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้ล้วนเป็นอัจฉริยะ มิเช่นนั้นจะเข้าสำนักเซียน สำนักปราชญ์ได้อย่างไร? ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีคนโง่เขลาเบาปัญญา ต่างก็เกิดความคิดอันน่าตกใจขึ้นมาทันที!
“มดเขาสวรรค์!”
สุดท้ายก็มีคนพูดคำนี้ออกมา เสมือนอุกกาบาตกระแทกลงกลางทะเล ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่โดยพลัน!
ใช่ นี่เป็นข้อสันนิษฐานในใจหลายๆ คน สิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากถ้ำราชันเซียน จะธรรมดาได้อย่างไร?!
ตั้งแต่อดีตยันวันนี้ สัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนมด มีพลังต่อสู้อันไร้พ่าย มีเพียงเผ่าพันธุ์เดียว นั่นก็คือมดเขาสวรรค์!
“สวรรค์!”
ตอนนี้ ผู้คนแทบหยุดหายใจ อดอุทานออกมาไม่ได้ นี่เป็นข่าวที่สะเทือนฟ้าดินปานใดกัน?
หนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเซียนโบราณ ทายาทสิบอสูร และไม่ใช่ทายาทผสม สายเลือดอมตะที่แท้จริงปรากฏตัวแล้ว!
มันเป็นเรื่องสะเทือนวงการอย่างแท้จริง สะเทือนขวัญทุกผู้ทุกคน
สือฮ่าวกับมดน้อยบนไหล่เขากลายเป็นจุดสนใจในพริบตา สายตาของทุกคนเป็นประกายแวววาว นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ใหญ่ที่สุดจากการลงไปถ้ำใต้พิภพแน่นอน ถึงว่าฮวงออกมาไวปานนี้!
เพราะเขาได้มดตัวนี้มาครอง ล้ำค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!
ในตอนนี้ อย่าว่าคนอื่นเลย แม้แต่สายตาของเหล่าผู้เฒ่าสำนักเซียนกับสำนักปราชญ์ก็น่ากลัว ต่างก็จ้องมดน้อยตัวนั้นไม่วางตา
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกเขาว่า มันมีมูลค่าสูงปานใด
แท้ที่จริงแล้ว คนอื่นก็รู้ดีว่า มดน้อยตัวนี้ล้ำค่าทั้งตัว เคล็ดวิชาแต่กำเนิดของมันเย้ยปฐพีแน่นอน!
อีกอย่าง เลือดในตัวมันเป็นขุมทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น ถูกยกย่องว่าเป็นเลือดที่มีพลังขั้นสุดยอดในหล้า หากใช้เลือดของมันขัดเกลาร่างกายล่ะก็ มันจะเหนือคำบรรยาย!
ผู้สูงส่งสำนักเซียน มีใครบ้างที่ไม่ผ่านการอาบชำระ?
ทางด้านสำนักปราชญ์ยิ่งแล้วใหญ่ เลือดมังกรกับเลือดมดเขาสวรรค์เป็นไพ่ตายของพวกเขา!
เป็นเพราะสำนักปราชญ์มีเลือดวิเศษหลายชนิด ทำให้คนแปรสภาพได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงช่วยให้ผู้ฝึกวิชาปัจจุบันไปได้ไกล
และตอนนี้ ฮวงจับมดเขาสวรรค์ขนานแท้ได้ มันยังเยาว์วัย หากเลี้ยงไว้ข้างกาย ให้สิ่งที่จำเป็นต่อการเติบโตของมัน อยากได้เลือดเท่าใดก็มีมากเท่านั้นไม่ใช่หรือ?
ต่อมา ตาของผู้คนก็แดงก่ำขึ้นมา!
ไม่ใช่แค่หนุ่มสาว แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสบางส่วนก็หายใจถี่กระชั้น เพื่อลูกหลาน เพื่อสำนักของตัวเอง มีเหตุผลมากพอจะให้ชิงมดเขาสวรรค์มา!
