Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1255
สือฮ่าวยังไม่ทันได้บำเพ็ญเพียร ก็เป็นที่จับตามองแล้ว!
“ข้ากำลังรอเจ้าเสร็จสิ้นการบำเพ็ญ จะแข็งกร้าวแบบนั้นอีกไหม? อย่าแตกแถวล่ะ มิเช่นนั้นเจ้าจะอนาถสิ้นดี ได้ลิ้มรสที่ถูกคนอื่นกำราบเพียงแค่พลิกฝ่ามือ!” มีคนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ฮวง เจ้าไม่มีเมล็ดพันธุ์สูงส่ง ไม่มีเลือดมดเขาสวรรค์ที่สะเทือนปฐพี เจ้าจะเอาอะไรมาสู้ ดูสิว่าเจ้าจะรักษาวีรกรรมอันเกริกก้องได้อีกไหม!”
“ฮ่าฮ่า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ผ่านขั้นเทพสวรรค์ให้ได้ เรามาเจอกันในขั้นเจ้าสำนัก ดูสิว่าใครจะหัวเราะจนหยดสุดท้าย คาดหวังยิ่งนัก ข้าอดใจรอไม่ไหวแล้ว!”
คนที่ชิงชังสือฮ่าวหลายคน ต่างก็รอคอยผลลัพธ์ สือฮ่าวในขั้นเทพสวรรค์ กดทับในใจพวกเขาปานภูเขาลูกใหญ่ มีไม่กี่คนที่สู้ได้ พวกเขาหวังว่าจะเกิดเหตุกลับตาลปัตรในขั้นที่สูงกว่า
เมื่อถึงตอนนั้น จะไม่อยู่ใต้อาณัติของสือฮ่าวแล้ว บางทีพวกเขาอาจอยู่เหนือสือฮ่าว ทุกคนรู้ดีว่าในการบำเพ็ญเพียรของเขาครั้งนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค
ที่จริงแล้วหลายคนต่างก็สงสัยมากว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเมล็ดพันธุ์สูงส่ง ฮวงจะกล้าทลายขีดจำกัดได้อย่างไร ไม่กลัวทำลายเส้นทางของตัวเองหรือ?
ต้องรู้ว่า เมื่อเดินหน้าแล้วจะต้องเดินต่อไป หากเขาตัดสินใจแล้ว จะหันหลังกลับไม่ได้ ถ้าไม่สำเร็จ ก็จะพิการ ถึงขั้นว่าสิ้นชีพวายชนม์!
“สือฮ่าว ในเมื่อเจ้าเลือกเส้นทางนี้แล้ว ขอให้เจ้าปลอดภัย!”
แต่ก็มีคนเป็นห่วงสือฮ่าวเหมือนกัน เช่นพวกชิงยี ต่างก็กังวล จู่ๆ สือฮ่าวก็จำศีลกะทันหัน ไม่มีเมล็ดพันธุ์ จะเดินหน้าอย่างไร?
“เขาคงจะไม่ตายหรอกนะ ข้ารู้สึกอยู่ตลอดว่าเขาคล้ายกับคนที่อาจารย์สะลึมสะลือ นอนหลับอุตุทั้งวันของข้าพูดไว้ยิ่งนัก” เฉาอวี่เซิงกระซิบกระซาบ
ข้างนอกวิจารณ์กันเซ็งแซ่ แต่ในสำนักเทพสวรรค์กลับเงียบสงบ
สือฮ่าวเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ปรับตัวเองให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกอณูรูขุมขนเปล่งประกาย สาดแสงสว่างออกมา
เขามีกำลังเต็มเปี่ยม พลังจิตอันล้นเหลือกลายเป็นเปลวไฟสีเงินผุดออกจากหน้าผาก โชติช่วงอย่างยิ่ง สุดท้ายดวงไฟพลังจิตก็ก่อตัวเป็นร่างมนุษย์จิ๋ว ลอยอยู่ตรงนั้น
ปรมาจารย์ตกใจอย่างยิ่ง “ไฟแห่งพลังที่รั่วไหลออกมาจากจิตของเจ้าทำได้ขนาดนี้แล้ว สร้างอีกดวงจิตหนึ่งได้แล้ว!”
