Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1281
ทุกคนพยายามแหงนหน้ามองเฉาอวี่เซิงลอยไปไกล จนกลายเป็นจุดเล็ก ไกลออกไปทุกที่ กระทั่งหายลับไปจากตา
มันน่าตะลึงยิ่งนัก เฉาอวี่เซิงต่างก็เป็นเลิศในขั้นสลักอักขระกับสลักค่ายกล ล้วนทลายขีดจำกัดอย่างน่าเหลือเชื่อ สลักค่ายกลสังหารที่สามแล้ว
เขามีพลังทำลายล้างอันน่ากลัวอย่างยิ่ง แต่ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้ทุกคนตะลึงงัน เขาถูกหมัดโจมตีจนหายไปแล้ว
“สลบไปแล้ว!” ปีศาจสาวพึมพำ
เพราะคนไม่น้อยเห็นสีหน้าพะอืดพะอมของเขาก่อนลับตาไป ถูกหมัดกระแทกจนมึนงง ตาเหลือกแล้วหมดสติไป
“น่าอายจริง!” กระต่ายดวงจันทร์ไม่เห็นใจเลยสักนิด มันสรวลเสเฮฮา เพราะรู้ว่าจอมอ้วนไม่ตาย แค่อาจจะทรมานก็เท่านั้น
ตอนนี้ ทุกคนพากันมองผิวดิน เพื่อมองหาผู้ร้ายตัวจริง!
ผู้คนแข็งเป็นหิน อ้าปากค้าง มันช่าง…น่าเหลือเชื่อเหลือเกิน
ที่นี่เงียบกริบอยู่นาน สีหน้าของทุกคนตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ราวกับเห็นผีตัวเป็นๆ!
เพราะตอนนี้ทุกคนสังเกตเห็นแล้วว่ามันคืออะไร มันมีขนาดเท่าข้อนิ้ว กำลังทำท่าทางเย่อหยิ่ง กระหยิ่มยิ้มย่อง
มันเป็นมดสีทองตัวหนึ่ง ขนาดประมาณหนึ่งหุน มันนั่นเองที่โจมตีเฉาอวี่เซิงจนกระเด็นออกไป!
“เจ้าอ้วนทึ่ม น่าอายจริง!” กระต่ายน้อยปิดหน้า รู้สึกอายแทนเขา มันทำให้คนหมดคำพูด เป็นแค่มดตัวเดียว แต่กลับทำให้จอมอ้วนเป็นลมด้วยหมัดเดียว
ตอนนี้ จอมอ้วนเฉาไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว ท่าทางคงจะไกลออกไปหลายสิบลี้เป็นอย่างต่ำ
ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เหตุการณ์ตลกเหลือเกิน พิลึกยิ่งนัก อยากหัวเราะแต่ก็หัวเราะไม่ออก
“ไม่พอใจจะมีจุดจบแบบนี้แหละ!” ข้างบ่อน้ำวิเศษ มีแสงสว่างสาดส่อง ไอน้ำตลบอบอวล ตรงนั้นเจิดจ้าอย่างยิ่ง มดตัวนั้นอวดดีเหลือเกิน
ร่างสีทองของมันแข็งแรง ประหนึ่งหลอมจากเม็ดทรายสีทอง ร่างจิ๋วยืนตรงราวกับเป็นมนุษย์ สองแขนกอดอก เชิดหน้า ดวงตาดุจโคมสีทอง เท้าข้างหนึ่งอยู่ข้างหน้า อีกข้างอยู่ข้างหลัง ท่าทางสบายอุรา
“ฮ่าฮ่า…”
ในที่สุด ก็มีคนทนไม่ได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ตัวเท่าต้นถั่วงอก แต่ซัดเฉาอวี่เซิงจนกระเด็น ลอยหายลับไป มันช่างน่าขันสิ้นดี ต่อไปจอมอ้วนนั่นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ยังกล้าคุยโวและอวดดีอีกไหม?
