Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1270
แค่นิ้วเดียวเท่านั้น เด็กรับใช้ก็กระเด็นออกไป ตกลงพื้นราวกับใบไม้แห้งร่วงโรย เลือดทะลักออกจากปาก นองเต็มพื้น
จะเห็นได้ว่า ท่อนบนของเขาบิดเบี้ยวจนไม่เป็นชิ้นดี เสมือนถูกอุกกาบาตกระแทก ร่างกายยุบลงไปแล้ว
นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรง!
เมื่อครู่นิ้วของสือฮ่าวขยายใหญ่ขึ้น ประหนึ่งเซียนโบราณที่ถูกเรียกว่าสงฆ์ในยุคก่อน ฝ่ามือกลายเป็นฟ้าดิน ควบคุมทุกสิ่ง
นิ้วเป็นดั่งเสาค้ำฟ้า ล้มลงไปทับเด็กรับใช้ผู้ยิ่งใหญ่จนบาดเจ็บสาหัส เมื่อล้มลงไปก็ลุกขึ้นไม่ได้อีก พิการเสียแล้ว
กายเนื้อของเด็กรับใช้กระตุก แขนขาหดเกร็ง สั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ ประสบกับการโจมตีที่น่ากลัว เสียความสมรรถภาพในการเคลื่อนไหวไปแล้ว
เป็นดั่งที่เฉาอวี่เซิง กระต่ายน้อยและพวกปีศาจสาวตะโกน จัดการเขาได้ภายในนิ้วเดียว อย่างที่คาดการณ์ไว้ ผลลัพธ์เป็นแบบนี้จริง
ที่นี่เงียบสงัด ผู้คนราวกับต้องมนตร์ เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ต่างก็พูดไม่ออก
นี่หรือฮวง ตอนนี้เขาแข็งแกร่งปานใดกันแน่? ทำให้เด็กรับใช้พิการด้วยนิ้วมือ ทำให้เขาเสียพลังการต่อสู้ไป สะเทือนขวัญยิ่งนัก
ต้องรู้ว่า เด็กรับใช้นามว่าจื่อถงไม่ใช่คนธรรมดา ติดตามอยู่ข้างเทพตะวันม่วง อนุญาตให้เขาจัดระเบียบและอ่านคัมภีร์ที่เทพหนุ่มใช้ในการบำเพ็ญเพียร ได้รับประโยชน์เหนือจินตนาการ
เรียกได้ว่า ในสำนักเซียนและสำนักปราชญ์ตอนนี้ เด็กรับใช้ก็นับว่าเป็นบุคคลเหนือชั้น ถือเป็นผู้กล้าที่โดดเด่นคนหนึ่ง
แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขากลับถูกกำราบด้วยนิ้วมือ คล้ายว่าจะพิการ มันน่ากลัวขนาดไหนกัน? ทำให้ทุกคนตัวสั่นงันงก
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนนี้คือฮวง ผู้คนก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ร้ายแรงแล้ว ราชันหนุ่มในอดีต มีลักษณะไร้พ่าย ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาตกอับแล้ว ปรากฏว่าเขากลับมาแบบนี้แล้ว!
บรรยากาศที่นี่หนักอึ้งไม่น้อยเลย หลายคนไม่เชื่อว่าเขาไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ ต้องมีโชคชั้นใหญ่อันน่าตะลึงแน่นอน!
ขณะเดียวกัน หลายคนก็มองดวงตะวันสีม่วงบนฟ้า มองเทพหนุ่มคนนั้น ต่างก็อยากรู้ว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร
ที่นี่เงียบงัน ตึงเครียดเล็กน้อย เพราะอาจมีศึกผู้สูงส่งปะทุขึ้นทันทีก็เป็นได้!