ตอนนี้ บ่อสมุนไพรหลายบ่อบนพื้นเกิดริ้วคลื่น ภายในเต็มไปด้วยยาขั้นเทพและแร่หายากหลายชนิด เช่นใบไม้ของต้นเทพสวรรค์ แปดกิเลน ฝุ่นอวกาศเลือดเซียน…
ไม่ว่าชนิดไหนก็ประมาณค่าไม่ได้ หากข้างนอกล่วงรู้ ต้องมีคนตาร้อน ผู้กล้าทั้งหลายจะเข่นฆ่าไม่คิดชีวิตเป็นแน่
“ลงไปในบ่อแรกก่อน!” ปรมาจารย์พูด
สือฮ่าวนั่งลง กลิ่นยาหอมแตะจมูก รูขุมขนเปิด ยาเดือดพล่านทำเอาเขาตัวสั่นระริก มันไม่ได้ร้อนธรรมดา แต่เป็นเหมือนเหล็กเหลว สือฮ่าวถึงกับทำหน้าเหยเก
หากว่ากันตามกายเนื้อในตอนนี้ของเขา แม้แต่อาวุธมีคมก็ยากจะทำอะไรได้
“ทรายเลือดเซียน!” สือฮ่าวตาลายเล็กน้อย
มันไม่ใช่สมุนไพรทั่วไป แต่เป็นผลผลิตที่เกิดจากทรายชนิดหนึ่งละลาย เมื่อหยดลงบนตัวเขา อุณหภูมิสูงกว่าลาวาเสียอีก!
ว่ากันว่า ฝุ่นชนิดนี้หายาก เป็นเศษชิ้นส่วนของดวงดาวที่ถูกย้อมด้วยเลือดของเซียนที่ตายจากการรบ เมื่อกาลเวลาผ่านไป มีพลังปราณน้อยนิดหลงเหลือ กลายเป็นฝุ่นผงแวววาวโปร่งแสง
ฝุ่นผงเหล่านี้ถูกปรมาจารย์ใช้หม้อสีเขียวต้มจนละลายแล้ว ตอนนี้กลายเป็นน้ำ ถูกเทรดหัวสือฮ่าว ทำให้เขาพูดไม่ออก ป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!
หากเป็นเทพเจ้าทั่วไป คงจะถูกแผดเผา กลายเป็นกระดูกไปนานแล้ว
หลังฝุ่นผงโปร่งแสงละลาย กลายเป็นของเหลวสีแดงแล้ว ก็สาดแสงสว่าง ราวกับมีเลือดของเซียนกำลังรินไหล
มันมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ แต่ก็มีกลิ่นหอมหวนเช่นกัน!
“ท่าทางตำนานจะเป็นความมจริง ฝุ่นพวกนี้ถูกย้อมจากเลือดเซียนจริงๆ” ปรมาจารย์พึมพำ
สือฮ่าวเบ้ปาก รสชาติแบบนี้มันไม่สนุกเอาเสียเลย มีคนใช้ของเหลวที่ร้อนกว่าลาวาไม่รู้กี่เท่าราดหัว นี่มันฆ่ากันชัดๆ
เห็นได้จากจุดนี้ว่า กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งปานใด แม้แต่เส้นผมก็ไม่ละลาย เป็นประกายเงางาม มีแสงสว่างไหลผ่านผิวหนัง ดูดซึมส่วนสำคัญจากฝุ่นอวกาศเลือดเซียน
“หากมีเลือดเซียนของแท้ ราดลงบนตัวเจ้าแบบนี้ เจ้าคงละลายเป็นลิ่มเลือด ไม่เหลืออะไรตั้งนานแล้ว ยังดีดูดซึมผ่านฝุ่นอวกาศ ทั้งยังผ่านการหล่อเลี้ยงจากกาลเวลา กำจัดสิ่งชั่วร้ายแล้ว เหลือเพียงส่วนสำคัญ เจ้าถึงใช้ได้”
ปรมาจารย์ถอนหายใจ ของสิ่งนี้ล้ำค่าเหลือเกิน ใช้ทีละนิดก็ลดน้อยลงทีละหน่อย ในจักรวาลมีไม่มากแล้ว
น่าแปลกนัก อุณหภูมิสูงปานนี้ ยามของเหลวสีแดงไหลลงไปในบ่อสมุนไพร มันไม่ทำลายยาชนิดอื่น กลับกันมันผสมผสานกัน ทวีความหอมมากขึ้น
สือฮ่าวสงสัยว่า ไม่ใช่อุณหภูมิร้อนระอุที่ทำให้เขาเจ็บปวดรวดเร็ว แต่เป็นส่วนสำคัญอันน้อยนิดในเลือดเซียนกำลังทิ่มแทงผิวกายเขา!