“หัวเราะอะไร ไม่พอใจก็เข้ามา!” มดสีทองยื่นมือออกไปข้างหนึ่งปานแขนของมนุษย์ แถมยังมีถึงห้านิ้วอีกด้วย
แน่นอนว่า มันเป็นมดประหลาดตัวหนึ่ง แม้ตัวจะเล็ก แต่พิลึกเล็กน้อย มันกวักมือหาเรื่องผู้คน ความหมายก็คือจะปะทะกับฝูงชนเพียงลำพัง
เมื่อได้ยินเสียงไร้เดียงสาของมัน เห็นกิริยาไร้มารยาทของมัน ทุกคนก็รู้สึกเหลือเชื่อ ตัวเล็กกระจ้อยร่อยปานนั้น ยังกล้าอวดดีอวดเก่งเช่นนี้
“เจ้าบอกว่า เจ้าใช้น้ำบ่อนี้อาบน้ำงั้นหรือ?” ศิษย์คนหนึ่งของสำนักเทพสวรรค์ถาม
“แน่นอน!” มดสีทองตัวนี้พยักหน้า ทำท่าวางก้าม ทั้งที่ยังดูไร้เดียงสา แต่กลับวางท่าสุขุม “บ่ออาบน้ำของข้าเอง พวกเจ้ามาดื่มน้ำในบ่อของข้าทำไม?”
เจ้านี่ช่างน่าตีเสียจริง ทุกคนต่างก็เกิดความคิดวู่วาม อยากพุ่งเข้าไป ใช้ฝ่าเท้าเหยียบมัน คิดว่าคงจะจมดินเป็นแน่
แน่นอนว่า หากเป็นมดทั่วไป คงถูกกระทืบจนเละไปแล้ว
“ดีที่ข้าไม่ดื่ม” กระต่ายดวงจันทร์แลบลิ้น พวกเฟิ่งหวู่ก็โล่งใจ
เพราะเป็นถึงหญิงงาม ต่างก็สงบเสงี่ยม ไม่อาจกระโดดตามลงไปแล้วดื่มให้สาแก่ใจได้ กิริยาแบบนั้นไม่งามเป็นแน่
ตอนนี้ หลายคนปิดปากเงียบ จ้องมดตัวนั้นไม่วางตา อย่างเช่นสือฮ่าว ตั้งแต่เห็นมดสีทองตัวนี้ เขาก็ระแวดระวังมาตลอด
รวมถึงพวกฉางกงเหยี่ยน ปีศาจสาวและมั่วเต้า ที่พากันเพ่งพินิจมอง
“มดเขาสวรรค์!” สือฮ่าวพึมพำ เมื่อเพ่งมองอยู่นาน เขาก็ได้ข้อสรุปแบบนี้
เมื่อคำนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ทำหน้าตกใจทันที จากนั้นใจก็เต้นระรัว เป็นมดเซียนชนิดนี้เองหรือ? ไม่น่าเชื่อเลย สูญพันธุ์ไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?
ในปฐพี หากบอกว่าใครองอาจเป็นเลิศ ต้องพูดถึงมดเขาสวรรค์ ถ้าสู้กันเรื่องพละกำลัง ไม่มีใครสู้ได้ ถูกขนานนามว่ากวาดล้างศัตรูทั้งปวง
แม้แต่มังกรก็สู้พละกำลังของมันไม่ได้ นี่เป็นเผ่าพันธุ์มดสูงส่งสมชื่อ!
แน่นอนว่า มดเขาสวรรค์ในยุคเซียนโบราณ แตกต่างจากรุนหลังในตอนนี้ หลังพวกมันเจริญวัย ร่างกายจะไม่มีขนาดเท่าเม็ดถั่วแล้ว อย่างน้อยต้องมากกว่าหลายจั้ง
ถึงขั้นว่ายังกลายร่างเป็นมนุษย์ โดยคงลักษณะเฉพาะตัวของมดได้ มันจะน่ากลัวผิดมนุษย์!
พวกมันสามารถย่ำขุนเขาใหญ่ เตะทิวเขาทิ้งได้ตั้งแต่ยังไม่เจริญวัย มีพละกำลังมหาศาลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
ผู้คนตั้งใจเพ่งมอง ตระหนักได้แล้วว่ามองข้ามอะไรไป บนหัวของมันมีเขางอกออกมา หากไม่สังเกตล่ะก็ จะมองเห็นได้ยาก
นั่นแหละเขาสวรรค์ของมัน สามารถทลายจักรวาล แยกมิติได้ ว่ากันว่าเขาของมดที่เจริญวัยแล้วจะเป็นหนึ่งในอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก!
มันยังเยาว์วัย จึงยังเห็นไม่ชัดเจน ไม่งอกออกมาเต็มที่
ร่างสีทองของมันเปี่ยมด้วยกำลัง แม้ขนาดจะเล็กมาก แต่สร้างขอบเขตไร้รูปร่างโดยไม่รู้ตัว มันก่อตัวจากพละกำลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สัตว์ชนิดนี้มีพลังเย้ยโลกา เป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วยกำลังขั้นสุดยอด!