จนถึงบัดนี้ แม้ผู้คนจะไม่เข้าใจ แต่ไม่มีทางสงสัยแล้ว สือฮ่าวยังแข็งแกร่งมาก เป็นราชันที่น่ากลัว เพียงแค่ไม่รู้ว่าอยู่ในอันดับผู้สูงส่งหรือไม่
“ฝีมือดี ใช้การหยั่งรู้ดั้งเดิมยับยั้ง เปลี่ยนความเสื่อมโทรมเป็นวิเศษ มีเพียงคนที่คุ้นเคยกับคัมภีร์นี้ เข้าใจอย่างถ่องแท้เท่านั้นที่มีพลังแบบนี้” หลานเซียนพูด
ผู้คนพูดไม่ออก ทราบความจากคำพูดของนางว่าสือฮ่าวใช้วิชาอะไร ไม่คิดว่าจะเป็นคัมภีร์เก่าแก่อย่างการหยั่งรู้ดั้งเดิม
บทแรกของวิชานี้คือชักนำจิต ในสำนักใหญ่ที่เก่าแก่จำนวนน้อยนิดมีเก็บสะสม ทายาทของเผ่าพันธุ์หนึ่งจะมีโอกาสได้ศึกษา จึงไม่นับว่าเป็นความลับอะไร
แต่ว่า ภาพหมื่นเทพเจ้าในบทชักนำจิต ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะพบเจอได้
สือฮ่าวได้มันมาจากแท่นบูชาลึกลับที่รายล้อมไปด้วยกระดูก ในหลุมฝังศพของสุสานตะวันตก ตรงนั้นมีกระดูกมือสีทองกับกะโหลก และภาพหมื่นเทพเจ้ากระดูกขาวสะอาดวางอยู่
สือฮ่าวไม่ได้ศึกษาแค่อักขระชักนำจิตเท่านั้น แต่ยังศึกษาภาพนี้อีกด้วย
และในวัยนี้ คนที่คลุกคลีกับบทแรกของการหยั่งรู้ดั้งเดิม ศึกษาจนถ่องแท้ได้ยากยิ่งนัก มีแค่ผู้เฒ่าบางคนเท่านั้นถึงไปได้ไกล
หลายครั้งที่สือฮ่าวบรรลุธรรมล้วนกระตุ้นการหยั่งรู้ดั้งเดิม ฝังลึกลงในกระดูกแล้ว เข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าคนอื่นอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง
ตอนนี้เขาไม่แสดงท่าทีใด ไม่พูดอะไร
ดวงตะวันสีม่วงบนฟ้าเคลื่อนไหวแล้ว แม้เสียงของเทพหนุ่มยังคงสุภาพ แต่กลับยิ่งรู้สึกเข้าไม่ถึง เสมือนยืนอยู่นอกโลก ให้ความรู้สึกเย็นเยือก ไร้ความรู้สึก
“การหยั่งรู้ดั้งเดิมหรือ ว่ากันว่า ต่อให้ไม่มีเคล็ดวิชา เพียงแค่ศึกษาวิชานี้จนถึงขั้นสุดยอด ก็หลอมรวมกับสรรพวิชาได้ ใช้อักขระที่ดั้งเดิมและเรียบง่ายที่สุดกำราบศัตรู ท่าทางจะมีเหตุผลเหมือนกัน” เทพตะวันม่วงพูดแบบนี้
ทุกคนตกใจ นี่เป็นการยอมรับสือฮ่าว ยกย่องความยากลึกหยั่งถึงของวิชานี้หรือ?
