Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1304 ผู้นำกองทัพต่างแดน
“ไปให้พ้น เจ้าลูกกบฏ ไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่งข้า!” มดน้อยตะโกนลั่น ซ้ำยังเคลื่อนตัวอีกครั้ง จะผลักเฮ่ออู่ซวงชายผมทองให้กระเด็นออกไป
แต่ชายหนุ่มตรงข้ามกลับนิ่งไม่ไหวติง แม้แต่เส้นผมสีทองที่ยาวถึงต้นขาก็ไม่สะบัดแม้แต่นิด นิ่งสงบประหนึ่งหินผา
ทำอะไรเขาไม่ได้!
เฮ่ออู่ซวงสุขุมอย่างยิ่ง รูม่านตาไม้กางเขนในลูกตาสีทองน่าสะพรึงกลัว ยามกะพริบจะฉายแววบางอย่าง ทำให้คนสั่นระริก
“หลีกไป!” มดน้อยแผดร้อง พยายามสุดความสามารถ ออกแรงหมัดจนเกิดแสงเจิดจ้า หมัดมดสะท้านฟ้า บดขยี้จักรวาล
แต่ว่า มันเปล่าประโยชน์!
เฮ่ออู่ซวง มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มที่น่ากลัวยืดตรง ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด ยังคงกำหมัดของมันไว้ พร้อมกันส่งยิ้มบางๆ
“ข้าว่าแล้ว ไม่มีประโยชน์ แรงเจ้าน้อยเกินไป” เขาพูดเสียงเรียบ ราวกับเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไร
เรื่องแบบนี้ช่างน่าพรั่นพรึง!
ต้องรู้ว่า มันเป็นถึงมดเขาสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีพละกำลังมหาศาลที่สุดในโลก ไม่มีใครในรุ่นเดียวกันเทียบได้ ไม่มีใครสู้พวกมันด้านพละกำลังได้
แต่ชายหนุ่มผมทองเฮ่ออู่ซวงตรงหน้า ไม่ใช้เวทมนตร์อะไร ใช้แค่พละกำลัง ก็น่ากลัวถึงปานนี้แล้ว สามารถกำราบมดเขาสวรรค์ได้
มันเป็นร่างกายที่น่ากลัวยิ่งนัก อยู่เหนือดินแดนนี้ ไม่อาจเทียบเคียงได้!
มดน้อยเคียดแค้น คิดว่าเพราะตัวเองอายุยังน้อย ยังไม่เจริญวัย จึงสู้ไม่ได้ พละกำลังน้อยกว่าอีกฝ่าย
มันเชื่อมั่นว่า หากให้เวลาอีกไม่กี่ปี ในรุ่นเดียวกันไม่มีใครสู้มันได้แน่นอน
“ไม่พอใจหรือ ตอนนั้นพี่ชายเจ้าเจริญวัยแล้ว แต่ก็ถูกนายท่านกำราบ จากนั้นเด็ดหัว เจ้าคิดว่าเป็นมดเขาสวรรค์แล้วจะไร้พ่ายหรือ?” สิงห์เลือดหงส์ที่อยู่ไม่ไกลตะโกน ยั่วโทสะมดน้อยว่า “พวกเจ้าใช้ไม่ได้ อีกฟากของแดน มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าเสียอีก!”
“กบฏ สุนัขรับใช้ ไสหัวไปให้ไกลจากข้า!” มดสีทองโมโหจนขาดสติแล้ว มันบาดเจ็บเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ยังถูกลูกกบฏหยามเกียรติ ย่อมโกรธเป็นธรรมดา
“ตูม!”
นัยน์ตาของเฮ่ออู่ซวงเปล่งประกาย เกิดเสียงสายฟ้าคำรามดังบาดหู ปล่อยลำแสงแหลมคมออกมา ราวกับมีสายฟ้าสีทองพาดผ่านท้องฟ้า!