“นี่มันมดเขาสวรรค์ใช่ไหม?” สุดท้าย ชายชราสำนักเซียนคนหนึ่งก็เอ่ยปากถามสือฮ่าว
“ข้าเอง!” สือฮ่าวยังไม่ทันตอบ มดน้อยก็เชิดหน้าขึ้น สองมือไพล่หลัง พยายามวางท่าสุขุมอยู่ตรงนั้น
“ทายาท…สิบอสูรของแท้หรือ?” ผู้เฒ่าสำนักปราชญ์คนหนึ่งพูดเสียงสั่นเครือ มันชวนให้ตื่นเต้นเหลือเกิน
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของสำนักเซียน แม้ผมจะบาง แต่ใบหน้าแดงระเรื่อ นอกจากดวงตาคู่นั้นแล้ว มีตาที่สามอยู่กลางหน้าผากอีกด้วย ตอนนี้กำลังมองชายชราคนหนึ่งของสำนักเทพสวรรค์พร้อมกับพูดว่า “สหาย นี่เป็นมดเขาสวรรค์ สำคัญยิ่งนัก ควรมอบมันให้สำนักเซียนจึงจะถูก”
สือฮ่าวที่อยู่ไกลออกไป เอาแต่จ้องอยู่ตลอดหลังขึ้นมาแล้ว ตอนนี้หน้าถมึงทึง ชายชราคนนี้ช่างเถรตรงนัก คิดจะฮุบมดเขาสวรรค์
ยิ่งไปกว่านั้น ชายชราผู้มีตาที่สาม ไม่ถามเขากับมดน้อยเลยสักนิด แต่กลับเอ่ยปากของกับผู้อาวุโสสำนักเทพสวรรค์โดยตรง
ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก ไม่เคยเห็นผู้น้อยอย่างเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด!
“หากเป็นมดเขาสวรรค์จริงๆ ก็ใช่ว่าพวกข้าจะตัดสินใจได้ พวกข้าไม่มีสิทธิ์แทรกแซง เจ้าควรถามสือฮ่าวหรือมดตัวนี้มากกว่าว่ายอมไปกับเจ้าไหม”
ตอนนี้ ผู้อาวุโสที่สองของสำนักเทพสวรรค์เดินมา และพูดอย่างสุภาพ
“เจ้าหนุ่ม เจ้ายอมเข้าร่วมสำนักเซียนหรือไม่?” ชายชราสามตาถาม พลางมองสือฮ่าวกับมดน้อยด้วยท่าทีเป็นมิตร เขาตระหนักได้แล้ว เมื่อครู่โจ่งแจ้งเกินไป มองข้ามความรู้สึกของเจ้าทุกข์ไป
“ไม่!” สือฮ่าวตอบ ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดยิ่งนัก
และในตอนนี้เอง ชาวสำนักปราชญ์ก็พูดขึ้นพร้อมกันแทบจะทันที เพราะเกรงว่าสำนักเซียนจะชิงตัวไปก่อน
“ไม่ได้ หากจะเข้าร่วมก็ต้องเข้าสำนักปราชญ์!” หญิงเฒ่าผมม่วงคนหนึ่งของสำนักปราชญ์พูดขึ้น แม้อายุจะมากแล้ว แต่เส้นผมยังคงเงาสลวย มีเพียงดวงตาที่ผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโชน ปิดบังไม่มิด
“ไม่เช่นกัน!” สือฮ่าวพูดขึ้นมาทันที ไม่ลังเลเลยสักนิด ไม่อืดอาดยืดยาด
ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน อัจฉริยะทั้งสองสำนักมาถึงที่นี่ นอกจากนี้ยังมีคนของตระกูลอมตะบางส่วน แต่ตอนนี้กลับเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไร
ฮวงเด็ดขาดปานนั้น ปฏิเสธโดยตรง
ขณะเดียวกัน ผู้คนก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาทันที รู้สึกว่าชายชราของทั้งสองสำนักโจ่งแจ้งยิ่งนัก ทำให้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้
ตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักเซียนหรือสำนักปราชญ์ก็ไม่มีใครรับฮวงไป หนึ่งสำนักไม่ยอมให้เมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ อีกหนึ่งป่าวประกาศว่าเลือดสูงส่งมีคนครองไปแล้ว
แต่ตอนนี้ พวกเขากลับกล้าเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ให้สือฮ่าว เชิญเขาเข้าร่วมอย่างหน้าตาเฉย
ปรากฏว่า สือฮ่าวกลับปฏิเสธแบบนี้ นับว่าเป็นการหักหน้าอย่างใหญ่หลวง ตอบโต้พวกเขาเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนคิดว่า นี่เป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ ซ้ำยังดังกังวานยิ่งนัก ฟาดลงบนหน้าของคนทั้งสองสำนักอย่างแรง
ตอนนั้น สองสำนักเห็นความสำคัญของสือฮ่าวไม่มากพอ แต่วันนี้ฮวงกลับมาอย่างทรงพลัง ไม่ได้แค่เอาชนะผู้สูงส่งของพวกเขาได้ แต่ยังนำมดเขาสวรรค์กลับมาด้วยตัวหนึ่ง เป็นที่จับจ้อง รู้สึกร้อนรุ่มในใจ
“ฮวง เจ้าเป็นอัจฉริยะ ควรจะพิจารณาให้ดี ควรเข้าร่วมสำนักเซียน ที่นั่นต่างหากจะทำให้เจ้าเดินไปไกลกว่านี้ สูงส่งกว่านี้ สามารถบุกเบิกฟ้าดินใหม่เจ้าได้!” ชายชราสามตาของสำนักเซียนพูดอย่างมีเมตตา ยังคงยิ้มแย้ม
“ไม่จำเป็น เส้นทางของข้าข้ารู้ดี สามปีมานี้ข้าไม่ได้เสียเวลาเปล่า พิสูจน์แล้วว่าข้าพึ่งพาตัวเองได้!” สือฮ่าวส่ายหน้า
ศิษย์หลายคนของสำนักเซียนรู้สึกอับอายแทนผู้อาวุโส คนเมื่อแก่ชราแล้วจะเจ้าเล่ห์ ไหลลื่น แต่จะหน้าด้านหน้าทนเช่นนี้ไม่ได้หรอกกระมัง?
แม้แต่ศิษย์ของสำนักตัวเองก็รู้สึกเหลืออด ตอนแรกไม่ให้ความสำคัญมากพอ ตอนนี้เมื่อเห็นฮวงผงาด อยู่บนเส้นทางที่ไม่มีใครเคยเดินมาก่อน จึงเป็นฝ่ายจู่โจม ช่างหน้าเลือดเสียจริง
“ฮวง ข้าเห็นเจ้ามีกายเนื้อยิ่งใหญ่ ประหนึ่งอยู่ยงคงกระพัน แข็งแกร่งเป็นที่สุด เหมาะสมจะเดินบนเส้นทางวิชาปัจจุบัน ควรเข้าร่วมสำนักปราชญ์จึงจะถูก เพราะพวกเรามีคัมภีร์ข้าเป็นหนึ่งเดียว คัมภีร์ที่สะเทือนปฐพี มันเป็นสุดยอดผลงานของเส้นทางนี้ หากเจ้าเข้าร่วม ข้ายินดีเปิดอ่านให้เจ้า จะทำให้เป็นดุจเสือติดปีก พุ่งผงาดแน่นอน!” หญิงเฒ่าผมม่วงคนนั้นพยายามผูกมิตรสุดความสามารถ
“ขอบคุณสำหรับความหวังดี ตอนนี้เส้นทางที่ข้าศึกษายังไม่จบสิ้น ว่อกแว่กไม่ได้” สือฮ่าวส่ายหน้า
อัจฉริยะสำนักปราชญ์เหล่านั้นก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าว แม้ฮวงจะปฏิเสธอ้อมค้อม ไม่รุนแรงปานนั้นอีก แต่ผลก็เป็นเหมือนกัน
“น่ารำคาญจริงๆ คนในโลกนี้ช่างมีไมตรีเหลือเกิน ถึงกับต้องตะโกนปาวๆ ให้คนอื่นเข้าร่วมให้ได้ น่าเบื่อ!” มดน้อยไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง บ่นออกมาแบบนี้อย่างเหลืออด
