Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1271
ดวงอาทิตย์สีม่วงลอยกลางนภา สาดแสงเจิดจ้า หมอกนับพันนับหมื่นเส้นปกคลุมอากาศ
“เทพตะวันไร้พ่าย ทำลายตำนานทั้งหมด!” หลายคนตะโกนลั่น พร้อมกับมองพระอาทิตย์สีม่วงบนฟ้า
ในบรรดาคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นหญิงสาว รวมถึงไข่มุกของตระกูลใหญ่บางส่วน ต่างก็ตะโกนเรียกเทพจื่อรื่อเสียงดัง ตื่นเต้นยิ่งนัก
ขณะเดียวกัน ก็มีชายบางส่วนเช่นอู๋ไท่ที่แสยะยิ้ม มองสือฮ่าวกลางที่เกิดเหตุ เขาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง ปรารถนาอยากเห็นภาพที่ฮวงแพ้พ่าย
เขาแพ้ในสุสานแดน ถูกสือฮ่าวชิงเกราะฟ้าครามไป เคียดแค้นยันทุกวันนี้ คิดอยากแก้แค้นอยู่ตลอดเวลา
เด็กรับใช้ก็ตะโกนลั่นว่า “นายท่าน ต้องกำราบเขา จะฮวงหรือตำนานไร้พ่ายอะไรนั่น ไม่เท่าใดหรอก แค่นายท่านลงมือ เขาต้องตายเป็นแน่!”
แรดนอทองเบิกตากว้าง นัยน์ตาสีทองเปล่งประกาย เขาลุ้นระทึกมาก หากเทพจื่อรื่อกำราบสือฮ่าว เช่นนั้นเขาจะปลอดภัย เขาจึงกู่ร้องเช่นกัน
ตอนนี้เกิดเสียงดังอึกทึก ที่นี่ครึกครื้นอย่างยิ่ง มือดีมากมายต่างเฮโลมา
พระอาทิตย์สีม่วงเคลื่อนไหวช้าๆ เมื่ออยู่ห่างจากสือฮ่าวไม่ไกลมากนักก็หยุดลง ร่างเลือนรางแผ่อานุภาพเย้ยปฐพีออกมา!
เมล็ดพันธุ์หมอกปฐมกาล ได้ชื่อว่าไร้พ่ายในเซียนโบราณ!
คนแต่ละยุคที่ประสานเป็นหนึ่งกับเมล็ดพันธุ์นี้ ต่างก็เป็นหนึ่งในคนที่มีพลังต่อสู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพ เรียกได้ว่าโดดเด่น มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมันมากมายเหลือเกิน!
ตอนนี้ ผู้คนจับจ้อง ทุกคนมองดวงอาทิตย์บนฟ้าไม่วางตา ต่างก็เงยหน้ามองด้วยความเคารพและยำเกรง
เทพจื่อรื่อกลายเป็นจุดเด่น เมื่อยืนกลางอากาศ ร่างเลือนรางเป็นดุจเซียนเย้ยโลกา ไร้เทียมทาน อยู่เหนือวีรชน พระอาทิตย์สีม่วงกระจายเปลวไฟน่ากลัว โชติช่วงยิ่งขึ้น
บางคนตัวสั่นระริก ทนไม่ไหวจะล้มตัวลงกราบคำนับ
เพราะแสงสีม่วงจากดวงอาทิตย์กลายเป็นริ้วคลื่น กระจายออกมา ทำให้ผู้กล้าทั้งหลายตัวสั่น สั่นไปถึงวิญญาณ
อีกฟากหนึ่ง สือฮ่าวนิ่งสงบ ชุดพลิ้วไหวตามลม มันบางและเย็นสบาย ดูมีลักษณะอยู่เหนือโลกีย์ ขาดความอหังการไปสักหน่อย
ตอนนี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ดวงตะวันสีม่วง มองเทพหนุ่มคนนั้น นอกจากพวกเฉาอวี่เซิง ฉางกงเหยี่ยนกับกระต่ายน้อยแล้ว น้อยคนที่มองสือฮ่าว