หลายคนเคยได้ยินว่า การเริ่มต้นศึกษามันไม่ถือว่าลำบากที่สุด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดอยู่ข้างหลัง หากต้องการศึกษาให้ถ่องแท้ แม้แต่เหล่าผู้เฒ่าก็อับจนหนทาง แค่บทแรกก็เป็นอุปสรรคสำหรับคนมากมายแล้ว
ส่วนบทหลุดพ้นนั้น อย่าว่าแต่ศึกษาเลย อยากหาก็หาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ที่ใด ตั้งแต่อดีตยันวันนี้น้อยคนที่จะเคยเห็นมัน
ร่ำลือกันว่า บทหลุดพ้นอยู่ในตำหนักสูงสุด แต่มันล่มสลาย ไม่คงอยู่ตั้งนานแล้ว
“สหายสือ ข้าอยากถามเจ้าหน่อยว่า ไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์จริงหรือ?” เทพตะวันม่วงถามน้ำเสียงจริงจัง
คนอื่นอยากรู้มากกว่าว่า สือฮ่าวมีเมล็ดพันธุ์อะไรกันแน่ ต่างก็ตั้งใจเงี่ยหูฟัง อยากรู้ความจริงให้กระจ่าง
“แม้สำนักเซียนจะเหลือเมล็ดพันธุ์อยู่เม็ดสองเม็ด แต่ได้ยินว่าให้คนอื่นแล้ว ข้าไม่มีโอกาสได้มัน” สือฮ่าวตอบ พูดความจริงว่าไม่เคยได้เมล็ดพันธุ์
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ หลายคนก็ชะงัก ไม่มีเมล็ดพันธุ์หายาก แต่เขาก็ยังประสบผลสำเร็จแบบนี้ หากก่อนหน้านี้เขาได้เมล็ดพันธุ์ จะแข็งแกร่งปานใดกัน?
หลายคนต่างก็ตกใจ พากันอุทานไม่หยุด แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายแทนเขา หากเขาไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ ต่อให้ตอนนี้สือฮ่าวแข็งแกร่งปานใด โดดเด่นแค่ไหน ก็ไม่มีทางเทียบกับผู้สูงส่งเหล่านั้นแน่นอน หลังหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ที่ได้รับ เป็นดั่งบุตรแห่งสวรรค์ ยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ คนอื่นไม่มีทางสู้ได้แม้แต่นิด!
“เจ้าได้สารีริกธาตุของเซียนโบราณหรือไม่?” ในตอนนี้เอง จู่ๆ มหาโสดาก็โพล่งออกมา เขาไม่ได้เผยร่าง มีบาตรสีแดงลอยอยู่กลางอากาศ เสียงดังมาจากตรงนั้น
ทุกคนตะลึงงัน เข้าใจความหมายของเขาแล้ว เพราะมหาโสดาผงาดได้เพราะเหตุนี้ ได้รับสารีริกธาตุของสงฆ์โบราณมา ถูกมองว่าเป็นผู้สืบทอดเซียนโบราณ
ทุกคนกระจ่างใจ หรือจะเป็นแบบนี้?
“เปล่า” สือฮ่าวตอบ คำตอบทำลายข้อสันนิษฐานของผู้คน
ตอนนี้ ทุกคนต่างก็เชื่อว่า เขาไม่มีวาสนากับเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์จริงๆ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้กล้าคิดว่า ต่อให้สือฮ่าวโดดเด่นมากเท่าใด ก็ต้านทานเทพตะวันม่วงไม่ได้
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ คนมีพรสวรรค์แบบสหายสือ กลับไม่มีเมล็ดพันธุ์ของตัวเอง น่าเสียดาย พลาดความรุ่งโรจน์ของชีวิตไปเสียแล้ว”
เทพตะวันม่วงส่ายหน้า มีเสียงเสียดายแว่วมาจากพระอาทิตย์สีม่วง
ศิษย์สำนักเทพสวรรค์สิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกันก็โกรธแค้น คิดว่าสำนักเซียนไม่ยุติธรรม ทอดทิ้งสือฮ่าวได้อย่างไร มอบเมล็ดพันธุ์สองเม็ดนั้นให้คนอื่น
“เป็นเพราะผู้เฒ่าสำนักเซียนเห็นแก่ตัว ไม่คำนึงถึงอัจฉริยะ มอบพันธุ์เซียนให้ทายาทตระกูลอมตะที่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับพวกเขา มองข้ามฮวง น่าชังจริงๆ!”