เขาอดทนต่อความเจ็บปวด ผลุบๆ โผล่ๆ ในบ่อสมุนไพร ร่างกายราวกับโดนมีดเฉือน ถูกขัดเกลาต่อเนื่อง กระทั่งสุดท้ายปรมาจารย์ยังชักดาบออกมาฟันตัวเขาอีกด้วย
หน้าสือฮ่าวแทบเขียวแล้ว ปรมาจารย์มีพลังปานใดกัน หนึ่งดาบตวัดลงมาจะไม่ทำให้เขาดับสูญทั้งกายและจิตหรือ?
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะควบคุมแรง เจ้ารีบใช้วิชาขัดเกลากระดูกเร็วเข้า!” ปรมาจารย์เตือน
ต่อมา สือฮ่าวรู้แล้วว่าอะไรคือเจ็บร้าวไปถึงกระดูก ปรมาจารย์ตวัดดาบลงมา ลำแสงเจิดจ้าก็ลอยลงมาราวกับเป็นดาราจักร แต่ไม่ระคายผิวหนังของเขา บาดลึกลงไปในกระดูกทั้งหมด
การควบคุมพลังแบบนั้น และการแสดงให้เห็นถึงฝีมือ มันช่างน่าทึ่ง
สือฮ่าวครวญครางทันที เจ็บมากจริงๆ ไม่รู้ว่ากระดูกแตก ไขกระดูกไหลออกมากี่ท่อนแล้ว เหงื่อกาฬผุดทั่วตัวเขา ความเจ็บปวดที่ประสบตอนเจอไผ่พ้นภัยเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว
“ข้ากำลังทดสอบผลลัพธ์ของเจ้า ดูสิว่าสิ่งที่เจ้าได้จากเนินเขาเซียนเพียงพอหรือยัง ตรวจสอบและอุดช่องโหว่ ช่วยให้เจ้าบรรลุความสมบูรณ์แบบ!” ปรมาจารย์พูด
จะไม่สมบูรณ์แบบได้หรือ? ใช้ทั้งใบของต้นเทพสวรรค์ แปดกิเลนกับฝุ่นอวกาศเลือดเซียน นำของเหล่านี้มาขัดเกลาร่างกาย ไม่อยากแข็งแกร่งคงเป็นไปไม่ได้
ชีวิตอันน่าเศร้าของสือฮ่าวเริ่มขึ้นแล้ว ถูกขัดเกลาร่างกายใหม่อีกครั้ง ตอนแรกเขาไม่ปริปากเลยสักนิด จนสุดท้ายเมื่อปรมาจารย์ใช้ดาบฟันกระดูก ตัดเส้นเลือดของเขา ทำลายนับครั้งไม่ถ้วน ใช้สมุนไพรอาบชำระไม่หยุด สุดท้ายก็ทำให้เขาคำรามออกมาอย่างทนไม่ได้
ช่วงเวลาแบบนี้ดำเนินมาสิบวันแล้ว
จากนั้นปรมาจารย์ก็ให้เขานั่งลงในหม้อใบหนึ่งแล้วสาดน้ำไผ่พ้นภัยลงมา หนึ่งวันหนึ่งคืนผ่านไป สือฮ่าวก็เปี่ยมด้วยพละกำลัง เมื่อผ่านการขัดเกลาครั้งนี้ กายภาพแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมากโข!
จะให้เทพสวรรค์สู้กับเจ้าสำนักหรือ? สือฮ่าวมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ตอนนี้แม้จะอยู่ในขั้นเทพสวรรค์ แต่กลับมีความคิดชั่ววูบอยากจะต่อสู้กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
“ลงไปในบ่อที่สอง” ปรมาจารย์ไม่ให้เวลาเขาได้หายใจ ชี้บ่อสว่างไสวบ่อที่สอง ตรงนั้นมีไอสีขาวกำลังระเหย
เมื่อสือฮ่าวลงไป ก็ขนลุกขนชันทันที!
ข้างในไม่ได้มีแค่สมุนไพรหลากหลายชนิดเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยแมลง ล้วนเป็นสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ มีพิษร้ายแรง!