เขาออกแรงเพียงเล็กน้อย เลือดพุ่งออกจากปากของมดน้อย ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ตอนนี้ สือฮ่าวก็ต้องตกใจ ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ปล่อยให้คนคนนี้ทำร้ายมดเขาสวรรค์ไม่ได้
ขณะเดียวกัน ใจของเขาก็เต้นระส่ำ ชายผมทองนามว่าเฮ่ออู่ซวงคนนี้ยากลึกหยั่งถึง มีพละกำลังมหาศาล สามารถกำราบมดเขาสวรรค์ได้ง่ายดาย
ต่อให้เป็นเพราะมดเขาสวรรค์ยังไม่เจริญวัยถึงขั้นนั้น แต่ก็บ่งบอกอะไรได้ชัดเจนแล้ว
บางทีนี่อาจเป็นศัตรูรุ่นเดียวกันที่น่ากลัวที่สุดที่สือฮ่าวเคยเจอ คาดเดาได้ยาก ลึกล้ำประหนึ่งจักรวาลสีดำ เขมือบศัตรูทั้งปวงได้
“ที่หนึ่งในหล้า พวกเจ้าไม่มีวันเข้าใจว่าคำนี้มันสูงส่งปานใด น่ากลัวแค่ไหน นายท่านของข้าเป็นหนึ่งในผู้นำกองทัพของรุ่นหนุ่มสาวแห่งต่างแดน คำนี้เป็นฉายาและเกียรติยศของเขา ไม่มีทางทัดเทียบ!” สิงห์เลือดหงส์พูดเสียงเหี้ยม
ตอนนี้มันสงบลง ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว เมื่อเห็นชายผมทองลงมือ มันก็ไม่หวาดหวั่นแล้วอย่างสิ้นเชิง เพราะในสายตามันชายหนุ่มคนนี้ไร้พ่าย ไม่มีใครสู้ได้
“งั้นหรือ?” สือฮ่าวย้อนถามเสียงเรียบ ก้าวเข้าไปประชิดทีละก้าว
มดน้อยถูกกำราบแล้ว เลือดไหลออกจากมุมปาก จ้องเฮ่ออู่ซวงเขม็ง มันอาฆาตแค้นยิ่งนัก มีความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ยามเผชิญหน้ากับศัตรูที่สังหารพี่น้อง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก
“อย่าเสียใจไป เจ้ายังเด็ก อายุยังห่างไกล หากเจ้าอายุเท่าเขา ใครจะชนะก็พูดยาก” สือฮ่าวพูด
เขาเดินเข้าไปใกล้ พลังปราณอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด พร้อมจะโจมตีทุกเมื่อ เขาไม่ยอมให้ชายคนนั้นทำร้ายมดเขาสวรรค์
เฮ่ออู่ซวง มั่นใจและสุขุม ไม่กังวลกับการมาเยือนของเขาแต่อย่างใด พูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ในเมื่อข้าเคยพูดแล้วว่าจะไม่เอาชีวิตมดเขาสวรรค์ แค่อยากให้มันรู้ตัว ไม่ลงมือแน่ ข้าพูดคำไหนคำนั้น”
“พวกเจ้าเห็นนายท่านข้าเป็นอะไร มันเป็นเพราะพวกเจ้ายังไม่เข้าใจ มิเช่นนั้นจะกล้าท้าทายอีกหรือ คงจะกราบกรานไปตั้งนานแล้ว” สิงห์เลือดหงส์กำเริบยิ่งนัก พูดอย่างจองหองว่า “เจ้านายข้าเป็นหนึ่งในผู้นำกองทัพของอีกแดน ภารกิจการมาที่นี่ของเขาก็คือ กำราบผู้สูงส่งที่มีพลังเซียนสามเส้นทั้งหมด ทำลายล้างด้วยพลังอันไร้พ่าย ล้มล้างความเชื่อมั่นของหนุ่มสาว ไร้เทียมทานตลอดกาล!”
สือฮ่าวเบิกตากว้าง “กลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเซียนโบราณ เคยถูกเจ้าสังหารหรือไม่?!”
“ยังต้องถามอีกหรือ?” สิงห์เลือดหงส์แสยะยิ้ม “เจ้านายของข้า ถูกขนานนามว่าเป็นที่หนึ่งในปฐพี หนุ่มสาวของแดนนี้ไม่มีใครสู้ได้!”