“หึหึ เจ้าหนูมดเขาสวรรค์ เจ้ายอมเข้าสำนักปราชญ์ไหม” หญิงชรายิ้มกริ่ม
“ไม่ได้ กระต่ายดวงจันทร์พาลูกกิเลนตัวนั้นเข้าสำนักปราชญ์แล้ว มดเขาสวรรค์ต้องเข้าร่วมสำนักเซียน!” ชายชราสามตนขัดขวาง
“กิเลนตัวนั้น…” หญิงชราทำหน้าขมขื่น เคยคิดจะศึกษาเช่นกัน แต่กลับไม่สามารถค้นหาภูมิหลังของกิเลนน้อยได้ เพราะภายในร่างกายของมันมีพลังผนึกอันน่ากลัว หากแตะต้อง จะน่ากลัวเป็นที่สุด
“เอาล่ะ เราไปกันเถอะ คนพวกนี้น่าเบื่อจริงๆ” มดเขาสวรรค์เร่งเร้าสือฮ่าว เสียงของมันเล็ก อ่อนวัยอย่างยิ่ง เมื่อดังในโสตประสาทของทุกคน มันบาดหูเสียเหลือเกิน
“ไม่ได้ มดเขาสวรรค์มีอิทธิพลยิ่งนัก เป็นถึงทายาทสิบอสูร จะเกิดอันตรายไม่ได้เด็ดขาด จำต้องคุ้มครองไว้ ไปเสี่ยงอันตรายกับฮวงไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่!”
ในตอนนี้เอง ก็มีคนของตระกูลอมตะพูดขึ้นมา
สือฮ่าวเงยหน้ามองทางนั้นทันที จำได้ตั้งแต่แวบแรกว่า เป็นคนของตระกูลหวางซี สองฝ่ายเป็นอริกัน อีกฝ่ายห้ามปรามแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ากลัวเขาจะได้ญาณวิเศษเย้ยปฐพีและเลือดของเผ่าพันธุ์มดสวรรค์ กลัวเขาจะยกระดับจนถึงขั้นสูงเกินหยั่งถึง
“ข้าก็คิดว่ามีเหตุผลเหมือนกัน มดเขาสวรรค์นับว่าแทบจะสูญพันธุ์แล้ว ตอนนี้โผล่มาให้เห็น จะต้องรักษาไว้ให้ดี ตระกูลอมตะอาจเป็นตัวเลือกที่ดีก็ได้” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูด ร่างสูงใหญ่กำยำ มีกำลังวังชา ลักษณะโดดเด่นเหนือผู้อื่น
นัยน์ตาของสือฮ่าวเย็นเยือก เขาจำคนคนนี้ได้แม่นยำเหลือเกิน ผู้สูงส่งหยวนชิง ดูอ่อนเยาว์ลงไม่น้อย เคยทำร้ายเขาจนแทบตายอยู่ในเหมืองบรรพกาล เป็นตัวการสำคัญที่ขวางไม่ให้สือฮ่าวเข้าสำนักเทพสวรรค์
หลังสือฮ่าวมาถึงเก้าสวรรค์ ศัตรูคนแรกก็คือคนคนนี้ จะขวางทางเขา กำราบเขาสิบปี สำหรับนักพรตหนุ่มคนหนึ่งแล้ว มันเป็นการประทุษร้ายอย่างแสนสาหัส
แต่สือฮ่าวสังหารหลานชายของหยวนชิง ผู้ที่คิดปองร้ายเขาในสนามรบเซียนไปแล้ว ก็นับว่าเป็นการแก้แค้นเล็กๆ
“มีเหตุผล ควรระวังเรื่องความปลอดภัยของมดเขาสวรรค์ อย่าให้ผิดพลาด ควรอยู่ที่นี่จะดีที่สุด” ในตอนนี้เอง มีชายชราอีกคนเอ่ยขึ้น
เขามาจากตระกูลอมตะเช่นกัน คนของตระกูลเฟิงนั่นเอง
แววตาของสือฮ่าวเย็นเยียบ ไม่มีทางญาติดีกับตระกูลนี้ได้อีกแน่นอน เพราะตอนนั้นหยวนชิงได้รับการไหว้วานจากตระกูลนี้ จึงคิดจะกำราบเขาสิบปี
หากพูดตามหลักการแล้ว คนของตระกูลอมตะนี้ต่างหากที่เป็นอิทธิพลใหญ่ที่เขาควรจัดการมากที่สุด!
