Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1268
คนส่วนหนึ่งจำสือฮ่าวได้ จึงอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ชื่อนี้ไม่ถูกเอ่ยถึงมานานมากแล้ว ปีแรกที่เขาหายตัวไปยังมีคนพูดถึง ตอนหลังก็ค่อยๆ เงียบลง วันนี้กลับมีคนตะโกนออกมาอีกครั้ง
ฮวง!
เขาจริงๆ หรือ? ทุกคนเหลียวหลัง หลายคนต่างก็เพ่งมอง!
คุ้นตายิ่งนัก เป็นเขาจริงๆ ด้วย! เพียงแค่ดูสุขุมกว่าเมื่อก่อน ความจองหองลดลง เงียบขรึมลงไม่น้อยเลย
บางส่วนในที่นี้เคยเห็นฮวงมาก่อน ตอนนี้ต่างก็ทำหน้าตกใจ ทำไมเขาถึงโผล่มาได้? จากที่ทุกคนรู้ เขาสูญเสียตำแหน่งผู้สูงส่ง ไม่มีทางปรากฏตัวอีกต่อไปแล้ว
ไม่มีใครคิดเลยว่า ในวันนี้ เขาจะปรากฏตัวในสำนักเทพสวรรค์อีกครั้ง
“เขาจริงๆ ด้วย ฮวงกลับมาแล้ว!”
หายตัวไปเกือบสามปี เขาไปอยู่ที่ใด ทำอะไร? หลายคนต่างก็ฉงนใจ
“ฮวง อดีตผู้สูงส่ง เพียงเพราะไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ สุดท้ายจึงตกต่ำ เขากลับมาตอนนี้หมายความว่าอย่างไร หรือจะหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์แล้ว?”
หลายคนตื่นเต้น โดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เหลือในสำนักเทพสวรรค์ ไม่ได้รับความสนใจและไม่ถูกเลือกเข้าสองสำนัก ต่างก็แสดงสีหน้าลุ้นระทึก
“ใช่ว่าสำนักเทพสวรรค์ของเราจะไร้คนมีฝีมือ เพียงแค่ก่อนหน้านี้ไม่กลับมา ตอนนี้มีผู้สูงส่งขนานแท้โผล่มาแล้ว แม้แต่สุนัขนรกก็พ่ายให้กับเขา ซ้ำยังเคยหาเรื่องราชันสวรรค์น้อยอีกด้วย!” หลายคนหัวเราะลั่น ฮึกเหิมยิ่งนัก
เพราะตลอดสองปีนี้ สำนักเทพสวรรค์ตกต่ำไม่เป็นชิ้นดี อัจฉริยะขนานแท้ถูกคัดเลือกไป ไม่หวนกลับอีกเลย
ในสำนักไม่มีศิษย์โดดเด่นหลงเหลืออีกต่อไป ภายใต้การกดขี่ของสองสำนัก เรียกได้ว่าตกต่ำหม่นหมอง สูญเสียความรุ่งโรจน์ที่เคยมีในอดีต
สำนักเทพสวรรค์ในตอนนี้ตกต่ำอย่างมาก ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะไม่มีลูกศิษย์ที่โดดเด่น คนที่เหลือล้วนเป็นไม้ผุในสายตาของสองสำนัก ไม่ควรค่าให้ลงทุนลงแรง
ศิษย์ของสำนักเทพสวรรค์ไม่มีจุดยืน โงหัวไม่ขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าสองสำนัก เพราะไม่มีใครสู้กับศิษย์ทั้งสองสำนักได้
ภายในสถานการณ์ที่ศิษย์ทั้งสองสำนักปรากฏตัว ศิษย์สำนักเทพสวรรค์ถูกกีดกัน แม้กระทั่งว่าตวาดอย่างจริงจัง ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด ขาดความเคารพที่พึงมี
“ฮวง เป็นเจ้าจริงๆ หรือ?” มีคนตะโกนลั่นพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามา
ที่ผ่านมา ตอนที่สือฮ่าวอยู่ในสำนักเทพสวรรค์ ไม่คบค้ากับลูกศิษย์พวกนี้ แต่เคยเกิดการขัดแย้ง และเกิดการประลองกับอัจฉริยะขั้นสุดยอดหลายคน เช่นลวี่ถัว หวางซีเป็นต้น