แม้ของเหลวภายในไอสีขาวจะเจิดจ้า แต่แค่มองก็น่ากลัวแล้ว ไม่วิเศษแต่อย่างใด กลิ่นคาวเลือดโชยแตะจมูก แมลงยั้วเยี้ยช่างสยดสยอง
ขณะเดียวกัน หม้ออีกใบที่อยู่ข้างๆ นั้นเดือดแล้ว น้ำในหม้อกระฉอกออกมาไม่หยุด แมลงทั้งหลายที่อยู่ข้างในหายากยิ่งนัก บางส่วนยังมีชีวิตอยู่ ต้องใช้หม้อวิเศษต้มมัน
สือฮ่าวรู้สึกตัวชาเล็กน้อย แต่ก็นั่งลงไปเงียบๆ
ปรมาจารย์เทน้ำและแมลงในหม้อลงมา เนื้อตัวของเขาเปียกชุ่ม และไหลลงไปในบ่อที่สอง
“ยังมีชีวิตอยู่!”
สือฮ่าวรู้สึกได้ว่า แมลงในน้ำที่ถูกเทลงมาจากหม้อไม่มีตัวไหนที่ตายแล้ว ล้วนเกาะตามตัวเขาแล้วเริ่มกัด
ชั่ววินาทีที่เขาลืมตา เนื้อตัวก็เต็มไปด้วยแมงป่องขาว หางทิ่มลงไปในเนื้อแล้ว มันแหลมคมจนน่าตกใจ ทนทานกว่าอาวุธวิเศษเสียอีก
ปรมาจารย์ตวาดว่า “อย่าต่อต้าน ปล่อยให้พวกมันทิ่มแทง อย่าทำให้พวกมันตายเด็ดขาด นี่เป็นแมงป่องหยกขาว ล้ำค่าและหายาก ต่างก็เป็นสัตว์หายากที่มีสายเลือดสูงส่ง!”
สือฮ่าวหมดคำพูด แถมยังต้องเป็นฝ่ายให้ความร่วมมือ ปล่อยให้แมงป่องเหล่านี้ทิ่มแทงเขา
ต่อมา เขาก็ผ่อนคลาย มิเช่นนั้นอาจทำให้แมงป่องหยกขาวพวกนี้ตายได้ แม้ส่วนใหญ่จะบรรลุขั้นเทพแล้ว แต่ก็อาจถูกกายเนื้อขั้นเทพสวรรค์ของสือฮ่าวสะเทือนจนตัวแตกตายได้เช่นกัน
“อ๊าก…” สือฮ่าวกรีดร้อง
แมงป่องมีพิษร้ายแรง ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา ถูกแมงป่องสีขาวปกคลุมจนมิด เหลือแค่ดวงตา ไม่รู้ว่ามีหางแมงป่องมากมายเท่าใดทิ่มแทงผิวกาย
เนื้อตัวมีแต่แมงป่อง แถมยังถูกทิ่มแทง ไต่ยั้วเยี้ยทั่วร่าง ช่างน่าขนหัวลุก!
หากเป็นผู้หญิงคงกรีดร้อง อาเจียนออกมานานแล้ว ยังดี สือฮ่าวเป็นคนใจกล้า ไม่สะทกสะท้าน เพราะเขาเคยกินเนื้อแมงป่องมาแล้ว
เพียงแต่ว่า ความเจ็บปวดรวดร้าว และความรู้สึกว้าวุ่นเหล่านั้น ก็ยังทำให้เขาไม่สบายตัวอยู่ดี
ประเด็นคือเจ็บปวด มันทำให้เทพสวรรค์ตายได้ เพราะนี่เป็นแมลงมีพิษขั้นเทพ รวมตัวกันมากมายขนาดนี้ ไม่กลัวคงไม่ได้
ต่อมาไม่นาน แมงป่องหยกขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน เพราะถูกเลือดของสือฮ่าวย้อม สุดท้ายพิษก็หวนกลับเข้าสู่ร่างกายสือฮ่าวอีกครั้ง เขากลิ้งไปกลิ้งมา โอดโอยอย่างทนไม่ได้
“อ๊าก…”
สุดท้ายเขาก็ร้องลั่น แมลงมีพิษชนิดนี้มุดเข้าไปในร่างกาย มันทำให้เขาเหลืออด หลังพิษกลับเข้ามาแล้วก็แทบจะกัดกร่อนอวัยวะและเลือดเนื้อของเขาจนหมดสิ้น
เขาใช้วิชาขัดเกลากระดูก กระดูกแขนขาดังกรอบแกรบไม่หยุด พวกมันกำลังสร้างเลือด ชะล้างเส้นเลือดทั่วร่าง แม้แต่กะโหลกก็ไม่เว้น สร้างเลือดเทพสวรรค์ใหม่อีกครั้ง!