คนของสำนักเทพสวรรค์ไม่พอใจ พูดออกมาอย่างเคียดแค้น
ส่วนเมล็ดพันธุ์สองเม็ดสุดท้ายมอบให้ใครนั้น จนตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ เป็นปริศนาเสมอมา
“สำนักเซียนเที่ยงธรรม โปรดระวังคำพูดด้วย” น้ำเสียงของเทพตะวันม่วงไม่อ่อนโยนอีกต่อไป กลายเป็นจริงจังและเยือกเย็น
ผู้คนตกใจ ต้องรู้ว่า เทพหนุ่มคนนี้มาจากสำนักเซียน เมล็ดพันธุ์หมอกปฐมกาลได้มาจากการเปิดผนึกถ้ำของสำนักเซียน จะเพ่งเล็งสำนักนี้ต่อหน้าเขาได้อย่างไร?
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ เดิมทีข้าอยากสู้กับเจ้าสักตั้ง ให้สมดังใจหวัง ดูจากตอนนี้แล้ว เจ้าทำให้ข้าผิดหวังเสียแล้ว” เทพตะวันม่วงทอดมองลงมา
นักพรตหนุ่มบางส่วนถอนหายใจ ฮวงยิ่งใหญ่มากพอแล้ว แม้เมื่อครู่จะลงมือแบบขอไปที แต่ก็ทำให้หลายคนตะลึงงันแล้ว
แต่ในสายตาของเทพตะวันม่วง การไม่มีเมล็ดพันธุ์สูงส่ง เท่ากับไม่มีสิทธิ์จะสู้กับเขา ไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!
แม้น้ำเสียงของเขาจะนุ่มนวล แต่ท่าทางอวดดีและแข็งกร้าวแบบนี้ ทำให้นัยน์ตาของนักพรตหญิงหลายคนเปล่งประกาย รู้สึกว่าเขามีความจองหองแต่กำเนิด ผู้กล้าควรเป็นแบบนี้
ยิ่งไปกว่า ตรงข้ามเขาคือฮวง ตำนานไร้พ่ายในวันวาน วีรกรรมรุ่งโรจน์ แต่เขาแสดงทีท่าเด็ดเดี่ยว อหังการแบบนี้ ทำให้หญิงสาวบางส่วนหวั่นไหวยิ่งกว่าเดิม
“เทพตะวันม่วงเหนือชั้นจริงๆ เป็นผู้สูงส่งแห่งยุค!” มีคนอุทาน
โดยเฉพาะคนที่เป็นปรปักษ์กับสือฮ่าว ตอนนี้ต่างก็ฮึกเหิม อยากให้เทพตะวันม่วงแข็งกร้าว หากลงมือได้จะยิ่งดี กำราบคนที่ทำให้พวกเขากระวนกระวายคนนั้นเสีย
“หากนายท่านลงมือ ย่อมกำราบศัตรูทั้งฮวงได้ เขาสู้ไม่ได้แน่!” แม้แต่เด็กรับใช้คนนั้นก็ทนเจ็บ พูดด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
ส่วนแรดนอทองที่อยู่ข้างหลังเขาวิตกกังวลยิ่งนัก ไม่กล้าพูดจาส่งเดช หลบอยู่ตรงนั้น
“เทพตะวันแข็งแกร่ง เย้ยปฐพี!” อู๋ไท่และคนของสำนักเซียนกู่ร้องอยู่ตรงนั้น มองข้ามสือฮ่าว
“อวดดีจริงๆ เทพตะวันบ้าบออะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน!” กระต่ายน้อยเดือดดาล โมโหกับคำพูดของพวกเขา
เฉาอวี่เซิงและพวกเฟิ่งหวู่ก็อยากโต้แย้งเช่นกัน แต่กลับรู้สึกว่า เทพหนุ่มคนนี้เป็นดั่งดวงตะวัน มีความสามารถเย้ยโลกาจริง หากเหน็บแนมตอนนี้ เกิดเขาเปิดศึกกับสือฮ่าวขึ้นมา จะทำอย่างไรดี? กลัวสือฮ่าวจะแพ้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ตอนนั้น ครั้งที่สือฮ่าวเป็นใหญ่ ไยไม่เห็นพวกกเฬวรากโผล่หัวมา ตอนนี้ต่างก็คิดว่าตัวเองไร้พ่าย ยกตนเป็นผู้สูงส่ง อวดเก่งสิ้นดี ไร้ยางอายจริงๆ!” กระต่ายดวงจันทร์ขบกราม ด่าทอต่อไป
ชิ้ง!