แต่ทว่า เวลาผ่านไป เหลือแค่พวกเขากับสือฮ่าว อัจฉริยะที่ว่าเหล่านั้นไปกันหมดแล้ว มีคนส่วนน้อยเฝ้าสำนัก ต่อให้เผชิญหน้ากับสือฮ่าวที่ไม่สนิทสนม พวกเขาก็เกิดความรู้สึกดีอย่างล้นหลาม ประหนึ่งได้เจอเพื่อนรู้ใจ
บางคนถึงขั้นสะอื้นด้วยความดีใจ เลือดลมพลุ่งพล่าน อยากจะกู่ร้องให้รู้แล้วรู้แล้ว เพราะที่ผ่านมาทนกับความอยุติธรรมและความอัปยศมากมายเหลือเกิน
อย่างเช่นครั้งนี้ อยู่ในอาณาเขตสำนักเทพสวรรค์ แต่เมื่อถ้ำเซียนใต้ดินจะเปิด ศิษย์สำนักเทพสวรรค์กลับถูกตวาดและสั่งให้ถอยหลัง ไม่ให้เข้าใกล้
มันเป็นความกระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง เป็นความอัปยศอดสู ทำให้รู้สึกอับอาย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่กลับทำอะไรไม่ได้!
เพราะเคยมีคนต่อสู้ด้วยความไม่พอใจ แต่จำต้องพูดว่า ในบรรดาลูกศิษย์ที่ไม่ถูกเลือกสู้พวกเขาไม่ได้
ในความขัดแย้งหลายครั้ง อย่าว่าแต่ผู้สูงส่งขนานแท้อย่างเทพตะวันม่วง ชีกู้หรือมหาโสดาเลย เด็กรับใช้ ผู้ติดตามของพวกเขาก็ไม่แม้แต่จะลงมือด้วยซ้ำ คนอื่นออกหน้า ก็สามารถกำราบคนพวกนี้ได้
หลายคนถูกโจมตีจนกระอักเลือด โยนใส่ประตูสำนักเทพสวรรค์ แต่ก็ทำได้แค่อดทน พูดอะไรไม่ได้ ให้เหตุผลไม่ได้ กล้ำกลืนฝืนทน ถอยหลังไปเงียบๆ
คนอื่นไม่มีใครพุ่งมา แต่ต่างก็สงสัย ล้วนเป็นศิษย์ของสองสำนักทั้งนั้น
สำหรับฮวงแล้ว เรียกได้ว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จัก เมื่อสองสามปีก่อน เขาก็เป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง เคยมีวีรกรรมรุ่งโรจน์เช่นกัน ทั้งเห็นแล้วกำราบมั่วเต้า อัจฉริยะหนุ่มต่างแดนที่มีพลังเซียนสามเส้นเป็นผู้ติดตาม ซ้ำยังเอาชนะสุนัขนรกอีกด้วย
สองสามปีที่แล้ว หากพูดถึงฮวง หลายคนต่างก็ยำเกรง หวั่นเกรง กลัวจะเป็นศัตรูกับเขา
เพียงแต่ว่า เวลาผ่านไป อัจฉริยะชูสลอน คนที่หลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง เขายังมีฐานะเช่นเมื่อก่อนอีกหรือ? เกรงว่าจะเป็นเช่นอดีตไม่ได้แล้ว!
เมื่อคิดพิจารณา หลายคนต่างก็คิดว่า สือฮ่าวคงสูญเสียประกายในขั้นเทพสวรรค์ไปแล้ว เพราะเขาไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์!
สือฮ่าวถูกรุมล้อม ศิษย์สิบกว่าคนของสำนักห้อมล้อมเขา ความคาดหวังในดวงตาทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจ สองสามปีมานี้สำนักเทพสวรรค์ถูกดูหมิ่นเกินไป พบเจอกับความไม่ยุติธรรมต่างๆ นานา
“นั่นอะไรน่ะ?”หลายคนที่อยู่ไกลออกไปถามด้วยความสงสัย พร้อมกันจดจ้องมือของสือฮ่าว
มันกะพริบระยิบระยับ ในมือเขามีตลับหินเก่าแก่แต่ก็ลึกลับ กระจายหมอกขาวออกมาเป็นสายๆ ซ้ำยังมีแสงสว่างทะลักออกมา
มันทำให้หลายคนหวั่นไหว มันเป็นตลับวิเศษ!