เพราะผู้กล้าทั้งหลายมีข้อสรุปในใจแล้ว วันนี้ฮวงต้องแพ้เป็นแน่ ต่อให้เขาเคยรุ่งโรจน์ แต่ไม่นานก็จะกลายเป็นหินใต้เท้าของเทพจื่อรื่อ
บางคนถอนหายใจ เสียดายแทนเขา บางทีฮวงอาจสิ้นชื่อแล้วก็เป็นได้
และมีบางคนที่แสยะยิ้ม รอเวลาที่เขาแพ้พ่ายมาเยือน เช่นพวกอู๋ไท่ เด็กรับใช้และแรดนอทอง
“เข้ามาเถอะ สงครามขั้นเทพสวรรค์ ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าเคยแข็งแกร่งปานใดกันแน่ พูดเกินจริงหรือไม่!” เสียงของเทพจื่อรื่อเย็นเยือก นิ่งเฉย ให้ความรู้สึกกดดันจนแทบหยุดหายใจ
“สือฮ่าว!” พวกกระต่ายดวงจันทร์ เฉาอวี่เซิงและเฟิ่งหวู่ที่อยู่ข้างหลังต่างก็ทำหน้ากังวล ต่อให้เป็นศึกขั้นเทพสวรรค์ แต่ก็คาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก
เพราะหลังอีกฝ่ายหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ ร่างกายยกระดับทุกด้าน ยับยั้งจนถึงขั้นเทพสวรรค์ เงื่อนไขร่างกายยังคงอยู่
“ไม่ต้องห่วง” สือฮ่าวยิ้มให้พวกเขา เขาย่างสามขุมเข้าไปหาพระอาทิตย์สีม่วงดวงนั้น
ในที่สุดก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนลุ้นระทึก มีสายตาเริ่มหันมองสือฮ่าวแล้ว
“เขากล้ารับคำท้าจริงๆ หรือ?” หลายคนของสำนักเซียนพูดขึ้น ฟังดูไม่รื่นหูเอาเสียเลย
“หึหึ เพราะเขาเป็นฮวง อดีตผู้สูงส่ง จะถอยได้อย่างไรเล่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด” อู๋ไท่พูดด้วยความสะใจ ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง อยากเห็นภาพที่สือฮ่าวแพ้เหลือเกิน
ไม่มีใครหวังในตัวสือฮ่าว ไม่ว่าจะเป็นคนสำนักเซียนที่เป็นปรปักษ์กับเขา หรือพวกคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขา ต่างก็คิดว่าเทพจื่อรื่อหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์แล้ว ไม่ว่าขั้นไหนก็ไร้เทียมทาน!
“ช่างน่าเศร้า เคยรุ่งโรจน์เหมือนกัน แต่กลับต้องปิดฉากด้วยความเศร้าแบบนี้!” แม้แต่แรดนอทองที่ขี้ขลาดก็พูดขึ้น ตื่นเต้นยิ่งนัก
“แต่ไม่ต้องห่วง นายท่านลงมือ ไม่มีใครขวางได้ นับจากนี้ไป ฮวงต้องเริ่มตกต่ำเป็นแน่!” เด็กรับใช้ยิ้มเยาะ
ตูม!
ในตอนนี้เอง เกิดเสียงดังสนั่น ทำให้ทุกคนปิดปากฉับ เพราะมีพลังเคลื่อนไหว ทุกคนอกสั่นขวัญแขวน กระวนกระวาย
ดวงตะวันสีม่วงเคลื่อนช้าๆ ราวกับอยู่ไกลนับล้านปี ประหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวมาจากจุดลึกของจักรวาล มาเยือนโลกมนุษย์
มันเกิดจากหมอกปฐมกาล มันเก่าแก่ยิ่งนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คาดเดากาลเวลาไม่ได้!