สุดท้ายเมื่อผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ก็สิ้นสุดความทรมานแบบนี้ แมงป่องทั้งหมดตายจนหมดสิ้น พิษสลายหายไป
แต่เพียงชั่วครู่ สือฮ่าวก็รู้สึกหน้ามืด เพราะเห็นตะขาบจำนวนมหาศาล ล้วนเป็นสีทองและมีปีก กำลังเทกระหน่ำลงมาจากหม้อใหญ่ ร่วงลงบนตัวเขาทั้งหมด
ตะขาบจำนวนมากกำลังเคลื่อนไหว ไต่ไปทั่วทุกอณูของร่างกาย สือฮ่าวรู้สึกเนื้อตัวเย็นเฉียบ จากนั้นความเจ็บปวดก็เข้ามาจู่โจม
“ปรมาจารย์ ต้องชะล้างกายเช่นนี้หรือ?” เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
“แน่นอน การขัดเกลาร่างกาย ต้องใช้วิธีชั่วร้ายนานาชนิด ผ่านการทรมานทั้งหมด จึงจะทดสอบได้ว่าแข็งแกร่งหรือไม่ ต่อไปอย่าเป็นคนด้อยความสามารถ ความจริงอันตรายกว่านี้เป็นหมื่นเท่า” ปรมาจารย์พูดเสียงเรียบ
เป็นเช่นนี้สิบวันสิบคืน สือฮ่าวถูกทรมานโดยแมลงมีพิษที่น่ากลัวที่สุดสิบชนิด สุดท้ายก็ใช้สมุนไพรแช่ตัว เพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ผลลัพธ์ดียิ่งอย่างที่คิด แมลงสิบชนิดเป็นวัตถุล้ำค่า เป็นวัตถุดิบชั้นสูงที่ใช้ขัดเกลาร่างกาย ตอนนี้มียาขั้นเทพหลากชนิดคอยเสริม จึงเกิดประสิทธิภาพอันน่าตะลึง
“ปรมาจารย์ ข้าจะใช้กายเป็นพันธุ์ได้เมื่อใด?” สือฮ่าวรู้สึกว่าตัวเองเตรียมพร้อมแล้ว พร้อมจะแปรสภาพทุกเมื่อ
“เจ้าอยู่ระหว่างทางแล้ว แม้จะยังไม่ได้อยู่ในขั้นที่สำคัญ แต่อยู่บนเส้นทางแล้ว อยากใช้กายเป็นพันธุ์ ย่อมต้องให้ทุกด้านบรรลุขั้นสุดยอด เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในขั้นเทพสวรรค์ มิเช่นนั้นจะมีความหวังจะชนะหรือ?” ปรมาจารย์เข้มงวดอย่างยิ่ง
ตลอดยี่สิบกว่าวันมานี้ ข้างนอกเกิดเรื่องน่าตะลึงมากมาย
“ข่าวใหญ่ อัจฉริยะท่านหนึ่งของสำนักเซียนเพิ่งทลายขีดจำกัด หลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์ไร้ที่ติ นิพพานขั้นสูงของชีวิต เขาทำสำเร็จแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีมลทินเลยสักนิด ความไร้พ่ายสะเทือนปฐพี!”
“คนของสำนักปราชญ์ก็หลอมรวมกับเลือดพลังมดเขาสวรรค์และเลือดนิพพานของหงส์สำเร็จแล้ว แถมยังรวมสิบถ้ำสวรรค์เป็นหนึ่งอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน สลักค่ายกลปฐมกาลลงในตัว กายเนื้อยกระดับแล้ว!”
ข่าวน่าตะลึงบางส่วนแพร่สะพัด มีคนทลายขั้นเทพสวรรค์ บรรลุขั้นที่สูงกว่าอย่างต่อเนื่อง ทำการยกระดับที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แต่ฮวงในเวลานี้ เป็นอย่างไรกันแน่? ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ
หลายคนแสยะยิ้ม ไม่มีพันธุ์สวรรค์สูงส่ง เขาจะสู้คนพวกนั้นได้อย่างไร ต้องได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้แน่นอน!