หลายคนตกตะลึง ขณะเดียวกันก็หวาดกลัว ได้เห็นมดเขาสวรรค์วัยเยาว์ที่นี่ หรือจะมีราชันมดเจริญวัยอยู่ด้วย?
มันทำให้ทุกคนพรั่นพรึง หนึ่งในสิบอสูรโบราณจะปรากฏกายแล้วหรือ?
สีหน้าของหลายคนเหยเก รวมถึงเหล่าผู้สูงส่งที่อยู่ข้างหลัง ต่างก็ทำหน้าตึงเครียด เพราะนิสัยของสิบอสูรบรรพกาลไม่ค่อยดีนัก มิเช่นนั้นจะได้รับสมญานามนี้หรือ
มีแค่สายตาของสือฮ่าวที่ดูละโมบ จ้องมดสีทองตัวน้อยตาเป็นมัน มุมปากยกขึ้น น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว
สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นโชคชั้นใหญ่เหนือธรรมชาติ ปรารถนาแม้แต่ในความฝัน มันหมายถึงเคล็ดวิชาสูงส่งของมัน เป็นสัญลักษณ์ของญาณวิเศษสายพละกำลัง
หากได้ครอบครองมดหนึ่งตัว ความสามารถของสือฮ่าวจะพุ่งทะยาน!
เพราะเขามีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง มีพละกำลังมหาศาลอยู่แล้ว เหมือนผู้ฝึกกายยิ่งกว่าผู้ฝึกกายเองเสียอีก หากได้ญาณวิเศษเย้ยปฐพีเช่นนั้นมาครอง ใครจะขวางเขาได้ ต้องเป็นใหญ่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ ตะลุยไปทั่วแปดดินแดนรกร้างแน่นอน
ขณะเดียวกัน เขาก็มีความสงสัย ตอนที่อยู่ในสามพันแคว้น ยามเซียนโบราณเปิด ชายลึกลับบุกรังของมดเขาสวรรค์ สังหารคนนับแสนชีวิตไม่ใช่หรือ มันเป็นที่อยู่ของมดเขาสวรรค์ไม่ใช่หรือ?
ไยมีที่นี่ด้วย? แถมยังได้เจอมดน้อยอีกด้วย
ท่าทางไม่ได้มีรังแค่ที่เดียว และที่นี่สำคัญมากด้วย!
สือฮ่าวไม่เคยกล้าดูถูกชายลึกลับเลย เพราะเขารู้ว่า คนคนนั้นต้องมีเคล็ดวิชาสุดยอดพลัง และอาจครอบครองเขาโบราณด้วย
ตอนนั้น หากเขาไม่มีภาพหมื่นเทพเจ้า คงถูกเขาโบราณลึกลับจัดการไปแล้ว!
“มดน้อย พ่อแม่เจ้าอยู่ไหน?” นักพรตหญิงคนหนึ่งยิ้ม พลางทักทายมดน้อยที่อยู่ตรงหน้า
“ตัดคำว่าน้อยทิ้ง เรียกข้าว่าอ๋อง ข้าอยู่ที่นี่ พวกเจ้ายังกล้าดูหมิ่น เห็นข้าเป็นเด็กอีกหรือ?” มดสีทองตัวนั้นวางมือไพล่หลัง ยืนเชิดหน้าชูคอ ท่าทางดูสุขุมลุ่มลึก
แต่เสียงของมันอ่อนเยาว์เหลือเกิน มองอย่างไรก็ดูเยาว์วัย
“เจ้าอายุเท่าใดกัน?” มีคนถาม แม้จะรู้ว่าภูมิหลังของมันน่าตะลึง ถึงขั้นว่าน่ากลัว แต่ก็ขาดความยำเกรงในตัวมัน เพราะเล็กกระจ้อยเหลือเกิน
“ข้าอายุมากกว่าหนึ่งยุคสมัยเสียอีก เจ้าว่าข้าอายุเท่าใด?” มดน้อยพูดเสียงเย็นเยือก
“อะไรนะ?” ผู้คนตะลึงงัน
หนึ่งยุค เหลวไหลหรือเปล่า? นั่นมันเนิ่นนานปานใดกัน สมัยนี้ไม่มีคนที่อายุมากขนาดนั้นแล้ว
นอกจากจะเป็นนิพพาน ถือกำเนิดใหม่ มิเช่นนั้นจะมีอายุมากแบบนี้ได้อย่างไร?