ตอนนี้มันห่อหุ้มเทพจื่อรื่อ พร้อมกับพลังยากลึกหยั่งถึง ลอยลงมาจะทับสือฮ่าว
หมอกกระเพื่อม สาดแสงสีม่วง ประหนึ่งทะเลคำราม เสียงดังสะเทือนเลือนลั่น ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวเป็นล้นพ้น
พลังขั้นเทพสวรรค์หรือ?
ผู้คนใจสั่น น่ากลัวกว่าเจ้าสำนักบางคนเสียอีก จะต้านทานอย่างไร เสมือนผู้อมตะกำลังแผดร้อง!
ตึง!
ในตอนนี้เอง สือฮ่าวเคลื่อนไหวแล้ว ยื่นมือออกไปตบมิติช้าๆ หมอกที่แผ่ปกคลุมลงมากระเพื่อมตามแรงของเขา เกิดเสียงลมกรรโชก
หมอกที่ม้วนตัวมาหาเขาต่างก็กระจายตัว เข้าใกล้เขาไม่ได้!
สายตาของทุกคนจับจ้อง ในขั้นเทพสวรรค์ ฮวงมีลักษณะเหนือผู้อื่นจริง แม้แต่เทพจื่อรื่อในดวงตะวันก็ทำอะไรเขาไม่ได้หรือ?
“หากไม่มีอะไรผิดพลาด เดิมทีเจ้ากับข้าไม่มีทางเจอกัน ไม่มีโอกาสได้ประลองกัน แต่ข้าอยากรู้มาตลอดว่า เจ้าในยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุด เป็นอย่างไรกันแน่!” เทพจื่อรื่อพูด
ความหมายของเขาชัดเจนมาก หากไม่มีอะไรผิดพลาด ในหมู่มือดีขั้นเจ้าสำนัก เขาไม่อยากประมือกับสือฮ่าว เพราะอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์จะเป็นคู่แข่งของเขา
ตอนนี้ เขายับยั้งตัวเอง ลดพลังให้อยู่ในขั้นเทพสวรรค์ ทั้งสองจึงพอประมือกันได้
“เจ้ามั่นใจเกินไปแล้ว!” สือฮ่าวนิ่งเฉย พูดออกมาแค่นี้ ไม่ได้โต้เถียง
“ฮวง ลงมือสุดความสามารถของเจ้าเถอะ หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!” เทพจื่อรื่อตะโกน เสียงของเขาเหมือนฟ้าผ่ายามฟ้าแจ้ง มันดังบาดหู จากนั้นเขาก็พุ่งเข้ามา
ดวงดาราหม่นหมอง ปฐพีสิ้นแสงในพริบตา แผ่นดินสั่นสะเทือน มิติถล่มแล้ว!
หมอกปฐมกาลกลายเป็นดวงตะวันปกคลุมเขา พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ราวกับดวงดาวในจักรวาลตกลงมา พร้อมกับความกดดันที่ไร้เทียมทาน
โครม!
แสงสีม่วงแผ่ไปทั่ว ท่วมท้นจักรวาลแล้ว!
กลิ่นอายน่ากลัวซัดสาดปานมหาสมุทร มันเป็นพลังไร้พ่าย เปลี่ยนแปลงไม่ได้ กำราบทุกสิ่งได้!
ทุกคนตะลึงงัน นี่เป็นความสามารถที่แท้จริงของเทพจื่อรื่อหรือ? ขั้นเทพสวรรค์ยังไร้พ่ายแบบนี้ หากไม่ยับยั้งล่ะก็ จะน่าตะลึงขนาดไหน?
ผู้กล้าต่างก็เห็นว่า ร่างข้างล่างถูกหมอกปกคลุมจนมองไม่เห็นแล้ว เขาคือฮวง เขาดูบอบบางและสดใสมาก ชวนให้รู้สึกเห็นใจมากเช่นกัน
ปิดฉากเช่นนี้แล้วหรือ? เพราะว่า อานุภาพของเทพจื่อรื่อรุนแรงเหลือเกิน น่ากลัวกว่าสือฮ่าวตอนสู้กับสุนัขนรกหลายเท่าตัว!