เทพตะวันม่วงดีดนิ้ว ยาเม็ดหนึ่งลอยออกมา ตกลงไปในปากของเด็กรับใช้ กลายเป็นกระแสอุ่น แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย สมานแผลของเขา
นี่เป็นยาขั้นเทพ ปรุงจากสมุนไพรที่ล้ำค่าที่สุดหลายชนิด ยาหลักเป็นยาวิเศษชุบชีวิตคนได้ ได้ผลทันตา เนื้อตัวของเด็กรับใช้เปล่งแสง ความร้อนกระจายไปทั่ว ทำให้กระดูกเชื่อมต่อกัน ลุกขึ้นมาได้ทันที
“นายท่าน ลงมือเถอะ ฮวงจองหองเกินไป ข่มเหงข้าแบบนี้ ถือเป็นการไม่เคารพท่านเช่นกัน!” เด็กรับใช้ร้องขอ บดกรามยามมองสือฮ่าว อยากให้เทพตะวันม่วงกำราบคนคนนี้!
“หุบปาก ถอยไป!” เทพตะวันม่วงตวาด
“เจ้าอยากรบกับข้าไม่ใช่หรือ?” สือฮ่าวถาม
“หากเป็นขั้นนี้ ไม่มีความจำเป็นแล้ว” เทพตะวันม่วงพูดเสียงเรียบ เยือกเย็นไม่น้อย มีท่าทีห่างเหิน เย่อหยิ่งยิ่งนัก
เพราะเป็นอย่างที่เขาพูด สำหรับคนที่ไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ เขาไม่มองเป็นคู่แข่ง ไม่อยากประมือด้วย
สือฮ่าวยกยิ้ม พลางพูดว่า “ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร?”
“ได้!” จู่ๆ เทพตะวันม่วงก็พูดแบบนี้ ทำให้ทุกคนแปลกใจไม่น้อย เขาไม่อยากสู้ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้ตอบรับ
“ข้ารู้ว่า เจ้าแข็งแกร่งที่สุดในขั้นเทพสวรรค์ ก็ดี ข้าจะสู้กับเจ้าด้วยพลังเทพสวรรค์!” เทพตะวันม่วงพูด
ทุกคนตะลึงงัน เขาไม่ใช่คนธรรมดา มีความมั่นใจผิดมนุษย์ จะเปิดศึกกับสือฮ่าวแล้ว!
ต้องรู้ว่า ฮวงรุ่งโรจน์ในขั้นเทพสวรรค์ ไร้เทียมทาน ไม่เคยแพ้มาก่อน สะเทือนอัจฉริยะทุกเผ่าพันธุ์!
ตอนนี้ เทพตะวันม่วงจะเปิดศึกกับเขาด้วยขั้นเทพสวรรค์ ผยองและอหังการปานใดกัน จะใช้มันมาตัดสินแพ้ชนะ
นักพรตหญิงทั้งหลายตื่นเต้นขึ้นมาทันที มีบางส่วนกรีดร้อง คิดว่าเทพตะวันม่วงเด็ดเดี่ยวและแข็งแกร่ง เป็นดั่งราชันแห่งยุค กล้าเผชิญหน้ากับด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรู
“เทพตะวันต้องชนะแน่ ไม่มีทางแพ้พ่าย!” หญิงสาวที่ชมชอบเขาตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น