สือฮ่าวสงสัยว่า ตระกูลเฟิงอาจมีความแค้นกับตระกูลสือ มีความเกี่ยวข้องกับทายาทเลือดบาปที่ว่า หากมิเช่นนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่จะเริ่มเพ่งเล็งเขาตั้งแต่แรก
“หึ!”
ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสที่สองของสำนักเทพสวรรค์ก็แสยะยิ้ม กวาดสายตาผ่านพวกเขาแล้วพูดว่า “พวกเจ้ายุ่งมากไปแล้ว ความปลอดภัยของฮวงกับมดเขาสวรรค์ มีสำนักเทพสวรรค์ก็พอแล้ว!”
“สหาย พวกข้าก็แค่หวังดี เพราะมันส่งผลกระทบกว้างไกลจริงๆ”
“ใช่ จำต้องระมัดระวัง!”
สองตระกูลอมตะอย่างตระกูลเฟิงกับตระกูลหวางพากันออกความเห็น นี่เป็นสองอิทธิพลใหญ่ ตระกูลที่เคยมีผู้อมตะเป็นบรรพชน อยู่เหนือเก้าสวรรค์สิบพิภพ ทุกคำพูดล้วนมีน้ำหนักอย่างยิ่ง!
เรียกได้ว่า ตระกูลอมตะมีสิทธิ์มีเสียงที่น่ากลัวในเก้าสวรรค์ เป็นอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุด!
“ไปให้พ้น อาจหาญมาอวดดีในสำนักเทพสวรรค์ ข้าจะสังหารให้เหี้ยน!” ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงตะคอกแว่วมา กลิ่นอายน่ากลัวแผ่คลุมฟ้าดิน มาจากสุดขอบฟ้า
คนที่กล้าตวาดตระกูลอมตะเช่นนี้ แข็งกร้าวจนน่าตกใจ ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด หยามเกียรติซึ่งๆ หน้า
“ใคร?” คนของตระกูลหวางโมโห
“ตูม!”
มีร่างพุ่งลงมา ตรงดิ่งจนเป็นดั่งเสาค้ำฟ้า เขาทรงพลัง ชุดสีเทาพลิ้วไหว กำลังหันหน้าเข้าหาทุกคน
“ปรมาจารย์!” ทุกคนในสำนักเทพสวรรค์ต่างก็ดีใจ ปรมาจารย์ที่หายไปเกือบสามปีกลับมาแล้ว เขาเป็นคนโหด ไม่กลัวใครหน้าไหนในเก้าสวรรค์สิบพิภพ!
“ฮ่าฮ่า ปรมาจารย์กลับมาแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่ดีนัก ข้าเห็นด้วยว่าควรให้สำนักเทพสวรรค์ดูแลมดเขาสวรรค์!” ในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนที่สวมมงกุฎคนหนึ่งก็ระเบิดเสียงหัวเราะ
ผู้คนตะลึงงัน คนคนนี้มีภูมิหลังยิ่งใหญ่ มาจากราชวงศ์อมตะ เป็นตระกูลอมตะเช่นกัน แต่ก่อตั้งประเทศแล้ว เขาเป็นบิดาขององค์หญิงเยาเยว่!
หลายคนต่างก็เห็นด้วยขึ้นมาทันที ยำเกรงปรมาจารย์อย่างยิ่ง มีหลายคนมาจากตระกูลอมตะ!