ในความคิดของเฉาอวี่เซิง มันช่างน่าสิ้นหวัง พวกกระต่ายดวงจันทร์ เฟิ่งหวู่หน้าถอดสี กังวลตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่า สือฮ่าวต้องจบเห่แน่ มีอันตรายถึงชีวิต
“ข้ารู้อยู่แล้วว่า ตอนนี้ฮวงไม่ไหวแล้ว จะเท่าใดกันเชียว ไม่นานต้องถูกนายท่านกำราบแน่!” เด็กรับใช้หัวเราะลั่น
“หึหึ ฮวงก็มีวันนี้เหมือนกัน เห็นหรือยังว่า ควมสามารถของเทพจื่อรื่อแข็งแกร่งกว่าเจ้าในวันวานหลายเท่า เจ้าใช้ไม่ได้แล้ว!” อู๋ไท่หัวเราะ รู้สึกสะใจยิ่งนัก
“นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ก็จะจบแล้วหรือ?” มีคนระเบิดเสียงหัวเราะ
มีแสงสาดออกมาจากดวงอาทิตย์สีม่วง ค่อยๆ แผ่กระจายปกคลุมข้างล่าง
ตอนแรก ตรงนั้นยังเงียบกริบ แต่ตอนหลังผู้คนก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เพราะหลังพระอาทิตย์ลอยลงมา ก็บดบังตรงนั้น ทำลายล้างไม่ได้หรือ?
เป็นอย่างที่คิด ความกดดันถูกทำลาย ร่างสูงโปร่งประสานอินใต้พระอาทิตย์ กำลังใช้พลังสายฟ้าโจมตีพระอาทิตย์สีม่วง
จากนั้น หมอกและแสงสีม่วงก็แผ่คลุมที่นั่นไม่ได้อีก ถูกทำลายจนหมด!
ตูม!
สุดท้าย สายฟ้าก็ฟาดเวหา บดขยี้จักรวาล ระเบิดเสียงดังก้อง!
ตูม!
ต่อมา ร่างใต้ดวงตะวันก็ชัดเจนขึ้น สือฮ่าวยังคงสดใส แลดูโดดเด่นมาก แต่ยามลงมือกลับอหังการ หมัดที่ดูธรรมดา ไม่เปล่งแสง แต่สะเทือนจนดวงอาทิตย์สีม่วงสั่นไหว จะระเบิดแล้ว!
ผู้คนพรั่นพรึง เงียบสงัดลงทันตา เงียบจนได้ยินเสียงใบไม้ร่วง
มันเกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่ยังเห็นเทพจื่อรื่อควบคุมพระอาทิตย์ กำราบสือฮ่าว ทำไมแค่พริบตาเดียว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ดวงอาทิตย์จะถูกโจมตีจนแหลกสลายแล้ว!
คนที่เยาะเย้ยและเหน็บแนมเมื่อครู่ปิดปากฉับ ต่างก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งใจ พูดไม่ออกแล้ว
แม้แต่เด็กรับใช้คนนั้นก็เงียบกริบ จดจ้องอย่างลุ้นระทึก อู๋ไท่เหมือนเป็ดที่ถูกเชือดคอหอย หยุดชะงัก ส่วนคนอื่นต่างก๊อกสั่นขวัญแขวน
ฮวง แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนแล้ว!
อยู่ในขั้นเทพสวรรค์เหมือนกัน แต่แข็งแกร่งกว่าเขาในอดีตแล้ว!
หลายคนกระสับกระส่าย ว้าวุ่นใจยิ่งนัก มองสือฮ่าวอย่างไม่รู้จะพูดอะไร อดีตผู้สูงส่งแบนี้ น่าเสียดายเหลือเกิน ไยจึงไม่ได้เมล็ดพันธุ์โบราณ?