ในตอนนี้เอง ลำแสงน่ากลัวก็พุ่งออกจากรูม่านตาไม้กางเขนของชายผมทองเฮ่ออู่ซวง ประหนึ่งหอกสองเล่มปะทะกัน น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!
ประสาทสัทผัสของเขาน่ากลัวยิ่งนัก จ้องสือฮ่าวเขม็งแล้วพูดว่า “เจ้าพูดว่าเซียนโบราณ…เจ้าไม่ใช่คนในยุคนี้หรือ?!”
เขาเฉียบแหลมเหลือเกิน จับเบาะแสได้จากคำพูดที่เผลอพูดโดยไม่รู้ตัว แววตาของเขาน่ากลัวยิ่งนัก แสงทองเจิดจ้า เพ่งมองสือฮ่าวไม่วางตา
“น่าสนใจ ข้าว่าแล้วเชียว มดเขาสวรรค์ไม่กี่ตัวที่เหลือถูกข้าสังหารจนเหี้ยนแล้ว จะโผล่มาได้อย่างไร ที่แท้ก็ไม่ได้อยู่ในยุคนี้นี่เอง” เขาพึมพำอยู่ตรงนั้น
ไม่พูดไม่ได้ว่า เฮ่ออู่ซวงคนนี้น่ากลัวเป็นที่สุด แม้จะเผชิญหน้ากับเรื่องเกินความคาดหมายแบบนี้ แต่เขายังเยือกเย็นมาก สงบนิ่งมาก ไม่สะทกสะท้าน
“ไม่ได้อยู่ในภพนี้ พวกเขามาจากที่ใด?” สิงห์เลือดหงส์ตะลึงงัน แผงคอสีเลือดลุกชัน ทำท่าระแวดระวังขึ้นมา
มันกลัวคนที่แทรกแซงกาลเวลายิ่งนัก เพราะมีเรื่องเล่าน่ากลัวอย่างยิ่ง หากเอี่ยวกับคนแบบนั้น อาจตายอย่างไม่มีแผ่นดินกลบหน้าก็ได้
“ย่อมมีโชคชะตาบางอย่าง ทำให้พบกับคนที่เกิดคนละยุคเจอกัน ไม่เท่าใดหรอก อาจารย์ข้าก็เคยเจอ” เฮ่ออู่ซวงพูดอย่างใจเย็น
เขาประเมินสือฮ่าว เป็นครั้งแรกที่สำรวจจริงจังเช่นกัน ราวกับอยากมองให้ทะลุปรุโปร่ง
“ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร ก็ตายแน่ เจอกับที่หนึ่งในหล้า ผู้ที่ไม่มีใครในรุ่นเดียวกันเทียบเคียงได้” สิงห์เลือดหงส์สงบสติอารมณ์ เทิดทูนเฮ่ออู่ซวงเป็นล้นพ้น
“อ๊าก…” มดน้อยแผดร้องอย่างโกรธแค้น พยายามสุดชีวิต ไม่ยอมให้ศัตรูที่ฆ่าพี่น้องกำราบ
“นายท่านฆ่ามันเสียเถอะ ตัดปัญหาเสีย!” นัยน์ตาของสิงห์เลือดหงส์แววโรจน์ พูดแนะนำเช่นนี้
“ไม่ มดเขาสวรรค์มีศักยภาพสูง ข้าเสียใจที่ฆ่าไปหลายตัว นี่อาจเป็นสายเลือดตัวสุดท้ายก็ได้ ข้าต้องไว้ชีวิต เลี้ยงไว้ข้างกาย!” เฮ่ออู่ซวงพูด
“อยากตายหรือ เดรัจฉาน ไปตายเสีย!” มดเขาสวรรค์โจมตีอย่างโกรธแค้น หมัดแทบจะลุกไหม้ แสงสว่างซัดสาด จะผลักศัตรูออกไป
แต่ว่า มีเลือดไหลออกจากหมัดของมัน สะบัดอีกฝ่ายไม่ออก ยังคงถูกจับอยู่อย่างนั้น
“ตูม!”
ในตอนนี้เอง สือฮ่าวลงมือแล้ว เข้ามาแล้วก็ปล่อยญาณวิเศษวัฏจักร!