ผู้คนเสียวสันหลังวาบ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเคยได้ยินเรื่องเล่าลือว่า ผู้เฒ่าบางคนช่วงชิงพลังฟ้าดิน ขโมยพลังชีวิตในปฐพี สามารถฟื้นฟูให้กลับไปอ่อนเยาว์อีกครั้งได้
“เม็ดถั่วล่ะ?” ในตอนนี้เอง เฉาอวี่เซิงก็ปรากฏตัว เขาหมดสติไว แต่ก็ฟื้นฟูได้รวดเร็วเช่นกัน เดินกะเผลกกลับมา น่าเวทนาสิ้นดี เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เหมือนเคยโดยฝูงวัวคลั่งเหยียบย่ำ ร่างแทบจะแหลกสลาย บาดเจ็บไม่เบา
“ข้าอยู่นี่ เจ้าอ้วนยังไม่รีบมาคำนับ กราบไหว้ข้าอีก!” มดน้อยสีทองพูดอย่างจองหอง
เฉาอวี่เซิงโมโห จ้องมันเขม็ง แตกต่างจากความตื่นเต้นของสือฮ่าว เขาอัดอั้นตันใจ เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบๆ ถูกมดตัวหนึ่งซัดจนตัวปลิว จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต่อให้หน้าด้านหน้าทน แต่ก็อับอายยิ่งนัก
“เจ้าอ้วน อย่าวู่ว่าม นั่นมันมดเขาสวรรค์ เจ้าถูกซัดจนตัวลอย ไม่ถือว่าน่าอาย!” สือฮ่าวเตือน
“มดเขาสวรรค์!?” เสียงของเฉาอวี่เซิงเพิ่มขึ้นแปดเท่า ใบหน้าอวบอิ่มค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้ม เจิดจ้ายิ่งกว่าดอกไม้เสียอีก
เขาเช็ดน้ำลายอย่างหน้าไม่อาย ยักไหล่ดันสือฮ่าวพลางกระซิบว่า “สายเลือดสุดยอดพลัง มันหมายความว่า ต่อไปเราจะมีเลือดสูงส่งแล้วใช่ไหม?”
“แค่ก!” สือฮ่าวกระแอมไอ ไม่ให้เขาพูดอวดเก่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เฉาอวี่เซิงระเบิดเสียงหัวเราะ สายตาลุกแวว ไม่คับแค้นใจเลยสักนิด กลับเบิกบานใจและตื่นเต้น
ในสำนักปราชญ์ก็มีสายเลือดสุดยอดพลังเช่นกัน แต่ล้วนถูกจินจ่าน ปราชญ์น้อยและชีกู้เอาไปครองแล้ว คนอื่นไม่ได้อะไรเลยสักนิด!
สำหรับผู้ฝึกกายแล้ว อยากแปรสภาพ ปรารถนาจะนิพพาน มันเป็นเลือดที่ล้ำค่าที่สุด สามารถทำให้มีพละกำลังมหาศาล ใช้การเปลี่ยนแปลงอันน่าตะลึงที่สุดมาแปรสภาพทางกายภาพ!
“เจ้าอ้วน เจ้ากระซิบกระซาบอะไร อยากโดนดีหรือ ระวังข้าจะซัดเจ้าด้วยหมัดที่สอง!” มดสีทองพูดอย่างไม่เกรงใจ
เฉาอวี่เซิงเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เขาก้มหน้ามองสัตว์ตัวกระจ้อย รูปร่างแตกต่างกันขนาดนี้ ไยพละกำลังไม่สมดุลเอาเสียเลย?
ตึก ตึก ตึก…
เสียงฝีเท้าแว่วมา ผู้เฝ้าเมืองเดินมา ชุดเกราะสีดำฉายความลึกลับและเย็นเยียบ มือถืออาวุธหนัก ประหนึ่งเทพเจ้าสงครามที่น่ายำเกรง
“มีโชคชั้นใหญ่ที่นี่ ช่วงชิงด้วยความสามารถของตัวเอง แต่มรดกสำคัญที่แท้จริง จะเก็บไว้ให้ทายาทของราชันที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุด!”