ต่อให้อัจฉริยะคนอื่นยังคงก้าวหน้า แปรสภาพเพราะได้รับเมล็ดพันธุ์ ฮวงก็ไม่ตกต่ำ ยังคงมีพรสวรรค์เย้ยปฐพีในขั้นเทพสวรรค์เช่นเดิม
ตึง!
เกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง สือฮ่าวกางแขนปานคุนเผิงกางปีก ปล่อยอานุภาพไร้เทียมทาน สะเทือนที่นี่!
สะเทือนจนพระอาทิตย์แตกระแหง พุ่งขึ้นฟ้าสูง
ดวงอาทิตย์ระเบิด กลายเป็นหมอกนับพันนับหมื่น กระจายไปทั่วฟ้าดิน หายลับไปในร่างกายของเทพจื่อรื่อที่ยืนอยู่กลางอากาศทันที
“ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ใช่พลังของขั้นที่สูงกว่า หมอกพวกนี้ใช้ไม่ได้ มีแต่จะกระทบกับการต่อสู้ของข้า เก็บเดี๋ยวนี้!” เทพจื่อรื่อพูด
ตอนนี้ หมอกทั้งหมดสลายหายไป แต่ยังคงไม่เห็นรูปโฉมของเขา เพราะถูกแสงสีม่วงบดบัง แม้แต่โครงหน้าก็พร่ามัว
แต่ผู้คนเห็นรูปร่างของเขาแล้ว ร่างสูงกำยำ ผมสีม่วงแผ่สยาย นัยน์ตาดุจสายฟ้า เขาองอาจเป็นที่สุด มีความอหังการอย่างยิ่ง
แตกต่างจากความสุภาพยามพูดคุยในตอนแรก ตอนนี้ทรงพลัง ถือตัวและอหังการ
“ฮวง เข้ามาเลย สู้สุดความสามารถ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง!” เทพจื่อรื่อทอดมองลงมา
ตูม!
ต่อมา ผู้คนก็รู้สึกเหมือนกระแสไฟกำลังพัวพัน สายฟ้าคำราม ที่นี่มีกระแสไฟกะพริบแปลบปลาบ
ยามเทพจื่อรื่อลงมือ ว่องไวดุจสายฟ้า ปะทะกับสือฮ่าวนับครั้งไม่ถ้วนในพริบตา ปรากฏการณ์แบบนี้ช่างน่าพรั่นพรึง!
ชิ้ง!
เห็นได้ชัดว่า ตัวเขาถูกแสงสีม่วงปกคลุม โชติช่วงยิ่งนัก ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวเป็นเหมือนดวงดาวโคจร!
มีกิเลนสีม่วงน่ากลัวตัวหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลัง ราวกับจะทำลายล้างปฐพี คำรามลั่นฟ้าดิน ร่างใหญ่มหึมายิ่งกว่าขุนเขา สูงทะลุชั้นเมฆ
พลังแบบนั้นกดดันจนแทบหายใจไม่ออก
ผู้คนตกใจ นั่นมันเคล็ดวิชากิเลน!
แค่เทพจื่อรื่อก็ปล่อยหนึ่งในเคล็ดวิชาของสิบอสูร จะเห็นได้ว่าตระกูลของเขามีความเป็นมายิ่งใหญ่ปานใด หมัดกิเลนสะเทือนปฐพี!
เนื้อตัวของสือฮ่าวเปล่งประกาย เจิดจ้าเป็นครั้งแรก เสมือนกลายเป็นคุนเผิง ใช้เคล็ดวิชาสิบอสูรประมือเช่นกัน
ตูม!
พญานกตัวหนึ่งกางปีกบิน บินทะลุชั้นฟ้า แผดร้องสะเทือนโลกา กำราบทุกสิ่งอย่างไร้เทียมทาน!