มันเป็นฝ่ายพุ่งออกมาเองจากใต้บ่อโคลน เห็นได้ชัดว่ามีพลังแล้ว ทำให้ทุกคนจิตใจร้อนรุ่ม อยากจะพุ่งเข้าไปแย่งชิงเสียให้รู้แล้วรู้รอด
แม้แต่หลานเซียน เทพตะวันม่วง และพวกชีกู้ก็ฉงนสนเท่ห์ ในตลับมีอะไรกันแน่
สือฮ่าวประเมินครู่หนึ่ง จากนั้นเตรียมจะเปิดมัน แต่ก็มีพูดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นว่า “ช้าก่อน!”
“เจ้ามีอะไร?” สือฮ่าวไม่หยุด ไม่แยแส ยังคงวิเคราะห์ตลับหินชิ้นนี้ มันถูกลำแสงห่อหุ้ม เจือด้วยกลิ่นอายที่เป็นมงคล แข็งแรงอย่างมาก ทดลองครั้งแรก แต่เปิดมันไม่ออก
“สหายท่านนี้ ตลับหินลอยออกมาจากบ่อโคลน น่าจะมาจากถ้ำเซียน เป็นวัตถุไร้เจ้าของ ไม่ควรเป็นของเจ้า” สิ่งมีชีวิตร่างมนุษย์สูงใหญ่กำยำเป็นผู้พูด
บนหัวมีนอสีทอง นัยน์ตาเป็นสีทองอ่อน ผมยาวเปล่งแสงดุจเปลวเพลิง ร่างกายกำยำชวนให้รู้สึกกดดัน
เห็นได้ชัดว่าเขาจำสือฮ่าวได้ รู้ว่าเขาคือฮวง แม้เมื่อก่อนจะไม่เคยเจอ แต่เมื่อครู่ต้องได้ยินคนอื่นวิจารณ์เป็นแน่ แต่ตอนนี้เขาไม่ก้าวออกมา แสดงทีท่าเช่นนี้ออกมา!
ทุกคนทำหน้าตกใจ พวกเขารู้ว่า คนคนนี้ไม่ประสงค์ดี นี่เป็นการท้าทายอำนาจของสือฮ่าว ประเมินความสามารถที่แท้จริงในตอนนี้ของเขา
แม้คนคนนี้จะพูดจาอ้อมค้อมมาก ไม่ฉีกหน้าโดยตรง แต่ท่าทีและน้ำเสียงแบบนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็จงใจขัดขวางชัดๆ
“ในเมื่อไร้เจ้าของ เจ้าตะโกนบอกว่าช้าก่อนหมายความว่าอย่างไร วัตถุไร้เจ้าของตกมาอยู่ในมือของข้า ก็นับว่ามีเจ้าของแล้ว” สือฮ่าวกวาดตามองเขาอย่างเย็นชา
เมื่อสิ่งมีชีวิตที่มีเขาสีทองถูกมองแวบหนึ่ง ก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ใจเต้นระส่ำ ฮวงคนนี้…ยังคงน่ากลัวเช่นเดิม ไม่ได้หลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมไม่ใช่หรือ?!
เขามีผมดุจเปลวเพลิงยาวสยาย ดวงตาสีทองฉายแววชั่วร้าย เขาไม่ถอยแต่อย่างใด กลับเดินเข้าไปใกล้หลายก้าวแล้วพูดว่า “มันไม่มีเจ้าของ จำต้องส่งมอบ สุดท้ายต้องได้รับการหารือจากทุกคน ดูสิว่าจะตกเป็นของใคร!”
หลายคนไม่พูดไม่จา มีแค่ดวงตาที่แวววับ รอชมความสนุก ผู้คนรู้แล้วว่าคนคนนี้ตั้งใจจะขวางสือฮ่าว ไม่ให้เขาได้ตลับหินไปครอง
ศิษย์หลายคนของสำนักเทพสวรรค์เกิดไฟโทสะสุมทรวง ต่างก็โมโหอย่างยิ่ง ข่มเหงกันเกินไปแล้ว หากคนอย่างมหาโสดาและพวกหลานเซียนได้มันไป คนคนนี้จะกล้าหรือ?