หนึ่งคนในนั้นพูดออกมาอย่างเถรตรง
ผู้คนมองลูกกิเลนสีขาวกับมดสีทองตัวนั้น กระจ่างใจทันทีว่า สายเลือดเซียนโบราณที่ว่าต้องเป็นพวกมันแน่นอน
“ผู้อาวุโส พวกท่านเป็นเซียนหรือ?” ผู้สูงส่งข้างมหาโสดาคนหนึ่งเอ่ยปาก หมายอยากรู้คำตอบ
ทุกคนต่างก็ตั้งใจฟัง ไม่มีใครไม่อยากรู้
“พวกข้าเป็นแค่ทหารเก่า ตอนนั้นปฐพีนองเลือด พินาศย่อยยับ ผู้กล้าทั้งหลายวายชนม์ จิตของพวกข้ากระเสือกกระสนมาถึงที่นี่ ทำให้ตัวเองกลายเป็นวิญญาณ เพื่อปกป้องครั้งสุดท้าย” มีคนพูดขึ้นมา
ผู้คนได้ยินก็นิ่วหน้า
เสมือนได้ยินเสียงตะโกนสะเทือนฟ้า ศพกองเท่าภูเขา เลือดไหลเป็นทาง ทุกเผ่าพันธุ์เจอกับความพินาศ ไปสู่ตอนจบของชีวิต
ราวกับภาพที่น่ากลัวแบบนั้นกำลังพุ่งมาปะทะหน้า
ทหารเก่าลากร่างมาที่นี่ เพียงเพื่อเป็นเชื้อเพลิง พวกเขาน่าเคารพอย่างแท้จริง
“พยายามทุกวิถีทาง สุดท้ายก็ช่วยทายาทของใต้เท้ามดเขาสวรรค์จนคืนชีพได้ ทำให้มันฟื้นจากการหลับใหลอันยาวนาน ถือกำเนิดในโลกนี้อย่างสมบูรณ์แบบ” อีกคนพูด
ผู้คนรู้แจ้งกระจ่างใจ ต่างก็อดถอนหายใจไม่ได้
“ใต้เท้า สายเลือดเซียนโบราณสำคัญ แต่ไม่ได้หมายความว่าทายาทจะเป็นเหมือนบรรพชน กำลังสำคัญในสงครามวันหน้ามาจากพวกข้า พวกท่านจะมีอคติ ให้พวกข้าตัดขาดจากมรดกที่สำคัญไม่ได้” หลานเซียนพูด พยายามเรียกร้องสุดชีวิต
“ได้ จะให้โอกาสพวกเจ้าสักครั้ง ใครยกหม้อมาตุธาตุใบนี้ได้ ข้าจะยอมรับ!” ผู้นำพูดแบบนี้พลางชี้ทวนวงเดือนออกไปข้างหน้า
ตรงนั้นมีภูเขาลูกหนึ่ง กำลังแผ่พลังเซียนเป็นสาย เห็นได้ชัดว่าตรงนั้นมีถ้ำที่สำคัญอย่างยิ่งอยู่
มีหม้อใบหนึ่งอยู่บนยอดเขา ขนาดไม่ใหญ่มากนัก สูงแค่สามเซี๊ยะ ตั้งอยู่ตรงนั้น กระจายกลิ่นอายเก่าแก่
“หม้อมาตุธาตุ เหมือนข้าเคยได้ยินมาก่อน…” หลานเซียนขมวดคิ้ว
“มันเป็นวัตถุอันดับหนึ่งในเซียนโบราณ หนักอย่างที่จินตนาการไม่ออก เพราะมันเป็นอาวุธของมดเขาสวรรค์ คนทั่วไปอย่าว่าแต่ชูมันขึ้นเลย แม้แต่เคลื่อนย้ายยังทำได้ยาก แค่แตะต้องก็อาจจะตัวกระเด็นได้” มหาโสดาพูด
“มีใครอยากอาสาหรือไม่? ใครทำได้ พวกข้าจะยอมรับเขา!” ทหารเก่าท่านหนึ่งพูดอย่างเฉยชา พวกเขาเป็นวิญญาณ ขาดพลังชีวิตไปนานแล้ว มีเพียงเจตจำนงอยากปกปักรักษาที่อยู่ในร่าง
“ข้าเอง!” ผู้สูงส่งคนหนึ่งก้าวออกมา อยากทดลอง
“ฮวง เจ้าก็ต้องไปด้วยสิ เจ้ามีพละกำลังมหาศาล ข้าคิดว่ามีโอกาสสำเร็จ!” ลูกศิษย์สำนักเทพสวรรค์ต่างก็คาดหวังให้เขาลงมือ