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ สือฮ่าวเป็นเหมือนปีศาจยืนตระหง่านกลางเวหา มีลักษณะไร้พ่าย
ตอนนี้ ผู้คนหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ทำไมฮวงน่ากลัวกว่าที่คิดเสียอีก ประเมินไม่ได้เลย พลังที่ปล่อยออกมาต้านทานอานุภาพของเทพจื่อรื่อได้
โฮก…
กิเลนคำราม ใหญ่ยิ่งกว่าขุนเขาเสียอีก แสงสีม่วงสาดไปทั่วทุกหนแห่ง จักรวาลทั้งผืนต็มไปด้วยร่างมหึมาของกิเลน อัปลักษณ์และน่ากลัว
ตูม!
กรงเล็บกิเลนตะปบคุนเผิง ทำให้มิติบริเวณนั้นระเบิด รอยแยกสีดำมากมายลุกลาม ผืนฟ้าแหลกสลาย
คุนเผิงแผดร้อง เนื้อตัวโอนเอน ประหนึ่งจะทะลุเข้าไปในดาราจักร ไกลไม่รู้ตั้งกี่ลี้
สือฮ่าวไม่ถอย แต่โจมตีอย่างกล้าหาญ พุ่งเข้าไปประมืออย่างแท้จริง
ตึง!
ทั้งสองปะทะกัน กรงเล็บกิเลนเจอกับกรงเล็บคุนเผิง บดขยี้มิติ
กิเลนสีม่วงดุจเนินเขาคำรามลั่น สะเทือนชั้นเมฆ สายฟ้าฟาดตามมา มันสูงตระหง่าน อำมหิตเลือดเย็น
จากนั้นมันก็กระโจนใส่คุนเผิง จะสู้กับมันอย่างไม่คิดชีวิต
ชั่วพริบตา ปีกคุนเผิงก็กระทบกัน พลังสีดำและสีทองไหลเวียน หยินหยางปรากฏขึ้น ยามกระทบกัน ก็เกิดแสงสว่างเจิดจ้า
ปัง!
กิเลนถูกโจมตีอย่างหนัก เลือดไหลออกจากมุมปาก เนื้อตัวกระเด็นออกไป
เทพจื่อรื่อก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ร่างกายโอนเอน ลอยตามออกไป
สือฮ่าวกางแขน กลายเป็นคุนเผิงแล้วพุ่งออกไป เกิดการเข่นฆ่าอย่างดุเดือดขึ้นในพริบตา
“โฮก!”
เสียงคำรามแว่วมาจากนภา กิเลนสีม่วงสู้รบโรมรันกับคุนเผิงที่บินขึ้นฟ้าสูงเก้าหมื่นลี้ เลือดสาดกระจาย มิติถล่มทันที
พวกเขากำลังรบกัน เข้าขั้นดุเดือดในเสี้ยววินาที
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองรวดเร็วเหลือเกิน ประมือกันนับร้อยกระบวนท่าในพริบตา แม้เวลาจะสั้น แต่จำนวนการปะทะกลับน่ากลัวจนน่าตกใจ
ผลุบ!
กิเลนแผดเสียง กรงเล็บกิเลนข้างหนึ่งถูกหัก ตกลงไปพร้อมกับเลือดจำนวนมาก
แม้จะเกิดจากเคล็ดวิชา แต่ก็ส่งผลกระทบต่อผู้สำแดงวิชาเช่นกัน เทพจื่อรื่อกระตุก เลือดไหลออกจากหน้าผาก ได้รับแรงกระเทือนที่น่ากลัวสุดแสน
เขาถอยโซเซออกไป ทำไมเป็นแบบนี้?
เขาถูกฮวงโจมตีจนบาดเจ็บเสียแล้ว!
เทพจื่อรื่อตกใจหน้าถอดสี เขาเสียเปรียบเสียแล้ว สำหรับคนที่คิดว่าตนไร้พ่ายในหมู่หนุ่มสาว มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้!
คนอื่นกลับตัวแข็งเป็นหิน ใครก็คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้ หน้าปากของเทพจื่อรื่อเปื้อนเลือด ได้รับบาดเจ็บแล้ว
“อ๊าก!”