คนคนนี้เห็นฮวงกลับมาแล้ว หรือคิดว่าเขาไม่ทรงพลังเช่นวันวาน จึงก้าวออกมาท้าทายหรือ?
คนของสำนักเทพสวรรค์พูดอย่างโมโหว่า “เจ้าเป็นแรดนอทองของสำนักเซียนใช่ไหม ข้ารู้จักเจ้า ญาณวิเศษแรดไม่ธรรมดา กายเนื้อแข็งแกร่ง พลังป้องกันน่าตะลึง มีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่อหังการแบบนี้ ไม่รู้จักกาลเทศะ มีสิทธิ์อะไรมาขวางคนของสำนักเทพสวรรค์?”
“สหายตลกนัก ข้าแค่พูดไปตามเนื้อผ้า เพื่อความยุติธรรม ต้องเป็นเช่นนี้จึงจะถูก หรือเจ้าคิดว่าเป็นคนของสำนักเทพสวรรค์จะไม่เคารพระเบียบก็ได้งั้นหรือ?” แรดนอทองยิ้มเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็มองเหล่าวีรชนอีกครั้ง “ทุกท่านว่าอย่างไร ตามหลักแล้วทุกคนควรหารือกัน มันเป็นวัตถุไร้เจ้าของ สหายทุกท่านคิดอย่างไร?”
ศิษย์สำนักเทพสวรรค์โมโห คนนี้กำลังจงใจหาเรื่อง ดูถูกว่าในสำนักเทพสวรรค์ไม่มีมือดีหรือ?
เห็นได้ชัดเจนว่า ทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว ในเมื่อมีคนขวางสือฮ่าว ในบรรดาเหล่าผู้กล้าหลายย่อมไม่ยอมให้วัตถุล้ำค่าตกอยู่ในมือผู้อื่นแน่ ต่างๆ คล้อยตามกับแรดนอทอง
บางคนพยักหน้า บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับคำพูดของแรดนอทอง ในเมื่อไร้เจ้าของ ควรหารือกันก่อนค่อยตัดสินใจ
“หากมหาโสดาหรือเทพตะวันม่วงได้ไป พวกเจ้าจะกล้าทำเช่นนี้ไหม?” ศิษย์สำนักเทพสวรรค์ตวาด ขณะเดียวกันก็เคียดแค้นแรดนอทองยิ่งนัก คนนี้กำลังปลุกปั่นความคิดผู้คนชัดๆ
“ฮวง สหายสือ ต้องขออภัย ข้าไม่ได้เพ่งเล็งเจ้า แต่เรื่องนี้ต้องยุติธรรม เจ้าส่งตลับหินมาเถอะ” แรดนอทองยิ้ม ไม่ใช่แค่นัยน์ตาที่ส่องแสงสีทอง แม้แต่ผิวหนังก็เปล่งประกายสีทอง “เจ้าดูสิ นี่เป็นเจตนาของทุกคน ไม่ใช่ความคิดของข้าคนเดียว พวกเราต่างก็ต้องการให้ที่นี่สุขสงบ หลีกเลี่ยงการนองเลือด ให้ความยุติธรรมกับทุกคน”
ศิษย์สำนักเทพสวรรค์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แรดนอทองช่างจริงจังหนักแน่น ถึงพูดออกมาเช่นนี้
“เจตนาของทุกคน เจตนาของเจ้า หรือเจตนาของคนเบื้องหลังเจ้า เจ้าอยากได้ก็เข้ามาชิงสิ” สือฮ่าวมองเขาแวบหนึ่งอย่างเหยียดหยาม
ท่าทางของเขาเรียบเฉย ไม่แยแสเรื่องพวกนี้เลยสักนิด
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?!” แรดนอทองรู้สึกเจ็บกระดองใจกับคำพูดเย็นชา และสายตาเยาะเย้ยของเขา ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอดสู คนที่สูญเสียความรุ่งเรืองในอดีตแล้ว แต่กลับดูถูกเขาแบบนี้!