นี่เป็นญาณวิเศษพรสวรรค์ของเขา เป็นอักขระที่สลักอยู่ในกระดูกขั้นสูงสุดของเขา เกี่ยวข้องกับกาลเวลาและวัฏสงสาร ตอนนี้แสงสว่างสาดส่อง มันเป็นชิ้นส่วนของกาลเวลา!
จะเห็นได้ว่า สือฮ่าวกลัวศัตรูคนนี้ยิ่งนัก เพื่อขวางไม่ให้เขาทำร้ายมดเขาสวรรค์ จึงจู่โจมด้วยญาณวิเศษสะเทือนโลกาตั้งแต่ต้น!
หากมองจากตัวอย่างสงครามที่ผ่านมาของเขา มันเกิดขึ้นยากยิ่งนัก น้อยครั้งที่เขาจะใช้ญาณวิเศษของตัวเองตั้งแต่ต้นทันที มันบ่งบอกว่าสภาพการณ์ร้ายแรง ศัตรูน่ากลัว
“ข้าไม่ฆ่ามันหรอก จะเลี้ยงไว้ข้างกาย” เฮ่ออู่ซวงเอ่ยปาก เขาปล่อยมือแล้วสะบัดแขน ลมพัดกรรโชก ทำให้มดน้อยลอยออกไปทันที
จากนั้น แขนเสื้อสีเขียวของเฮ่ออู่ซวงก็ขยายใหญ่ขึ้น บดบังฟ้าดินในพริบตา น่ากลัวยิ่งนัก สามารถดูดดวงดาราเข้าไปได้โดยตรง
แขนเสื้อจักรวาล!
นี่เป็นเคล็ดวิชาสมบูรณ์แบบ ญาณวิเศษแขนเสื้อจักรวาล!
เขาใช้วิชาสะเทือนปฐพีชนิดนี้ สู้กับชิ้นส่วนกาลเวลา ใช้มิติปะทะเวลา ในแขนเสื้อมีจักรวาลแฝงเร้นอยู่ เก็บชิ้นส่วนของกาลเวลาเหล่านั้นเข้าไป
ปัง!
เกิดการปะทะครั้งรุนแรงขึ้นที่นี่ สือฮ่าวเห็นมือข้างนั้นในแขนเสื้อ มีดวงดาวดารารายล้อม มีดาราจักรกำลังห้อมล้อมฝ่ามือ!
นอกจากแขนเสื้อจักรวาลแล้ว ในมือขวาของคนคนนี้ มีต้นแบบจักรวาลก่อตัวเป็นกระแสวน น่าตะลึงสุดแสน
มันเป็นญาณวิเศษอีกชนิด แดนในฝ่ามือของสงฆ์โบราณ
ครืน!
ตรงนั้นแตกทลาย ส่องแสงสว่างไปทั่ว ราวกับดวงดาวทั้งหลายกระแทกลงมาจากนอกโลก เจิดจ้าเหลือเกิน เปลวไฟลุกไหม้และเดือดพล่าน!
ผ่านไปนานกว่าที่นี่จะสงบลง
ทั้งสองพุ่งเฉียดไหล่ผ่านไป
เฮ่ออู่ซวงเรียบเฉยอย่างมาก “เจ้ามาชิงคัมภีร์อมตะกับข้าหรือ?” จากนั้นเขาก็มองกระดาษหนังสัตว์สีทองบนยอดเขานั้น
สือฮ่าวตกใจ ลอบบ่นว่าแย่แล้ว คัมภีร์เล่มนั้นมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ หากตกอยู่ในมืออีกฝ่าย ผลลัพธ์ต้องแย่แน่
“นี่หรือที่หนึ่งในหล้าที่ว่า?” แม้ใจของสือฮ่าวจะระส่ำระสาย แต่ภายนอกกลับนิ่งเฉย
“ใช้แค่ญาณวิเศษของแดนเจ้า ไม่ได้ใช้วิชาของแดนข้า” เฮ่ออู่ซวงกวาดตามองสือฮ่าวแวบหนึ่ง แฝงความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม ความแข็งกร้าวและเหนือชั้นที่ซ่อนเร้นอยู่
………………………………………………………………