เสียงแผดร้องดังสนั่นหวั่นไหว ร่างของเทพจื่อรื่อขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นปักษาเทพเจ้า ขนสีม่วงฉูดฉาด ขนหางยาวยิ่งกว่าเทือกเขาเสียอีก
นี่เป็นหงส์สีม่วงใหญ่โตมโหฬาร ขนทุกเส้นมีขนาดเท่าทิวเขา แสงหลั่งไหลไปทั่วร่าง แสงสีม่วงเจิดจ้า แสบตาสุดแสน
ผู้คนแสดงอาการตกใจ ตะลึงอย่างยิ่ง
“เคล็ดวิชาพญาหงส์!”
มีคนอุทานอย่างตกใจ เมื่อใช้ญาณวิเศษที่ร้ายกาจแบบนี้ ใครจะสู้ได้?
ในใจของผู้คน มังกรหรือพญาหงส์ล้วนสะเทือนปฐพี เป็นสิ่งที่เอาชนะไม่ได้ มีความหมายพิเศษ
ตูม!
เมื่อพญาหงส์สีม่วงปรากฏตัว ฟ้าดินก็สิ้นแสง อากาศแปรปรวน น่ากลัวเป็นล้นพ้น เสียงสายฟ้าดังครืนครันขึ้นมาทันที มาเยือนด้วยตัวเอง
สือฮ่าวยังคงเป็นคุนเผิงร่างมนุษย์ อีกหนึ่งเจ้าแห่งวงการของปักษา คุนเผิงปะทะพญาหงส์!
ชิ้ง!
ทั้งสองกลายเป็นสายฟ้า พุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็ว แสงสว่างระเบิดในพริบตา ม้วนตัวไปทั่วฟ้าดิน จ้องมองไม่ได้
สายฟ้าคำราม ลมพัดกรรโชกดังหวีดหวิว คลื่นเลือดท่วมท้นทั่วจักรวาล มีขนเปื้อนเลือดร่วงมาไม่ขาดสาย เจ้าแห่งปักษาสองตัวกำลังเข่นฆ่า สู้รบกันอย่างดุเดือด
นี่เป็นสงครามใหญ่ โหดร้ายเป็นที่สุด
โฮก!
ทั้งที่เป็นหงส์สีม่วงตัวหนึ่ง แต่กลับปล่อยเสียงคำรามประหนึ่งอสูรออกมา สะเทือนจนทุกคนเลือดลมพลุ่งพล่าน ถึงขั้นมีคนกระอักเลือด
หงส์สีม่วงขยายใหญ่ สูงเสียดฟ้าในพริบตา เสมือนจนไปถึงนอกโลก จากนั้นก็อ้าปากจะเขมือบคุนเผิง
ต้องรู้ว่า คุนเผิงมีขนาดใหญ่กว่าขุนเขาหลายเท่าตัว แต่ตอนนี้มันกลับกลืนลงไปแล้ว
นี่เป็นอานุภาพของพญาหงส์ อหังการเย้ยโลกา จะเขมือบเพื่อกำจัดศัตรู!
ผู้คนมองดูอย่างอกสั่นขวัญแขวน ต่างก็ตะลึงพรึงเพริด
แต่ทว่า ไม่รอให้เด็กรับใช้อุทาน ในตอนนี้เอง ช่องท้องของหงส์ตัวนั้นก็ป่องขึ้น จากนั้นก็มีเสียงสายฟ้าดังขึ้น สุดท้ายระเบิดดังตูม
ตรงนั้นมีแสงสว่างไสว เจิดจ้าสุดแสน คุนเผิงร่างมนุษย์ปรากฏกาย สือฮ่าวประสานอิน ไม่ว่าจะขนหงส์หรืออักขระหงส์ก็ต้านทานไม่ได้!
ปัง!