ยิ่งไปกว่านั้น แววตาของอีกฝ่ายนั้นซื่อตรง ไม่ปิดบังเลยสักนิด ราวกับกำลังมองการแสดงของคนที่เลวทรามและต่ำช้าที่สุด
“ข้าเคยได้ยินมาว่า หากใครได้ไปก็เป็นของผู้นั้น เจ้าเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำเพื่อใครล่ะ มหาโสดา เทพตะวันม่วงหรือหลานเซียน?” สือฮ่าวพูดอย่างไม่ยี่หระ
แรดนอทองอยากตวาด โต้เถียงเขายิ่งนักว่าเป็นเจตนาของทุกคน แต่ก็เกรงว่าจะทำให้สี่ผู้สูงส่งไม่พอใจ ไม่กล้าพูดออกไปโดยตรง ตกที่นั่งลำบากขึ้นมาทันที
“อยากได้ก็เข้ามา ไม่ต้องการก็ไสหัวไป!” สือฮ่าวตรงไปตรงมา
“เจ้า!” แรดนอทองเลือดขึ้นหน้า เขาเพียงแค่อยากประเมินความสามารถของสือฮ่าวสักหน่อย แต่ตอนนี้กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พูดเสียงเรียบว่า “งั้นก็ดี ข้าไปชิงด้วยตัวเองในนามของสหายทุกท่าน!”
“เจ้าเป็นแค่ตัวเจ้า เป็นตัวแทนให้ใครไม่ได้ อย่ายกตัวเองให้สูงส่งปานนี้ มิเช่นนั้นเดี๋ยวจะรับไม่ได้!” สือฮ่าวพูดอย่างเยือกเย็น
ทุกคนต่างก็ตกใจ นี่แหละนิสัยของฮวง ก่อนหน้านี้เห็นเขาสุภาพแต่ก็โดดเด่น เสมือนขาดความแข็งแกร่งในอดีต ตอนนี้ดูท่าเขาจะไม่เคยเปลี่ยนไปเลย!
แรดนอทองก้าวออกไปแล้วจริงๆ เขาระวังตัวยิ่งนัก ร่างกายขยายใหญ่ ครึ่งบนกลายเป็นแรดวิเศษ มีขนาดใหญ่จนน่าตกใจ ผิวส่องแสงสีทองอ่อน
นอแรดสว่างเจิดจ้า ปล่อยกระแสไฟออกมา พร้อมกับพลังปราณธาตุโลหะ น่ากลัวเป็นที่สุด มีลำแสงกระบี่พุ่งออกมา
ท่อนล่างของเขายังคงเป็นร่างมนุษย์ ตอนนี้พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว หมายจะแย่งตลับหินไป เขาโจมตีแล้ว
ขณะที่เขาเข้าใกล้ สือฮ่าวก็เคลื่อนไหว เคลื่อนตัวหลบหลีก ลงมือปานสายฟ้าฟาด แต่กลับดูงดงาม กระทั่งแสงสว่างจางหาย กลับคืนสู่ความสงบ ปราศจากร่องรอยใด
ผู้คนตาลาย สือฮ่าวประสานอินแล้วกระโดดขึ้น ทำลายการป้องกันขั้นเจ้าสำนักของแรดนอทอง จากนั้นก็หักนอของเขาดังแกรก
เงียบสงัดชั่วครู่ แรดนอทองส่งเสียงร้องโหยหวน ปฐพีสั่นสะเทือน ยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปจะถล่มแล้ว ก้อนหินปลิวว่อน
ความสามารถของเขายิ่งใหญ่ มีพลังวิเศษที่น่ากลัว แต่ตอนนี้ กลับเสียนอสีทองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สร้างชื่อจากมันไปเสียแล้ว!
ทุกคนตะลึงงัน เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็สิ้นสุดลงแล้ว แค่กระบวนท่าเดียว แรดนอทองก็เสียนอวิเศษที่เป็นแหล่งรวมพลังปราณไปแล้ว!
“ใช้พลังเทพสวรรค์ สะเทือนพลังป้องกันของแรดนอทอง แถมยังหักมันด้วย ฝีมือดี!” ในตอนนี้เอง นางฟ้าชุดฟ้าที่อยู่อีกฝั่งก็เอ่ยขึ้น
ผู้คนชะงัก หลานเซียนกำลังวิจารณ์ พูดเหตุการณ์ออกมาแบบนี้
ทุกคนต่างก็ตกใจ พลังเทพสวรรค์ทำลายพลังป้องกันขั้นเจ้าสำนัก มันช่างน่าเหลือเชื่อ นั่นมันข้ามขั้นเชียวนะ!
“น่าสนใจ ใช้พลังเทพสวรรค์โจมตีจุดป้องกันที่เปราะบางที่สุดของมือดีขั้นเจ้าสำนัก จากนั้นก็อาศัยพลังพลังของศัตรู หักนอของตัวเอง” หลานเซียนพูด
ผู้คนตะลึงงัน ฮวงตอบโต้ด้วยตาต่อตา ฟันต่อฟัน ใช้พลังของแรดนอมองหักนอของเขา มันน่ากลัวอย่างมาก!
“เจ้า…” แรดนอทองเจ็บปวด นั่นเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เขาบรรลุธรรมในวันหน้า ถูกทำลายแบบนี้ มันทำให้เขาเจ็บแค้นจนอยากฆ่าตัวตาย
“เจ้ายังต้องการตลับหินอีกไหม?” สือฮ่าวถามเสียงเรียบ
แรดนอทองคำรามลั่น หันหลังเดินจากไปทันที เขารู้แล้วว่า ฮวงน่ากลัวมาก ต่อให้ไม่มีเมล็ดพันธุ์สมบูรณ์ ตอนนี้แม้แต่เขาก็รับมือไม่ไหว
“ใครให้เจ้าไป ได้ยินว่าเนื้อแรดไม่เลวเลย เจ้าอยู่ก่อน” สือฮ่าวพูด
“อ๊าก…” แรดนอทองร้องลั่น ประหวั่นพรั่นพรึง ตอนนี้กลับคืนสู่ร่างเดิม กลายเป็นแรดสีทองขนาดเท่าขุนเขา หันหลังแล้วหนีทันที
เพราะเขาเคยได้ยินข่าวลือมาบ้างว่า ตอนที่ฮวงรุ่งโรจน์ ชื่นชอบการย่างสัตว์นานาชนิดที่สุด น่ากลัวยิ่งนัก เป็นราชันปีศาจ
“จะไปไหน?” สือฮ่าวพูดไล่หลัง
ในตอนนี้เอง เสียงลมกรรโชกก็แว่วมา แสงสีม่วงกระจายตัว ชายหนุ่มคนหนึ่งลอยลงมาจากฟ้าพร้อมกันหมอกสีม่วง
“จื่อท๋งช่วยข้าด้วย!” แรดนอทองตะโกนลั่น เขาตกใจแทบแย่ จึงอดร้องขอความช่วยเหลือต่อหน้าผู้คนไม่ได้
แม้ฮวงจะจากไปหลายปีแล้ว แต่พลังอำนาจยังคงอยู่ หลังแรดนอทองลองหยั่งเชิงแล้ว ก็หวาดกลัวแล้วอย่างสิ้นเชิง
“จื่อท๋ง เด็กรับใช้ของเทพตะวันม่วง!” มีคนกระซิบ ผู้ที่มาเยือนเป็นเด็กรับใช้ผู้ยิ่งใหญ่ที่ติดตามเทพตะวันม่วงนั่นเอง
“แรดนอทองเจ้ามายืนข้างข้า ดูสิว่าใครจะกล้าแตะต้องเจ้า!” เด็กรับใช้ที่มีนามว่าจื่อท๋ง ยืนอยู่ตรงนั้น พูดเสียงเรียบขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
สือฮ่าวแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป แรดนอทองกล้าท้าทายเขา ที่แท้ก็มีเด็กรับใช้คนนี้คอยหนุนหลัง เป็นคนของเทพตะวันม่วง!
“จื่อท๋งเจ้าถอยไป” ในตอนนี้เอง ผืนฟ้าก็สว่างไสว ดวงตะวันสีม่วงก็ลอยลงมา น่ากลัวเป็นที่สุด
ในดวงตะวันสีม่วง มีร่างเลือนรางอยู่ข้างใน กระจายคลื่นพลังวิเศษอันน่าตะลึง ราวกับจะทับดวงดาวถล่ม เทพตะวันม่วงนั่นเอง
“เจ้าน่ะหรือฮวง? แม้จะเคยเจอกันครั้งแรก แต่ได้ยินชื่อมานานแล้ว!” เทพตะวันม่วงเอ่ยปาก