เขาใช้อินไร้พ่าย ฉีกช่องท้องของพญาหงส์แล้วหลุดออกมา
แม้จะไม่ใช่ท้องของเทพจื่อรื่อ แต่ก็ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน หงส์หดตัว กลับสู่ร่างเดิม จากนั้นก็กระเด็นออกไป!
ปัง!
เทพจื่อรื่อถูกโจมตีกระเด็นออกไปไกล พร้อมกับกระอักเลือด
ศึกสะเทือนฟ้าดิน ไม่มีใครนับได้ว่าประมือกันกี่กระบวนท่าแล้ว เพราะพวกเขารวดเร็วเหลือเกิน ปิดฉากแล้วหรือ?
เทพจื่อรื่อลุกขึ้น ใบหน้าเยือกเย็น อยากจะเปิดศึกอีกครั้ง แต่ก็กัดฟันกร่อด สุดท้ายก็ไม่ทำ!
พวกคนที่เตรียมจะโห่ร้องในตอนแรก ตอนนี้ต่างก็ปิดปากเงียบ พูดอะไรไม่ออก ทำไมถึงเป็นแบบนี้!
“จะสู้อีกไหม?” สือฮ่าวถาม
เมื่อสิ้นประโยคนี้ เทพจื่อรื่อก็ทำหน้าโกรธขึ้น กำมือแน่น
ส่วนคนอื่นกลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ละคนที่เพ่งเล็งสือฮ่าวในตอนแรกปิดปากสนิท
“หึหึ…ฮ่าฮ่า…” กระต่ายน้อยหัวเราะเป็นคนแรก แถมยังระเบิดเสียงดังลั่น
จากนั้นพวกเฉาอวี่เซิงก็พากันหัวเราะ มันช่างบาดหูผู้คนสำนักเซียนมากเหลือเกิน
“ฮ่าฮ่า พวกเราชนะแล้ว ฮวงชนะแล้ว เทพจื่อรื่อสู้ฮวงของสำนักเทพสวรรค์ไม่ได้!” ลูกศิษย์เหล่านั้นของสำนักกู่ร้อง ฮึกเหิมอย่างยิ่ง
“พวกเจ้าอย่าได้ใจให้มาก การประลองครั้งนี้จะเท่าใดกันเชียว!” เด็กรับใช้ตะโกนอยู่ตรงนั้นด้วยความเจ็บใจ
“มีอะไรน่าขำ?!” อู๋ไท่ก็โมโห ระเบิดโทสะใส่ผู้คนสำนักเทพสวรรค์ ตะคอกเสียงดังลั่น
“ปัง!”
สือฮ่าวลงมือ ยังคงใช้แค่นิ้วเดียว มันขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว กดลงบนตัวของเด็กรับใช้อย่างหนักหน่วง ทำให้กระดูกของเขาหัก ตัวกระเด็นออกไป พิการอีกครั้ง
“เจ้า…” เด็กรับใช้เดือดดาล กระอักเลือด ถลึงตาด้วยความแค้น แต่สือฮ่าวไม่แยแสเลยสักนิด เตะเขาจนตัวลอยออกไป
ลงมือต่อหน้าเทพจื่อรื่อ ไม่ไว้หน้าเลย ทำให้เด็กรับใช้เอ็นขาด สะเทือนขวัญทุกคน
“หุบปาก!” สือฮ่าวพูดออกมาแค่สองคำ
“ปัง!”
จากนั้นสือฮ่าวก็ประสานอิน โจมตีแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้กระดูกของอู๋ไท่หัก กระเด็นออกไป แทบจะกลายเป็นเนื้อเละ เขาหลบไม่พ้น
“เจ้าด้วย มานี่ มาให้ข้าลองชิมสักหน่อยว่าแรดนอทองรสชาติเป็นอย่างไร” สือฮ่าวพูดกับแรดนอทองที่อยู่ไกลออกไป ทำให้มันตัวสั่นงันงก
ทุกคนตะลึงงัน ฮวงไม่กลัวเกรง ลงมือต่อหน้าเทพจื่อรื่อ ไม่แยแสเขาเลยสักนิด!